วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่148 เธอตั้งท้องแล้ว



ในห้องน้ำ หัวเหยากอดชักโครกอาเจียนเสีย จนหน้ามืดตามัวไปหมด

จิ่งหนิงรีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางที่ดูไม่ สบายใจของเธอ ราวกับแน่ใจการคาดเดาในใจของ ตัวเองแล้วนั้น ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ

เธอรีบออกมาแล้วรินน้ำให้เธอแก้วหนึ่งพร้อม ก้มหยิบกระดาษทิชชูมาด้วย ลูบหลังเธอไปพลางและเอ่ยพูดขึ้นด้วยความ

เป็นห่วง : “เธอเป็นอย่างไรบ้าง? โอเคใช่ไหม?”

หัวเหยาโบกมือแล้วส่ายหน้า

ผ่านไปซักพักหนึ่ง ถึงได้หาเสียงของตัวเอง กลับมาได้ “ฉันโอเค ไม่เป็นไรหรอก”

จิ้งหนิงยื่นน้ำส่งให้เธอ เธอรับมาดื่ม หลังจาก ล้างปากแล้วนั้นจึงหยิบเอาทิชชูขึ้นมาเช็ดปาก แล้ว ถึงได้เอ่ยขึ้น : “ขอโทษด้วยนะ ทำให้เสียอารมณ์ หมดเลย

จิ่งหนิงรีบส่ายหน้า “เธอพูดอะไรของเธอน่ะ? เธอเป็นแบบนี้ ยังมาพูดว่าเสียอารมณ์อะไรกันอีก?”

หยุดชะงักไปแล้วจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างโมโหอยู่ บ้าง : “ทำไมเกิดเรื่องสำคัญแบบนี้แล้วถึงไม่บอก ฉัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

หัวเหยามองเธอ รู้ว่าเธอเดาได้แล้ว จึงกัดริม

ฝีปาก
ผ่านไปซักพักหนึ่งนั้นถึงได้เอ่ยขึ้นมา “เธอ เองก็มองออกแล้วว่าฉันท้อง”

จิ่งหนิงพยักหน้า “ปฏิกิริยาของเธอชัดขนาดนี้ ใครก็ดูออก”

หัวเหยาฝืนยิ้มออกมา ในรอยยิ้มนั้นปรากฏ ความอ้างว้างออกมา

“เพราะเรื่องนี้แหล่ะฉันถึงได้ทะเลาะกับพ่อ

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว “สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน แน่? ทำไมเธอถึงได้ทะเลาะกับพ่อเธอล่ะ? แล้วพ่อ ของเด็กคือใคร? ทำไมเขาไม่ออกหน้ารับ?”

พ่อของลูก…….”

หัวเหยาพิมพ์ออกมา แล้วตามด้วยรอยยิ้มที่ เศร้าหมอง

“ช่างมันเถอะ อย่าไปพูดถึงเลย หนิงหนิง เธอ ช่วยฉันเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้ไหม?”

จิ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดถึงความไม่ พอใจที่เธอหลีกเลี่ยงถึงปัญหาพ่อของเด็ก

แต่เธอเองก็รู้ว่าหัวเหยานั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ใน เมื่อเธอตัดสินใจที่จะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ในฐานะที่ เป็นเพื่อน ก็ต้องเคารพการตัดสินใจเลือกของเธอ ด้วยเช่นกัน

จิ่งหนีงถอนหายใจแล้วพยักหน้า : “เธอวางใจ เถอะ เรื่องนี้ฉันจะไม่บอกใคร แต่เรื่องลูกเธอ วางแผนไว้จะทำอย่างไร? เพราะถึงอย่างไรท้องที่โต ขึ้นก็ปิดบังคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว และยิ่งไปกว่านั้นคือเธอต้องถ่ายละครทุกวันอีกด้วย!”

หัวเหยารู้สึกตื่นตระหนกอยู่บ้าง ในแววตานั้น ปรากฏความงุนงงออกมา

ผ่านไปซักพักหนึ่งเธอจึงส่ายหน้าออกมา “ฉัน เองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ละครเรื่องนี้ยังอีกสองเดือน ถึงจะปิดกล้อง ฉันจะพยายามไม่ให้ใครรู้ ส่วนต่อไป นั้น….. ก็ค่อยว่ากันอีกที!”

จิ่งหนิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้วจึงยิ่งขมวด คิ้วขึ้นมา

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ประคอง เธอแล้วเดินออกไป

ทั้งสองคนกลับมายังที่นั่งของตัวเองอีกครั้ง ด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาก

จิ่งหนิงถอนหายใจออกมา “จริงๆแล้ว ฉันได้ รับการขอร้องมาจากลู่หยั่นจือ ให้มาเกลี้ยกล่อมเธอ แสดงละครเรื่องนั้นที่เขาเคยมาพูดกับเธอไว้ แต่ตอน นี้ดูแล้วคงเป็นไปไม่ได้อย่างชัดเจนแล้วล่ะ”

หัวเหยาพยักหน้าลง “เขาเคยมาคุยกับฉันถึง ละครเรื่องนี้แล้ว จริงๆแล้วบทดีมากเลยนะ ฉันเองก็ ตื่นเต้นมากเช่นกัน แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสภาพ ของฉันตอนนี้คงจะไม่เหมาะหรอก”

จิ่งหนึ่งพยักหน้า นิ้วของเธอกำลังเขี่ยซ้อนบน โต๊ะเล่นไปอย่างไม่รู้ตัวพลางครุ่นคิด ตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีกะจิตกะใจที่จะกินข้าว

กันแล้ว ผ่านไปพักหนึ่ง จิ่งหนิงถึงได้เอ่ยถามเธอขึ้นมา : แล้วตอนนี้เธอพักอยู่ที่ไหนล่ะ? เสี่ยวเสวีเป็น เพียงแค่เด็กอายุเพียงแค่สิบเจ็ดสิบแปดเอง มี หลายๆอย่างที่เธอยังไม่เข้าใจ แล้วเสี่ยวเสวีเพียงคน เดียวจะสามารถดูแลเธอได้ไหม?

หัวเหยาหันออกไปมองด้านนอกหน้าต่าง เวลา นี้โคมได้ถูกประดับไปด้วยแสงสีอันงดงามแล้ว นอก หน้าต่างนั้นเป็นถนนใหญ่ การจราจรที่พลุกพล่านบน ท้องถนน เป็นภาพที่ดูเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก แต่ในใจ ของเธอนั้นกลับรู้สึกอ้างว้างเหลือเกิน

ตอนนี้ราวกับว่ามีเพียงเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าเธอ คนนี้เท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาได้บ้าง

เธอส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ เพื่อที่จะให้ฉันกลับไป พ่ออายัดบัตรธนาคารของฉันไปหมดแล้ว บ้านที่ฉัน อยู่ รวมทั้งทางฝั่งตะวันออกก็ถูกเขายึดคืนไปแล้ว ด้วย ตอนนี้ฉันพักอยู่ที่โรงแรมของกองถ่ายน่ะ

เธอชะงักแล้วยิ้มขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว อีกครั้ง แต่ไม่เป็นไรหรอก ดูไปทีละก้าวก็แล้วกัน! คงจะไม่บีบฉันถึงตายหรอก”

จิ่งรีบจับมือเธอเอาไว้ พลางเอ่ยขึ้น : อย่าพูดเหลวไหลแบบนี้อีกนะ! เธอยังมีฉันไง!”

ว่าแล้วก็หยิบเอาบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมา จากกระเป๋าและพวงกุญแจพวงหนึ่งวางไว้ในมือเธอ

บัตรใบนี้เธอเอาไว้ก่อน รหัสก็คือวันเกิดของ ฉัน ถึงแม้เงินจะไม่ได้มาก แต่ก็พอจะใช้ไปก่อนได้ ต่อไปค่อยว่ากันอีกที ส่วนกุญแจนี้เป็นกุญแจของอ พาร์ตเม้นต์ที่ฉันเคยอยู่ก่อนหน้านี้ ไม่ได้ใหญ่มากเธออยู่ที่นี่ก่อนซักพักนึง แล้วฉันจะมาหาเธอบ่อยๆ

เธอเม้มปาก แล้วเอ่ยขึ้นอีก : “ถึงแม้ว่าฉันจะ ไม่สนับสนุนให้เธอกับคุณลุงหัวมาทะเลาะขัดแย้งกัน แบบนี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เลือดย่อมข้นกว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และยิ่งไป กว่านั้นท่านก็ดีกับเธอมาตลอด แต่ตอนนี้ดูจาก สถานการณ์ของเธอแล้วเธอเองก็มีความของเธอเหมือนกัน เธอไม่บอกฉันก็จะไม่ถาม เท่าที่ ฉันจะสนับสนุนเธอได้ก็คงมีแค่นี้ และหวังเพียงแค่ว่า เธอจะผ่านมันไปได้ด้วยดี”

หัวเหยามองเธอ ขอบตาค่อยๆแดงรื้นขึ้น จน กระทั่งทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว น้ำตาหยดใหญ่จึง ไหลลงมา

เธอกัดริมฝีปากตัวเอง ก้มหน้าลง แล้วซักพัก หนึ่งนั้นถึงได้เอ่ยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา : ขอบคุณเธอมากนะหนิงหนิง

จิ่งหนิงเองก็ฝืนยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน ขอบตา ของเธอก็ร้อนผ่าวตามไปด้วย ผ่านไปซักพักหนึ่งแล้ว นั้น ถึงได้เช็ดน้ำตา พลางเอ่ยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม : เอาล่ะ อย่าทําท่าทางเหมือนกับฟ้าจะถล่มลงมา แบบนั้นสิ นี่มันไม่ใช่เหยาเหยาที่ฉันรู้จักเลยนะ เด็ก คนนี้ถ้าเธออยากจะให้เขาเกิดมาก็ทำให้เขาได้เกิด มาอย่างไม่ต้องกังวล มีฉันอยู่เป็นแม่บุญธรรมให้ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ส่วนพ่อของเด็ก จะปรากฏ ตัวออกมาหรือเปล่านั้นใครจะไปพิศวาสเขากัน!”

หัวเหยารู้ว่าเธอต้องการจะปลอบใจตัวเอง ถึง แม้ว่าในใจจะยังคงเป็นทุกข์อยู่มากก็ตามแต่ก็รู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง

เธอรับความหวังดีนี้เอาไว้ แล้วยิ้มตามไปด้วย บรรยากาศถึงได้ดูอบอุ่นขึ้นมา

หลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารกันเสร็จแล้ว นั้น จากสภาพร่างกายของหัวเหยาแล้ว จึงหนังจึงไม่ ให้เธอเดินช้อปปิ้งกับตัวเองอีก แต่ไปส่งเธอกลับกอง ถ่ายแทน

หลังจากที่ส่งหัวเหยาเสร็จแล้วนั้น จึ่งหนึ่งก็ขับ รถกลับบ้าน และระหว่างทางกลับบ้านนั้นลู่หยั่นจือก็ โทรมาหาเธอ

เธอไม่ได้เอ่ยพูดถึงเรื่องที่หัวเหยาตั้งท้อง

เพียงแต่บอกไปว่าเธอนั้นไม่สะดวกรับงานละครเรื่อง

นี้จริงๆ ในสายนั้น ถึงแม้ว่าลู่หยั่นจือจะเตรียมใจไว้ บ้างแล้ว แต่พอได้ยินคำตอบนี้จริงๆ ความผิดหวังนี้ก็ ยังคงปิดบังเอาไว้ไม่มิดอยู่ดี

จิ่งหนิงเองก็เข้าใจ ถึงอย่างไรละครทีวีนั้นบาง ครั้งก็เป็นความคิดเห็นเฉพาะบุคคลด้วยเช่นกัน

ในเมื่อผู้สร้างสรรค์ผลงานได้กำหนดให้ใคร คนนึงได้มารับบทบาทนั้นแล้ว ขั้นตอนในการ สร้างสรรค์นั้นก็จะยึดเอาแบบอย่างนี้เอาไว้ตลอด

ถ้าหากมาได้ทราบเรื่องทีหลังว่าบุคคลนี้ไม่ สามารถร่วมงานได้ ก็คงจะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน เธอเอ่ยขึ้นเพื่อเป็นการปลอบใจ : “ในเมื่อเป็น

แบบนี้ฉันเองก็ไม่มีวิธีอื่นเหมือนกันค่ะ คุณให้เพื่อนคุณลองหาคนอื่นดูดีกว่านะคะ แบบเหยาเหยาอาจ จะมีไม่มากนัก แต่ถ้าลองหาดูดีๆอาจจะหาตัวเลือกที่ สามารถแทนที่เธอได้

ลู่หยั่นจือหัวเราะออกมาอย่างอื่นๆ พลางเอ่ย ขึ้น “บอกตามตรงนะครับ เรื่องนี้ผมเองก็มีส่วนร่วม ด้วย ก่อนหน้านี้พวกเราได้กำหนดบทนี้เอาไว้ว่าจะ ต้องเป็นหัวเหยา เพียงแต่ว่าไม่เคยเข้าใจเธอมาก่อน จึงไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอกไป พอต่อมาได้มาร่วม งานกันในเรื่องตำนานรักข้ามพิภพ ถึงได้ยิ่งกำหนด ให้ชัดเจนขึ้นว่าจะต้องได้เธอมาร่วมแสดง ตอนนี้ ต้องไปหานักแสดงคนใหม่ จะไปหาได้ง่ายๆที่ไหนกัน ล่ะครับ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ