วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 989 บังเอิญเจอเพื่อนเก่า



บทที่ 989 บังเอิญเจอเพื่อนเก่า

ไม่นานโจวจื่อหมิง ก็ชงชาเสร็จ เขายิ้มพร้อมกับเทชาให้ทุก คนคนละแก้ว

“ฉันน่ะ ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ก็เลยออกจากกลุ่ม วิจัย พอดีมีเพื่อนอยู่ทางนี้ ก็เลยมาเที่ยวเล่น และเพราะว่าชอบ วัฒนธรรมของคนที่นี่ด้วย ก็เลยเปิดบาร์แล้วก็อาศัยอยู่ที่นี่เสีย เลย”

โจว อหมิงเทชาไป พร้อมกับพูดไปด้วย

ส่วนเรื่องที่พูดมาจะจริงเท็จแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้

ลู่วิ่งเซินเองก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ

เพราะถึงยังไงด้วยฐานะของเขาตอนนี้ บางครั้ง การสื่อสาร ระหว่างกันมันก็คงไม่ง่ายเหมือนคนธรรมดาทั่วไปอีกต่อไปแล้ว

มัวแต่ซักไซ้ไล่เลียง นอกจากจะทำให้บรรยากาศอึดอัดยิ่งกว่า เดิม ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก

จิ่งหนึ่งดื่มชาไปหนึ่งอีก ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คิดไม่ถึงว่า จะมีโชคต่อกันขนาดนี้ พวกคุณเป็นเพื่อนกันมาก่อนเหรอนี่ คุณ ป้าก็มาก่อเรื่องในร้านของคุณพอดี เจ้านายโจว เรื่องบังเอิญ แบบนี้พูดไปใครจะเชื่อ”

โจวจื่อหมิงชะงักไปชั่วครู่
เขาเหลือบตามองเธอเล็กน้อย

“ท่านนี้คือ…..

ลู่จิ่งเซินจึงเริ่มแนะนำว่า “นี่คือภรรยาของฉันเองจึงหนึ่ง ส่วนนี้ ก็คุณป้าลู่หลันจือ แล้วก็เจ้านายหยู”

เจ้านายหยูหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะรีบจับมือกับชายหนุ่ม

โจวจื่อหมิงยิ้มพร้อมกับตอบว่า “แบบนี้นี่เอง คิดไม่ถึงเลยว่า นายจะแต่งงานแล้ว”

ในเมื่อเป็นภรรยาของจึงเป็นโจวจื่อหมิง ก็ไม่มีอะไรต้อง

ปิดบัง

เขายิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน “ต้องขอโทษจริง ๆ เรื่อง วันนี้ผมต้องขอโทษพวกคุณทุกคนจากใจ คนที่เสียชีวิตนั่นเป็น ลูกน้องในบาร์ของผมเอง เมื่อครู่นี้ผมตรวจสอบดูแล้ว การตาย ของเขาคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณลู่ แต่เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจ พวกลูกน้องข้างล่างด้วย ผมก็เลยต้องให้นิติเวชตรวจสอบอีกที พวกคุณอย่าถือสาเลยนะ”

จิ่งหนิงยิ้มพร้อมกับตอบเสียงเรียบว่า “คุณกับลู่จิ่งเซินเป็น เพื่อนกันมาก่อน พวกเราไม่ถือสาอะไรอยู่แล้ว มีแค่พวกลูกน้อง ข้างล่างนั่นล่ะ ไม่จำเป็นต้องให้นิติเวชมาตรวจก็น่าจะรู้ สถานการณ์ของคนคนนั้นแล้วรึเปล่า

พอประโยคนี้ถูกพูดออกมา บรรยากาศรอบตัวก็หยุดชะงักไปทันที
ลู่หลินจือมองพวกเขาไปมา ในหัวมึนงงไปหมด รู้สึกราวกับว่า

ฟังสิ่งที่พวกเขาพูดไม่รู้เรื่องสักอย่าง

โจวจื่อหมิงจ้องมองวิ่งหนึ่งอย่างลึกอยู่ครู่หนึ่ง

“คุณนายลู่นี่ฉลาดเป็นกรดจริง ๆ ไม่น่าล่ะจึงเป็นเป็นโสดมา ตั้งหลายปี สุดท้ายก็ตกไปอยู่ในกำมือของคุณ

บรรยากาศที่ตึงเครียดดำเนินไปไม่ถึงสองวินาที ก็ถูกรอยยิ้ม ของเขาขจัดไปจนหมด

ชายหนุ่มถอนหายใจ พร้อมกับพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “คุณนายลู่พูดถูก จริง ๆ แล้วลูกน้องของผมน่ะเก่งไปหมดทุก อย่างนั่นล่ะ แต่ก็มีเรื่องแย่ ๆ บางเรื่องที่แก้ไม่หายสักที คาดว่า พวกเขาคงจะเห็นว่าคุณเป็นคนต่างถิ่น แถมยังเป็นคนใจกว้าง อีกต่างหาก เพราะงั้นพวกเขาก็เลยคิดไม่ซื่อ จงใจให้อะฟู คนที่ มีสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีเข้าไปหาเรื่องคุณลู่ จนสุดท้ายเรื่องก็ กลายเป็นอย่างที่เห็น

ลู่หลินจือฟังมาจนถึงตรงนี้ก็เพิ่งจะเข้าใจ เธอจึงผุดลุกขึ้นด้วย ความตื่นเต้น

“พูดแบบนี้แสดงว่าฉันไม่ได้ฆ่าคน แต่เป็นพวกคุณที่จงใจ หลอกลวงฉัน!”

โจวจื่อหมิงมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย

จึงหนิงจึงพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเขาล้วนเป็นคนมีฝีมือบน สังเวียนกันทั้งนั้น น่าจะคุ้นเคยกับอาการบาดเจ็บเหล่านี้เป็นอย่างดี แถมคนคนนี้ยังเป็นเพื่อนร่วมงานของพวกเขาอีก ปกติก็ คงต้องใช้เวลาอยู่ร่วมกันอยู่แล้ว ที่ท้ายทอยของเขามีเลือดคั่ง อยู่เยอะมาก เมื่อครู่นี้ฉันเห็นอาการบวมจากภายนอกได้อย่าง ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าเขาต้องมีพฤติกรรมผิดปกติหลายอย่าง ที่เกิดขึ้นทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน เช่นอาการเวียนหัว ท่า เดินแปลก ๆ หน้าซีดบ้าง ซึ่งคนเหล่านั้นทั้ง ๆ ที่สังเกตเห็นว่ามี เขามีอาการผิดปกติ ยังจงใจให้เขาเข้ามาหาเรื่องคุณป้า ที่ว่าคิด ไม่ชื่อนี่ เรียกว่าโหดเหี้ยมยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ ใช่ไหมคะ?”

คำพูดของสิ่งหนึ่งทำให้สีหน้าของ โจวจื่อหมิงเปลี่ยนไปโดย สิ้นเชิง

จริง ๆ แล้วสิ่งที่จิ้งหนิงพูดออกมาไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้

เพียงแค่คนพวกนั้นยังไงก็เป็นคนของเขา ในใจก็ยังมีความ ลำเอียงอยู่บ้าง คิดแค่ว่าอะไรที่ปิดไว้ได้ ก็ปิดไว้ก่อน

กลับไปค่อยคิดบัญชีทีหลังก็ได้ เพราะนั่นก็ถือเป็นเรื่องของ

คนในครอบครัวตัวเอง

แต่คาดไม่ถึงว่า อยู่ ๆ จึงหนิงจะพูดจี้จุดขึ้นมา

ลู่หลันจือพอได้ยินดังนั้นมีเหรอจะทนไหว?

เพียงพริบตาเดียวเธอก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความ โกรธเคืองว่า “ได้เลย ฉันอุตส่านึกว่าพวกคุณไม่พอใจเพราะผู้ เสียชีวิตคนนั้นเลยมาเรียกเงินจากฉัน ตอนนี้ดูท่าแล้วคงเป็นการ วางแผนแบล็กเมล์กันตั้งแต่ต้นจนจบสินะ! ได้ ในเมื่อทำกันแบบ นี้ งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจแล้ว ฉันจะแจ้งตำรวจ! ถึงตอนนั้นฉันจะเอาให้บาร์เฮงซวยของคุณล้มละลายไปเลย!! ขณะที่พูด เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วย

ลู่วิ่งเป็นปวดหัวขึ้นมาทันที

“คุณป้า”

เขาตะคอกออกมาหนึ่งที

ลู่หลินจือตอบกลับไปว่า “อะไร?”

จึงหนิงรั้งเธอลงมาอย่างจนปัญญา “คุณป้าคะ อย่าเพิ่งรีบแจ้ง ตำรวจเลย ไหน ๆ คนนี้ก็เป็นเพื่อนเก่าจึงเป็น ยังไงเขาก็ต้องมีวิธี จัดการของเขาอยู่แล้ว คุณป้าอย่าเพิ่งทำอะไรบ่มบ่ามดีกว่าค่ะ

ลู่หลันจือพอได้ฟังวิ่งหนึ่งพูด ก็เพิ่งจะได้สติ หญิงสาวจึงรีบวาง โทรศัพท์ลงทันที

เธอมองไปทางโจวจื่อหมิง “พูดมา คุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”

ผ่านไปสักพัก เธอก็เสริมอีกว่า “ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ เรื่อง นี้มันเกี่ยวกับฉันโดยตรง อย่าคิดว่าเป็นเพื่อนเก่าของจึงเป็นแล้ว ฉันจะไว้หน้า ถ้าวิธีแก้ปัญหาของคุณไม่เป็นที่น่าพอใจ ฉันก็ไม่ ปล่อยไปแน่”

พอเธอเป็นฝ่ายถูก ทัศนคติและท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไปทันที โจวจื่อหมิงเองก็รู้ดี เรื่อง ในวันนี้หากไม่จัดการให้เรียบร้อย เกรงว่าจะไม่มีทางจบดี ๆ แน่
ชายหนุ่มนวดขมับเบา ๆ พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างหมด

หนทาง “ได้ครับ คุณลู่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ที่สุด จนกว่าคุณจะพอใจ แบบนี้ตกลงไหมครับ?”

ลู่หลินจือพ่นลมหายใจออกมาหนึ่งที่ ผ่านไปไม่นาน ผลการตรวจของนิติเวชก็ออกมา

ผลลัพธ์เป็นไปตามคาด อีกฝ่ายเสียชีวิตเฉียบพลัน ไม่ใช่ เพราะแผลบนหน้าผากที่หลักคือผลักเขาจนหัวกระแทก

แต่เป็นเพราะว่า เมื่อคืนวาน ตอนที่อีกฝ่ายมีเรื่องและเกิดการ ต่อสู้กัน ชายหนุ่มถูกคนเอาศอกกระแทกเข้าที่ท้ายทอย ตอนนั้น เขารู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่เนื่องจากไม่มีบาดแผลภายนอก เขาจึงไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร

หลังจากที่เขากลับมา ก็มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อยาก

อาเจียนจริง ๆ

เพื่อนร่วมงานเองก็เห็นความผิดปกติของเขา ประกอบกับ คน ที่เขาสู้ด้วยเมื่อวานมีความสัมพันธ์ที่ดีกว่ากับเพื่อนร่วมงาน

ส่วนคนคนนี้ เป็นเพราะรูปร่างของเขา แม้ว่าเขาฝีมือดีมาโดย แต่ในที่ทำงานก็ถูกมักจะถูกกีดกันหรือเลือกปฏิบัติอยู่ ตลอด แต เสมอ

ดังนั้น คนกลุ่มนั้นจึงคิดแผนนี้ขึ้นมา เพื่อฉวยโอกาสจากการ เสียชีวิตของเขาแล้วก็สร้างรายได้มหาศาลให้กับตัวเอง
สุดท้าย พวกเขาก็เลือกหนึ่งในลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งก็เป็ ลูกค้าที่มาจากต่างถิ่น แถมยังดูโง่แต่เงินหนาอย่างหลั่นคือ

ลู่หลินจือเองก็ดวงซวย

เดิมทีเธอมาที่นี่ก็เพราะอยากเห็นอะไรที่แปลกใหม่ เรื่องค่าใช้ จ่ายก็ช่างปะไร แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกคนหมายตาไว้ แถมยัง เกือบถูกแบล็กเมล์เอาเงินก้อนไปอีก

คนกลุ่มนี้ไม่กล้าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะงั้น เขาถึงต้องการ ให้เธอแค่จ่ายเงินมาสักก้อนแล้วก็จบไป

ส่วนที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าเดิมก็คือ ครั้งนี้พวกเขาจุดไต้ตำตอเข้า เสียแล้ว

โจวจื่อหมิงนั่งอยู่ตรงนั้น หลังจากฟังนิติเวชเล่าเรื่องทั้งหมดที่ เกิดขึ้นจบ สีหน้าของเขาก็มืดครึ้มลงทันที

ทว่าลูกน้องของเขาพวกนั้น พอรู้ว่าเรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผย แล้ว แต่ละคนก็อยู่ไม่สุขขึ้นมายิ่งกว่า แต่ตอนนี้ต่อให้คิดจะหนีก็ คงหนีไม่ได้แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ