วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 998 ความพลัดพรากกำลังใกล้เข้ามา



บทที่ 998 ความพลัดพรากกำลังใกล้เข้ามา

ลู่จิ้งเซินนักคิดอยู่ครู่หนึ่ง และได้แนะนำเจ้านายหยูให้เขารู้จัก ถึงแม้ว่าเจ้านายหยูนั้นเป็นแค่นักธุรกิจคนหนึ่ง แต่เรื่องบาง เรื่อง อาจจะช่วยอะไรไม่ได้บ้าง

แต่อย่างน้อยแล้วเขาก็ได้ทำธุรกิจที่เมืองเป็นระยะเวลานาน คุ้นเคยกับคนที่นี่มากกว่าพวกเขา ในเรื่องแบบนี้ บางทีเขาอาจ จะช่วยได้จริงๆ

กู้ซื้อเฉียนพยักหน้า หลังจากที่ได้กล่าวขอบคุณแล้ว ถึงจะมอง ดูเขาเดินจากไป

เมื่อวิ่งหนิงและคนอื่นๆกลับไปถึงเมืองหลวง ก็เป็นช่วงค่ำมืด แล้ว เดิมที่เธอต้องการเชิญโมไฉ่เวยและเชวซูไปพักที่วิลล่าเฟิง

เฉียวชั่วคราว แต่ก็ถูกโม่ไฉ่เวยปฏิเสธ

เธอจับมือของจิ้งหนึ่งไว้และยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมพูดว่า “หนิงหนิง ขอบคุณนะ ถึงแม้ว่าฉันจะยังนึกเรื่องราวของเมื่อก่อน ไม่ออก แต่ฉันในตอนนี้ไม่ค่อยกลัวผู้คนแล้ว ถ้าเทียบกับเมื่อ ก่อนแล้ว ตอนนี้คือดีขึ้นมากเลย มันเป็นผลงานของคุณทั้งนั้น

ในช่วงเวลานี้ จึงหนิงได้อยู่ข้างเธอมาโดยตลอด พยายามใช้ ความอ่อนโยนและความเมตตาของเธอเพื่อให้เธอรู้สึกว่าคน ส่วนใหญ่ในโลกนี้ยังคงใจดีและไม่มีใครอยากทำร้ายเธอ
พอโม่ไฉ่เวยได้อยู่กับเธอมาเป็นเวลานาน และการป้องกัน โลกภายนอกจากลึกๆ ในใจของเธอก็ค่อยๆ คลายลง

ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะใกล้คนแปลกหน้าแล้วก็ยังคงกลัวอยู่ แต่ถ้าเป็นการเข้าหาสังคมปกติละก็ก็ยังพอได้อยู่ จะไม่เหมือน กับตอนแรกที่พึ่งมาถึงเมืองหลวงอย่างนั้น พอเห็นคนแปลกหน้า ก็ตกใจเป็นอย่างมากอีกต่อไป แต่ต้องมีเซวซูดูแลอยู่ข้างๆอย่าง ไม่ห่างหาย

วิ่งหนึ่งยิ้มและพูดว่า “แม่ลูกด้วยกันจะพูดคำขอบคุณอีก ทำไม ขอแค่เพียงคุณแม่ดีขึ้นมา ฉันก็ดีใจยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

ในขณะที่เธอพูดอยู่ ก็เห็นว่าพวกเขาไม่มีท่าทีจะออกจาก สนามบิน เธอจึงถามว่า “นี่พวกคุณวางแผนจะไปไหนกัน หรือ? ”

โมไฉ่เวยยิ้มและพูดว่า : “ออกมาครั้งนี้ พวกเราก็อยู่ที่นี่มา นานมากพอแล้ว วางแผนไว้ว่าจะกลับไปวันนี้แหละ เดิมทีแล้วจะ กลับตั้งแต่อยู่เมืองแล้ว แต่ฉันไม่อยากจากคุณไป ก็เลยบินมา เมืองหลวงกับคุณ แต่ตั๋วเครื่องบินที่พวกเราได้จองไว้คืออีกสัก พักหนึ่ง เดี๋ยวจะไปในอีกไม่ช้า

จึงหนิงผวา คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้

ในใจเธออดไม่ได้จะรู้สึกซาบซึ้งและไม่อยากจะจากกัน จึงจับ มือของโมไฉ่เวยเอาไว้

“ทำไมพวกคุณถึงกลับไปเร็วเช่นนี้ล่ะ? ฉันรู้สึกเหมือนว่าจะไม่ทันได้พูดคุยอะไรกับคุณเลย

ขณะที่เธอพูดอยู่ ตาของเธอก็แดงขึ้นมาทันที

โมไฉ่เวยก็ตาแดงด้วยเช่นกัน แต่เธอรู้ว่า ถ้าเทียบกับการที่ ต้องมาอยู่ในเมืองหลวงแล้ว เธออยากกลับไปที่ทะเลทราย มากกว่า

“ไม่เป็นนะหนิงหนึ่ง เมื่อไหร่ที่คุณมีเวลาว่าง ก็สามารถมา เที่ยวหาฉันได้ตลอดเวลา ฉันจะส่งที่อยู่ของพวกเราให้คุณ พวก เราก็ยังมีวีแชทอยู่ไม่ใช่หรือ? ก็สามารถติดต่อกันได้ตลอด เวลา”

จิ่งหนิงจึงจะเช็ดน้ำตาของเธอและยิ้ม

“โอเค”

พอหลังจากที่ทั้งสองคนพูดจบ ก็ลากันที่สนามบิน ต่างคน ต่างจากไป

เนื่องจากไม่ไฉ่เวยพวกเขาต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอีกที่ หนึ่ง จึงหนิงพวกเขาต้องออกจากสนามบิน จึงไม่สะดวกในการ ส่งพวกเขาอีก ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ แล้วต่างคนต่างไปคนละ ทิศคนละทาง

ระหว่างทางกลับบ้าน ซึ่งหนึ่งรู้สึกถึงความเศร้าโศกเล็กน้อย

ลู่วิ่งเซินรู้แน่นอนว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจับมือเธอและ ปลอบเธอ : “อย่าเสียใจเลยนะ รอให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน แล้วผมจะพาคุณไปเที่ยวที่ทะเลทราย พอถึงตอนนั้นคุณก็จะได้เจอกับคุณแม่อีกครั้งแล้ว

จึงหญิงยิ้มแล้วถอนหายใจ

“ในเมื่อก่อนไม่รู้สึกว่าการพลัดพรากนั้นจะมีอะไร พอถึงตอนนี้ แล้วค่อยพบว่า มันน่ารำคาญซะจริง

ลู่วิ่งเป็นพยักหน้าตอบรับ

“มันน่ารําคาญจริงๆ

พอกลับถึงบ้านแล้ว จึงหนิงและลู่วิ่งเซ็นไปที่บ้านเก่าก่อน ไป รับเจ้าก้อนทั้งสองคนกลับบ้าน

อานอานและจิ้งเจ๋อน้อยผู้ซึ่งไม่ได้พบหน้าพ่อแม่เป็นเวลานาน แน่นอนว่ามีความสนิทสนมและอบอุ่นใจ จากนั้นความรู้สึกเศร้า ของ จิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการจากกันก็ลดลงเล็กน้อย

นายหญิงหชินรู้ว่าไม่ไฉ่เวยได้ไปกับพวกเขาด้วยในครั้งนี้ พอ หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเรียบร้อย ก็ให้จิ้งหนึ่งเหลืออยู่ ไหม? ”

คนเดียว ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “แม่ของคุณสบายดี

จิ่งหนึ่งพยักหน้า “ก็ดี ณ ตอนนี้ร่างกายไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าเรื่องในอดีตไม่ได้เท่านั้นเอง”

นายหญิงหนนั้นรู้เรื่องในอดีตของเธอ แน่นอนว่าก็ต้องรู้เรื่อง ของโม่ไฉ่เวยเธอรู้สึกปลงอนิจจังเล็กน้อย
“จําไม่ได้ก็ดี ทุกคนล้วนเจอเรื่องเศร้าและเจ็บปวดมากมายใน ชีวิตนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสลืม ถ้าแม่ของคุณจําไม่ได้จริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องดีอีกอย่างหนึ่ง

จิ่งหนิงพยักหน้า

พวกเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านเก่านาน ได้พูดคุยกับนายหญิงหมิ่นสัก พัก ก็จากไป

พอกลับถึงวิลล่าเฟิงเฉียว จึงหนึ่งก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย อาจเป็นเพราะว่าวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน รู้สึกแต่ว่าสมองของเธอ ถูกสูบฉีดและเจ็บปวดราวกับเข็มแทง

ลู่วิ่งเซินกังวลเป็นอย่างมาก จะโทรเรียกหมอมา แต่กลับถูก เธอหยุดเอาไว้

จึงหนิงหัวเราะพร้อมกับพูดว่า “มันร้ายแรงตรงไหน? ตึก

ขนาดนี้แล้วหากเรียกหมอมา เดี๋ยวก็ทำทุกคนตื่นกันหมดหรอก

อีกอย่างเด็กทั้งสองคนก็นอนกันแล้ว ก็ไม่ต้องยุ่งยากอะไรแล้ว ”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว “แต่ร่างกายของคุณ….. “ฉันไม่เป็นอะไร คุณช่วยฉันนวดหน่อยก็พอแล้ว”

เธอพูดพร้อมกับจับมือของเขาวางไว้บนหน้าผากของเธอ

ลู่วิ่งเซ็นทำอะไรไม่ถูก ถึงแม้ว่าในใจยังมีความกังวลอยู่เล็ก น้อย แต่เห็นเธอยืนกราน จึงทำได้เพียงนั่งอยู่หลังเธอ แล้วให้ เธอหนุนตักตัวเอง และนวดอย่างเบาๆ
ห้องนอนเงียบกริบ ทั้งคู่ไม่พูดอะไร

มุมปากของจิ้งหนิงยกขึ้นเล็กน้อย ก็ไม่รู้เพราะอะไร สัมผัสกับ มือของเขาที่วางอยู่บนหน้าผากของตัวเองแล้วนวดเบาๆ ดู เหมือนว่าความเจ็บปวดนั้นจะบรรเทาลงได้มากจริงๆ เมื่อลู่วิ่งเซินเห็นเธอดูเหนื่อยๆ ก็กระซิบว่า : “เหนื่อยแล้วก็

นอนพักผ่อนก่อนไหม ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่เอง

จิ่งหนิงตอบกลับ”อั้ม”

จากภายใต้การดูแลของเขา เธอหลับไปในไม่ช้าจริงๆด้วย กลางดึกอากาศหนาวเย็น เมื่อลู่จึงเป็นเห็นว่าเธอหลับสนิท แล้ว เขาหยุดมือที่กำลังนวดอยู่ได้กอดเธอไว้กับเตียง และหม ผ้าห่มให้

จากนั้นปรับอุณหภูมิในห้องอีกครั้ง จึงกอดเธอและผล็อยหลับ ไปพร้อมกัน

วันรุ่งขึ้น

เมื่อวิ่งหนึ่งตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว

ไม่รู้ว่าลู่จึงเป็นเขาตื่นมาเมื่อไร แล้วกำลังออกกำลังกายตอน เช้าที่ชั้นล่างอยู่

ประตูถูกผลักเปิดจากด้านนอก ศีรษะของเจ้าก้อนทั้งสองยื่น เข้ามาผ่านร่องประตูเล็กๆนั้น

เมื่อเห็นเธอตื่นแล้ว ก็มีเสียงร้องดังขึ้นมาพร้อมกับกระโจนเข้ามา

“หม่ามี้ หม่ามี รีบดูดาวที่หนูพับสิ

“หม่า วันนี้หนูไม่ได้ไปเรียนหนังสือ หม่ามีสามารถเล่นกับ หนูได้ใช่ไหมเอ่ย”

จิ่งหนิงยิ้มและได้กอดเจ้าก้อนทั้งสองเข้ามาที่อ้อมกอด ได้แตะ ที่จมูกของพวกเขา

“เจ้าตัวแสบทั้งสองคน อยากให้หม่ามีเล่นกับพวกหนู การบ้านพวกหนูเสร็จหมดแล้วหรือเปล่า? ถึงแม้ว่าจะไม่ไปเรียน หนังสือ แต่ก็มีการบ้านให้ทำอยู่ใช่ไหม? ทำเสร็จกันหรือยัง เอ่ย? ”

พอพูดถึงเรื่องเรียนเท่านั้น เจ้าก้อนทั้งสองก็ขมวดคิ้วทันที “หม่ามี้ พวกหนูทำอยู่แล้ว หม่าเล่นกับพวกหนูหน่อยสิ”

จิ่งหนิงหลงใหลกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนหวานของเจ้า ก้อนทั้งสองหัวใจของเธอกลายเป็นแอ่งน้ำตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว จะยัง สนใจกับการสั่งสอนพวกเขาได้สักที่ไหน?

พยักหน้าอย่างรวดเร็ว โอเคๆๆ หม่าจะเล่นกับพวกหนู แต่ ตอนนี้พวกหนูลุกขึ้นกันก่อน รอหม่ามีลุกออกจากเตียงก่อนแล้ว ค่อยว่ากัน”

เจ้าก้อนทั้งสองเมื่อเห็นขายความสงสารของตัวเองได้ผล ก็ส่ง เสียงดีใจ รีบลงจากตัวของเธออย่างรวดเร็ว
หลังจากที่วิ่งหนึ่งล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ถึง จะลงไปข้างล่างพร้อมกับพวกเขา ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง จึงเป็นออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ