แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 348 ทั้งชีวิตแค่เราสองคน



บทที่ 348 ทั้งชีวิตแค่เราสองคน

เธอหรี่ตาลง แล้วรีบเดินออกไป

“ดุลยา! ”

คิมเรียกตุลยาที่อยู่ไม่ไกลให้หยุดลง ตุลยาได้รีบหยุดลง แต่หลบตาเธอไว้

“เธอไปพูดเรื่องนรมนต่อหน้าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาอะไรมา

อีก? *

เสียงของคิมฟังดูเย็นชามาก

ตุลยาตัวสั่น จากนั้นก็พูดอย่างกล้ำกลืนฝืนทนเป็นพิเศษ แม่คะ หนูไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ หนูจะไปพูดอะไรเธอได้ ที่นี่ เป็นเมืองชลธีนะคะ ไม่ใช่อเมริกาสักหน่อย ไม่มีคนคอยให้ท้าย หนูหรอกนะคะ หนูจะทำอะไรเธอได้

“นั้นหรอ?

คิมพูดด้วยน้ำเสียงสงสัย

แน่นอนคะ ตอนนี้ หนูหวังแค่จะได้อยู่ข้างกายแม่นะคะ แม่ จะให้หนูทำอะไรก็ได้ ส่วนยังนรมน หนูไม่อยากจะยุ่งด้วยหรอก

นะ”

ตุลยาพูดอย่างเสียงเบา
คิมมองตุลยาที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว รู้สึกไม่ชอบใจ ทั้งสองคน ต่างก็เป็นลูกสาวแท้ๆของตัวอง ถึงเธอจะไม่ค่อยชอบดุลยาเท่า ไหร่ แต่ก็ไม่อยากให้ลยาทำเรื่องโง่ๆไป

“ให้มันเป็นแบบนั้นจริงเหอะ แต่เรื่องยาแก้พิษนั้น ดีที่สุดเธอ มหาโอกาสพูดกับคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ให้เข้าใจซะ เป็น ความชอบของเธอๆก็รับไว้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็อย่าเอาเข้าตัวเอง บน โลกนี้ไม่มีความลับที่ปกปิดได้ตลอด โดยไม่ถูกเปิดเผยหรอกนะ

อย่ารอให้ชื่อเสียงตัวเองบ่นแล้วจะมานั่งเสียใจภายหลังล่ะ”

พิ่มพูดจบก็เดินจากไป ไม่ได้สังเกตเห็นมือที่ทำไว้จนแน่ของ ตุลยาเลยแม้แต่น้อย ดวงตามีความโกรธและไม่พอใจ

นรมนกลับไม่รู้เลยว่าที่โรงพยาบาลเกิดเรื่องขึ้นตั้งมากมาย ตอนที่บริศ หาเธอเจอนั้น เธอกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวบนระเบียง ทางเดิน เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

คิดอะไรอยู่หรอ? ”

บริศ เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้ว ได้รีบเดินเข้าไปหา

นรมนสะดุ้งที่นึง ดึงสติกลับมาได้ในทันที เห็นว่าเป็นบุริศร์เลย พูด : “ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ตุลยาเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ทำไมต้องมาที่เมืองชลธี? แถบยังดีกับคุณยายของฉันขนาดนี้

“คิดเรื่องพวกนี้ทำไมกัน? เธออยากจะเป็นคนรับใช้ก็ปล่อย ให้เธอเป็นไป ขอแค่ไม่มายุ่งกับเรา อย่างอื่นก็ช่างมันเถอะ

บุตรยื่นนมอุ่นๆ ที่อยู่ในมือให้นรมนไป
“คุณไปเอามาจากไหนคะ? ”

“หัวหน้าคมเป็นคนให้มา บอกว่าชงให้คุณ เธอเห็นว่าสีหน้า

คุณไม่ค่อยดีเลย”

คําพูดของบุรีต ทําให้นรมนสะดุ้งอีกครั้ง

“เมื่อกี้ พวกคุณสองออกไปคุยอะไรกันข้างนอกคะ?

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แต่ว่าไม่นาน ปัญหาเรื่องจัดการตรวจ สอบฐานะของคุณ ยังไงก็ต้องผ่านด่านเธอไปก่อน

บริศร์นั่งลงที่ข้างๆของนรมน รู้สึกว่านรมนดูเหมือนจะอารมณ์

ไม่ค่อยดี

“คุณมีเรื่องกับดุลยามางั้นหรอ? ”

“เปล่านิคะ”

นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนที่เอ่ยถึงชื่อตุลยา แต่ก็ไม่กะจะ พูดออกมา เรื่องระหว่างเธอกับดุลยาตอนนี้ก็หาต้นตอปลายเหตุ ไม่ได้ เลยหยุดคิดไปก่อน

“ฉันจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลนาวินพร้อมกับธิดาคนนึง คง นะจะดีขึ้นหน่อย”

“เรื่องพวกนี้ปล่อยให้นายพฤกษ์เป็นคนจัดการเถอะ ผมว่าคุณ ก็เหนื่อยแล้ว ผมส่งคุณกลับไปพักผ่อนเถอะ? ” เอง

บริศ เห็นสีหน้าของนรมนไม่ค่อยดีนัก เลยคิดกลับบ้านไป พร้อมกับเธอ
นามนกลับเขย่าหัวแล้วพูด “อยู่แต่ในบ้านมายี่สิบกว่าวัน แล้ว ฉันรู้สึกเบื่อ เอาอย่างนี้ คุณเดินเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้มั้ย

คะ? ”

บุรีศร์ก็พยุงนรมนลุกขึ้น

“ฉันไม่ใช่คนพิการนะคะ ทำไมคุณต้องทำกับฉันเหมือน ระมัดระวังขนาดนั้นคะ? ฉันเดินเองได้ค่ะ”

นรมนรู้สึกว่าบุริศร์ เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ไปได้

บริศร์กลับพูดอย่างจริงจัง : “นั่นมันได้ยังไง ผมไม่ยอมปล่อย ให้คุณเป็นอะไรไปต่อหน้าผมได้แม้แต่นิด ไม่อย่างนั้น ผมคง

เสียใจแย่เลย ”

“ปากคุณเนี่ย ตอนเช้าทานน้ำผึ้งเข้าไปเยอะเลยใช่มั้ยเนี่ย?”

“ทานลูกอมไป ไม่เชื่อคุณรองดมดูสิ

บุรีศรีนปากตัวเองเข้าไปใกล้เธอโดยตรง

นรมนหน้าแดงในทันที แล้วผลักเขาออกทันที ทําหน้างอน แล้วพูด : “คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? ยังเล่นเป็นเด็กไปได้! ไม่กลัว คนอื่นเขาหัวเราะเยาะเลยรึไง! ”

“ใครกล้าหัวเราะเยาะผม? คุณรองให้เขามาพูดต่อหน้าผมดู

บริศร์ หน้าโกง หยอกจนนรมนอดขำไม่ได้
“ดูคุณชิ บอกว่าเป็นประธานของบริษัท ยูกกรุ๊ปจํากัดคน ก่อน คนบุรีศที่เย็นชาไร้เยื่อใย ใครเขาจะเชื่อ? ”

“ไครอยากเชื่อก็เชื่อไป ขอแค่คุณไม่เชื่อก็พอ

บริศ ยื่นมือไปโอบเอวของนรมนไว้โดยตรง แล้วพาเธอเดิน

ออกไป

ตอนที่ดุลยาเห็นฉากนี้จากข้างหลังแล้ว ก็ได้หรี่ตาลง

น้อยมากที่เธอจะเห็นผู้ชายคนนึงที่สามารถรักและทะนุถนอมผู้ หญิงคนนึงขนาดนี้

นรมนเธอมีดีอะไร?

ไม่เพียงแต่ได้รับความรักจากแม่ ความห่วงใยจากตระกูลทวี ทรัพย์ธาดา แม้กระทั่งคุณบุริศร์ก็รักทะนุถนอมเธอขนาดนี้

แต่แล้วเธอตุลยามีอะไรล่ะ?

เธอไม่มีอะไรเลย!

แรงเห็นความอิจฉาและความไม่พอใจ ทำให้เธอฝากรอยขีด ชวนไว้บนกำแพงอย่างไม่รู้ตัว จนเล็บหักแล้วผิวที่นิ้วก็ถลอก แต่ เธอก็ไม่รู้สึกอะไรเลย

นางนรมน!

อะไรที่เป็นของเธอ ฉันจะแย่งมันมาให้หมด!

ดุลยาแอบสาบานกับตัวเอง
บรมนเดินๆอยู่ จู่ๆเหมือนรู้สึกมีคนคอยเดินตามอยู่ข้างหลัง เธอหันไปมองในทันที แต่ระเบียงทางเดินกลับว่างเปล่าไม่มีอะไร คนที่เดินผ่านไปมาก็ล้วนแต่เป็นคนที่เธอไม่รู้จัก

“เป็นอะไรไปหรอ? ”

บุรี รถามด้วยความสงสัย

“เปล่าค่ะ ฉันคงคิดมากไปเอง”

นรมนหันกลับมา แล้วเดินออกไปจากโรงพยาบาลพร้อมกับบุ

ริส อีกครั้ง

ทั้งสองคนได้เดินมาถึงข้างนอก เดิมที บุริศร์กะจะขับรถไป แต่ นรมนบอกว่าอยากจะเดิน บุริศร์เลยเดินเป็นเพื่อนเธออยู่บนถนน

คนเดินผ่านไปมาและรถก็วิ่งสวนทางไปมาอยู่บนถนน นรมนเห็นผู้คนที่คึกคักพลุกพล่านอยู่ จู่ๆก็นึกถึงเรื่องเก่าๆแล้ว

เฮ้อขึ้นมา

“ยังจำที่เราเพิ่งจะแต่งงานใหม่ๆ มีครั้งนึงที่คุณออกไปอีกครั้ง แล้วรถเสียฉันให้คนขับรถเอารถอีกคันมา แต่คุณรอไม่ไว้ แล้ว จะเดินกลับบ้านเอง ตอนนั้น ฉันเดินตามอยู่หลังคุณ เหมือน ภรรยาที่ถูกรังแกอย่างไรอย่างนั้น ขาคุณยาวเลยเดินเร็วมาก ฉัน ต้องคอยวิ่งตามคุณตลอดทาง ถึงคุณจะไม่ค่อยชอบฉัน แต่พอ สังเกตเห็นว่าฉันตามคุณเหนื่อยมาก คุณก็ยังยอมหยุดเดินเพื่อ รอฉัน ตอนนั้น ฉันรู้สึกว่าคุณเป็นผู้ชายที่เย็นชาแต่ภายนอก แต่ จิตใจอบอุ่น”
จู่ๆนรมนก็พูดเรื่องนี้ออกมาด้วยรอยยิ้ม “ใช่หรอ? ผมเหมือนที่คุณพูดขนาดนั้นเลยหรอ?

บุริศร์จำเรื่องนี้ไม่ได้เลย แต่พอตอนนี้ เห็นนรมนพูดแล้ว สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มดีใจแล้ว เขาก็เก็บอาการหน้า

ตัวเอง

“ถ้าตอนนั้นรู้ว่าจะตกอยู่ในมือของคุณ ตอนนั้นผมคงจะไม่อยู่ รอคุณแล้ว”

“คุณบุริศร คุณหมายความว่ายังไง?

นรมนได้ยินเขาพูดแบบนี้ รู้สึกอดงอนไม่ได้

บริศร์กลับหัวเราะพูด : “ปล่อยให้คุณตามดื้ออีกหลายปีก็ดี

ออก”

“ฉันตามตื้นคุณยังถือว่าไม่ลำบาทพอหรอ? แต่งงานมาสามปี คุณไม่เคยสนใจฉันเลย ยังมีหน้ามาพูดอีก

นรมนเริ่มคิดบัญชีเก่ากับเขา

พอเห็นนรมนเป็นแบบนี้แล้ว บุริศร์รีบเบี่ยงเบนการสนทนา “คุณดู ทางโน้นมีร้านเครื่องประดับอยู่ร้านนึง เราเข้าไปดูการ

มั้ย? ”

นรมนหันไปมองที่นั่ง เป็นร้านเครื่องประดับชื่อดังในเมืองชลธี ส่วนใหญ่แล้ว เครื่องประดับที่ประดิษฐ์ออกมาล้วนมีเอกลักษณ์ เฉพาะและเป็นหนึ่งเดียว เครื่องประดับที่สั่งทำจากที่นี่ ล้วนแต่มีราคาแพงแค่ขายไม่ได้ราคา ชีวิตนี้แค่เราสองคน

“คุณจะเข้าไปจริงหรอ? คุณรู้ว่าที่นี่เป็นที่อะไรมั้ย? ”

ร้านเครื่องประดับแบบนี้ ส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิงที่ให้ความ สนใจ น้อยมากที่ผู้ชายจะสนใจ โดยเฉพาะผู้ชายอย่างบริศร์ ตอนที่นรมนถามคำถามนี้แล้ว บุรีศร์อึ้งไปครู่นึง

“มันต่างกันยังไงหรอ? ”

“เครื่องประดับที่นี่ สั่งทําได้แค่ชุดเดียว จำไว้เลยนะทั้งชีวิตสั่ง ทำได้แค่ชุดเดียว อธิบายให้คุณแบบนี้แล้วกัน ถ้าหากวันนึงคุณ หย่ากับฉันแล้ว คุณอยากพาผู้หญิงอีกคนมาสั่งทำเครื่องประดับ ที่นี่อีก ก็จะไม่ได้อีก เพราะว่าชื่อของคุณกับฉันได้จดทะเบียนที่นี่ ไว้แล้ว ทั้งชีวิตนี้ เราสองคนมีโอกาสเพียงหนึ่งครั้งที่จะสั่งทำ เครื่องประดับที่เป็นเฉพาะของเรา คนอื่นจะไม่มีโอกาสอีกเพราะ ฉะนั้น คุณควรคิดให้ดีก่อน จะเข้าไปกับฉันจริงหรอ? ”

นรมนค่อยๆอธิบายให้บริศ ฟังอย่างละเอียด

“ก็หมายความว่า เครื่องประดับที่ทําจากที่นี่คือสองคนมีได้แค่ หนึ่งชุดในทั้งชีวิตหมดเลยหรอ? ”

“ใช่! ”

นรมนรีบพยักหน้า

บริศ ลูกหัวเธอเบาๆแล้วพูด : “นั้นจะรออะไรล่ะ? ไป

“คุณไม่รอ ดอีกหน่อยหรอ?
“กับคุณไม่จําเป็นต้องอะไรอีกแล้ว บนโลกนี้ คงไม่มีใครโง่ได้ เหมือนคุณแล้ว ผมไม่รีบจองคุณไว้นั้นผมก็โง่เต็มที่แล้ว

ค่าพูดของบุรีศร์ทำให้นรมนหดหูขึ้นมา

“คุณว่าใครเป็นคนโง่? คุณเองต่างหาก! คุณเป็นถึงคุณชาย ของตระกูลโตเล็ก ค่าตัวเป็นร้อยล้าน มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ แย้งกันจะแต่งกับคุณ? ”

บุรีศร์หัวเราะที่นั่งแล้วพูด : “เงินไม่ใช่ทุกสิ่ง? คุณนึกว่าใครๆ ก็สามารถเป็นคุณนายบุริศร์ได้งั้นหรอ? พวกเรื่องไม่ดีในตระกูล เรา คนปกติมาถึงตระกูลโตเล็ก คงตายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว ขนาด อย่างคุณ ก็ยังหนีรอดจากการตายไม่รู้กี่ครั้งเลยไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ยังยุ่งวุ่นวายแก้ปัญหาไม่ได้อยู่เลย แต่คุณรู้ทั้งรู้ว่าเส้น ทางข้างหน้านําบากยากเย็นมาก ยังยอมเดินไปกับผมต่อ ผมจะ พูดอะไรได้ ? ชีวิตนี้ ไม่มีอะไรที่ให้คุณได้ เงินทอง ฐานะคุณก็ไม่ ต้องการ สิ่งเดียวที่ผมให้คุณได้ก็คือความรักของผม

นรมนจู่ๆก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที

“ไปฝึกพูดมาจากไหนมาเนี่ย?

“มองหน้าคุณแล้ว คำพูดมากมายก็ออกมาจากปากโดยไม่ ต้องคิด แต่กับผู้หญิงอื่น ขี้เกียจพูดแม้แต่คำเดียว

บุรีศร์ก้มมือของนรมนไว้นิ้วมือประสานกัน แล้วจูงมือเดิน เข้าไปในร้านเครื่องประดับ ทั้งชีวิตแค่เราสองคน

“ยินดีต้อนรับค่ะ! ”
พนักงานเดินมาต้อนรับอย่างมีมารยาท

บริศ มองดูเครื่องประดับที่อยู่ในร้าน แต่ละชิ้นออกแบบมาไม่ เหมือนกันเลยบางชิ้นดูแพงดูหรูมาก บางชิ้นก็ดูไม่มีราคาเลย รวมไว้ด้วยกันต่างๆนาๆ ทำให้คนรู้สึกรกรุงรังในทันทีที่เห็น

“ร้านของคุณมีดีไซเนอร์กคนครับ? ”

บุรีต อดไม่ได้ถามขึ้นมา

พนักงานรีบพูด : “ร้านเราไม่มีนักดีไซเนอร์ค่ะ”

“ไม่มีดีไซเนอร์? นั้นเครื่องประดับพวกนี้ก็ทำขึ้นมั่วๆนะ

หรอ? ”

บริศ รู้สึกว่าตัวเองคงเดินเข้าร้านผิด

ถึงชื่อร้านจะฟังดูความหมายดี แต่ถ้าว่าทำขึ้นมั่วๆ ก็ไม่สมกับ ฐานะของภรรยาของเขาเลย

พนักงานไม่ได้รู้สึกโกรธกับคำพูดของบุริศร์เลย แล้วพูดด้วย อารมณ์ดีเหมือนเดิม เครื่องประดับของร้านเราทั้งหมดนี้ ต่าง ก็เป็นลูกค้าที่เข้ามาที่ร้านออกแบบเองค่ะ เป็นชิ้นงานที่พวกเขา ออกแบบเอง ทางเราแค่มีหน้าที่สั่งทำและจดทะเบียนค่ะ บนโลก นี้ จะไม่มีของกับเรา นี่เป็นสิ่งระลึกของทั้งสองคน

“ออกแบบเอง? ”

นรมนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

” แปลว่า เราจะออกแบบยังไงก็ได้ ใช่มั้ยคะ?
“ค่ะ”

พนักงานพยักหน้าให้นมน

บริศ เห็นนรมนตื่นเต้นดีใจ อดไม่ได้เอ็นดูถาม : “คุณมีโอ เดียอะไร?

“ยังคิดไม่ออก แต่ฉันขอกลับไปออกแบบดีๆก่อน ได้มั้ยคะ? ”

คำพูดของพนักงานทำให้นรมนดีใจใหญ่

ระหว่างที่พนักงานกำลังจะพานรมนและบริศร์ไปทำการจด ทะเบียนนั้น ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาฉุดให้ทั้งสองคนหยุดลง ในทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ