วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 560 สกิลการอ่อย



บทที่ 560 สกิลการอ่อย

เพิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา “อ้อ ใช่เหรอ? เห็นทีบทเรียนครั้งก่อน ที่ฉันให้เธอมันไม่พอ”

พูดแบบนี้ออกมา ใจของถังลั่วเหยาเหมือนได้หยุดเต้นไป รู้สึก ว่าเกลียดจนทนไม่ไหว แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้

ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางที่จะคิดได้ว่าบนโลกนี้จะมีคนที่หน้า ไม่อายถึงขนาดนี้ ถึงขั้นเอาความปลอดภัยของแม่เธอมาข่มขู่ เธอ

แม้ว่าตอนที่เผชิญกับเหอ อ เธอก็ไม่เคยที่จะมีความแค้นที่ ทำอะไรไม่ได้แบบนี้

แต่ว่าสุดท้าย เธอก็เป็นเพราะความเป็นห่วงคุณแม่ ก้มหัวให้ เขาอย่างช่วยไม่ได้

เธอถอนหายใจ พูดว่า “ได้ เรื่องนี้ถือว่าฉันเป็นคนผิด งั้นคุณ อยากจะให้ฉันทำอะไรกันแน่? คุณไม่ชอบให้ฉันเข้าใกล้ผู้ชาย คนอื่น หรือว่าต่อไปคุณอยากให้ฉันอยู่ที่บ้านทุกวัน ไม่ต้องออก จากบ้านไม่ต้องไปถ่ายละครอีกต่อไป?

เฟิง ฉันเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่นะคะ ฉันก็ต้องการมีสังคมของ ฉัน ไม่ใช่นกทองที่จะถูกคุณเลี้ยงในกรง คุณหวังว่าจะเห็นภาพ แบบนั้นเหรอ?”

สายตาที่สั่นไหวแล้วก็ได้มีน้ำตาคลอของหญิงสาวได้ชนไปที่ผ่านไปเขาได้พูดเธอถ่ายละคร ว่าการรักษาระยะห่างขั้นพื้นฐานเธอควรจะ ทําได้”

ถังลั่วเหยานิ่ง ผ่านไปนาน ด้วยความพอใจ กะพริบที่กำลังแดงแล้วพูด คุณวางใจเถอะต่อไปฉันไว้

ได้ยินเธอพูดแบบนั้น เฟิงถึงได้ปล่อยเธอ

มือแดงสองรอย เป็นรอยที่บีบเมื่อกี้

สายตาได้หดเล็กน้อย

เขาได้เอาล้วงกระเป๋ากางเกงครั้ง พูดเรียกๆ ว่า คืน พรุ่งฉันต้องไปออก

ถังลั่วเหยาอึ้ง ตกใจเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าช่วงนี้ เฟิงไม่ได้มาหาเธอตลอด ในใจเธอได้ระแวง เล็กน้อย

ไม่พอเขามาหาเธอ ความสัมพันธ์ของทั้งสอง ก็ถูกเปิดเผย ณ ตอนนั้น

เธอไม่ถึงสวมบทบาทการเป็นแฟนของขนาดนี้ แล้ว เฟิงไม่ได้โอกาสปฏิเสธเลยสักนิด พูดประโยคนี้จบ ออกไป

วันต่อมา ช่วงค่ำ

ถังลั่วเหยาได้คิดมาทั้งอย่างลำบาก ว่าอื่นในการแก้ไข ปัญหา

ดีฐานะของเฟิงได้วางอยู่ตรงนั้นแล้ว ปกติออกงานนี้ ได้มีควงหญิงอื่นอยู่ตลอด เพราะงั้นแค่เธอรักษาระยะ ห่าง

เวลาถังลั่วเหยายังแต่งหน้าอยู่

สไตลิสต์เขาเป็นมีประสบการณ์มากไม่ถึงสิบนาทีได้ช่วย แต่งหน้าที่สวยมากให้เธอ แล้วได้เย็บด้วยมือเธอเปลี่ยน

เปลี่ยนเสื้อเสร็จออกมา สไตลิสต์ได้ไม่หยุดปาก พูดอยู่ ตลอดว่าเธอได้สวมเสื้อแล้วออร่าของเทพ สวยจนถูก

ถังลั่วเหยามองตัวเองในกระจก ชุดนั้นออกแบบให้ช่วงไหล่ เป็นหน้าที่เดียงสาของสวยเอามากๆ ไม่ใช่แนวที่เธอชอบ

เธอชอบที่ร้อนแรง แบบผู้ชายพวกนั้นมองมาเธอแล้วสายตาได้ หันไป กลับไม่ทําเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้แบบระบายอารมณ์มากๆ
เธอไม่ได้เป็นคนสูงส่งอะไร

ก็แค่เพราะว่าคืนนี้เธอไม่ใช่เธอ เป็นคู่ดวงของเฟิง เพราะงั้น ก็ไม่ได้มีข้อเรียกร้องอะไรมาก พยักหน้า เอากระเป๋าที่สไตลิสต์ ยื่นมาให้ เดินออกไป

ลมกลางคืนในเดือนเมษาก็ยังเย็นเล็กน้อย ถังลั่วเหยากอด

แขนแล้วก็ขึ้นรถ เฟิงขี่มองเธอสักพัก ขมวดคิ้ว ทำไมเลือกสี

ถังลั่วเหยาเลิกคิ้ว ริมฝีปากอิ่มน้ำเพราะว่าได้ทาลิปกลอส ใส ยิ้มแล้วมองเขา “ไม่สวยเหรอ? ฉันชอบนะ”

แสงในรถไม่ถึงว่าสว่างมาก แต่ดวงตาของสาวน้อยกลับ เหมือนดวงดาว สว่างเป็นประกาย สายตาของเพิ่งได้มีความ มืดแวบมา หันไปอีกทาง “งั้นก็แบบนี้เถอะ”

พูดจบ ก็ได้เหยียบคันเร่ง รถก็ได้ขับออกไป

งานเลี้ยงได้จัดบนเรือสำราญลำหนึ่ง ที่มาก็เป็นพวกมีฐานะ ทางสังคม ไม่ก็ดาราดัง ส่วนมากนั้นเป็นพวกนักธุรกิจแต่ละสาย คู่ควงที่พวกเขาพามาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นภรรยาหรือแฟน มี เพื่อนๆ มีน้องสาว มีเลขาหรือลูกน้อง ส่วนมากนั้นเป็นความ สัมพันธ์อย่างหนึ่งที่อธิบายไม่ชัดเจน

ถังลั่วเหยาได้ควงแขนของเฟิงยี่เดินเข้าไป พึ่งเดินไปโถงใหญ่ ก็ได้มีคนผมทองตาฟ้าประการเขียวเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร “Hello! ยี่ ไม่ได้เจอกันนาน

เฟิงได้เอาเหล้าแก้วหนึ่งจากถางที่บริกรถือ แล้วก็ชนแก้วกับเขาจิบไป “ได้ยินว่าต่อไปนายจะมาลงทุนที่จีน? งั้นต่อไปมี โอกาสเยอะแยะที่จะได้เจอหน้า

คนคนนั้นสายตาแหลมคนมาก เห็นว่าเขาพูดแบบนั้น ก็ไม่ได้ พูดอะไรมาก ยิ้มแล้วพูด “โอเค ต่อไปมีโอกาสทานข้าวด้วยกัน

พูดจบ เขาก็ได้หลีกให้ ยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ถังลั่วเหยา ถังลั่ว เหยาก็ได้ยิ้มตอบกลับตามมารยาท แล้วเดินตามเฟิงเข้าไป “เอ๋ คนนั้นคุณชายรองเฟิงไม่ใช่เหรอ? คุณชายรองเพิ่งมา

ด้วย!”

“ไหนๆ? อ่า เป็นเขาจริงด้วย! ผู้หญิงข้างๆ เขาเป็นใคร? หน้า ตาคุ้นๆ”

“ฉันรู้จัก คือถังลั่วเหยา เป็นนักแสดงสังกัดวัฒนธรรมชิงฮุย

คิดไม่ถึงว่าได้ตีสนิทกับคุณชายรองเฟิง เห็นทีคราวนี้เธอได้คว้า

ของสูงมาได้แล้ว”

“เหอะ! ก็ไม่รู้ว่าได้อ่อยเขาอีท่าไหน!

“ยังจะมีอะไรได้ บนเตียงผู้หญิงปรนนิบัติผู้ชายได้ดีเท่านั้น อยากได้อะไรก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นคนอย่างคุณชายรองเฟิงอีก

“ไม่นะ ฉันได้ยินว่าคุณชายรองเฟิงมีแฟนแล้วนะ รู้สึกว่าคนที่ ดังมากๆ ตอนนั้น เรียกว่าอะไรนะ…….อ้อ สั่งเจียเจีย”

“ไม่จริงหน่า! เธอยังกล้าที่จะอ่อยคุณชายรองเฟิง ไม่กลัวว่าสัง เจียเจียจะรู้เหรอ……..
ในหูก็ได้เสียงนินทาของพวกผู้หญิงลอยมา ในที่แบบนี้ พวก ผู้ชายต่อให้มีความสงสัยในใจ ก็ไม่กล้าที่จะเปิดปาก ก็มีแค่พวก ผู้หญิงที่น่าเบื่อพวกนั้น ที่อาศัยคู่ควงชายไปคุยเรื่องงานแล้วรวม ตัวกัน พูดซุบซิบต่างๆ นานา ถังลั่วเหยาได้ควงแขนเฟิง ขาได้เป็นอย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหว

เพราะคํานินทา

เพิ่งเลิกคิ้ว สายตาได้มีความชื้นชอบปล่อยออกมา

เจ้าภาพเป็นชายวัยกลางคนที่มีท้องที่ใหญ่ ถังลั่วเหยาได้เจอ ครั้งหนึ่งในงานงานหนึ่ง เป็นผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ดังในประเทศ เจอกันครั้งก่อนเขายังหยิ่งมากๆ ความนี้กลับ มาต้อนรับอย่างหวังผลประโยชน์ “เป็นเกียรติที่คุณชายรองเป็ งมาครับ ยินดีต้องรับจริงๆ รีบเชิญทางนี้ครับ

เฟิง ได้พยักหน้าเล็กน้อย แสงไฟในโถงได้ขยับ เสียงเพลง บรรเลง ในลานเต้นรำก็ได้มีชายหญิงไม่กี่คู่กำลังเต้นอยู่ เขาได้ ก้มมองถังลั่วเหยา ถาม “เต้นรำเป็นไหม?”

ถังลั่วเหยาเลิกคิ้ว สายตาก็ได้ส่องประกายความมั่นใจออกมา “แน่นอน”

ทั้งสองก็ได้เดินไปที่ลานเต้น เมื่อก่อนถังลั่วเหยาได้เรียนการ เต้นรำมา ท่าเต้นอ่อนโยนงดงาม ในภายใต้แสงไฟที่ได้ส่องมาที่ เสื้อสีอ่อนก็ราวกับว่าเป็นนางฟ้าที่กำลังบิน ไม่นานก็ได้ดึงดูด สายตาผู้คน

เฟิงยี่ก้มมอง สายตาได้จ้องเธออย่างลึกซึ้ง มุมปากนั้นก็ยังมีรอยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ