วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 651 ไม่อยากทะเลาะ



บทที่ 651 ไม่อยากทะเลาะ

เฟิงสิงลังนิ่งเงียบ เผชิญหน้ากับภรรยาที่กำลังโกรธเป็นฟืน เป็นไฟ โดยไม่พูดอะไรสักคำ

เขาไม่ได้ชักชวนให้เธอกินต่อแล้ว แต่หลบสายตาของเธอ อย่างเงียบ ๆ และก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเอง เมื่อเห็นอย่างนี้ กูยิงก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เธอพุ่งเข้าไป กวาดอาหารตรงหน้าเฟิงสิ่งลังลงไปที่พื้น แก้ว จาน ชาม ถ้วยและซุปรวมทั้งอาหาร ต่าง “เพลง” แตก

เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยลงบนพื้น บนตัวของเฟิงสิงลัง เนื่องจากอาหารถูกสาดลงบนพื้นทำให้

น้ำซุปกระเด็นขึ้นมาโดนเขาจํานวนไม่น้อย

เขาชะงักไป จากนั้นก็วิตกกังวล แล้วสีหน้าก็สลดลง

เขามองดูใบหน้าที่แดงของถูกยิงที่อยู่ตรงหน้า จ้องมองเธอ อย่างใจเย็น และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “คุณทำแบบนี้ หมายความว่าอย่างไร?”

ตู้กูยิงพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “กิน กิน กิน! คุณก็มีแต่เรื่อง กิน! คุณคิดอะไรที่มันนอกเหนือจากนี้ได้ไหม?”

คิ้วของเฟิงสิ่งลังย่นเข้าหากัน

และยิ่งรู้สึกมากขึ้นว่า วันนี้ภรรยาของเขาช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

เขาขมวดคิ้วด้วยความเหนื่อยอ่อน พยายามระงับความโกรธ ในใจ และพูดอย่างเคร่งขรึม “ยิ่งยิงฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอ

กูยิงได้ยินดังนั้นก็หยุด

ความรู้สึกน้อยใจและความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้ถาโถม เข้าไปในหัวใจของเธอ ชั่วพริบตาเดียวดวงตาของเธอก็เปลี่ยน เป็นสีแดงกา

เธอยิ้มหยัน “ใช่สิ เมื่อไหร่ฉันจะมีค่าพอให้คุณทะเลาะด้วยกัน นะ? ในใจของคุณ เห็นฉันเป็นอะไรกัน? เกรงว่าแม้แต่คุณสมบัติ ที่คุณจะยอมใช้ปากที่มีเกียรติของคุณพูดด้วยก็คงไม่มี! ได้ ฉัน จะไม่คาดหวังอะไรจากคุณอีกต่อไปแล้ว คุณอยากกินอะไรก็ให้ พวกเธอทำให้กินใหม่แล้วกัน! ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ลาก่อน”

พูดเสร็จ เธอก็หันหลังเดินจากไป

ทันทีที่หันหลังกลับ น้ำตาของเธอก็ไหลรินลงมา

เฟิงสิ่งลังมองแผ่นหลังของภรรยาที่เดินจากไปอย่างสิ้นหวัง คิ้วของเขาก็ขมวด จนถึงตอนนี้เขายังไม่เข้าใจเลย ว่าจริง ๆ แล้ว เธอโกรธเขาเรื่องอะไร?

เขาขมวดคิ้วและนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นสั่งให้คนใช้เข้ามา ทําความสะอาดห้องอาหาร แล้วจึงออกไปข้างนอก

หลังจากเดินออกมาข้างนอกแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือ ออกมา โทรหาผู้ช่วยของเขา
“เสี่ยวหลิว ช่วยตรวจสอบดูหน่อยว่าวันนี้ภรรยาฉันไปไหน แล้วไปเจอใครบ้าง ตรวจสอบแล้วได้เรื่องอย่างไร ก็ให้รายงาน ฉันอย่างละเอียด”

ผู้ช่วยของเฟิงสิ่งลังดำเนินการอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การเดินทางในวันนี้ทั้งวันของกูยิ่งนั้น ก็ไม่มีอะไร ซับซ้อน

ไม่จําเป็นต้องตรวจสอบอะไรมาก เพียงแค่สืบข่าวเพียงนิด เดียวก็รู้แล้ว

เฟิงสิงลัง เมื่อฟังรายงานทั้งหมดจากผู้ช่วยของเขาทาง โทรศัพท์มือถือแล้ว ระหว่างคิ้วของเขาก็เกิดร่องลึกขึ้น

ถังลั่วเหยา…

คือเธออย่างนั้นเหรอ?

ภรรยาของยี่เอ๋อร์หล่อนได้พบกับยิงยิงโดยบังเอิญอย่างนั้น

หรอกหรือ?

แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เพิ่งสิ่งลังถอนหายใจอย่างจน

ปัญญา

แม้แต่ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ก็ยังพูดยากถ้าเป็นเรื่องในครอบครัว เขาผู้เป็นประธานกรรมการแห่งตระกูลเฟิงที่ยิ่งใหญ่ เมื่อต้อง เผชิญกับปัญหาภายในบ้าน ก็ปวดหัวเหมือนกัน แต่ตอนนี้เมื่อรู้ ปมปัญหาของเรื่องนี้แล้ว จะนิ่งเฉยทำเป็นไม่สนใจไม่ได้อีกต่อไป
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงโทรศัพท์หาเฟิง

“ยี่เอ๋อร์ สุดสัปดาห์นี้พาลูกสะใภ้มากินข้าวที่บ้านกันสักมื้อสิ แต่งงานแล้ว ยังไงก็ต้องพามาเจอพวกเราบ้าง โอเค เอาตามนี้ แล้วกัน”

ดังนั้น สุดสัปดาห์นี้ เฟิงจึงพาถังลั่วเหยากลับไปที่บ้านของ ตระกูลเฟิง

เดิมทีนั้น ตามข้อตกลงระหว่างเขากับคู่กูยิงก็คือ เขาจะกลับ ไปที่บ้านไม่ได้

แต่เนื่องจากเฟิงสิงลังโทรศัพท์หาเป็นการส่วนตัว และสัญญา ผ่านทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้จะไม่กระทบต่อข้อตกลงของเขากับ กูยิง

ท้ายที่สุดแล้ว ยังไงนั่นก็คือพ่อแม่ของเขา เขาแต่งงานไปแล้ว

ถ้าไม่กลับไปหาเลยสักครั้งก็คงจะไม่ถูกต้อง

ดังนั้นเฟิง จึงตกลง

และแน่นอน ก่อนที่จะรับปาก เขาได้ปรึกษาและถามความคิด เห็นของถังลั่วเหยาเรียบร้อยแล้ว

ถังลั่วเหยาไม่มีความเห็นอะไรไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้

ตอนนี้ที่เธอสนใจคืออยากจะรู้ว่า จะต้องทำตัวอย่างไรเพื่อ เอาใจคนในครอบครัว และให้คนในครอบครัวยอมรับในตัวเอง

แต่นั่นก็เทียบไม่ได้กับการเป็นตัวของตัวเอง
ถึงอย่างไร เธอก็ไม่ใช่เงิน จึงไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเธอ

ได้

เธอและเพิ่งแต่งงานกัน มันก็เป็นเรื่องของคนสองคน

หากบุคคลภายนอกเห็นด้วยและเต็มใจที่จะอวยพรให้พวก เขา พวกเขายินดีที่จะยอมรับอย่างแน่นอน

แต่ไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร กูยิงก็ยังไม่เห็นด้วยกับเธอ ดังนั้นเธอก็ไม่จําเป็นต้องประจบเอาใจต่อไปเพื่อขอให้หล่อน เห็นใจ

คนเรานั้น ต้องไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวเกินจน ดูต้อยต่ำ ซึ่งก็คงเป็นจริงอย่างนั้น

ดังนั้น ในตอนบ่ายของวันนัด ทั้งสองจึงกลับไปที่บ้านพร้อม

ของขวัญ

ของขวัญทั้งหมดถูกซื้อโดยถังลั่วเหยา แม้จะพูดว่าไม่สามารถ เอาใจกูยิงอย่างสุดความสามารถได้ แต่การมาเยี่ยมบ้านครั้ง แรกนั้น

มารยาทขั้นพื้นฐานก็ยังจำเป็นอยู่

ทางฝั่งตู้กูยิง เฟิงสิงลังเข้ามาทักทายเธออย่างรวดเร็ว

ความฉลาดในการจัดการกับอารมณ์ของเฟิงสิงลัง ถ้าให้พูด ตามตรง ที่จริงแล้วไม่ได้

มิฉะนั้นก็ไม่สามารถทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
เป็นเพราะว่า เขาบอกภรรยาว่า ไม่ได้เจอลูกชายคนเล็กมา นานแล้ว เลยอยากเรียกเขามากินข้าวด้วยกัน เมื่อถึงลั่วเหยาได้ แต่งงานกับลูกเราแล้ว และงานแต่งงานนี้เธอก็เป็นคนอนุมัติเอง ถ้าอย่างนั้นก็ควรกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างที่ควรจะเป็น

เขาดูออกว่าความจริงแล้วแม้ว่ากูยิงจะไม่ได้พูดอะไร แต่ใน ใจเธอก็คิดถึงลูกชายเหมือนกัน

ด้วยวิธีนี้ เมื่อครอบครัวได้มาอยู่รวมกัน จะสามารถแก้ปัญหา หัวใจของเธอได้ตรงจุด

สำหรับถังลั่วเหยาแล้ว ถ้าเธอไม่ชอบหล่อนจริง ๆ เธอก็จะทำ เหมือนว่ามองไม่เห็นหล่อน

แต่ห้ามโดยเด็ดขาดเลย เวลาอยู่บนโต๊ะอาหารอย่าอารมณ์ เสียเพราะหล่อนอีก

เพราะนั่นจะทำให้ลูกชายอับอาย และอีกอย่าง ก็จะกระทบต่อ บรรยากาศที่ปรองดองของครอบครัว ในที่สุด ซึ่งไม่คุ้มค่าเลย กูยิงฟังแล้ว ก็รู้สึกว่าเป็นจริงอย่างที่พูด เธอจึงตกลง

เมื่อเห็นถึงลั่วเหยาเดินเข้าประตูมา เธอไม่ได้พูดอะไร แม้ว่า ใบหน้าของเธอจะยังเย็นชาเหมือนเดิม แต่เธอก็ไม่ได้ทำท่าที เหม็นขี้หน้าหล่อนอีกต่อไป ซึ่งนั่นมันทำให้เธออึดอัด

ถังลั่วเหยาและเฟิงยี่ ต่างถอนอย่างใจอย่างโล่งอก

และหลานสาวตัวน้อยเหวินเหวินของกูยิง ก็บังเอิญอยู่ที่นี่ใน วันนี้ด้วย เมื่อเห็นถังลั่วเหยา ดวงตาของเธอก็เป็นประกายระยิบระยับ เผยให้เห็นถึงแววตาแห่งความสุข

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายิง เธอไม่ได้ออกมาทักทายถังลั่วเหยา

จากมุมที่ถูกยิงมองไม่เห็น เธอแอบยิ้มอย่างเงียบ ๆ ให้ถังลั่ว เหยา

ถังลั่วเหยารู้จักเธอ ครั้งก่อนที่เจอกันที่ร้านกาแฟ เธอคิดว่า

สาวน้อยคนนี้น่ารักมาก

แต่ในตอนนั้น เธอไม่รู้จักตัวตนของหล่อน ต่อมาเมื่อได้ยินเฟิง ยี่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เธอถึงรู้ว่าหล่อนคือหลานสาวของครอบครัว ตู้กูยิง

เธอยิ้มและพูดกับเฟิงสิงลัง “คุณลุงคะ นี่เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากฉัน คุณลุงกรุณารับไว้ด้วยนะคะ”

เฟิงสิงลังยิ้มและเรียกให้คนใช้มารับของไว้ พร้อมกับพูด อย่างยิ้ม ๆว่า “แต่งงานแล้ว จะมาเรียกลุงได้อย่างไร? ถึงเวลา เปลี่ยนสรรพนามได้แล้ว”

ทันทีที่พูดออกมาอย่างนั้น เขาก็ถูกยิงถลึงตาใส่ แม้จะเป็นเพียงพริบตาเดียว ทว่าทุกคนต่างมองเห็นได้ชัดเจน เฟิงสิ่งลังรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

ในทางตรงกันข้ามนั้นถังลั่วเหยายิ้มอย่างใจกว้างและพูดว่า “ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ค่ะ จะเรียกว่าอะไรที่จริงแล้วมันก็เป็นเพียง แค่ชื่อเรียกเท่านั้น จิตใจข้างในนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”
เฟิงสิ่งลังลงบันไดมาอีกขั้น เขาหัวเราะชอบใจ “ถูกต้อง ที่เธอ พูดน่ะถูกแล้ว”

คนรับใช้ที่บ้าน ได้ยินมานานแล้วว่าคุณชายที่สองจะพาแฟน ของเขากลับมาวันนี้

แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าจะเป็นถังลั่วเหยา

ถึงอย่างไร เฟิงสิ่งลังไม่ได้ดูละครทีวี แต่สาวใช้ที่บ้านชอบดู

ทําตาปริบ ๆ มองดูดาราดังในละคร ที่กลายมาเป็นภรรยา ของคุณชายคนรองอย่างไม่คาดคิด ทุกคนดีใจที่สุดเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ