ใต้ชายคารัก

ตอนที่ 106 จูบที่ไม่อาจห้ามใจได้ (6)



ตอนที่ 106 จูบที่ไม่อาจห้ามใจได้ (6)

“ฉันโทรสั่งอาหารเอาได้ไหมคะ

คุณอยากกินอาหารตะวันตก อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน หรือว่าอาหารอะไรหรือเปล่าคะ

ซูจือเนี่ยนหันไปมองซ่งชิงชุนที่ล้วงโทรศัพท์ออ กมาเซ็กเมนูอาหารแล้ว

ใบหน้ามีรอยยิ้มสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา ดวงตาก็เปล่งประกายด้วยความสุข

เธอตื่นเต้นและมีความสุขขนาดนี้เพราะจะได้ไป เจอฉัน หนานงั้นเหรอ

“คุณชู เอาเป็นอาหารจีนดีไหมคะ

คุณอยากกินสไตล์หูหนาน เสฉวน

ฮ่องกงหรือว่าปักกิ่งดีคะ

ฉันว่าสไตล์ฮ่องกงอร่อยที่สุด แต่ว่าเราไม่ควรกินเยอะตอนกลางคืน…

ก่อนที่ซ่งชิงซุนจะพูดจบ

ซูจ่อเนียนก็ปารีโมตในมือลงบนโต๊ะกาแฟจนเกิ

ดเสียงดังลั่น ข่งชิง นกลัวจนพูดอะไรไม่ออก เธอละสายตาจากมือถือขึ้นมองซ่งชิงชุน ที่ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาหาเธอ

ฉันทําอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ ทำไมจู่ๆ เขาก็ทำหน้าตาบูดบึ้งขึ้นมา ทำไมจู่ๆ เขาถึงโกรธล่ะ

ข่งชิง นคิดเช่นนั้นขณะยิ้มกว้าง พยายามทําให้ซูจือเนี่ยนหายโกรธ ในดวงตาเธอมีทั้งการอ้อนวอนและประจบ เช่นเดียวกับร่องรอยความวิตกที่ปิดซ่อนเอาไว้

อเนียนมองตาเธอก่อนเบือนหน้าหนี เขาจ้องถมึงทึงไปที่โคมไฟในห้องนั่งเล่น ประหนึ่งจะสะกดลูกไฟแห่งความโกรธเอาไว้ ในที่สุดชายหนุ่มก็เดินผ่านข่งชิงชุนขึ้นไปข้างบ

น โดยไม่พูดอะไรสักคำ

“ฉันใส่ชุดกระโปรงดัวนี้ หรือตัวนั้นดีนะ “อืม..ตัวนี้ก็ดูน่ารักดี…

“ไม่ละตัวแรกดูดีกว่า…. ซูจือเนี่ยนนั่งอยู่ในห้องทํางานในบ้าน

คอยฟังเสียงบ่งชิงชนบ่นพึมพำกับตัวเองขณะพ ยายามเลือกซื้อผ้าอยู่ในห้องตัวเอง เขาฉกเอกสารออกมาปั้นเป็นก้อนโดยไม่รู้ตัว

เขารู้ว่าข่งชิงชุนจะต้องพิถีพิถันในการแต่งตัวไ ปงานเลี้ยงของฉิน หนาน

แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเอง

ไม่ให้ไปที่ระเบียงเพื่อแอบดูเธอได้ เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวเดินลงบันไดไป

เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีม่วง

ทับด้วยเสื้อโค้ตขนแกะสีขาวอุ่นๆ

พร้อมกับสวมรองเท้าส้นเข็มที่ทำให้สูงขึ้นอย่าง

น้อยสิบเซนติเมตร

ซูจีอเนียนเห็นเพียงด้านข้างเมื่อเธอเดินอย่างร่

าเริงออกไปจากบ้าน

กระนั้นเขาก็มองเห็นความสุขฉายบนใบหน้าที่แ

ต่งแต้มอย่างงดงามได้ชัดเจน

ซูจีอเนียนก๋าราวระเบียงแน่นขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้ ตัวเองวิ่งลงไปข้างล่าง ลากเธอเข้าบ้าน และห้ามไม่ให้เธอไปร่วมงานเลี้ยงของฉัน หน าน

ก่อนไป หญิงสาวได้โทรเรียกแท็กซี่เอาไว้ ดังนั้นรถเลยมาจอดรอเธออยู่หน้าประตูบ้านแล้

ข่งชิงซุนวิ่งตรงไปที่รถแล้วกระโดดขึ้นอย่างไม่

ลังเลเลย

เขายืนนิ่งอยู่บนระเบียงราวกับรูปปั้น

จนรถค่อยๆ เคลื่อนหายไปจากสายตา

เมื่อแท็กซี่ขับออกไปแล้ว

ใบหน้าเขาก็คล้ายมีก้อนเมฆแห่งความเศร้าเข้า มาบดบัง หัวใจเขาค่อยๆ จมดิ่งสู่นรกอันมืดมิด

เธอออกจากบ้านอย่างมีความสุข

เหมือนแทบรอคอยจะไปจากเขาไม่ไหว เธอไม่แม้แต่จะบอกลาหรือโบกมือให้ด้วยช่า

อันที่จริงเขาไม่อยากให้เธอไปร่วมงานเลี้ยงขอ งฉัน หนานเลยสักนิด

การไม่มีเธออยู่ด้วยคือความเศร้าของเขา ขณะที่การมีเธออยู่ด้วยคือความเศร้าของเธอ

ดังนั้นเมื่อต้องเลือก

เขาจึงเลือกเผชิญกับความเศร้า ดีกว่าขโมยความสุขไปจากเธอ

หลังจากยืนตากลมหนาวได้สักพัก โทรศัพท์ที่เขาทิ้งไว้ในห้องทำงานก็ดังขึ้น

ชายหนุ่มถอนสายตาจากถนน

เดินกลับเข้าข้างใน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วดูชื่อคนโทร แล้วจึงรับสาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ