วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 831 ออกจากปราสาท



บทที่ 831 ออกจากปราสาท

เธอกระตุกยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก ทั้งๆ ที่กำลังยิ้ม น้ำตาไหลริน ลงมาอย่างไม่ตั้งใจ

“กู้ซื้อเฉียน ตั้งแต่ต้นจนจบคุณก็ไม่เคยเชื่อใจฉันเลย ทั้งๆที่ ไม่ใช่ฉันทำ แต่คุณกลับยัดข้อหาฆาตกรรม ให้ฉัน แล้ววันนี้จะ มาแกล้งทําดีคุยเมตตากรุณาอะไร? ”

“ฉันรู้ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ก็จะเป็นกั้นขวางคอคุณกับหลิน เยว่เอ๋อร์ ได้ฉันไปก็ได้ แต่ว่ากู้ซื้อเนียน คุณอย่าลืมว่าคุณติด ค้างฉันเฉียวอยู่ ชาตินี้คุณติดค้างฉันเฉียว! ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป แม้ว่าฉันจะตกต่ำอีกครั้ง ไม่มีที่ไป ก็จะไม่มาหาคุณอีก ชาตินี้เราจะไม่เจอกันอีก

เธอพูดจบ ก็มองเห็นดวงตากู้ซื้อเฉียนสั่นแรงๆหนึ่งที่ หลังจากนั้น ก็หัวเราะขึ้นมา

“ชาตินี้จะไม่เจอกันอีกหรือ? ดีมาก เฉียว จำคำพูดของคุณ ไว้ ในเมื่อคุณต้องการจะไป ก็ให้ไปได้ดีแล้วกัน ออกไปให้พ้น จากสายตาของผม ! ไม่ต้องกลับมาอีกจะดีที่สุด ไป!

พูดจบ เหวี่ยงมือไปผลักชั้นวางดอกไม้ที่อยู่ใกล้ๆล้มลง จาก นั้นเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

ความขุ่นเคืองที่เขาทิ้งไว้ยังคงหลงเหลืออยู่ในห้อง จนกระทั่ง เงาหลังของเขาจากไปแล้ว
ทุกคนมองหน้ากันเลิกลัก ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี กับเจียวนั้น อารมณ์ซับซ้อนมาก และก็เห็นอกเห็นใจอย่าง มากด้วย

ในใจลุงโอนั้นเสียใจมากเช่นกัน ตอนแรกคิดว่า หลังจากคู่รัก คู่นี้ผ่านอุปสรรคมามากมายแล้ว ในที่สุดจะคืนดีกันได้

แต่ว่าใครจะไปคาดคิดว่า ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นยังดีกันอยู่ จู่ๆก็ กลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

แต่ว่าในเวลานี้ เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะมาคิดอะไรมากมาย

อารมณ์ร้อนของกู้ซือเฉียนนั้น วันนี้ได้พูดถึงขั้นนี้แล้ว ไม่แน่ว่า อาจจะทําเรื่องอะไรที่เกินเลยได้ เขาจะต้องรีบไปคอยติดตามดู เขาก่อน

ดังนั้น จึงรีบพูดกับเฉียวว่า “คุณเฉียว คุณชายเขาพูดเพราะ อารมณ์ชั่ววูบ คุณอย่าไปใส่ใจ ผมจะออกไปดูเขาเดี๋ยวนี้เลย”

เฉียวฉีกัดริมฝีปากเย้ยหยัน

“ลุง โอ ขอบคุณที่ดูแลฉันในช่วงเวลานี้ แต่ว่าคุณก็เห็นแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมก้มหัว แต่ไม่ว่าฉันจะทำอย่างไร เขาก็ไม่เชื่อ ฉัน ในใจเขา ฉันไม่ใช่เฉียวคนนั้นที่เคยเป็นแล้ว เช่นกันกับใน ใจของฉัน เขาก็ไม่ใช่กู้ซื้อเฉียนคนเดิมคนนั้นอีกต่อไป ตั้งแต่วัน นี้เป็นต้นไป ฉันจะไปจากที่นี่ อดีตที่ผ่านมา ก็ให้ถือว่ามลายหาย ไปหมด ปล่อยวางเถอะ ลุงโอ คุณไม่ต้องสนใจฉัน อีกสักพักฉัน จะเก็บข้าวของ แล้วจากไปเอง”
เมื่อลุง โอได้ยินเช่นนั้น ขมวดคิ้วแน่น

ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เดียวกับกู้ซื้อเฉียน ทั้งๆที่ไม่ใช่คน ประเภทที่ทำเรื่องต่างๆ อย่างดื้อรั้นเพราะอารมณ์ใจร้อนชั่ววูบ

แต่ว่าปฏิกิริยาของทั้งสองคน ในวันนี้ ใจร้อนเกินไปหรือเปล่า แปลกมากเหลือเกิน

แต่ว่า เขาก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมาก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว และก็ ไม่ใช่เรื่องที่เขาพ่อบ้านคนนี้จะสามารถเป็นกังวลได้มานานแล้ว

ดังนั้น เพียงแค่ก้มหัวเล็กน้อย กล่าวอย่างเสียใจว่า “ถ้าอย่าง นั้น คุณเฉียวดูแลตัวเองด้วย หากมีอะไรจะให้ช่วยเหลือ ขอเพียง ให้บอกผม แม้จะไม่อยู่ที่นี่ก็เช่นกัน”

คำพูดนี้ เทียบเท่ากับเป็นคำพูดที่ออกมาจากความสัมพันธ์ ส่วนตัวแล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนรับใช้ของกู้ซือเจียน เป็นพ่อบ้าน ของปราสาทหลังนี้

หากเฉียว ออกไปจากที่นี่แล้ว มีเรื่องอะไรต้องขอความช่วย เหลือเขาอีก ถ้าหากเขาได้ช่วยเหลืออีกครั้ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะ ทำให้คนอื่นมีความรู้สึกประเภทที่ว่าเขาได้หักหลังกู้ซื้อเฉียนแล้ว

แต่หากเป็นเช่นนี้ ลุงโอก็ยังคงพูดแบบนี้กับเฉียวฉี ซึ่งแสดง ให้เห็นถึงความจริงใจและความทุ่มเทของเขาแล้ว

เฉียว ก็กระตุกริมฝีมออกมาเล็กน้อย
“ขอบคุณลุง โอมาก”

เธอไม่ได้ปฏิเสธ และก็ทำใจปฏิเสธไม่ได้ ลุงโอจึงไม่พูดอะไรอีก แล้วหันหลังจากไป เมื่อเขาไปแล้ว คนรับใช้คนอื่นก็ตามไปด้วยโดยปริยาย ดังนั้น ไม่ช้าในห้องก็เหลือเพียงเสี่ยวเยวกับเฉียว

เวลานี้เสี่ยวเยว่ก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย เมื่อกี้เธอยืนอยู่ข้าง นอก แต่เธอได้ยินการสนทนา ในห้องอย่างชัดเจน

ไม่เข้าใจจริงๆว่า ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังดีๆอยู่ ทำไมแค่พริบตาทั้ง สองก็กลายเป็นเช่นนี้

เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าน่าสังเวชแล้วพูดกับเฉียวว่า “คุณ เฉียว คุณโอเคไหม ? ”

เฉียวไม่พูดอะไร ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าเย็นชา

ราวกับความโกรธยังไม่หายไป

เสี่ยวเยวใจร้อนจนเกือบจะร้องไห้แล้ว

เธอนั่งลง เงยหน้ามองดูเธอ กล่าวอย่างกังวลว่า “เกิดเรื่อง อะไรขึ้น? บอกว่าจะคุยกันไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงคุยกันเป็นแบบนี้ ได้? คุณเฉียว คุณจะไม่ย้ายออกไปจริงๆ ใช่ไหม?

เฉียว ถึงก้มหน้าเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง เธอกล่าวเสียงเรียบๆ “ขอโทษ ที่ทำให้เธอตกใจ ”
เสี่ยวเยวส่ายหัวไปมา

“ฉันไม่เป็นไร แต่คุณ………….

เฉียว ฝืนยิ้ม

เธอกล่าวเสียงเคร่งขรึม “รบกวนคุณช่วยฉันเก็บข้าวของ หน่อย ฉันจะไปช่วงบ่าย

เสี่ยวเยว่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ตอนที่ได้ยินจากปากพวกเขาว่าเฉียวจะจากไป แต่เธอยังคิด ว่า พวกเขาเพียงแค่พูดเพราะอารมณ์โกรธเท่านั้นเอง

ไม่ถึงกับว่าเธอจะไปจริงๆ

แต่ว่าตอนนี้ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ จะจากไปเพราะความงอน จริงๆหรือ?

เสี่ยวเยวรีบเกลี้ยกล่อม คุณเฉียว คุณอย่างอนเลย ที่คุณชาย พูดไปนั้นล้วนเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ คุณจะเอาจริงเอาจังกับเขา ได้อย่างไร? ตอนนี้อาการบาดเจ็บของคุณยังไม่หายดี ตัวคน เดียวคุณจะไปไหนหรือ

ต้องบอกว่า ถึงแม้ช่วงเวลาที่อยู่ในปราสาทนี้ คนอื่นๆนั้นเฉียว ฉีล้วนไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

แต่สําหรับเสี่ยวเยว่คนที่คอยดูแลปรนนิบัติเคียงข้างเธอมา ตลอด เธอมีความรู้สึกบ้างเล็กน้อย

เวลานี้เห็นเธอร้องไห้ท่าทางกังวล ในใจก็รู้สึกอ่อนไหวเล็กน้อย

แต่ว่า เรื่องนี้มันใหญ่เกินไป เธอก็ไม่ได้เตรียมการจะบอกให้ เสี่ยวเยวรู้

ไม่ใช่เพราะว่าไม่เชื่อใจเธอ แต่ว่าไม่อยากจะดึงเธอเข้ามา เกี่ยวข้องด้วย

ขณะที่คิดเช่นนี้ เฉียว ก็ถอนหายใจเฮือก

พูดด้วยอารมณ์หรือไม่นั้น ในใจฉันรู้ดี เสี่ยวเยว่ ขอบคุณ มากสำหรับการดูแลฉันในช่วงเวลานี้ ต่อไปหากมีโอกาสเรา ค่อยเจอกันใหม่”

เสี่ยวเยวตะลึงไป เงยหน้ามองดูเธออย่างไม่เชื่อ

“คุณเฉียว คุณจะไปจริงๆหรือ? ”

เฉียวฉีพยักหน้า

เสี่ยวเยวตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ถ้าอย่างนั้นก่อนหน้านั้นคุณ พูดว่า คืนนี้จะไปงานโคมไฟกับคุณชายไม่ใช่หรือ? จะไม่ไปแล้ว ใช่ไหม? ”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา เฉียวฉีก็อึ้งไปครู่หนึ่ง

เสี่ยวเยว่เหมือนจะตระหนักว่าตัวเองเสียมารยาท จึงรีบ อธิบายว่า “ฉันเพียงแต่รู้สึกว่า เป็นโอกาสที่ดี ไม่แน่ว่าพวกคุณ ทั้งสองจะถือโอกาสครั้งนี้คืนดีกันเหมือนเดิม ไม่เพียงเท่านี้ ยัง สามารถจับคนพวกนั้นที่คิดจะทำร้าย……………..
เจียวฉียิ้ม

ในสายตานั้น ดูเหมือนมีประกายจางๆไหลเวียนอยู่ เธอยิ้มเบาๆแล้วกล่าว เราจะไม่คืนดีกัน สำหรับเรื่องของคืน นี้…….เดิมที่ฉันคิดจะล่องูออกจากรูจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ ดูเหมือนจะ ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว ช่างเถอะ ฉันก็ไม่อยากจะติดหนี้บุญคุณเขา ฉันจะคิดหาวิธีตรวจสอบคนพวกนั้นอีกครั้ง ส่วนฉัน ฟ้าดินกว้าง ใหญ่ ที่ไหนไม่ใช่ที่หลบภัยของฉัน คนกลุ่มนั้นคิดจะจับฉัน ก็ ต้องดูว่าพวกเขามีความสามารถนี้หรือไม่”

พูดจบ บนใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ช่างแตกต่าง จากท่าทางที่หดหู่ก่อนหน้านั้นอย่างสิ้นเชิง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ