วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 7 แต่งงาน



บทที่ 7 แต่งงาน

เธอตกตะลึงอ้าปากค้าง

“แต่งงานเหรอคะ? พวกเรา…นี่มันเป็นไปไม่ได้! เมื่อ คืนฉันเมาคุณจะมาโมเมเรื่องเอกสารนี้ไม่ได้นะ! ลู่จิ่งเซินมองไปที่เธอด้วยสายตาเยือกเย็น

“ตอนที่คุณอยากนอนกับผม ผมให้คุณเซ็นชื่อ คุณก็เซ็น ชื่ออย่างง่ายดาย ตอนนี้คุณไม่ยอมรับขึ้นมาดื้อๆสินะ? ”

จิ่งหนิง ”

“หีๆ”

เขาหัวเราะออกมาอีกครั้ง

จึงหนิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี เธอนิ่งไปชั่วครู่แล้ว พูดออกมาว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณและฉันจะต้องยินยอม ทั้งสองฝ่าย คุณจะมาโทษฉันคนเดียวได้ยังไง? ”

เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆถ้าเขาไม่ยินยอมเธอจะใช้ กำลังกับเขาได้อย่างนั้นเหรอ?

แต่คาดไม่ถึงว่าในวินาทีต่อมา เขาก็ปลดกระดุมเสื้อของ

ตัวเองออก

“ผมรู้ว่าคุณจะไม่ยอมรับ ดีนะที่ผมมีหลักฐาน”

จึงหนิงมองไปที่การเคลื่อนไหวของเขา เขาปลดกระดุม เสื้อออกได้สองเม็ด มองเห็นไหปลาร้าที่มีทั้งรอยขีดข่วน และรอยจูบ
สื่อให้เห็นชัดว่าเมื่อคืนนั้นดุเดือดขนาดไหน….

เธออยากจะมุดหน้าหนีไปเสียจริงๆ

นี่มันยิ่งกว่าตกนรกชัดๆ !

ภายใต้คำเตือนของชายหนุ่ม เธอจึงเริ่มจำได้ว่าเมื่อคืน เธอหลงใหลเขาขนาดไหน แก้มทั้งสองของเธอแดงระเรื่อ ราวกับลูกมะเขือเทศ

“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆค่ะ เอาอย่างนี้ได้ไหม คุณต้องการเงินชดเชยเท่าไหร่ฉันจะตอบตกลงคุณทุก เรื่อง ยกเว้นแต่หนังสือสัญญาการแต่งงานนี้ ช่วยยกเลิกได้ ไหม? ” %3D

ลู่จิ่งเซินมองไปที่เธอจากนั้นออกคำสั่งว่า

“ค่าชดเชยเหรอ? อืม..ซูมู่”

“ครับ!

ซูมู่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเปิดiPadที่ถือไว้ในมือและ

วางลงหน้าจึงหนิง

“คุณหนูจิ่งครับ นี่คือรายชื่ออภิมหาเศรษฐีโสดของโลก คนใหม่ เมื่อเดือนที่ผ่านมาที่เธอยอมจ่ายเงินถึง 300ล้าน หยวนสำหรับค่ำคืนอันเร่าร้อนเพียงแค่คืนเดียวกับท่าน

ประธาน คุณลองพิจารณาดูไหม?

จึงหนิงตกใจจนปากค้าง

สายตาเธอมองไปที่บนiPad และเห็นรูปภาพของชายผู้นี้

ปรากฏอยู่ข้างใน
แววตาที่เฉียบคมและหยิ่งผยอง เธอกลืนน้ำลายลงคอแล้วพูดว่า

“คุณหมายความว่าถ้าฉันต้องการชดเชยก็จะต้องจ่าย เงินจำนวน300ล้านหยวนเหรอคะ? ” %3D

“ถูกต้อง”

อยู่ๆจิ่งหนิงก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอย

เธอมองไปที่เขาด้วยความสงสัย แล้วรู้สึกว่าคนที่อยู่ตรง หน้านี้ค่อนข้างจะคุ้นตา ทันใดนั้นเธอก็เบิกตากว้าง!

ลู่จิ่งเซิน!

ลู่จิ่งเซินงั้นเหรอ? ? ?

พระเจ้า! ฉิบหายแล้ว! ! !

ในหัวของจิ่งหนิงมีคำสบถออกมาเป็นล้านคำ เธอแทบจะ

กระโดดลงจากเก้าอี้

ว่าแล้วเชียวทำไมชื่อนี้ถึงคุ้นหูนัก เป็นเขาเองเหรอ?

ทายาทตระกูลร่ำรวยตระกูลลู่ ประธานลู่ชื่อกรุ๊ป ได้ยิน มาว่าทรัพย์สินของเขามั่งคั่งเท่ากับประเทศหนึ่งได้ และมี ภูมิหลังที่ลึกลับไม่อาจคาดเดา

เมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาได้สร้างอานหนิงกั๋วจี้ขึ้นมา ในระยะ เวลาแค่สองปีอุตสาหกรรมบันเทิงนี้ก็ขยายไปทั่ว ได้รับ ความนิยมจนกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์

เธอเงียบไปชั่วขณะ
ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่าสามหมื่นล้านหยวนมันแพงเกินไป แต่เมื่อเธอรู้ว่าเขาเป็นใครก็ต้องบอกได้เลยว่า เขาเหมาะ สมกับราคานี้แล้ว

เธอพูดออกมาด้วยความระมัดระวังว่า “คุณคะ พวก เรา..จะเจรจากันได้บ้างไหม? เปลี่ยนวิธีการชดเชยเป็น ยังไงคะ? ”

ชายที่อยู่ตรงหน้ามองเธอ แล้วยักคิ้วขึ้นด้วยสายตาเย็น

“ยังไงครับ? ”

“เงินตั้ง30000ล้านหยวน ฉันไม่มีหรอกค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรจะเจรจากันอีก”

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจ เขาส่งสัญญาณไปทางซูมู่ จาก นั้นซูมูก็รีบเก็บเอกสารบนโต๊ะทันทีและถอยออกไปด้วย ความนอบน้อม

จึงหนิงอ้าปากค้าง เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาอีก เมื่อ สายตาประสานเข้ากับฝ่ายตรงข้ามเธอก็รีบหุบปากด้วย ความตกใจ

ลู่จิ่งเซินกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า “ผมให้เวลาคุณสาม วัน ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาซะ หลังจากสามวันนี้ ผมจะส่งคนไปรับคุณ ต่อไปที่นี่คือบ้านของคุณ”

จึงหนิงร้องไห้ออกมาโดยไม่มีน้ำตา

เธอรู้ว่าการต่อต้านไม่มีประโยชน์ใดๆ จึงได้พูดออกมาว่า

ชา”ฉันขอเวลามากกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ? ”

ลู่วิ่งเซินหันไปมองเธอแล้วพูดว่า

“เหอะๆ! ”

จิ่งหนิง “.

เมื่อออกมาจากคฤหาสน์บ้านลู่ ซูมู่รอเธออยู่ที่ประตู

ที่ลานกว้างมีรถMaseratiสีเงินจอดอยู่ ซูมู่เปิดประตูรถ แล้วเอ่ยเชิญด้วยความเคารพว่า “คุณหนูวิ่งครับ ผมจะไป ส่งคุณ”

จึ่งหนิงนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนั่งแท็กซี่กลับเอง

ได้”

“นี่เป็นคำสั่งของท่านประธาน”

รอยยิ้มบนหน้าของเธอหุบลงทันที สุดท้ายแล้วเธอก็ได้

แต่เดินขึ้นรถไป

บ้านที่จิ่งหนิงพักอาศัยเป็นอพาร์ทเม้นท์ใจกลางเมือง ภายในห้องไม่ใหญ่โตมีหนึ่งห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น แม้จะเล็กไปหน่อยแต่ก็อยู่ติดริมถนน การคมนาคมสะดวก ที่สำคัญเธออยู่แค่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว

เมื่อกลับมาถึงห้องพักของตัวเอง เธอก็เอนตัวลงไปที่

โซฟา

เมื่อคืนจนถึงวันนี้เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมายและ รวดเร็วเหลือเกิน เธอยังรับมันไม่ได้ จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านเธอจึงได้รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

เธอหยิบคอมพิวเตอร์มาเปิดแล้วพิมพ์คำว่าลู่จิ่งเซิน

มีข่าวสารต่างๆปรากฏขึ้นมากมายยิ่งทำให้หัวใจของเธอ เย็นชา

แม้จะรู้ว่าตัวตนของชายคนนี้ไม่ธรรมดาแต่เธอก็ยังรู้สึก ปวดหัวเมื่อเห็นใบหน้าของเขาอีกครั้งในเว็บไซต์

เขาคือคนที่ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วยจริงๆ

อย่าว่าแต่สถานะอันสูงส่งของเขาเลย เพียงแค่อำนาจ และทรัพย์สินที่เขามี น่ากลัวเกินกว่าที่จะบรรยาย

ผู้ชายอย่างเขาจะแต่งงานกับเธอเหรอ?

แค่คิดก็รู้สึกว่ามันไร้สาระสิ้นดี!

แต่เมื่อคิดดูดีๆเธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวอะไร เพราะ ตอนนี้เธอเองไม่เหลืออะไรแม้แต่อย่างเดียว เธอยังต้อง กลัวอะไรกันอีกเล่า?

ยังมีเวลาอีกสามวันไม่ใช่เหรอ

ในสามวันนี้บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้

เมื่อลงเรือไปแล้วก็ต้องลองพายดู….

เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหนิงก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอีกต่อไป

วันนี้เป็นวันเสาร์ไม่ต้องทำงาน ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยน เสื้อผ้าแล้วเดินไปที่ร้าน

ร้านของเธออยู่ใจกลางเมือง เดินไปเพียงห้านาทีก็ถึง ไม่ต้องขับรถด้วยซ้ำ

ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆที่เธอได้เช่าซื้อไว้เมื่อสองปีก่อน ด้าน ในเต็มไปด้วยสินค้าของผู้ใหญ่แขวนอยู่เรียงราย

เนื่องจากเธอต้องทำงานด้วยจึงไม่มีเวลามาดูแลร้าน เธอ ได้จ้างพนักงานมาช่วยดูแลให้ เมื่อเธอว่างเธอก็จะแวะมาดู เสมอ

แต่สองวันก่อนพนักงานที่ร้านมีธุระจึงได้ลาหยุด ดังนั้น เธอจึงต้องเดินทางมาดูแลเอง

แม้ว่ามู่ยั่นเจ๋อจะดูถูกอาชีพนี้ แต่เธอรู้สึกว่าทุกอาชีพไม่ ได้ด้อยไปกว่ากันและเธอก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เธอใช้ ความสามารถของเธอในการหาเงิน

อีกทั้งอาชีพนี้แม้จะไม่ค่อยสะดวกนักแต่ก็มีผลกำไรมาก ทีเดียว หลายปีมานี้เธอใช้กำไรที่ขายของเหล่านี้ซื้อบ้านและมี เงินเก็บไม่น้อย

เนื่องจากตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้ว เงินจึงเป็นสิ่งที่ สำคัญที่สุดสำหรับเธอ

และตอนนี้เธอก็เลิกกับมู่ยั่นเจ๋อแล้ว ถ้าเธอยังทำงานอยู่ ภายใต้มู่ชื่อกรุ๊ปต่อไปเกรงว่าจะไม่ดีแน่

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ลังเลอยู่ชั่วครู่แล้วหยิบ โทรศัพท์ต่อสายออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ