วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 782 เกลียดแค้นเข้ากระดูก



บทที่ 782 เกลียดแค้นเข้ากระดูก

ทั้งสองคนใส่ชุดกีฬาสีดำ ผู้ชายดูเงียบขรึมและอ่อนโยน ดวงตาที่เงียบสงบและชื่อบื้อ

ถ้าเจอกับคนที่ไม่รู้จัก กลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าเขาเป็นนักศึกษา

ที่เรียบร้อย

แต่เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงกลับสดใสร่าเริงมากกว่า ผมยาวสีดำ ของเธอมัดหางม้าสูงไว้ด้านหลัง รูปร่างหน้าตาสดใสสวยงาม สายตาเฉียบแหลม ริมฝีปากของเธอโค้งงอ ไม่ได้แสดงสีหน้า อะไร เธอแค่ยิ้มอ่อนๆ

ทั้งสองยืนรออยู่ที่นั่นพักหนึ่ง เห็นรูปร่างสูงผอมเดินออกมา ท่ามกลางความมืดอย่างช้าๆ

ทั้งสองคนต่างตกใจ

ก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงที่สุขุมผ่านทางโทรศัพท์ คิดว่าน่าจะเป็น ผู้หญิงที่มีอายุ แต่คิดไม่ถึงว่าจะอายุน้อยขนาดนี้

เจ้าแปดก้าวขาเดินเข้ามาก่อน เธอหรี่ตาและยิ้ม “สวัสดีค่ะ คุณเฉียว?”

เฉียวยื่นมือออกไปจับมือเธอ “ฉันเอง”

ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังก็ก้าวเข้ามาจับมือเธอ เฉียวไม่ได้พูดคุยอะไรกับเธอมากนัก เธอมองไปที่รถออฟโรคที่อยู่ข้างหลังและถามว่า”ของล่ะ?”

“อยู่ในรถ”

เธอเดินเข้าไปที่รถ

เจ้าแปดก็เดินตามไป เปิดท้ายรถ เห็นถุงพลาสติกสีดำขนาด

ใหญ่วางอยู่นิ่งๆ

เจ้าแปดลูบจมูกและกระแอม รู้สึกเขินอาย

“ขอโทษนะคะ เวลาเร่งรีบ เลยไม่มีเวลาหาสิ่งที่ดีกว่านี้ห่อเธอ เลยใช้ถุงห่อแทน”

สีหน้าของเฉียวฉียังคงสงบนิ่ง พูดเบาๆว่า “ไม่เป็นไร” เธอมองดูอย่างเงียบๆอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปถามเจ้า แปด : “ยังเป็นบัญชีก่อนหน้านี้?”

เจ้าแปดพยักหน้า

เฉียวไม่พูดไม่จา ก้มหน้าลงหยิบโทรศัพท์ออกมาโอนเงินให้

เธอ

ก่อนที่เธอจะออกมาเธอไปขอบัตรมาจากลุงโอ เพราะว่า จํานวนเงินไม่มาก ลุงโอจึงทำตามคำขอร้องของเธอ เพราะแบบ นี้ เขาเอาบัตรให้เธอโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เฉียวรู้ดีว่า ต่อไปเธอเองจะมีประโยชน์ต่อกู้ซือเฉียนเป็น อย่างมาก ดังนั้นเธอจึงใช้เงินของเขาอย่างไม่รู้สึกเสียดาย

ยิ่งไม่มีความรู้สึกผิดอะไร เพราะเงินพวกนี้เดิมทีก็เป็นเงินที่เขาต้องเอาให้เธอ

ผ่านไปไม่นาน เงินก็โอนเข้าไปแล้ว

ทันทีที่เธอโอนไป เจ้าแปดก็ได้รับข้อความอย่างรวดเร็ว เธอ ยิ้มอย่างเป็นมิตร ได้รับแล้วค่ะ ฉันเห็นว่าคุณไม่ได้ขับรถมา คงไม่สะดวกที่จะพาเธอไปด้วยรึเปล่า ให้ฉันไปส่งพวกคุณไหม?”

คิดไม่ถึง เฉียวฉกลับส่ายหน้า

เธอหันหน้ากลับไปมองร่างมืดมิดที่นอนอยู่ในรถอีกครั้งแล้ว พูดอย่างเคร่งขรึม “ที่ที่เธอจะไปอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ฉันอุ้มเธอไป ก็ได้”

เจ้าแปดเห็นแบบนี้ ถึงแม้จะคิดว่าคำพูดของเธอฟังดูแปลกๆ แต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “โอเค งั้นเราไปก่อนนะ ขอให้เราร่วม

มือกันอย่างมีความสุข ครั้งหน้ามีงานอะไรอีก หวังว่าคุณคงมา

หาพวกเรา”

เฉียวพยักหน้าให้เธออย่างเป็นมิตร

เจ้าแปดและลูกน้องของเธอจึงช่วยกันยกศพลงมา จากนั้นก็ กระโดดขึ้นรถออฟโรดขับออกไป

เสียงรถแล่นออกไปในยามค่ำคืน จากนั้นบรรยากาศเงียบ ลง ในพื้นที่ที่กว้างขวาง ตอนนี้เหลือเพียงแค่เฉียวคนเดียว และ ยังมีศพที่กำลังจะเน่าอีกหนึ่งศพ
มองยังไงก็รู้สึกแปลกๆ

เธอยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ พักหนึ่ง จากนั้นก็นั่งลง รูดซิปถุง เก็บศพ กลิ่นเหม็นหืนที่อธิบายไม่ได้ก็พุ่งเข้ามาที่หน้าของเธอ

เธอยกมือขึ้น ใช้แขนเสื้อปิดปากปิดจมูก อาศัยแสงพระจันทร์ ในยามค่ำคืน ในที่สุดก็เห็นร่างที่นอนอยู่

มันคือเธอจริงๆ

โหวเฟิง หัวหน้าของสโมสรกลุ่มหงส์แดง ตอนนั้น เธอเคยเป็น เพื่อนที่ดีต่อกัน

หลังจากที่สโมสรกลุ่มหงส์แดงล้มสลาย โหวเพิ่งก็หายตัวไป ในตอนนั้น เธอได้ยินว่าอีกฝ่ายหนีไปประเทศR

เฉียวฉียังเคยดีใจ แต่โชคดีที่ทุกคนไม่ตายจากภัยพิบัติครั้ง นั้นทั้งหมด ยังไงก็ตาม หนีออกมาได้คนหนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดี

แต่ทําไม ผ่านไปสี่ปีครึ่ง เธอถึงได้เจอกับศพของของเธอที่ต่าง

บ้านเมืองเกิด?

หรือว่า เธอหนีไม่พ้น

คนที่เคยอยู่เคียงข้างเธอตายไปทีละคน ตายไปกันหมด ไม่มี

ใครรอดสักคน

เฉียว หลับตาลง เพียงแค่รู้สึกที่หน้าอกมีความเจ็บปวดที่ อธิบายไม่ถูก มันกระแทกหน้าอกของเธออย่างรุนแรง ทำให้เธอ เจ็บปวดจนอย่างจะกรีดร้อง
แต่ว่าเธอกัดฟัน ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเอาไว้ ราวกับถูกตีจนฟันหักและกลืนกินลงไปพร้อมกับเลือด แม้แต่ ความแค้นที่อยู่ในกระดูกก็กลืนลงไปด้วย

เธอแบกศพขึ้นมาแล้วเดินออกไป

ไม่ไกลนัก มันคือเมรุที่รกร้างว่างเปล่า

เวลานี้ คนทํางานที่เมรุเลิกงานกันหมดแล้ว เฉียวแบศพขึ้น มา ก้าวไปอย่างมั่นคง กระโดดข้ามกำแพงสูงเข้าไป

เธอเดินไปที่หน้าประตูเหล็ก ใช้กิ๊บติดผมเล็กๆบนหัวเปิดล็อค ประตู จากนั้นก็เปิดประตูเบาๆ จู่ๆก็มีกลิ่นเหม็นที่อธิบายไม่ได้พุ่ง เข้ามาที่หน้าเธอ เธอรู้ว่ามันคือกลิ่นของศพ หลายคนเชื่อในเรื่อง ของฮวงจุ้ย ก่อนถึงวันมงคล พวกเขาจะเอาศพมาไว้ที่นี่ชั่วคราว

เฉียว ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าวันหนึ่งตัวเองจะมาทำเรื่องแบบนี้ ในสถานที่แบบนี้เพียงลำพัง บนโลกใบนี้คงไม่มีเรื่องอะไรที่ แปลกไปกว่าการแอบเผาศพแล้ว!

แต่เธอไม่มีเวลามาเสียใจ กู้ซื้อเฉียนยังรอเธออยู่ที่ปราสาท เธอเชื่อว่าถ้าเธอไม่กลับไปก่อนสองทุ่มครึ่ง ผู้ชายคนนั้นจะต้อง ออกมาหาเธอแน่นอน

ดูเหมือนเขาจะทำแบบนี้ตลอด เรียบง่ายและรุนแรงแต่ใช้ได้

ผล

ดังนั้นเธอจึงปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว รีบเดินเข้าไปที่เตา เผาอย่างรวดเร็ว ลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เอาศพที่เย็นเฉียบวางลงมา ไม่ได้เปิดดูแต่กลับยัดเข้าไป

ถุงสีดำ กลายเป็นเปลวไฟสีฟ้าท่ามกลางไฟที่โหมกระหน่ำ เฉียวฉียืนอยู่หน้าเตาเผา รู้สึกถึงอุณหภูมิที่แผดเผากำลังเผาเข้า มาที่หน้าของตัวเอง ความเจ็บปวดที่ชัดเจนราวกับมดหนึ่งหมื่น ตัวแทรกซึมเข้าไปในผิวหนัง เจาะเข้าไปในหลอดเลือด แทะกิน เข้าไปในหัวใจอย่างแผ่วเบา

เธอกดหน้าอกของตัวเอง ดวงตาของเธอเจ็บปวดแต่น้ำตา กลับไม่ไหวออกมาแม้แต่หยดเดียว

ดูเหมือนว่าน้ำตาที่ควรจะไหลออกมา มันได้ไหลออกไปหมด แล้วเมื่อสี่ปีก่อน

วันและคืนเป็นร้อย เธอถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินที่มืดมิด ร้องขอ อย่างขมขื่น อยากจะร้องขอชีวิตให้กับเพื่อนของตัวเอง แต่สุดท้าย ไม่ได้ ไม่ได้อะไรเลย

ดังนั้น เธอสิ้นหวังแล้ว ในช่วงเวลานั้น เธอแทบจะเสียน้ำตาไป หมดทั้งชีวิต

ผ่านไปสี่ปี เฉียว ไม่มีทางกลับไปร้องไห้แบบนั้นได้อีกแล้ว

ความเจ็บปวดแบบนั้น คนนอกไม่มีทางเข้าใจ มันเป็นเหมือน ภูเขาลูกใหญ่ที่ทับถมลงมาในใจของเธอ

เมื่อก่อน ไม่รู้ว่าใครเคยพูดไว้ประโยคหนึ่ง เมื่อคนต้องผ่านเรื่องราวมากมาย ก็จะยิ่งสงบนิ่งมากขึ้น มีโลกส่วนตัวมากขึ้น เก็บซ่อนความชั่วร้ายเอาไว้ ดูเหมือนจะ กลายเป็นคนที่ไม่มีพิษมีภัย แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเพียงแค่ ต้องการเอาชีวิตของคู่ต่อสู้ในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ