แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 453 ฉันก็เป็นผู้หญิง ฉันเข้าใจค่ะ



บทที่ 453 ฉันก็เป็นผู้หญิง ฉันเข้าใจค่ะ

คำพูดของธรณีทำให้คมทิพย์อึ้งไปด้วย

“คุณหมายความว่ายังไงคะ?

“ไม่ใช่ คือ ตอนนี้ กมลถูกลักพาตัวไปไม่ใช่หรอครับ? มีข่าว คราวบ้างมั้ย? ตอนนี้ สถานการณ์คับขันแบบนี้ ถึงฟ้าจะถล่มลง มา คุณบุริศร์ก็ไม่ครวไปจากเมืองชลธีเลยนะครับ อีกอย่าง ช่วงนี้ ก็ไม่เคยได้ยินว่าบริษัทของตระกูลโตเล็กเกิดเรื่องเร่งด่วนอะไร เลยหนิครับ?

ได้ยินธรณีพูดแบบนี้ คมทิพย์ขมวดคิ้วในทันที

“คุณจะพูดอะไรกันแน่? ”

เห็นคนทิพย์ท่าเหมือนจะถามเอาความให้จนได้ โพนี่รีบเปิด

ปากพูด

“เอาล่ะๆ เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะนะคะ ตอนนี้ จะให้ฉัน มาช่วยตรวจร่างกายของนรมนไม่ใช่หรอคะ ? พวกเราเข้าไปกัน ก่อนดีมั้ยคะ?

ได้ยินที่โพนี่พูดแล้ว ธรณีกระวนกระวายในทันที

“นรมนเธอเป็นอะไรครับ? เกิดอะไรขึ้นกับเธอครับ?”

“คุณธร ตะคุณมา โดยไม่ได้รับเชิญนะคะ แต่ฉันว่าคุณอย่า เข้าไปจะดีกว่าค่ะ บรมนไม่อย่าเจอหน้าคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอย่างพวกคุณ คุณมาเพื่ออะไร ฉันก็พอจะเดาออก นรมน เองก็เดาได้ ฉันพูดได้แค่ว่า ตอนนี้นรมนไม่สบาย ถ้าคุณหวังดี กับเธอจริง ก็อย่าไปบังคับเธอทําเรื่องที่เธอไม่อยากจะทำดีกว่า ค่ะ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาของบ้านคุณก็ทำให้นรมนใจมาก แล้ว หรือว่าคุณก็จะมาบีบบังคับเธออีกคนหรอคะ?

ถึงน้ำเสียงของคมทิพย์จะซอฟลงมาก แต่คำพูดก็น้ำให้ธรณี รู้สึกละอายและเกรงใจ

พูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าหากเขายังเข้าไปขอให้นรมนไปที่บ้าน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาต่อละก็ ก็คงจะไม่ค่อยดีจริงๆ แต่ถ้าตอนนี้จะให้เขาจากไปจากที่นี่เลย ธรณีก็ไม่ค่อยวางใจ

“ได้ ผมไม่เข้าไป ผมขอรอที่นี่นะครับ เดี๋ยวพวกคุณออกมา แล้ว สามารถบอกผมหน่อยได้มั้ย ว่าร่างกายของเธอเป็น อะไร ? ไม่ว่าจะยังไง ผมก็เป็นอาของเธอนะครับ ตอนนี้ คุณบุริ ศร์ก็ไม่อยู่ ผมต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอนะครับ”

เห็นธรณีมีเป็นห่วงขนาดนี้ ท่าทีของคนทิพย์ก็ดีขึ้นมาหน่อย

“คุณจะรอก็รอไปค่ะ แต่ฉันไม่รับปากหรอกนะคะ ว่านรมนจะ ยอมให้พวกเราบอกคุณหรือเปล่า และคุณอาจจะเสียเวลารอ เปล่าด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ”

ธรณีตอนนี้ ไม่วางมาดคุณชายธรณีเลยแม้แต่น้อย

โพนี่มองธรณีแล้ว มีอะไรอยากจะพูด แต่อยู่ต่อหน้าของคนทิพย์แล้ว ก็เลยทนเก็บเอาไว้

ผู้หญิงทั้งสองคนเข้าไปในตระกูลธนาศักดิ์ธน

แม่นรมนเห็นคนทิพย์มา ต้อนรับอย่างเป็นมิตรไมตรีมาก แถม ได้ยินว่าคนทิพย์พาหมอมาด้วย ยิ่งรู้สึกดีใจใหญ่

“คุณหมอใช่มั้ยคะ? นมันไม่ค่อยสบาย เดิมที ฉันกับพ่อของ เธอกะจะพาเธอไปโรงพยาบาลอยู่เลยนะคะ ไม่นึกเลยว่าหนูดม ทิพย์กลับพาคุณมาถึงที่นี่ รบกวนคุณแล้วนะคะ! ”

ความเป็นมิตรไมตรีของแม่นรมน ทำให้โพนี่รู้สึกปลาบปลื้ม

มาก

“ไม่เป็นไรคะ คุณนายธนาศักดิ์ธน หนูมาให้ก็พอคะ สามีหนู เป็นหมอ เขามีความสัมพันธ์กับคุณบุริศร์ไม่เลวเลยนะคะ ก่อนไป คุณบุริศร์ได้ฝากฉันไว้แล้วค่ะ ว่างๆ ให้มาช่วยดูเธอหน่อย ยังไง ซะ ตอนนี้ร่างกายของคุณนายบุริศร์ยังต้องพักรักษาตัวให้ดีๆ

“ใช่ๆๆ บุริศ เป็นคนรอบคอบมากเลย เชิญเข้ามาค่ะ

แม่นรมนได้ยินว่าเป็นคนที่บุริศร์แนะนำมา แถมตอนนี้ยังเป็น คมทิพย์พามาเอง เลยรีบเชิญโพนี่เข้ามา

หลังจากโพนี่เข้ามาแล้ว ก็ตามแม่นรมนกับคุมทิพย์ไปที่ห้อง ของนรมน

ตอนที่เปิดประตูห้องเข้าไป นรมนกำลังนอนพักผ่อนอยู่ ไม่

ได้ยินเสียเปิดประตูดัง
แม่นรมนกะจะปลุกเธอตื่น แต่กลับถูกโพนี่ห้ามเอาไว้

“ไม่ต้องหรอกคะ คุณนายธนาศักดิ์ธน หนูกับผมทิพย์รอที่นี่ แล้วกันค่ะ วางใจเถอะค่ะ หนูจะทำการตรวจให้เธอเองค่ะ”

” นรบกวนคุณแล้วนะคะ

แม่นรมนพยักหน้า แล้วไปจัดของว่างให้กับโพนี่พวกเธอ

คมทิพย์เห็นสีหน้าของนรมนที่ซีดเหมือนไข่ต้มแล้ว พูดอย่าง เป็นห่วงขึ้นมาทันที เมื่อก่อน นรมนเป็นคนนอนสะดุ้งตื่นง่าย มากเลยนะ แค่เสียนิดเดียวก็ตื่น วันนี้ไม่รู้ทำไม……

“ผู้หญิงที่ร่างกายอ่อนเพลียก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ง่วงนอนง่าย

บวกกับพักผ่อนไม่เพียงพอ คุณดูขอบตาด่าของเธอซิคะ หลาย

วันนี้ คงมีปัญหาเรื่องการนอน ถ้าในใจยังมีเรื่องให้เครียดอีก

มันทำร้ายร่างกายมากเลยนะคะ ดูสีหน้าเธอคะ ขาดเลือดลม

อย่างรุงแรงเลย ฉันไปหยิบเครื่องมือตรวจมา ฉันว่าคุณปลุกเธอ

นเลยก็ได้ค่ะ”

โพนี่ได้ช่วยนรมนดูอาการเบื้องต้นก่อน ต่างก็เป็นผู้หญิง เหมือนกัน เธอรู้สึกสงสารนรมนจริงๆ

อยู่ไฟของนรมนถือว่าทําได้ดี แต่หลังจากอยู่ไฟมีเรื่องวุ่นๆ คอยกวนใจทำให้เธอไม่ได้พักผ่อนดีๆ เห็นที ตอนนี้ กระทบไปถึง ตับและม้ามเข้าแล้ว

เดิมที่ กะว่าจะดูให้นรมนแค่นี้ แต่ตอนนี้ รอให้นมนตื่นแล้วจะ ได้ตรวจให้เธออย่างละเอียดไปเลย
คมทิพย์ปลุกนรมนตื่น

บรมนสะลึมสะลือ ตอนที่เห็นผมทิพย์แล้ว ยังรู้สึกมึนงงอยู่

“ทิพย์ เธอมาได้ยังไง? ”

“นอนจนเบอลแล้วไง? เธอเองไม่ใช่หรอที่โทรศัพท์ให้ฉัน มา? รู้สึกดีขึ้นยัง? ทำไมแค่ประจำเดือนมา ทำให้เธออ่อนเพลีย

ได้ซะขนาดนี้? ”

ดมทิพย์พยุงนรมนลุกนั่งอย่างเป็นห่วงมาก

นรมนถึงเพิ่งได้สติกลับมา

“ใช่ๆๆ ดูฉันซิ ใกล้จะเป็นโรคอัลไวเมอร์ไปแล้ว”

นรมนยิ้มบางๆ พอลุกมา ถึงสังเกตว่ามีคนแปลกหน้าอยู่ห้อง

อีกคน

“เธอคือผอของโรงพยาบาลทหารคุณหมอโพนี่ และก็เป็น ภรรยาของป้องเพื่อนของสามีเธอไงล่ะ ประธานบริศร์ของเธอ ฝากให้คุณหมอโพนี่มาดูอาการให้เธอน่ะ

คําพูดของคนทิพย์ทําให้นรมนรู้สึกเสียมารยาท

“ขอโทษทีนะคะ คุณหมอโพนี่ ฉันไม่รู้

เธอพยายามจะลุกขึ้น กลับรู้สึกช่วงล่างเหมือนน้ำป่าไหล หลาก รู้สึกเก้อเขินทั้งตนไปในทันที
บรมนเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเยอะขนาดนี้ ตอนนี้ที่ขยับ คง ทำผ้าปูเปื้อนเลือดไปแล้วแน่ ถ้าขืนลุกไปตอนนี้ก็คงยิ่งทำให้ตัว เองเก้อเขินมากขึ้น อีกอย่างตอนนี้เธอยังรู้สึกเวียงหัวอยู่

ในทันทีที่เธอขยับโพนี่ก็ได้กลิ่นคาวเลือดโชยมา และตอนนี้ เห็นสีหน้าของนรมนเป็นแบบนี้ อดไม่ได้ยื่นมือไปจับข้อมือของ เธอไว้ โดยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียด

“คุณนายปุริส คะ คุณเป็นแบบนี้นานเท่าไหร่แล้วคะ?

“ฉันเพิ่งจะประจำเดือนมาวันนี้คะ เพิ่งจะเป็นแบบนี้ มีอะไรหรอ คะ? –

เมื่อก่อน นรมนไม่เคยเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นตอนเธอได้ยิน โพนี่ถามแบบนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกคะ ก็แค่ถามดู เมื่อก่อนมาเยอะขนาดนี้ คะ? ”

“ก็ไม่นะคะ ไม่ได้เยอะขนาดนี้ รู้สึกครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ แถมรู้สึกเวียงหัวและเพลียมากค่ะ”

นรมนบอกอาการตัวเอง

โพนี่พูดด้วยรอยยิ้ม : “มากเยอะขนาดนี้ คุณไม่รู้สึกเวียงหัว แปลกแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะคะ เป็นอาการปกติ หลังการแท้งลูกค่ะ น่าจะเป็นเพราะน้ำคาวปลายังขับออกจาก ร่างกายไม่หมด ครั้งนี้อาจจะมีการปวดท้องด้วยหน่อยๆ ใช่มั้ย คะ? แต่ว่า ไม่ได้ปวดจนทนไม่ไหว ใช่มั้ยคะ?
ได้ยินที่โพนี่พูดคล้ายกับอาการของตัวเอง นรมนเลยรีบพยัก

“ใช่ๆๆค่ะ ท้องไม่ได้ว่าปวดมาก แต่ก็คือจะมีอาการปวด หน่วงๆที่สองข้างของท้องน้อยค่ะ ฉันรู้สึกได้ว่ามีเลือดไหลออก มาเป็นก้อนด้วยค่ะ

“นี่เป็นอาการปกติค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ แต่คุณจะให้เลือด ไหลอยู่แบบนี้ก็ไม่ใช่ ฉันจะให้น้ำเกลือคุณหน่อย ถึงของสกปรก พวกนี้ถูกขับออกจากร่างกายถือเป็นเรื่องดี แต่ก็จะปล่อยปละ ละเลยไม่ดูแลร่างกายเลยไม่ได้นะคะ ? ตอนนี้ ร่างกายของคุณ อ่อนแอมาก”

“แล้วทำยังไงคะ? ต้องบำรุงเยอะๆมั้ยคะ? ” คมทิพย์ได้ยินว่าร่างกายของนรมนอ่อนแอมาก ก็รีบถาม อย่างตึงเครียดขึ้นมา

โพนี่เขย่งหัวแล้วพูด : “บำรุงมากไม่ได้นะคะ ตอนนี้ ลำไส้ของ เธอดูดซึมอาหารไม่ค่อยดี ได้แต่ต้องค่อยๆรักษากันไป คุณนาย บริศร์คะ ขอฉันพูดตรงๆนะคะ ช่วงนี้ คุณอาจต้องให้ความร่วม มือ ทําตาม ฉันบอกนะคะ”

ให้ความร่วมมือ? ร่วมมือยังไงคะ?

นรมนคิดว่าแค่ประจําเดือนมา คงไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกมั่ง โพนยิ้มบางๆ ทำให้นมนมองสีหน้าของเธอไม่ออก “ก็คือ ฉันพูดอะไรคุณก็ทำตามแบบนั้นไงคะ ช่วงนี้ อยากไปจับน้ำเย็น ดีที่สุดก็คือทำเหมือนตอนอยู่ไฟ รักษาอุณหภูมิใน ร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ บำรุงเลือด อีกอย่าง อย่าเครียดเกิน ไป เรื่องที่ไม่จําเป็นก็อย่าไปรับรู้มาก ทำจิตใจให้สงบ ช่วงนี้ ประธานบุรีศรไม่อยู่ในประเทศ สำหรับชีวิตคู่ ฉันว่าฉันคงไม่ต้อง ห่วงแล้ว”

คำพูดสุดท้ายของโพนี่ทำให้นรมนหน้าแดงขึ้นมา

“คุณหมอโพนี่คะ อาการของฉันในตอนนี้ หมายถึงๆเขาอยู่ใน ประเทศ ฉันก็ทําอย่างว่าไม่ได้หรอคะ”

คำพูดของนรมนพูดออกมา คมทิพย์หัวเราะขึ้นมาทันที

“นี่เธอคิดอะไรอยู่กันแน่? เป็นถึงขนาดนี้แล้ว ยังคิดจะมีอะไร กับประธานบริศร์ของเธออยู่อีกหรอ ฉันว่าประธาน ของเธอ รู้ว่าภรรยาตัวเองเป็นคนมีความต้องการมากขนาดนี้หรือ เปล่า? ”

“ไปไกลๆเลยนะเธอ! พูดบ้าอะไรเนี่ย?

นรมนรู้สึกหน้าแสบร้อนไปหมด

คมทิพย์พูดจาไม่รู้กาลเทศะกับเธอคนเดียวก็ถือว่าแล้วไป แต่ ไม่นึกเลยว่าต่อหน้าของโพนแล้ว คุมทิพย์ก็ยังเป็นแบบนี้ ทันใด นั้น ทำให้นรมนรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาทันที

โพนี่แค่ยิ้มสบายๆไม่ได้เป็นอะไร

“ไม่มีอะไรน่าแปลกหรอกค่ะ เรื่องเพศเป็นธรรมชาติของ มนุษย์ เป็นคำพูดของปรมาจารย์ขงจื้อ ฉันก็เป็นผู้หญิง ฉันเข้าใจ
“อุ้ย คุณหมอโพนี่คะ”

บรมนแทบอยากจะมุดหัวลงดิน

เธอใช่ผู้หญิงแบบนั้นที่ไหนกัน?

แต่ก็เพราะคำพูดสองสามคำเหล่านี้ ทำให้ความสัมพันธ์ของ ผู้หญิงทั้งสามคนใกล้ชิดมากขึ้น ในชั่วพริบตา

คมทิพย์เห็นโพนี่พูดคุยอย่างสนุกสนาน ไม่มีพิรุธอะไรเลย รู้สึกวางใจ แล้วมีอารมณ์ล้อเล่นขึ้นมา

“ดูเธอ แต่งเข้าตระกูลไฮโซแล้ว กลายเป็นคนสำออยขึ้นมา เลยนะ? แค่ประจำเดือนมาแค่นี้ ทำเอาเธอเป็นถึงขนาดนี้ เดี๋ยว จะให้ฉันพูดกับแม่นรมนว่ายังไงเนี่ย? บอกว่าเธอประจำเดือนมา เสียเลือดมาก เลยลงจากเตียงไม่ได้นั้นหรอ? คงทำให้แม่นรมน หัวเราะตายเลย”

“เธอหุบปากไปเลยนะ!

นโมนเองก็รู้สึกอายมาก

ถ้าเป็นโรคอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่ตอนนี้ แค่เรื่องของผู้หญิงแค่นี้ ถึงกับเชิญผอของทางโรงพยาบาลทหารมาแบบนี้ ถ้าเรื่องนี้ ให้ คุณบุริศรู้แล้วละก็ ไม่รู้ว่าจะว่าเธอยังไง

นึกถึงบุริศร์แล้ว นรมนอดไม่ไหวถามขึ้นมาคำนึง “คุณหมอใหนดะ คุณรู้มั้ยคะ ว่าบุรีศร์ออกต่างประเทศไปประเทศไหนมั้ยคะ? ”

“อะ? ”

โพนี่ งไปเล็กน้อย

“คุณนายบุริศร์ถามแบบนี้ ฉันจะรู้ได้ยังไงคะ? ” ทันใดนั้น นรมนยิ้มอย่างเขินอายในทันที

“ก็ใช่ ฉันคงสับสนอยู่ ตอนนี้ ติดต่อกับเขาไม่ได้เลย ไม่รู้ว่า เขาอยู่ไหน ก่อนหน้าที่เขาโทรศัพท์มาหาฉัน ๆ ก็ลืมถาม ฉันก็คิด ว่าเขาเป็นเพื่อนกับสามีคุณ ๆ น่าจะรู้

ได้ยินที่นรมนพูดแล้ว โพนี่ก็ยิ้มแล้วพูด : “ถึงป้องจะเป็นเพื่อน กับประธานบริศร์ แต่ก็ไม่เคยพูดเรื่องธุระกิจอะไรพวกนี้หรอนะ คะ เพราะไม่ว่ายังไง หน้าที่การงานเราต่างกัน เลยไม่มีเรื่องให้ พูดคุยกันได้”

“ก็ใช่ค่ะ”

นรมนรู้สึกตัวเองคงสําออยไปจริงๆแล้ว ทำไมตอนนี้ ถึงยิ่ง รู้สึกคิดถึงบริศนะ? ขอแค่เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับบุริศร์ เธอก็ อยากจะรอถามข่าวคราวและสถานการณ์ของบุริศร์ อารมณ์ จิตใจที่ไม่สงบนิ่ง ทำให้เธอวางใจไม่ได้สักที

โพนี่หันมาให้น้ำเกลือนรมน แต่วินาทีที่หันหน้าไป รอยยิ้มบน ใบหน้าได้หายไป กลับมีความกังวลเข้ามาแทน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ