วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่224 ส่งผิดคน



ทันใดนั้นผู้คนมากมายมารวมตัวกันเพื่อ แสดงความยินดีกับเธอ

“เสี่ยวหย่า อิจฉาเธอจังเลย เธอมีความสุข มากเลยนะ!”

“คุณชายมู่ดีกับเธอขนาดนี้ เขาสปอยเธอ อย่างกับเจ้าหญิงเลยนะ! ฉันว่าเธอเล็กถ่ายหนัง แล้วกลับบ้านเป็นคุณนายก็คงไม่มีใครว่าเธอ หรอก”

“ใช่ เมื่อไหร่พวกเราถึงจะมีชีวิตดี ๆ แบบ เธอบ้างนะ ได้เจอเจ้าชายขี่ม้าขาวดี ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าในขณะเดียวกันก็ใช้สิ่งนี้เพื่อ เหยียบย่าจิ้งหนิง

“ฉันบอกแล้วไง! คนที่คุณชายมู่ชอบน่ะจะ ต้องเป็นเสี่ยวหย่าของพวกเราแน่นอนอยู่แล้ว คน บางคนก็ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ เอาแต่คิดเข้า ข้างตัวเองว่าตัวเองนั้นมีความสัมพันธ์กับคุณชา ยม ละเมอเพ้อพกเหมือนคนปัญญาอ่อน

“ชิ เธอไม่รู้เหรอว่ามันคนประเภทที่เรียกว่า พวกหลงผิดน่ะ? โรคพวกนี้นานไปน่ากลัวมากนะ เสี่ยวหย่า ต่อไปเธอต้องอยู่ห่างเธอเอาไว้ล่ะ”

“ใช่จ้ะ ๆ อาศัยวิธีที่ไม่เป็นธรรมเพื่อให้ได้ บทนักแสดงหญิงหลักแล้วยังคิดว่าตัวเองเก่งเสียเต็มประดา?”

“ให้เธอออกมาดูสิ! ดูว่าคุณชายมู่ของเราดี กับเสี่ยวหน่าแค่ไหน ให้เธอถามตัวเองดูว่าหน้าซา รึเปล่า?”

จิ้งเสี่ยวหย่าที่ถูกสาว ๆ รุมล้อมอยู่นั้นเมื่อ ได้ยินคําเยินยอของพวกเธอแล้ว รู้สึกว่าน้ำผึ้งเอ่อ ล้นอยู่ในใจ

ความพึงพอใจที่มากมายเช่นนี้ทําให้เธอ รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เธอยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วพูด: “พวกเธออย่าพูดแบบนั้นสิ

แล้วช่วยพูดแทนจิ่งหนิง: “พี่ฉันก็ดี เรื่อง ก่อนหน้านี้อาจจะเป็นเรื่องเผลอไผลไปชั่วขณะ ฉันยกโทษให้เธอนานแล้วล่ะ ดังนั้นพวกเธออย่า ไปกดดันเธอเลยนะ ถือเสียว่าไว้หน้าเธอดีไหม?”

“เสี่ยวหย่า เธอเป็นคนดีเกินไปแล้ว ช้าเร็ว เธอก็จะถูกคนคนนั้นทำร้าย”

“โอ๊ย พอเถอะ เห็นแก่เธอ พวกเราจะพูดถึง ให้เธอน้อย ๆ แล้วกัน”

ทุกคนต่างพูดไปต่าง ๆ นานา ในตอนนั้น เองก็เห็นว่าพนักงานที่ออกมาพร้อมกับบัตรใบ เสร็จก็หันกลับมา

เขาขมวดคิ้วแล้วเดินไปที่จึงเสี่ยวหย่าแล้ว ถามขึ้นด้วยความสงสัย: “คุณคนนี้คือคุณจึง หนิงรึเปล่าครับ?”
จึงเสี่ยวหย่านิ่งไป

รอบข้างเธอก็อึ้งไปเช่นกัน

มีคนที่มีปฏิกิริยาและพูดขึ้นด้วยความ โมโห “จิ้งหนิงอะไร? นี่จึงเสี่ยวหย่า ไม่มีทางเป็น จิ่งหนิงหรอก!”

พนักงานคนนั้นถอนหายใจ

“ทําไมไม่บอกแต่เนิ่น ๆ ล่ะ ดอกไม้นี้ส่งให้

คุณจิ่ง จิ่งหนิง ไม่ใช่ส่งให้คุณ คุณเซ็นผิดแล้ว”

เขาพูดต่อหน้าทุกคนแล้วเขาขีดฆ่าชื่อของ จิ้งเสี่ยวหย่าบนการ์ด

จิงเซี่ยวหย่า: “”

คนรอบข้าง: “.….”

ประกอบกับในตอนนั้นเองที่จิ่งหนิงเดินออก มาเมื่อเห็นทุกคนต่างมีสีหน้าแปลก ๆ จึงถามขึ้น ด้วยความสงสัย: “นี่มันอะไรกัน?”

พนักงานคนนั้นจึงเดินเข้าไปถาม “สวัสดี ครับ ขอถามว่าคุณรู้ไหมคุณจิ่ง จิ่งหนิงอยู่ ที่ไหน?”

จิ่งหนึ่งตกตะลึงและงงเล็กน้อย

“ฉันนี่แหละค่ะ มีอะไรคะ?”

พนักงานรู้สึกเหมือนพบสมบัติทันทีและรีบ ส่งบัตรที่มีชื่ออยู่
“พวกนี้คือดอกไม้ที่คุณลู่ส่งให้คุณครับ คุณ ช่วยเข็นรับค่าย

จิ้งหนัง ”

เธอมองไปที่ทะเลดอกไม้เหมือนก้อนเมฆสี แดงที่อยู่ตรงหน้าและรู้สึกปวดสมองขึ้นมาทันใด

ลู่วิ่งเซินทําบ้าอะไรเนี่ย?

เมื่อต้องเผชิญกับสายตาที่จ้องมองจากทุก คนเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับมันและเซ็น ชื่ออย่างไม่เต็มใจ

เพียงแต่ในตอนเซ็นชื่อเธอพบว่ามีคนเซ็น ไปก่อนเธอแล้วหนึ่งชื่อ

ถึงแม้ว่าจะโดนคนใช้ปากกาเมจิกสีดำลบ แล้วแต่ก็ยังพอมองเห็นว่าเป็นชื่อของจิ่งเสี่ยวหย่า

เธอเลิกคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และความซุกซน ก็ฉายแววในดวงตาของเธอ

ไม่ไกล สีหน้าของจิ่งเสี่ยวหย่าโกรธจนหน้า อาหน้าแดง

รู้สึกว่าความลำบากใจทั้งหมดที่ได้รับใน ชีวิตนี้ไม่ร้ายแรงเท่าวันนี้!

กลุ่มผู้หญิงที่ช่วยเธอพูดจาทับถมจิ่งหนึ่งที่ อยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มรู้สึกได้เรื่องมันน่าอึดอัดใจ จึงมอง เธออย่างเกรงใจแล้วพูดขึ้นเบา ๆ “เสี่ยวหย่า พวกเราไม่ได้…
“ไม่ต้องพูดแล้ว!”

จิ่งเสี่ยวหย่าขัดจังหวะพวกเธอด้วยความ โกรธ จากนั้นจึงหันไปมองแรงใส่จิ่งหนิงแล้วหัน หลังเดินจากไป

จิ่งหนิงเซ็นชื่อเสร็จอย่างรวดเร็วแล้วส่ง คืนให้กับเขา

พนักงานรับไปแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม: “ขอบคุณครับคุณ ง ขอให้พวกคุณถือไม้เท้า ยอดทอง กระบองยอดเพชร

พูดจบแล้วก็ส่งการ์ดให้เธอหนึ่งใบจากนั้น จึงเก็บการ์ดที่เซ็นชื่อรับแล้วจากไป

กลุ่มคนที่อยากรู้รอบ ๆ กรูเข้ามา “จิ่งหนิง ใครส่งดอกไม้มาให้เหรอ?”

“ดอกไม้เยอะขนาดนี้ จะต้องเป็นคนรวยแน่ ใช่ไหม?”

“ฉันได้ยินนะที่คนส่งดอกไม้เมื่อกี้พูด คน คนนั้นจีบเธออยู่เหรอ? หรือว่าเธอมีความรักครั้ง ใหม่แล้ว?”

“จิ้งหนิง เธอมีความสุขจังเลย พวกเราอิจฉา เธอจัง!”

คําพูดที่พูดกับจิ่งเสี่ยวหย่าเมื่อครู่นี้ ตอนนี้

มันย้ายข้างมาอยู่ที่จิ่งหนึ่งหมดแล้ว แต่จึงหนิงนั้นไม่ใช่พวกชอบอวดอย่างวิ่งเสี่ยวหย่า เธอเก็บการ์ดแล้วพูดขึ้น: “ไม่มีอะไร หรอก เป็นเพื่อนธรรมดาแค่นั้น ทุกคนไม่ต้องคิด ไกล เอาล่ะ ฉันยังต้องเตรียมตัวสําหรับฉากต่อไป ทุกคนแยกย้ายเถอะ”

พูดจบแล้วก็หันหลังแล้วเดินกลับไปที่ห้อง

เมื่อมีคนเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะพูดออก มา

“แสร้งทําเป็นสูงส่งเสียเต็มประดา? น่า เกลียดจริง ๆ”

“จริงด้วย ไม่รู้ว่าเป็นไฮโซคนไหน พอเห็น ว่าคุณชายมู่ที่มองไว้ไม่ได้แล้วก็คิดจะไปหาคน อื่น!”

“ก็พูดเป็นมารยาทแค่นั้นแหละ คิดจริง ๆ เห รอว่าจะมีใครไปอิจฉาเธอ ไว้หน้าก็ไม่เอา หึ!”

ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายแล้วกลุ่มคนที่เฝ้าดู การแสดงก็แยกย้าย

จิ่งหนิงนั่งอยู่บนโซฟาในห้องพักมองดู

การ์ดสีชมพูอ่อนในมือแล้วรู้สึกตลก

ผู้ชายคนนี้ ยังจะ…

การออกแบบการ์ดมีความละเอียดอ่อนมาก พร้อมสีชมพูอ่อน วัสดุดูมีราคาสูงมากพื้นผิวนุ่ม ลื่นล้อมรอบด้วยด้ายสีทองและมีการเขียน ประโยคไว้ตรงกลาง
“ฉันรักเธอเหมือนความเจ็บป่วยที่ยาวนาน ไม่มียารักษา———

เธอยื่นมือออกไปลูบเบา ๆ ไปตามตัวอักษร สีทองครู่หนึ่งก็ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

อืม ถึงแม้ว่าจะไม่เชื่อฟังเธอ ให้รอเฉย ๆ ไม่ ต้องทำอะไร แต่ก็ยังดีที่ฉลาดที่รู้ว่าห้ามลงชื่อ ยัง ถือว่ารักษาสัญญา

จิ่งหนิงคิดแล้วก็คิดว่าควรจะโทรหาเขา อีกด้านนั้นลู่จิ่งเซินกำลังเข้าประชุม

ทันทีที่โทรศัพท์ของเขาสั่นเขาก็นิ่งไปแล้ว พูดเสียงดัง: “พักประชุม ทุกคนไปพักได้ อีกสิบ นา กลับมาประชุมกันต่อ”

พูดจบแล้วก็หยิบโทรศัพท์แล้วออกไป

สําหรับการที่ BOSS ใหญ่สั่งพักและรับ โทรศัพท์ระหว่างการประชุมนั้น ทุกคนแปลกใจ ในตอนแรกแต่ตอนนี้ก็ชินแล้ว

เพื่อเธอ BOSS ได้ทำเรื่องที่ไม่ปกติ มากมาย เรื่องรับโทรศัพท์ระหว่างประชุมจะนับ ประสาอะไร

มีคนล็อก็ย่อมมีคนจงเกลียดจงชัง

เมื่อนึกถึง BOSS ผู้กล้าหาญของพวกเขา ที่ เป็นดังผู้ซื่อตรงที่มีอายตนะทั้งหกที่สมบูรณ์ เหตุ ใดตอนนี้ถึงติดผู้หญิงงอมแงม?หญิงงามล่มเมือง ท่าน BOSS จะต้อง พิจารณาให้ถี่ถ้วน!

อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้ไม่มีทางเล็ดลอด ไปถึงหูลู่วิ่งเขินได้

เขายืนอยู่บนทางเดินแล้วรับสายพูดเสียง อ่อนโยน“หนิงหนิง ได้รับดอกไม้รียัง?”

จิ่งหนิงตอบแบบกลาง ๆ “อืม” แล้วถาม”ลู่ จิ่งเซิน หมายความว่ายังไง? ส่งดอกไม้มาทำไม มากมายขนาดนั้น?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ