แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 395 สิ่งที่เหลืออยู่ก็ดูคุณแล้ว



บทที่ 395 สิ่งที่เหลืออยู่ก็ดูคุณแล้ว

กานต์เป็นคนที่ได้รับข่าวว่านรมนเกิด เรื่องก่อนคนแรก

หลังจากที่บริศ ออกจากบ้านไปอย่าง เร่งรีบ คุณนายตระกูลโตเล็กก็เรียกพวกเขา น้องทั้งสามคนมาเล่นด้วยกัน แล้วในตอนที่ พูดว่าจะทํากิจกรรมอะไรที่เล่นเกมพี่น้องแท้ ๆ กันนั้น กานต์ก็รู้สึกไม่ปกติแล้ว

ปกติคุณนายตระกูลโตเล็กก็ชอบหยอก ล้อเล่นกันกับพวกเขา แต่ว่าจริงจังและ เคร่งครัดแบบนี้ก็พบได้ไม่บ่อยนัก

กานต์เป็นเด็กที่เจ้าสังเกต พอหลังจากที่ เล่นกับคุณนายตระกูลโตเล็กไปได้สักพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกได้ว่าคุณนายตระกูลโตเล็กนั้นสติไม่ อยู่กับเนื้อกับตัว ในตอนที่เขาอ้างว่าไปเข้า ห้องน้ำนั้น ก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาและเข้า อินเทอร์เน็ตดู

ถึงแม้ว่ารูปถ่ายที่ไม่ดีพวกนั้นจะถูก ตระกูลโตเล็กบีบลงไปแล้ว แต่ว่าข่าวเสีย ๆ หาย ๆ พวกนั้นก็ยังคงโบยบินอยู่เต็มท้องฟ้า ชั่วขณะหนึ่งดวงตาของกานต์ก็แดงขึ้นมาเลย

ตกลงเป็นใครกันที่กำลังใส่ร้ายหม่ามี้

อยู่?

แล้วตัวหม่ามี้ล่ะ?

แล้วเขาถึงเพิ่งจะนึกออกว่า เริ่มตั้งแต่ไม่ นานมานี้ก็เหมือนว่าจะไม่เห็นตัวหม่ามี้แล้ว

และคิดต่อไปอีกครู่หนึ่ง ท่าทางที่บุริศร์ รีบร้อนออกไป กานต์ก็รู้แล้วว่านรมนจะต้อง เกิดเรื่องขึ้นแล้วแน่นอน

มือของกานต์สั่นขึ้นมาไม่มากก็น้อย

เขาเดินออกไปจากห้องน้ำ แล้วเดินไป ถึงหน้าคุณนายตระกูลโตเล็กและถามออกไป ตรง ๆ ว่า “คุณย่าครับ หม่ามี้ของผมล่ะครับ?” คําพูด ทําให้คุณนายตระกูลโตเล็กนิ่ง อึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ว่าก็กลับยิ้มแล้วพูดขึ้น ว่า “แด๊ดดี้และหม่ามี้ของเธอมีธุระออกไปแล้ว ต้องรอดึก ๆ หน่อยถึงจะกลับมา”

“หม่า ออกจากบ้านไปตัวคนเดียวใช่ ไหมครับ? แดด ไปตามหาหม่ามี้แล้วใช่ไหม ครับ?”

คําถามของกานต์ทำให้คุณนายตระกูล โตเล็กไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับยังไงดี

กมลกะพริบตาดวงโต ๆ แล้วถามขึ้น อย่างมึนงงว่า “แด๊ดดี้กับหม่ามี้ไม่ได้ออกไป พร้อมกันเหรอคะ? พี่ชาย พี่รู้ได้ยังไงเหรอ?”

กานต์มองท่าทางของกมลแล้วก็ไม่อาจ จะพูดอะไรต่อไปได้ คงจะให้กมลรู้เรื่องพวกนี้ ไม่ได้หรอกมั้ง

“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่อยากจะถามเฉย ๆ”

แต่ว่าคุณนายตระกูลโตเล็กรู้ว่าหลานคน นี้ จะต้องไม่ใช่แค่ถามเฉย ๆ ง่าย ๆ แบบนั้นแน่ เธอมองเห็นโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของกานต์ แล้วก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที

“กานต์ พาพี่ชายและน้องสาวเล่นอยู่ใน บ้านสักพักนะ ช่วงนี้ข้างนอกไม่ค่อยสงบสุข อย่าให้พวกเขาออกไปรู้ไหม? หนูเป็นเด็กที่ ฉลาดคนหนึ่ง ย่ารู้ว่าหนูจะต้องเข้าใจว่าควรจะ ทํายังไง”

กานต์พยักหน้า

เขาวางโทรศัพท์ลง แต่ว่าไม่ว่ายังไง อารมณ์ก็ยังดูหนักหน่วงอยู่เล็กน้อย และก็เล่น

ได้ไม่ค่อยสนุกนัก

กลมเป็นคนที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ ขอแค่มี คนเล่นด้วยกันกับเขาก็พอแล้ว

คุณนายตระกูลโตเล็กสั่งให้คนรับใช้ ระงับการใช้อินเทอร์เน็ต และในบ้านแม้แต่ทีวี ก็ยังไม่ให้เปิด

กิจจาก็รู้สึกผิดปกติอยู่บ้าง แต่ว่าภายใต้ บรรยากาศแบบนี้ เมื่อกานต์ยังไม่พูดอะไรเลย แน่นอนว่าเขาก็ต้องไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ อยู่แล้ว

และแน่นอนว่าทางด้านตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาก็รู้ข่าวคราวนี้แล้ว

ในตอนที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเห็นรูป ถ่ายพวกนี้เข้ามาสู่สายตานั้น ก็โกรธจนทุบ ข้าวของเลย

“ยังดีที่ฉันเห็นทางสว่างก่อน รู้จักไล่ยัย คนนอกคอกนีออกจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ไปก่อน ไม่งั้นไม่รู้ว่าตอนนี้ตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาจะโดนคนเยาะเย้ยถึงขนาดไหนแล้ว พวกเธอดูซิ นี่มันเรื่องอะไรกัน! นี่มันช่างขาย หน้ามากเลย! ยัยนรมนคนนี้ ตัวเองไม่เอาหน้า ก็แล้วแต่ แต่กลับยังโดนคนถ่ายรูปไว้อีก นี่มัน ช่างไร้ยางอายจริง ๆ! นี่ยังดีที่คิมจากไปแล้ว ไม่งั้นนี่คงจะโดนเธอทำให้โกรธจนตายแน่

“คุณนาย เรื่องนี้คงจะไม่ใช่เรื่องจริงหรอ ก ง ฉันว่าคุณนรมนไม่เหมือนว่าจะเป็นคน แบบนั้น คนรับใช้เก่าทางด้านนี้อดไม่ได้ที่จะพูด มาประโยคหนึ่ง

“ไม่ใช่คนแบบนี้เหรอ? ไม่ใช่คนแบบนี้ แล้วยังจะมีคนมาใส่ร้ายเธออย่างงั้นเหรอ? รูป ถ่ายที่หน้าไม่อายแบบนี้ คนทำไมไม่เอาไปใส่ ร้ายคนอื่นล่ะ? โอ๊ย นี่ตาฉันก็จะบอดแล้ว เธอดู ซินี่มันผู้ชายตั้งกี่คนแล้ว แล้วเธอมาดูบน อินเทอร์เน็ตนี่อีกซ์ เขียนอะไรไว้บ้างแล้ว หน้า แก่ ๆ ของฉันนี่ถือได้ว่าโดนเหยียบไว้บนพื้น แล้ว!

“คุณนาย ที่ข้างนอกก็ไม่ได้มีคนเท่าไหร่ ที่รู้ว่าคุณนรมนมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาของเรา และที่สำคัญคุณก็พูดไป แล้ว ว่าเธอไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล ทวีทรัพย์ธาดาของเราแล้ว คุณยังจะโกรธ อะไรอีกละคะ?”

“ทําไมฉันจะไม่โกรธล่ะ? พูดว่าไม่มีส่วน เกี่ยวข้องแล้วก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ เหรอ? เลือดทีไหลเวียนอยู่บนตัวเธอไม่ใช่ เลือดของชินทรเหรอ? แล้วถ้าหากพ่อของเธอ รู้เข้า ก็คงยังจะต้องคลานออกมาจากสุสาน มาตีเธอให้ตายแน่! ยัยคนไม่รู้จักยางอาย! เอาแต่ทําเรื่องที่ให้ตระกูลเสื่อมเสีย เธอพูดมา ชิ มีลูกสาวบ้านไหนที่มีหน้าตาเหมือนอย่าง กับเธอบ้าง? คนแบบนี้ยังจะมีหน้ามีตาอีกเห รอ? ฉันถึงว่าทําไมถึงสามารถเอาชีวิตของแม่ แท้ ๆ มาเป็นเหยื่อล่อได้ ที่แท้ตัวเองก็เป็นของ ที่ไม่รู้จักยางอายตั้งแต่แรกแล้ว!”

คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดายิ่งพูดก็ยิ่ง โกรธ จนสุดท้ายต้องทุบทุกอย่างที่สามารถทุบ ได้รอบตัว อารมณ์ถึงพอจะเย็นลงได้บ้าง

และแน่นอนว่าธรณีก็รู้ข่าวเรื่องนี้แล้ว แต่ จะกลับมาจากเมืองนอกนั้นต้องใช้เวลา เขา โทรศัพท์ให้นรมน แต่ก็น่าเสียดายที่โทรศัพท์ ของนรมนโทรไม่ติดตลอดเลย เมื่อไม่มีทาง แล้ว ธรณีจึงได้แต่ใช้ความสัมพันธ์ของตระกูล ทวีทรัพย์ธาดามาบีบให้ข่าวนี้สยบลงไป แต่ ไม่รู้ทําไมพอเพิ่งจะบีบลงไปได้ไม่นาน ข่าว คราวก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

สื่อโทษว่าตระกูลโตเล็กใช้อำนาจรังแก คน ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตน นำพาข้อ กังขาอย่างใหญ่หลวงมาให้กับตระกูลโตเล็ก

บริศนั้นไม่สนใจเลยสักนิด

คนทั้งหมดด่างก็กําลังวุ่นวายกับเรื่อง ของนรมนอยู่

พอดุลยาเห็นภาพสถานการณ์แบบนี้แล้ว ก็ถือได้ว่าสามารถสะใจได้สักครั้งหนึ่งแล้ว

“นรมน ฉันจะดูว่าเธอยังจะพลิกตัวกลับ มายังไงได้อีก เธอมีคนคอยคุ้มครองอยู่ตลอด ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าตัวเองรู้สึกว่าได้ครอบ ครองผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าใจของผู้ชายคนหนึ่งจะ กว้างขนาดนี้ได้ ของที่เคยโดนคนเป็นพันเป็น ทับคนเป็นหมื่นนอนมาแล้ว เขายังจะมาเอาอก เอาใจเธออย่างกับเป็นพลอยอีกเหรอ? ตัวเธอ เองยังรู้จักเขียนหนังสือสัญญาหย่า แต่น่า เสียดาย ไม่ว่ายังไงเธอก็สู้ฉันไม่ได้หรอก”

“ตุลยา คุณเห็นหรือยัง? บนอินเทอร์เน็ต มีแต่ข่าวของนรมน คุณว่าตอนนี้บุรีศร์จะเป็น ทุกข์มากหรือเปล่า? หรือผมไปดูบริศรสัก หน่อยดี คุณอยู่บ้านคนเดียวไปก่อนนะ อย่าไป ไหนนะรู้ไหม? ข้างนอกมันวุ่นวายมาก ผมกลัว ว่าคุณจะเกิดอะไรขึ้น

พอดุลยาได้ยินว่าไมค์จะไปหาบุริศร์ ก็ อดไม่ได้ที่จะจิตใจหวั่นไหวขึ้นมา

“รอก่อน ฉันไปกับคุณด้วยดีกว่า ฉันเองก็ ค่อนข้างเป็นห่วงพี่เขยของฉัน พี่สาวของฉัน เกิดเรื่องแบบนี้เข้า ก็ไม่รู้ว่าเขาจะร้อนใจจน เป็นยังไงบ้างแล้ว”

ตอนแรกไมค์อยากจะตอบตกลง แต่ว่า พอมาคิดถึงความไม่ถูกกันของบุริศร์และดุลยา แล้ว และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาละเอียดอ่อน แบบนี้ เขาก็ยังคงพอมีสติอยู่นะ

“ครั้งหน้าเถอะ รอให้เรื่องนี้ซาลงไป หน่อย แล้วผมค่อยพาคุณไป พอถึงตอนนั้น ทุกคนก็คงจะมีความสุขกันมากขึ้นแล้ว”

พอเห็นว่าไมค์ปฏิเสธตัวเองแล้ว ตุลยาก็ รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาไม่มากก็น้อย

ผู้ชายคนนี้มักจะเป็นแบบนี้เสมอ มัน ทําให้คนไม่พอใจมากจริง ๆ

แต่ไม่ว่ายังไงดุลยาก็ยังคงต้องการความ ช่วยเหลือของไมค์อยู่ จึงก้มหน้าลงอย่างอด ไม่ได้ต้อง และพูดอย่างน้อยใจขึ้นว่า “ฉันรู้ แล้ว พี่เขยไม่ชอบหน้าฉัน เมื่อก่อนฉันอายุยัง น้อยไม่รู้ความ พูดและทำเรื่องผิดไปบ้าง จน ทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับฉัน คุณไม่พูดฉันก็รู้ ก็ได้ ฉันไม่ไปแล้ว คุณไปดูเองคนเดียวเถอะ ถ้า หากว่าสามารถช่วยอะไรได้ก็รีบช่วยเลยนะ

“คุณอย่าคิดมากเลย บุริศร์เขาก็เป็นคน แบบนี้ นรมนอยู่ในใจเขานั้นสำคัญมากเกินไป แล้ววันนี้ก็เกิดเรื่องแบบนี้เข้า ถ้าหากคุณไป แล้ว กลัวว่าคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พอไมค์เห็นว่าตุลยาเป็นทุกข์ก็รู้สึกปวด ใจขึ้นมา แต่ว่าเขาก็ยังคงยืนหยัดตามหลัก การของตัวเองอยู่

ดุลยาพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันรู้แล้ว ค่ะ ฉันไม่โทษคุณหรอก คุณรีบไปเถอะ อ๋อ ใช่ แล้ว เวลาแบบนี้ พี่เขยจะต้องเป็นทุกข์ในใจ มากแน่ แล้วคนอย่างเขาไม่ดื่มเหล้า ที่ฉันมี บุหรี่ดี ๆ อยู่ห่อหนึ่ง คุณเอาไปสูบกับเขาสักไม่ ที่ม้วนเถอะ อย่างน้อยก็จะสามารถช่วยให้ผ่อน คลายได้บ้าง”

พูดแล้ว ตุลยาก็ล้วงบุหรี่ห่อหนึ่งออกมา จากลิ้นชัก มันเป็นของนําเข้าจากญี่ปุ่น

ไมค์พูดขึ้นอย่างรู้สึกชื่นชมเล็กน้อยว่า ในที่สุดคุณก็โตขึ้นแล้ว

“รีบไปเถอะ!”

ตุลยาหลบมือของเขาออก แล้วก็ผลัก

ไมค์ออกนอกประตูไป

ไมค์ก็ไม่กล้าเสียเวลา ไม่รู้ว่าทางด้านบุรี ศรจะเป็นยังไงบ้างแล้ว จึงได้แต่รีบวิ่งไปอย่าง รวดเร็วเลย

หลังจากที่ไมค์จากไปไม่นาน ตุลยา ออกจากไปข้างนอก ตามอยู่ข้างหลังไมค์ โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือก็กดโทรออกไปด้วย

“ฮัลโล? ฉันเอาของให้ไมค์แล้วนะ ขอ แค่เขากับบริศ สูบ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา แล้ว ”

“อืม ที่เหลืออยู่ก็ดูคุณแล้ว!”

โทรศัพท์ของอีกฝ่ายวางไปแล้ว

ตอนที่ไมค์มาถึงทางด้านบุริศร์นั้น บุริศร์ กำลังโกรธที่หานรมนไม่เจอ และร้อนใจจนหัว หมุนอยู่

“บุริศร์ เป็นยังไงบ้าง? ยังไม่มีข่าวคราว อีกเหรอ?”

การมาถึงของไมค์ทำให้บุริศร์รู้สึกแปลก ใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ว่าก็ยังคงพยักหน้า ให้เล็กน้อย “ใช่ ทีที่ควรหา ที่ที่สามารถหาได้ฉันก็ไป หามาหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาของเธอเลย นายว่าเมืองชลธีก็กว้างแค่นี้ เธอจะสามารถไป ไหนได้นะ? ตอนนี้สถานการณ์ก็เป็นอย่างนี้ แล้วเธอก็ยังมาตัดสัมพันธ์กับตระกูลโตเล็กอีก ไม่แน่คนมากมายอาจจะกำลังจ้องจะหาเรื่อง เธออยู่ก็ได้”

สิ่งที่บุริศร์กลัวก็คือจุดนี้

พวกนักข่าวพวกนั้นช่างบ้าคลั่ง ถ้าเกิดว่า เจอกับนรมนเข้า จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมานั้น

ไม่มีทางคาดคิดได้จริง ๆ

พอไมค์เห็นเขาร้อนใจแบบนี้ ก็อดไม่ ได้ที่จะร้อนใจตามไปด้วย

“ตอนนี้เอาแต่ร้อนใจก็ไม่มีทางออกนี่ คนส่งออกไปหมดหรือยัง?”

“ส่งออกไปหมดแล้ว แต่ว่าข่าวแม้แต่นิด เดียวก็ไม่มี”

หัวคิ้วของบริศร่ขมวดเข้าหากันแน่น ไมค์ วงบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่น ให้กับบริศ และพูดขึ้นว่า “สูบสักม้วนเถอะ อย่างน้อยก็จะได้ผ่อนคลายอารมณ์บ้าง เรื่อง นี้เรายังต้องวางแผนกันยาว ๆ อีก ไม่แน่เธอ อาจจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนก็ได้”

บุรีศร์ไม่ได้ระแวงเขา จึงรับบุหรี่มาแล้วก็ เริ่มสูบ

“รู้จักกับเธอมานานขนาดนี้ แม้แต่คน ทิพย์ก็ยังหาเธอไม่เจอ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอจะ สามารถซ่อนตัวอยู่ที่ไหนได้ ถ้าหากว่าตัวเธอ ซ่อนตัวเองไว้ก็ช่างเถอะ แต่ว่าถ้าโดนคน ที่ไหนจับตัวไป หรือว่าเจอกับเรื่องอะไรอย่าง อื่นเข้า ฉันไม่กล้าคิดถึงผลที่จะตามมาว่าจะ เป็นยังไงเลยจริง ๆ”

พอคิดถึงพวกนี้แล้ว ใจของบุริศร์ก็เริ่ม ว้าวุ่นอยู่ไม่สุขมากขึ้นมาเลย

เขาสูบบุหรี่เข้าไปลึก ๆ นําหนึ่ง กลิ่น หอม ๆ หวาน ๆ ทําให้หัวคิ้วของเขาขมวดขึ้น เล็กน้อย “นี่เป็นบุหรี่อะไรเหรอ?”

“ของนำเข้าจากญี่ปุ่น ฉันก็เพิ่งสูบครั้ง แรกเหมือนกัน แต่ว่าทำไมรู้สึกว่าจะหวาน ๆ อยู่นิดหน่อยนะ?”

ผู้ชายอย่างไมค์กับบุริศร์แบบนี้ แน่นอน ว่าไม่คุ้นเคยกับการสูบบุหรี่กลิ่นแบบนี้ แต่ว่า ในเมื่อจุดติดขึ้นมาแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้ สนใจอะไรมาก มันก็แค่บุหรี่ม้วนหนึ่งก็เท่านั้น

แล้วบุริศร์ก็สูดเข้าไปอีกคำหนึ่ง และถาม ขึ้นลอย ๆ ว่า “นายชอบบุหรี่กลิ่นแบบนี้ตั้งแต่ เมื่อไหร่กัน? นี่มันเป็นแบบที่ผู้หญิงสูบชัด ๆ คราวหน้าบุหรี่แบบนี้ไม่ต้องเอาให้ฉันแล้วนะ ฉันสูบไม่ไหว”

“นี่ไม่ใช่ของที่ฉันซื้อ ดุลยาเป็นคนให้ฉัน เอง ฉันเห็นว่าเป็นบุหรี่จากญี่ปุ่นก็เลยรับเอาไว้ เลย”

คําพูดของไมค์เพิ่งจะพูดจบ อยู่ ๆ บุริศร์ ก็ตื่นตัวขึ้นมา “นายว่าใครให้นายนะ?”

“ตุลยาไง ดุลยาน่ะ ทำไมเหรอ?”

ไมค์ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น บุรีศร์ก็ โยนบุหรี่ทิ้งไปแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังคงรู้สึกถึง ความวิงเวียนระลอกหนึ่ง

“ไมค์ แกนี่มัน!”

พอคำพูดนี้พูดจบลง ตัวเขาทั้งตัวก็เซไป ทีหนึ่ง แล้วก็ล้มลงไปเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ