วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 95 ลงโทษผิดเรื่องเล็กเพื่อจะได้ไม่ ทําผิดเรื่องใหญ่



บทที่ 95 ลงโทษผิดเรื่องเล็กเพื่อจะได้ไม่ ทําผิดเรื่องใหญ่

ไม่คาดคิดว่าเมื่อเช้านี้จู่ๆเขาก็ยกเลิกกัน หมด แล้วหันกลับไปเลือกซัพพลายเออร์ราย อื่น

ถ้ามันเป็นเพียงเรื่องเดียว ปูโหงก็ไม่ สงสัยอะไร

แต่ว่าเรื่องนี้คนแล้วคนเล่ายกเลิก ทำให้ เขารู้ว่า ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ หรือไม่ก็ไปยุ่ง กับคนที่ไม่ควรทําให้ขุ่นเคือง

และแล้ว พระเจ้ารู้ดีว่าเขาโกรธแค่ไหน เมื่อรู้ว่ามู่หงเขียวได้วางยาจิ้งหนึ่ง แล้วยังไป ยุ่งกับนิ่งเซินอีก

แต่ไม่ว่าจะโกรธแค่ไหน ลูกสาวก็เป็นที เขาให้เกิดมาเอง มีความขมขื่นแค่ไหนก็กลืน ไว้เองเท่านั้น

เพียงแค่เขาคิดว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จิ่ง หนังบอกให้ลู่จึงเป็นจัดการ แต่เมื่อเห็น ปฏิกิริยาของเธอ หรือเธอจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ลู่จิ่งเซ็นทำเพื่อเธอมากมายขนาดนี้ เธอ กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถ้าอย่างนั้นตำแหน่ง ในหัวใจของลู่จิ่งเชินแล้วเธอคง…

ปูโหงไม่กล้าคิดเรื่องนี้อีกต่อไป ภายใน ใจมีร่องรอยแห่งความเสียใจก็เกิดขึ้นเล็กน้อย

จะดีแค่ไหนถ้าก่อนหน้านี้ไม่ปล่อยให้จิ้ง หนังจากไป

ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เธอสามารถนำมาสู่ ตระกูลมู่ อย่างน้อยก็จะไม่ไปยั่วยศัตรูราย ใหญ่อย่างล่จิ้งเซิน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ มู่โหงก็รู้สึกแย่อย่างพูด ไม่ออก แล้วก็พูดดีๆว่า “ดูแล้วในกรณีนี้คุณ อาจไม่รู้ แต่ไม่เป็นไร เพียงแค่คุณกลับไปช่วย คุยกับคุณลู่หน่อยว่า มู่ชื่อกรุ๊ปไม่มีเจตนาที่จะ ทำร้ายคุณ ขอร้องให้เขายกมือสูงไว้ ต่อไปผม จะดูแลลูกของผมดีๆ ต่อไปผมจะไม่ปล่อยให้ พวกเขามายั่วยุค อีก คุณแค่พูดแบบนั้นก็ พอแล้ว”

จิ่งหนิงผงะไปครู่หนึ่ง แล้วเธอก็เข้าใจ

ทันที

เธอยิ้มและพูดว่า “ได้ค่ะ แต่ว่าลุงมู่ก็ต้อง ทำได้ตามที่บอกไว้จะดีที่สุดนะคะ มิฉะนั้นต่อ ไปเกิดอะไรขึ้นอีก ฉันไม่อาจรับประกันได้ว่า คราวหน้าจะขอร้องให้คุณอีกครั้งได้ไหม”

ลุง พูดทันทีว่า “ใช่ๆ ผมเข้าใจ”

จึ่งหน่งพยักหน้า “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ ฉันก็ไม่เอาเรื่องแล้ว ฉันขอไปก่อนนะคะ คุณ

ไปรับคนด้วยตัวเองเถอะ”

มู่โหงพูดด้วยรอยยิ้ม “โอเค ขอบคุณมาก นะ จิ่งหนิง”

จิ่งหนึ่งไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังจากไป

ตอนที่เดินอยู่ ก็เจอกับมู่หงเซียวที่ถูกพา ตัวออกไปพอดี ทันทีที่เธอเห็นจิ้งหนิง เธอก็เหมือนบ้า ไปแล้วทันที พุ่งเข้าหาเธออย่างมุ่งร้าย

“จิ่งหนิง! อีนังสารเลว! หยุดเดี๋ยวนี้นะ! แกช่างกล้าที่ทำให้ฉันเข้าคุก แกคงเบื่อชีวิต แล้ว ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่ ฉันจะไม่ปล่อย แกไปแน่นอน!”

จึงหนังเม้มริมฝีปากของเธออย่าง แดกดัน มองเธอหนึ่งที่เหมือนมองขยะ แล้ว ไม่มีความลังเลสักนิด ก้าวเท้าจากไป

มู่หงเซียวยังคงสาปแช่งอยู่ที่นั่น แต่ถูก ตำรวจทั้งสองลากไว้อย่างทำอะไรไม่ได้ ดิ้นก็ ไม่หลุด

เธอตะโกนด่าว่า “พวกแกจับฉันทำไม จะ จับก็ควรไปจับนังผู้หญิงคนนั้นสิ! เธอทำให้ บอดี้การ์ดสี่คนของฉันพิการไป ฉันยังไม่ได้คิด บัญชีมันเลย พวกแกตายทั้งหมดแล้วหรือไง มันทําเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่จับกลับมาจับฉัน เนี่ยนะ นี่ยังมีกฎหมายอยู่หรือเปล่า” ตำรวจทั้งสองไม่แสดงสีหน้าใดๆ

มโหงฟังจนปวดหัว จนไม่สามารถทนได้ อีกต่อไป ตะโกนด้วยความโกรธ “หุบปาก!”

มู่หงเขียวกรีดร้อง “ไม่เอา คุณพ่อ ปล่อย เธอไว้ได้ยังไง พ่อและพี่ชายถูกมันถูกวางยา หรือไง มันทำกับหนูขนาดนี้ยังปล่อยมันไป อีก!”

โหงทนไม่ไหวอีกต่อไป ยกมือขึ้นตบ หน้าเธออย่างจังหนึ่งที

มู่หงเขียวถูกตบจนหน้าสาย มองเขา ด้วยความไม่เชื่อ

“คุณพ่อ! นี่พ่อตบหนูเหรอ”

มู่โหงกัดฟันพูดว่า “ฉันคิดว่าฉันควรจะตี แกมานานแล้ว! คิดว่าแกเป็นแค่เด็กผู้หญิง เลี้ยงดูแกมาด้วยความรักความเอ็นดู แต่ตอนนี้ มาคิดดูแล้วเลี้ยงแกดีเกินไป ถึงทำให้แกไม่ สนกฎไม่สนใครแบบนี้!”

มู่หงเซียวมองไปที่สีหน้าบึ้งตึงของมู่ โหง และตระหนักว่าครั้งนี้พ่อโกรธมากจริงๆ

เธอก็รีบลดท่าทีลงอย่างรวดเร็ว และ ร้องไห้พูดว่า “คุณพ่อคะ หนูผิดไปแล้ว อย่า โกรธหนูเลยนะคะ หนูก็แค่โกรธที่มันชอบ รังแกเสี่ยวหย่า และยังชอบหลอกพี่ชายของ หนู หนู หนก็แค่อยากจะสั่งสอนมันแค่นั้นเอง”

ในตอนนี้ โหงไม่ต้องการสืบหาสาเหตุ

อีกต่อไป

เขาลูบหน้าผาก รู้สึกปวดเล็กน้อย แล้ว พูดอย่างเหนื่อยล้าว่า “สัปดาห์หน้า แกก็ไป อเมริกากับลูกพี่ลูกน้องของแกสะ! ไปอยู่ที่ อเมริกาสักพัก และเรียนรู้อะไรบ้าง ในช่วงนี้ เวลาสั้นๆนี้ก็ไม่ต้องกลับมา”

ดวงตาของมู่หงเซียวเบิกกว้าง

“อะไรนะ คุณพ่อ พ่อจะส่งหนูไปต่าง ประเทศเหรอ หนูไม่ไป

มู่โหงพูดอย่างเย็นชา “ครั้งนี้แกไม่ไปก็ ต้องไป ไม่อะไรต้องคุยกัน!” คุณพ่อ! เพื่อผู้หญิงคนนั้น แม้แต่ ลูกสาวแท้ๆของตัวเองก็ไม่เอาแล้วเหรอ หนู ไม่ไป ให้ตายหนูก็ไม่ไป! ”

มู่โหงไม่อยากสนใจเธออีก จึงเรียกบอดี้ การ์ดสองคนให้เข้ามา และบังคับให้ส่งกลับ

บ้าน

จากนั้นเขาก็หันหลังจากไป

หลังจาก นรถแล้ว คนขับรถก็ถามด้วย ความยินดีว่า “ทานประทานครับ ตอนนี้เราจะ ไปไหนครับ”

มู่โหงบีบระหว่างคิ้ว และพูดอย่างเหนื่อย ล้าว่า “ลองกลับไปที่บริษัท”

“ครับ”

รถสตาร์ท เขามองไปที่ทิวทัศน์นอก หน้าต่างที่ย้อนกลับ นึกถึงคำพูดของมู่หง เขียวก่อนหน้านี้ แล้วก็ยิ้มเยาะ

เพื่อจิ่งหนิงเหรอ? เฮอะ! จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเพิกเฉย ต่อลูกสาวแท้ๆของตัวเองเพื่อจิ่งหนังกัน?

เห็นได้ชัดว่าเพื่อผู้ชายคนนั้น

ผู้ชายคนนั้น … มีกำลังมาก ไม่ใช่คนที่ เป็นพ่อค้าอย่างพวกเขาจะสามารถรุกรานได้

เพียงแต่คนแบบนี้ ทําไมถึงมาอยู่ใน เมืองจิ้นตลอด แล้วยังอยู่นานครึ่งปีเลยเหรอ

เขามาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่

โหงตกอยู่ในความคิด

อีกด้านหนึ่ง จึงหนิงกลับไปถึงคฤหาสน์ บ้านลู่ อาบน้ำอีกรอบ และเปลี่ยนเสื้อผ้า

จนกระทั่งทําเสร็จ ก็พบว่าเป็นเวลาหก โมงเย็นแล้ว

ป้าหลิวเตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้ว เรียก เธอให้รับประทานอาหาร จังหนังเหลือบมอง เวลา และถามอย่างสงสัยว่า “วันนี้ลู่จิ่งเป็นไม่ กลับมากินข้าวเหรอ”

ป้าหลิวยิ้มแล้วพูดว่า “วันนี้นายท่านต้อง ทําโอทีค่ะ เมื่อกี้เพิ่งโทรกลับมาและบอกว่าจะ

ไม่กลับมารับประทานค่ะ”

จิ่งหนังทำเสียง”ฮู” ดวงตาก็กลอกไปมา

ทําโอที?

ไม่รู้ว่าจะจริงหรือเปล่า

ในเมื่อวันนี้ไม่มีอะไรทํา หรือจะไปหา

เขาคํ

เมื่อคิดถึงอย่างนี้ เธอจึงบอกกับป้าหลิว ว่า “เอาแบบนี้ ป้าช่วยฉันใส่อาหารลงในกล่อง ฉันจะเอาไปให้เขา และห่อส่วนของฉันด้วย”

ป๋าหลิวได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็ แสดงสีหน้าประหลาดใจ

ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ค่ะ ฉันจะไป

ห่อเดี๋ยวนี้ค่ะ”

ความสัมพันธ์ระหว่างนายหญิงกับนาย น้อยดีนั้นเป็นเรื่องที่ดี เธอมีความสุข และ การกระทําของเธอก็คล่องตัวขึ้นในทันที

จิ่งหนึ่งเดินกลับขึ้นไปชั้นบน หยิบ กระเป๋า คิดว่าตอนที่กลับมาจะไปเดินเล่นที่ ห้างสรรพสินค้าสักหน่อย ซื้อโทรศัพท์มือถือ

แล้วก็ซื้อซิมโทรศัพท์ด้วย

ดอนที่เธอลงไปชั้นล่าง ป้าหลิวก็ห่อข้าว เรียบร้อยแล้ว

จิ่งหนีงถือกล่องเก็บความร้อนเดินออก

ไป ป้าเฉินเดินไปส่งเธอถึงประตู ยิ้มแล้วพูดว่า “นายหญิง ให้คนขับรถไปส่งคุณดีกว่านะคะ!

จิ่งหนังสายหัว “ไม่ต้องแล้ว ฉันขับรถไป เองดีกว่า”

“ค่ะ ถ้างั้นคุณเดินทางระวังๆนะคะ”

จิ่งหนังวางกล่องเก็บความร้อนที่เบาะ ข้างคนขับ สตาร์ทรถ แล้วขับออกไป

ในลู่ซ๊อกรุ๊ป ลู่จิ่งเป็นกำลังประชุมอยู่ บรรยากาศใน ห้องประชุมค่อนข้างเคร่งขรึม

ผู้บริหารระดับสูงเกือบทั้งหมดของบริษัท ก็อยู่ เผชิญหน้ากับผู้ชายที่นั่งบนที่นั่งประทาน ไม่มีใครกล้าทําอะไรไปเรื่อย ทุกคนล้วนมีสติ

ในการตอบสนองอย่างดี

แม้ว่าการประชุมนี้จะดำเนินมาตลอดทั้ง ช่วงบ่าย แต่ก็ไม่มีใครกล้าบ่น

ผู้จัดการโครงการกำลังยืนอยู่หน้า โปรเจคเตอร์รายงานอยู่

หลังจากที่รายงานเสร็จสิ้น ก็เห็นสีหน้า ของลู่จิ้งเซินยิ่งอยู่ยิ่งเข้มขึ้น ใจของเขาก็ยก ขึ้นอย่างอดไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ