วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 85 ติดกับ



บทที่ 85 ติดกับ

จิ้งหนึ่งไม่พูดอะไร ก็ได้ถือแก้วผมไว้

จึงเป็นบ่นไปไม่กี่คำ เห็นรอยยิ้มของเธอ ก็บ่นต่อไม่ออก แล้วก็ยิ้มตาม

“ว่ามา! เธอได้วางแผนมาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?

จิ่งหนิงพยักหน้า

การมาของลู่จิ้งเซินในวันนี้ ถึงแม่ได้จะเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ ก็เหมือนกับแผนที่เธอได้วางไว้

เธอก็ได้คิด จะแข่งกับนิ่งเสี่ยวหย่าอีกครั้ง

แต่ก็แค่คราวนี้เขาเป็นคนออกความคิดเห็น ทำให้การ แข่งนั้นจะเป็นธรรมง่ายขึ้นอีก

ลู่จึงเป็นเหมือนจะคิดจุดนี้ได้ ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เห็นที่เป็น

ฉันที่เข้ามายุ่ง

จิ่งหงรีบส่ายหน้า

“ไม่ คุณมาก็ดีแล้ว”

เธอไม่ได้พูด ถึงแม้ว่าตัวเองนั้นได้วางแผนมาตั้งแต่แรก แล้ว แต่ในใจนั้นก็ยังกระวนกระวายอยู่
ตระกูล….เธอไม่กล้าที่จะเชื่อใจแล้ว

ท้าปีก่อน คนที่เป็นคนสรุปโทษของเธอ ก็คือยู่เงี่ยนชีว

ใครจะรู้ ห้าปีหน้าต่อให้แข่งขันกันใหม่ ก็ไม่มีกรรมการที่ เป็นทำ จะเป็นการแข่งที่ยุติธรรมจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้?

เขามาได้ ก็ดีมาก

รู้สึกเหมือนว่าได้มีคนมาช่วยกันหลัง ขนาดหลังนั้นก็ได้ ตรงไปเลย!

หัวเหยาได้เดินออกมาจากโรงแรม ยิ้มแล้วพูด “โยว์ ฉัน มาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นแล้วหรือเปล่า? หนิงหนึ่ง ยังไม่รับ แนะนําอีก

จิ้งหนึ่งยิ้มออกไป จากหัวเหยามาแนะนำให้ลู่วิ่งเซ็นรู้จัก “นี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน หัวเหยา

“เหยาเหยา เขาเป็นลู่นิ่งเซิน เป็น……. เธอได้นิ่งไป หูก็ได้เริ่มแดงขึ้น เหมือนได้ย้อมสีมายังไง

อย่างงั้น

สุดท้าย ก็ได้พูดออกไปเสียงเบาว่า “เป็นสามีของฉัน”

หัวเหยาเบิกตาด้วยความตกใจ “อะไรนะ? เธอ เธอแต่งงาน……
จิ่งหนึ่งได้รีบปิดปากของเธอ

“ชว! เบาหน่อย! ”

เธอได้อธิบายเสียงเบาว่า “แต่งลับๆ

หัวเหยาพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

หลังจากที่วิ่งหนึ่งปล่อยมือ เธอมองไปที่จึงเป็น แล้วก็ มองจิ่งหนิง ยกนิ้วให้

“ยังเป็นพวกเธอที่เล่นเป็นเวลาที่สั้นขนาดนี้ คิดไม่

ถึงว่า……อืม นับถือ

จิ่งหนิงยิ้มออกมา

จึงเป็นเห็นท่าทางที่ปิดบังของจิ้งหนึ่งแล้วก็ไม่พอใจ เล่น ซะเหมือนว่าเขานั้นเจอคนไม่ได้ยังไงอย่างงั้น

เพราะงั้นไม่พูด ให้ความเงียบมาแสดงความไม่พอใจของ

หัวเหยาถาม “หนิงหนึ่ง ถามหน่อยเถอะ ผ่านไปห้าปีแล้ว งานออกแบบนั้นเธอจําได้มากน้อยขนาดไหน? พรุ่งนี้อย่ามา วาดไม่ออกมานะ แบบนั้นก็จบเห่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

จิ่งหนึ่งยิ้ม

เธอได้เอางานออกแบบที่วาดด้วยมือออกมาจากกระเป๋า พูดว่า “ฉันได้เตรียมการมาเรียบร้อยแล้ว ฉันได้อาศัยความจํางวดมันออกมาก่อนหน้า เหมือนกับงานเมื่อห้าปีก่อนแป๊ะ ฉันกลัวว่าจะลืม ก็ได้วาดมันออกมาเอง พรุ่งนี้ฉันก็แค่วาด ตามนี้อีกรอบก็พอแล้ว”

หัวเหยาเห็นแบบนั้น ก็ได้พยักหน้าอย่างวางใจ

“งั้นก็ดี ถ้าเป็นแบบนั้น ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ฉันกลับไปก่อน วัน พรุ่งนี้ฉันมาดูเธออีก

จิ้งหนังพยักหน้า “ได้”

ตอนที่หัวเหยาจากไปนั้น ในที่มืดก็ได้มีเงาผ่านไป เข้าไป

ในเงามืดมากๆ

จิ้งหนึ่งมองนมร้อนๆ ในมือ ดื่มหนึ่ง ก็ได้พูดว่า “ลู่วิ่ง เช่น ฉันอยากจะเข้าห้องน้ำหน่อย คุณรอฉันอยู่ที่นี่แป๊บหนึ่ง ได้ไหม?

ลู่จิ้งเซินพูดเสียงเข้ม “ฉันไปเป็นเพื่อน

“ไม่ต้อง ห้องน้ำก็อยู่ที่ชั้นหนึ่ง ฉันไปคนเดียวก็พอค่ะ คุณ ช่วยฉันถือนมก่อน

ลู่นิ่งเซ๊นขมวดคิ้วเล็กน้อย

แต่อยู่ในสายตาเธอ ก็ไม่ได้พูดอะไร พยักหน้า

จิ้งหนึ่งไปที่ห้องน้ำชั้นหนึ่ง

กระเป๋านั้นเป็นแบบถือ เอาเข้าห้องน้ำไม่ค่อยสะดวก
เธอได้เอากระเป๋าให้พนักงานที่อยู่หน้าห้องน้ำ พูดว่า “ช่วยฉันเอาประมาณสองนาทีได้ไหม? เดี๋ยวฉันก็ออกมา แล้ว”

พนักงานคนนั้นเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ เดิมที่เธอยืนอยู่ตรง นี้ ก็เพื่อที่จะบริการลูกค้า

เพราะงั้นก็ได้พยักหน้ารับกระเป๋าจากจิ้งหนึ่งอย่างเป็น มารยาท เอาป้ายเบอร์ให้เธอ เดี๋ยวสักพักก็จะสามารถเอา กระเป๋าคืนมาจากการแลกป้ายเบอร์

ไม่นานจิ้งหนึ่งก็เข้าห้องน้ำเสร็จ

หลังออกมา ก็ได้แลกเอากระเป๋า ออกไปจากโรงแรม

และที่มุมตรงบันได ร่างที่สูงใหญ่ร่างหนึ่ง มองทางที่หญิง สาวได้เดินออกไป แล้วก็มองภาพออกแบบในมือ ยิ้มออกมา อย่างเย็นชา

วันต่อมา

ช่วงสิบโมงเช้า จึงหนิงกับจิ้งเสี่ยวหย่าได้มาตามนัด

เทียบกับเมื่อวานที่สีหน้าได้ซีดราวกับกระดาษ วันนี้จึง เสียวหย่า มีสีหน้าที่ดีขึ้นมาก นัยน์ตาก็ยังมีความได้ใจเล็ก น้อย

แต่จิ้งหนิง ตั้งแต่มาถึง คิ้วก็ได้ขมวดอยู่ตลอด
ตอนที่เห็นจิ้งเสี่ยวหย่า ใบหน้ายังมีความโมโหเล็กน้อย โมโหจนแทบฉีกเธอเป็นชิ้นๆ แต่แต่ทุกคนนั้นอยู่กันหมด ก็ ท่าแบบนั้นไม่ได้ ทำได้แค่กดความรู้สึกลงไป

เห็นท่าทางเธอแบบนี้ นัยน์ตาของจึงเสียวหย่าให้ได้ใจ

กว่าเดิม

จึงเชินกับยูเงี่ยนซิวที่เป็นพยายามในการแข่งขัน ก็ได้

เข้ามา

ที่มาด้วยนั้น ยังมีคนของมหาวิทยาลัยมาสามคน

เป็นครูดุมสอบของปีนั้นทั้งหมด สามคนนี้ จึงเป็นเป็นคน

พามา

กฎการแข่งนั้นง่ายมาก

ทั้งสองถูกแบ่งไปสองห้อง เวลาหนึ่งชั่วโมง วาดงาน ออกแบบเมื่อห้าปีก่อน ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง

ตอนนี้ใครที่สามารถวาดออกมาคล้ายมากที่สุด งาน ออกแบบนั้นก็เป็นของคนคนนั้น

จิ่งหนึ่งรู้ ตอนที่จึงเสี่ยวหย่าเห็นงานของเธอนั้นก็ตอนก่อน สอบแค่หนึ่งวัน อาจจะแค่เห็นผ่านๆ ไม่มีทางที่จะจำได้แม่น เหมือนเธอ

อีกอย่างเวลาได้ผ่านไปห้าปีแล้ว ของที่ไม่ใช่ของที่ตัวเอง วาดออกมา ต่อให้เลียนแบบคล้ายขนาดไหน ก็ต้องมีบางที่ที่เลียนแบบออกมาไม่ได้

อีกอย่าง เมื่อคืนวาน ตนนั้นก็ได้ให้ของขวัญเธอไปแล้ว

คิดได้เลยว่าตอนนี้เธอนั้นดีใจมากๆ !

คิดถึงตรงนี้ เธอก็ได้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

มือนั้นก็ได้วาดลงไปในคอมอย่างไม่ลังเลวาดอย่างมั่นใจ

แล้วก็ลงสี

เวลาได้ผ่านไปทีละนิด

ประมาณสี่สิบนาที ประตูหนึ่งในห้องนั้นได้เปิดออกมา จึง

เสียวหย่าเดินออกมา

“ฉันวาดเสร็จแล้ว”

ยู่เงี่ยนชิวพยักหน้า

มั่นเจ๋อตอนอยู่ในงานอยู่แล้ว เห็นเธอออกมา ก็รีบเข้าไป ถามเธอด้วยความเป็นห่วง “วาดออกมาเป็นยังไง? ออกมา เหมือนแล้วใช่ไหม?

จึงเสี่ยวหย่ายิ้มออกมาอย่างมั่นใจ

“แน่นอน ไฟล์ภาพนั้นฉันได้ส่งไปตามเมลที่ผอ.กำหนดไว้ แล้ว พี่อาเจ๋อ ฉันบอกไปแล้ว งานออกแบบนั้นฉันวาดเอง กับมือ ถึงตอนนี้พี่ยังจะสงสัยฉันอยู่อีกเหรอ?”

เห็นท่าทางที่มั่นใจของเธอแบบนั้น ความสงสัยในใจของมั่นเจ๋อก็ได้หายไปทันที

“พูดอะไรบ้าง เติมฉันก็เชื่อเธออยู่แล้ว”

ข้างๆ จึงเป็นได้กระตุกมุมปาก

ผ่านไปอีกสิบนาที ซึ่งหนึ่งถึงได้ออกจากห้อง

เทียบกับจึงเสี่ยวหย่าที่มั่นใจขนาดนั้น เธอก็เหมือนว่าไม่ ได้เบาใจนัก

พูดกับเจียนซิว “ไฟล์ภาพฉันได้ส่งไปที่เมลของคุณแล้ว แต่ก็แค่มันผ่านไปห้าปีแล้ว รายละเอียดบางอย่างอาจจะลืม ไปแล้ว ไม่ได้วาดออกมาเหมือนร้อนเปอร์เซ็นต์ แต่ว่า……… จะประมาณนั้นค่ะ”

เจียนซิวได้ยินแบบนั้น ก็ได้ขมวดคิ้ว มองเธอด้วยความ เป็นห่วง

สุดท้าย ก็ไม่ได้พูดอะไร เรียกผู้คุมสอบทั้งสามมา แล้วเปิด ไฟล์งาน

ทั้งสองภาพ มาเทียบกัน สีหน้าของไม่กี่คนนั้นก็ได้เปลี่ยน

ไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ