วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 532 งานเลี้ยงประจำตระกูล



บทที่ 532 งานเลี้ยงประจำตระกูล

“เอ้อ? ความหมายของท่านคือ

เพิ่งเหยี่ยนนึกถึงคำพูดของอานเดียว ทำให้นวดระหว่างคิ้ว นวดแล้วนวดอีก “ไม่มีความหมายอะไร ก็ไปเพียงเป็นพิธี เท่านั้น” พูดจบ ก็วางสายเลย

กลอุบายของเขากับวิถีชีวิตของตระกูล ตอนนี้ยังไม่เหมาะสม ที่จะให้ผู้หญิงตัวเล็กๆรู้มากเกินไป จะได้ไม่ทำให้เธอตกใจ ดัง นั้น คงยังต้องไปสถานีตำรวจพอเป็นพิธีสักหน่อยเถอะ เพื่อจะได้

ไม่ให้เธอเป็นห่วง

เฟิงเหยียนพูดคําไหนคำนั้น คืนนั้น ไปนอนห้องรับแขกแล้ว

จริงๆ

วันถัดมา ตอนที่อานเฉียวตื่นขึ้นมาก็เป็นตะวันโด่งฟ้าแล้ว

เธอออกไปเดินเล่นทั่ววิลล่าหนึ่งรอบ ล้วนหาเฟิงเหยียนไม่เจอ คิดว่าน่าจะไปทำงานที่บริษัทแล้ว

อานเฉียวจิตใจหดหู่เล็กน้อย ในวิลล่าขนาดใหญ่ที่มีเพียงแค่ เธอคนเดียว หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกกลวงว่าง เธอได้เพียงแต่ กลับไปห้องล้างหน้าล้างตา จากนั้นเพิ่งล้างหน้าล้างตาเสร็จ มือ ถือก็ดังขึ้นแล้ว คือเฟิงเหยี่ยน
อานเฉียวรับสาย เสียงต่ำเซ็กซี่ของเฟิงเหยี่ยนส่งเข้าหู “ตื่น หรือยัง?”

ใบหน้าอานเฉียวแดงเล็กน้อย แท้ที่จริงแล้วเธอไม่ได้ตั้งใจจะ นอนถึงเวลานี้ ยามปกติล้วนนอนหลับยากมาก ก็ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อคืนนอนหลับดีขนาดนี้

เธอแลบลิ้นแล้วแลบลิ้นอีก อืม เสียงหนึ่ง

“ตอนเที่ยงอยากกินอะไรหรือ?”

อานเฉียวคิดแล้วคิดอีก โดยจิตใต้สำนึกก็เข้าใจความหมาย ของคําพูดเขาว่าเขาจะกลับมากินข้าวจากนั้นพูดอย่างตามใจว่า “ตามสบาย กินอะไรก็ได้

“ตามสบายไม่ได้ เลือกสักอย่าง ผมให้คนส่งไปให้คุณ อานเฉียวนี่จึงได้รู้ว่าที่แท้เขาไม่ได้จะกลับมาเลย ตนเองคิด

เข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวอีกแล้ว

“จืดๆหน่อยก็พอแล้ว ฉันไม่เลือกกิน

เฟิงเหยียนอมเสียงหนึ่ง ไม่พูดอีก

เขาไม่พูด อ่านเฉียวยิ่งไม่มีประเด็นที่จะเอ่ยขึ้นมาด้วยตัวเอง คุยกันอีก ดังนั้นตกเข้าสู่ในความเงียบทันที ก็อยู่ตอนที่เธอสงสัย ว่าฝั่งตรงข้ามวางสายแล้วใช่หรือไม่ อยู่ดีๆก็ได้ยินเฟิงเหยี่ย นพูดว่า “ตอนบ่ายจะมีคนส่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันเข้าไปให้ คุณเปิดประตูให้พวกเขาสักหน่อย
อานเฉียวพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก พยักหน้าเสร็จจึงรู้สึก ถึงว่าเขามองไม่เห็น ดังนั้นตอบกลับว่า “ได้” ทันทีที่เธอตอบนี้ ฝั่งตรงข้ามตกเข้าสู่ความเงียบอีกแล้ว

อานเฉียวมีความงงเล็กน้อยแล้ว คนนี้เป็นอะไรกันแน่? ว่าง งานเกินไปแล้วหรือ? โทรมาก็ชอบไม่พูดอีก

เงียบไปเป็นเวลานาน อานเฉียวในที่สุดก็อดไม่ไหว ลองถามดู ว่า “ยังมีเรื่องอะไรหรือ? ถ้าไม่มีอะไรล่ะก็ฉันจะวางสายแล้ว โอ๊ะ”

โทรศัพท์ฝั่งโน้นก็ยังไม่มีเสียง ผ่านไปนานมาก จึงได้ยินเขา พูดเสียงเบาๆว่า “บ่ายสี่โมง ผมจะพาคุณไปแต่งหน้าทำผม กลางคืนไปเข้าร่วมงานเลี้ยงประจำตระกูลเป็นเพื่อนผม

อานเฉียวอึ้งชะงักไปสักพัก นานมากจึงมีปฏิกิริยากลับมา สิ่ง ที่เขาพูดถึงงานเลี้ยงประจำตระกูลคือหมายความว่าอะไร

นี่คือจะประกาศความสัมพันธ์หรือ?

ใบหน้าของเธอแดงแล้วแดงอีก ลังเลสักพัก จึงๆอึ้งๆ พูดว่า “จะไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ?”

คำพูดของเธอ ทำให้เฟิงเหยียนตื่นตะลึงเล็กน้อยสักพัก

จากนั้น อารมณ์ล้วนมีความสุขขึ้นมาทั้งตัว หางคิ้วหางตาล้วน ข้อมรอยยิ้มที่ไม่สามารถควบคุมได้

สาวน้อยเพียงแค่เร็วเกินไปแล้ว กลับไม่ได้ปฏิเสธโดยตรง ช่างประหลาดใจจริงๆ!
ดูแล้วเธอยังรู้ว่าเขาดีต่อเธออยู่

ทันทีที่นายเฟิงมีความสุข ก็ตัดสินใจตีเหล็กเมื่อยังร้อน วางมาดขรึมพูดว่า “ไม่เร็ว ยังไงพวกเราก็จดทะเบียนสมรสแล้ว เช่นกัน เรื่องการประกาศไม่ช้าก็เร็ว

อานเดียวก็ยังมีความลังเลเล็กน้อย “แต่ว่า”

เฟิงเหยี่ยนหยอกล้อ “คงไม่ใช่เป็นสะใภ้ที่น่าเกลียดกลัวว่าจะ เจอกับพ่อปู่แม่ย่าล่ะ?”

ทันทีนั้นอานเฉียวไม่พอใจเบ้ปากขึ้นมา “คุณจึงน่าเกลียด ทั้ง บ้านของพวกคุณล้วนน่าเกลียด!

“ฮ่าฮ่า”

เฟิงเหยียนยากที่จะหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข ใน ออฟฟิศ ผู้ช่วยฉันจ้องมองรอยยิ้มที่สดใสของประธานบ้าน ตนเอง ก็เหมือนดั่งได้เห็นฟอสซิลที่มีชีวิต ตื่นตะลึงเหลือเกิน

ที่รักของผม ประธานมีชีวิตอยู่มายี่สิบเจ็ดปี เกรงว่าจะไม่เคย หัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเช่นกัน

เป็นบ้านเก่าไฟไหม้แย่แล้วล่ะเหมือนอย่างที่คิด!

เฟิงเหยี่ยนไม่รู้การเคลื่อนไหวในใจของผู้ช่วยฉันเลย หัวเราะ ไปสักพัก พูดว่า “เป็นเด็กดี คืนนี้ผมจะไปรับคุณ”

พูดจบ ก็วางสายลง

เขาเงยหน้าจ้องมองผู้ช่วยฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ ยากที่จะมีอารมณ์ดี โบกมือแล้วโบกมืออีก พูดว่า “ไปเรียกมอริสมา ผู้ช่วยฉินขานรับไปเลย

ในออฟฟิศก็เหลือเพียงแค่เพิ่งเหยียนคนเดียว เขาลุกขึ้นมา จากโต๊ะทํางาน เดินไปข้างหน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสที่กว้าง ใหญ่ ก้มมองรถไหลคนเดินที่เล็กน้อยดั่งมดที่อยู่ข้างล่าง ตาขึ้น มาเล็กน้อย

เรื่องเมื่อคืน เตือนสติเขาสักอย่าง

สองปีก่อนอานเฉียวถูกคนเข้าใจผิด ยังออกหนังสือพิมพ์แล้ว แม้ว่าทั้งๆที่รู้คนคนนั้น ในปีนั้นก็คือตนเอง แต่เพื่อที่จะปกป้องอีก คนหนึ่งไว้ เขาพูดไม่ได้ แต่ก็จะไม่ให้อานเฉียวได้รับการรังแก อย่างนี้อีก วิธีเดียวก็คือให้คนทั้งหลายล้วนรู้ว่าเธอคือคุณนาย เฟิงที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เขาเพิ่งเหยียนก็ไม่เชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีคนกล้าที่จะรังแกบนหัว ของภรรยาเขา!

ตอนเที่ยงเพิ่งกินอาหารเสร็จ คนที่ส่งเสื้อผ้าก็มาถึงแล้ว

อานเฉียวเชิญพวกเขาเข้าบ้านอย่างมีมารยาทมาก เห็นพวก เขากลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเหมือนดั่งย้ายบ้าน ย้ายของเข้ามาในบ้าน ตะลึงงันจนเบิกตาโพลง

นี่ นี่ นี่นี่ก็เยอะเกินไปแล้วมั้ง!
เธอทั้งตื่นตะลึง ทั้งไปเทให้กับคนงานที่ย้ายของเหล่านั้น คนละแก้ว ให้พวกเขาพักสักหน่อย เดิมทีเพียงแค่มารยาทที่เป็น ความเคยชิน กลับทำให้คนเหล่านี้ตื่นตะลึงเพราะได้รับความ โปรดปรานอย่างคาดคิดไม่ถึง บอกขอบคุณคุณนายเฟิงต่อๆกัน

ใบหน้าอานเฉียวอดไม่ได้ที่จะแดงขึ้นอีก

แท้จริงแล้วในสองปีนี้เธอตัวคนเดียวขยันทำงานและประหยัด เงินทองศึกษาเล่าเรียนอยู่ประเทศฝรั่งเศส ก็ผ่านความทุกข์มา มากมายเช่นกัน ดังนั้น ไม่มีการดูถูกเหยียดยามกับบุคคลชั้น ล่างในสังคมเหล่านี้เลย พูดคุยกับพวกเขาหลายคำ จึงรู้ว่าพวก เขาล้วนเป็นพนักงานชั้นล่างของเฟิงชื่อกรุ๊ป

เพราะว่ายังไม่รู้ว่าสิ่งที่ซื้อคืออะไรบ้าง ดังนั้นอานเฉียวเพียง ให้พวกเขาย้ายของเข้าห้องรับแขก ก็ให้พวกเขากลับไปเลย จากนั้น ก็เป็นงานแกะกล่อง ในทั้งบ่าย

ใจเฟิงเหยียนละเอียดอ่อนมาก ไม่เพียงแค่ซื้อเสื้อผ้ารองเท้า ให้แก่เธอ ยังมีของใช้ในชีวิตประจำวันเป็นชุด

อานเฉียวจนถึงในเวลานี้ จึงเชื่ออย่างแท้จริง เธอแต่งงานแล้ว ถึงแม้ว่ามีเศษส่วนที่ทั้งผลักทั้งยอมรับบ้าง แต่จดทะเบียนสมรส แล้ว เธอก็ตามเขามาถึงในบ้านเขา ฟังเสียงช่วงเช้าของเขา คืนนี้ยังต้องไปเจอคนในบ้านของเขา ดังนั้นไม่มีทางกลับใจแล้ว

อานเฉียวคิดอยู่นานมาก ในที่สุดจึงตัดสินใจ ไม่มีทางกลับใจ ดังนั้นก็ไม่ต้องกลับใจ เธอก็จะทำให้คนที่พูดให้ร้ายเหล่านั้นดู หน่อย เธอจะผ่านไปด้วยดี ไม่ต้องให้พวกเธอเป็นห่วงสักนิด!
บ่ายสี่โมง เฟิงเหยี่ยนถึงบ้านตรงเวลา

เขาไม่ได้เข้าบ้าน นั่งอยู่บนรถโทรหาอานเฉียว ผ่านไปไม่นาน ก็มองเห็นผู้หญิงตัวเล็กที่แต่งตัวเรียบง่ายสะอาดทั้งตัววิ่งออกมา จากวิลล่า

อานเฉียวเก็บของทั้งบ่าย เหนื่อยจนเหงื่อเต็มหัว นี่เพิ่งอาบน้ำ เสร็จ บนกายยังมีกลิ่นหอมบางๆของครีมอาบน้ำกระจายอยู่ เพิ่ง เหยี่ยนได้กลิ่นแล้ว มุมปากยิ้มเบาๆ ซุกเข้าไประหว่างคอเธอดม อย่างละเอียดหนึ่งที่ “หอมมาก

ใบหน้าน้อยๆของอานเฉียวแดงขึ้น “อย่าพาลหาเรื่อง

“เหอะ!” ความเขินอายของผู้หญิงตัวเล็กทำให้เขาดีใจ เพิ่งเห ยี่ยนใจยิ่งสั่นไหวขึ้นมา คว้าศีรษะของเธอไว้ก็ให้เธอทับบน ตนเอง จูบริมฝีปากของเธออยู่

ริมฝีปากของอานเฉียวนิ่มๆหวานๆ เขามักจะจูบยังไงก็ไม่พอ การกระทำค่อยๆลึกลงไป มือทั้งคู่ก็เริ่มไม่อยู่นิ่งเคลื่อนย้ายไปมา อยู่บนกายเธอ

อานเฉียวถูกเขาจูบจนแทบจะหายใจไม่ออก รู้สึกถึงมือใหญ่ที่ เคลื่อนย้ายถึงหน้าอก ตัวเธอแข็งที่อทันที ผลักเขาหนึ่งที่ ฮี เสียง เบาๆ “อย่า”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ