ใต้ชายคารัก

ตอนที่ 38 อดีตที่เราเคยมี (8)



ตอนที่ 38 อดีตที่เราเคยมี (8)

หากไม่มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งชิงชุนก็คิดว่าความสัมพันธ์ของเธอกับซูจือเนี่ยน คงจะจบสิ้นไปแล้ว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันคริสต์มาส

เธอเดินทางไปตอนใต้เพื่อฉลองวันคริสต์มาสกับฉิน

อีก นาน

ในที่สุดเธอก็มีความกล้าจะสารภาพรักกับเขา เธอใช้เวลาทั้งคืนบนรถไฟเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยของเฉินอี้หนานในเ ช้าวันถัดไป

เธออยากทำให้เขาประหลาดใจ เลยไม่ได้โทรบอกก่อน

เธอไม่รู้หมายเลขห้องของเฉินอี้ หนาน

จึงไปขอให้นักศึกษาที่อยู่แถวนั้นช่วยเหลือ และได้เห็นฉินอี่หนานก่อนที่จะไปถึงห้องพักของเข ด้วยซ้ำ

ในที่สุดเธอก็ได้ที่อยู่มา

พี่อี๋หนาน รักเดียวของเธอ

กำลังโอบสาวคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนขณะขับรถผ่าน เธอไป หลังจากนั้นเธอโทรหาฉินอี้หนานหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่รับสาย

เธอไม่อยากคิดอะไรไปในทางแย่ๆ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของพี่อี๋หนานหรือ

เธอไปรอฉินอี่หนานที่มหาวิทยาลัยจนกระทั่งตะวัน ตกดิน แต่เขาก็ยังไม่กลับมา

ความกล้าที่เธอรวบรวมไว้ระหว่างเดินทางมาจากปั กกิ่งเหือดหายไปท่ามกลางการรอคอยอันยาวนาน

จนสุดท้ายเธอก็ไม่มีความกล้าจะเจอหน้าฉินอื่หนาน อีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงกลับปักกิ่งไปทั้งที่ไม่ได้พบกัน

ตอนขากลับ ตั๋วรถไฟทุกใบขายหมดเกลี้ยง เธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับด้วยเครื่องบิน วันคริสต์มาสที่ทุกคนบนโลกต่างเฉลิมฉลองกับเพื่อ

นๆ และครอบครัวอย่างมีความสุข

เธอกลับต้องมานั่งโดดเดี่ยวบนเครื่องบิน

เมื่อเธอมาถึงสนามบินนานาชาติปักกิ่ง ก็เป็นเวลาเกือบตีหนึ่งแล้ว

เธอเป็นเพียงนักเรียนมอห้า จึงไม่มีบัตรเครดิต แถมยังเอาเงินสดไปซื้อตัวเครื่องบินจนหมดแล้ว

ซ่งเมิ่งหวากับมารดาของเธอเดินทางไปเที่ยวฮ่องก ง และแม่บ้านก็ลาในวันหยุดนี้ เพราะแบบนั้นเธอถึงได้กล้าแอบหนีออกจากบ้าน

ตอนนี้ก็ดึกเกินกว่าจะโทรหาเพื่อนๆ ในห้องแล้ว คงไม่มีใครออกมารับเธอ ซึ่งชิงซุนยืนท่ามกลางสายลมหนาวยามค่ำคืนอยู่นา นสองนาน และหลังจากลังเลใจอยู่พักใหญ่ เธอก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรเข้าบ้าน

ตอนที่เธอกดโทรศัพท์

เธอไม่แน่ใจเลยว่าซูจือเนี่ยนจะอยู่ที่บ้านหรือไม่ เพราะปกติแล้วเขามักใช้วันหยุดสุดสัปดาห์อยู่เป็นเ

พี่อนแม่เขาที่โรงพยาบาล

แต่ตอนนั้นเธอเพียงแค่อยากลองโทรดู แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังเพียงค

รั้งเดียว ก็มีคนรับสาย

เสียงที่ดังมาอีกปลายสายฟังดูเย็นชาเช่นเคย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง คืนนี้เธอกลับรู้สึกอบอุ่นที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย

ครึ่งชั่วโมงหลังจากที่วางสาย เขาก็โผล่มา ซึ่งชิงชุนยังไม่ได้กินอะไรสักคำตั้งแต่เช้ามืด ดังนั้นเมื่อผ่านร้านฟาสต์ฟู้ดที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโ มง เธอจึงบ่นงืมง่าว่าหิว

น้ำเสียงของเธอเล็ดลอดออกจาริมฝีปาก ฟังเปราะบางเสียจนตัวเธอเองยังจำไม่ได้ แต่ซูจือเนี่ยนกลับจอดรถ และถึงกับลงไปซื้ออาหารเป็นเพื่อนเธอด้วย

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาตีสามแล้ว เวลาสองวันหนึ่งคืนที่ออกจากบ้านทำให้เธอเหนื่อย ล้าถึงขีดสุด จนผล็อยหลับในรถ ซูจือเนี่ยนนั่นเองที่เป็นคนอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน พาเธอลงจากรถแล้วขึ้นบันไดไป

เมื่อเขาวางเธอลงบนเตียง ขณะที่เขาห่มผ้าให้ เธอก็ตื่นขึ้นจากฝันอย่างง่วงงุน แล้วพึมพำเบาๆ ว่า “ขอบคุณนะ”

ตอนนั้นเปลือกตาของเธอหนักอึ้งจนแทบฝืนลืมตา ต่อไม่ไหว เธอจึงไม่แน่ใจว่าตัวเองฝันไปหรือไม่ เมื่อชายหนุ่มตอบกลับมาว่า “ราตรีสวัสดิ์”

นั่นอาจเป็นครั้งแรกเลยนับตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ที่เธอได้ยินคำพูดอ่อนโยนจากปากของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ