วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 972 เพื่อนเก่าพบเจอกัน



บทที่ 972 เพื่อนเก่าพบเจอกัน

จิ่งหนึ่งไม่ได้บอกความคิดของตัวเองออกมา

ถึงอย่างไรเธอกับเจ้านายหยูคนนี้ก็ไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่ ไม่รู้ เหมือนกันว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไงด้วย

ลู่หลินจือไว้ใจไม่ได้ ขนาดคนที่เธอรู้จักดีหรือชั่วเธอเองยัง บอกไม่ได้เลย ไม่สามารถได้ข้อมูลที่มีค่าเท่าไหร่จากเธอได้เลย

พอคิดแบบนี้แล้ว จึงหนิงพูดเสียงต่ำว่า “ในเมื่อหยกแขวนตัว นี้เป็นของเธอ ก็ขอเจ้านายหยูช่วยเชิญเพื่อนคนนี้ออกมาเจอ หน่อยเถอะ ฉันจะได้เอาของคืนให้เธอต่อหน้า

เจ้านายหยูพยักหน้า

ถึงแม้รู้สึกว่าท่าทีของสิ่งหนึ่งดูแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

ไม่นานเขาก็โทรหาโม่ไฉ่เวยและอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังแล้ว

โม่ไฉ่เวยเพิ่งกลับไปได้ไม่นาน ไม่คิดว่าต่อมาก็ได้รับสายจาก เจ้านายหยูแล้ว

หลังจากที่รู้ว่าหาหยกแขวนตัวนั้นเจอแล้วก็ได้ดีใจอย่างยิ่ง “จริงเหรอ หาเจอเร็วขนาดนี้เลยเหรอ”

“ก็ใช่นะสิ ตอนนี้คนเขากำลังอยู่ที่ห้องรับแขกในงานนี้อยู่รอ ส่งของคืนให้คุณต่อหน้าอยู่เลยนะ พวกคุณรีบมาเถอะ
โม่ไฉ่เวยตื่นเต้นจนพยักหน้าไม่หยุด “ได้ ฉันจะรีบมา

หลังจากวางสายลง เขารู้สึกมีอะไรบางอย่างแปลกๆ

“ไฉ่เวย ทำไมหาเจอเร็วขนาดนี้ หรือว่าคุณคนนั้นสามารถ โทรจิตกับพวกเราได้ วินาทีที่แล้วรู้ว่าเราจับเธอได้บนกล้อง วงจรปิดแล้ว วินาทีต่อมาก็รีบเอาของมาส่งคืนเราแล้ว?

โมไฉ่เวยมองบน ให้กับเขา

“อะ คุณอย่าเอาใจคนต่ำต้อยวัดท้องสุภาพบุรุษสิ ไม่แน่อาจ จะเป็นหลังจากที่คุณคู่คนนั้นเก็บของได้แล้วก็อยากจะเอาของมา คืนให้เรามาตลอด แต่เนื่องจากว่าตอนนั้นมีเรื่องด่วนต้องรีบไป แต่ไม่ไว้ใจเอาให้เจ้านาย วันนี้มีเวลาว่างแล้วจึงตั้งใจเอาก็ได้? เราเป็นคนก็ต้องมีจิตใจที่ดี อย่าเอะอะก็เดาว่าคนอื่นเป็นคนร้าย

ที่เชวหมดหนทางที่สุดก็คือจุดนี้ของเธอ

ใจดีและมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว

ไม่ว่าเคยผ่านเรื่องไม่มีความเป็นธรรมมามากแค่ไหนแล้ว ใจ ดวงนั้นก็เป็นแบบนั้นมาตลอด ครั้งแรกมักจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็น คนดีตลอด ไม่เคยไปสงสัยคนอื่น ในแง่ลบเลย

แบบนี้ถ้าพูดให้น่าฟังแล้วเรียกว่าใสซื่อ ถ้าพูดไม่น่าฟังหน่อย ก็คือโง่

เฮ้อ แล้วทําอะไรได้อีกล่ะ
ข้อเสียของเธอคือจุดนี้ แต่ที่ตัวเองรักเธอ ก็เพราะรักจุดนี้ของ เธอไม่ใช่เหรอ

นิสัยของเขาเรียบง่ายมาก หลายปีนี้ตั้งใจศึกษาวิจัยทางการ แพทย์มาตลอด ไม่ชอบหลักครองตนในสังคมที่ยุ่งยากเกินไป หวังแค่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนข้างกายอย่างเรียบง่ายตลอด ไป

ส่วนโม่ไฉ่เวย ก็คือคนที่มีจิตใจอันเรียบง่ายที่สุดบนโลกใบนี้ เท่าที่เคยเจอมา

เชวซูได้แต่ใจพาเธอออกบ้าน

ไม่นานสองคนก็มาถึงงานแล้ว

อยู่ข้างนอกห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังกระดิ่งของผู้ หญิงดังออกมาจากข้างในแล้ว

“อุ้ย เจ้านายหยู อดพูดไม่ได้เลยว่าพวกเราคือใจตรงกันเลย จริงๆ คิดถึงเรื่องเดียวกันเลย ฉันจะบอกคุณนะ คุณอยากทำการ ค้าขายในประเทศจีน ถ้าไม่มีตระกูลลู่เราสนับสนุน มันจะลำบาก ในหลายๆ ด้านเลยนะ แต่ถ้ามีพวกเราตระกูลลู่ มันก็จะเหมือน เสือติดปีก ประสบความสำเร็จได้อย่างพรวดพราดแล้ว”

โมไฉ่เวยยิ้มอย่างจำใจ เงยหัวขึ้นมาพูดกับเซวว่า “เป็นคุณ ลู่จริงๆ”

เชวพยักหน้า ผลักประตูออกมา สองคนเดินเข้าไปด้วยกัน

จิ่งหนึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงนั้น ดื่มชาไปด้วย ฟังลู่หลินจือขี้โม้ไปด้วย

ลู่หลินจือคนนี้นะ ความจริงแล้วก็ไม่เชิงว่าเลว จริงๆ แล้วใจ ของเธอก็เรียบง่ายมาก

ก็แค่มีความโลภเล็กน้อย ชอบคุยโม้โอ้อวดความดีความเก่ง กล้าของตนเล็กน้อย บวกกับเห็นแก่ตัวเล็กน้อย

ส่วนอย่างอื่นก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก ถ้าจะให้เธอไปทำ เรื่องใส่ร้ายคนอื่นด้วยตัวเองจริงๆ เธอไม่มีความกล้านั้นแน่นอน อยู่แล้ว

แต่ถ้าสมมติว่ามีคนใส่ร้ายคนที่เธอไม่ชอบอยู่ และเธอก็มี โอกาสไปเพิ่มเพลิงอีก

งั้นเธอต้องเป็นเพลิงที่ลุกวูบวาบที่สุดแน่นอน เผาคนอื่นให้

ตายเลยดีที่สุด

เพราะฉะนั้นไม่สามารถใช้ดีหรือชั่วอย่างเดียวมาบรรยายเธอ คนนี้ ไปมาหาสู่กันมาหลายปีนี้ เธอก็ถือว่าเข้าใจได้ดีแล้ว รู้ว่า จริงๆ แล้วเธอคนนี้ก็แค่นั่นแหละ

ภายนอกยิ่งแยกเขี้ยวยิงฟันแค่ไหน ความเป็นจริงข้างในยิ่ง ว่างเปล่าและหวาดกลัว

จิ่งหนึ่งกำลังดื่มชาอยู่ หางตาจู่ๆ เหลือบไปมองเห็นมีคนหนึ่ง เข้ามาตรงประตู

เธอรีบเม้มปากทีหนึ่งและวางแก้วลงมา
แต่พอเลยหัวขึ้นมาก็ตะลึงอย่างหนัก

ลู่หลินจือลุกขึ้นมา

“คุณโม่กับคุณหมอเซวมาแล้ว รีบมานั่ง ฉันกำลังคุยกับเจ้า นายหยูอย่างสนุกอยู่เลยนะ!!

โม่ไฉ่เวยกับเชวซูเดินไป นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามพวกเธอ

โม่ไฉ่เวยหัวเราะเบาๆ ว่า “เจอกันอีกแล้ว คุณลู่ ได้ข่าวว่าคุณ เก็บหยกแขวนที่หายไปของฉันได้ใช่ไหม”

ลู่หลินจือยิ้มพยักหน้า “ใช่ๆๆ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ทำไมคุณไม่ ระมัดระวังอย่างนี้เนี่ย ยังดีที่ฉันเป็นคนเก็บได้ ถ้าเป็นคนอื่นที่ เก็บไปได้ คุณลองดูสิว่าเขายังจะคืนให้คุณอีกไหม

โม่ไฉ่เวยยิ้มพยักหน้า “คุณลู่พูดถูก ขอบพระคุณมากๆ เลย ลู่หลินจือถูกเธอประจบสอพลออย่างพอใจอย่างยิ่ง หันหน้า กลับไปดูที่จิ่งหนิง

“หนิงหนิง เอาของออกมาเลย แต่จึงหนิงกลับไม่ดิ้นเลย

เธอก็เหมือนกับกลายเป็นหินแล้วอย่างนั้น ต้องตาโตดูผู้หญิงที่ อยู่ข้างหน้า ทั้งคนราวกับรูปปั้น

ลู่หลันจือตะลึงและขมวดคิ้ว

“หนิงหนิง?”
เธอยื่นมือออกไปผลักจิ้งหนึ่ง “เธอดูอะไรอยู่เนี่ย รีบเอาหยก แขวนออกมาคืนให้เขาสิ!”

จึงหนิงเกิดหวนนึกขึ้นมาได้

สีหน้าของเธอขาวซีดเล็กน้อย ถ้าสังเกตดีๆ ยังสามารถเห็น แสงจากน้ำตาอันแพรวพราวที่อยู่ในดวงตาดั่งน้ำใสในฤดูใบไม้ ร่วงนั้นได้อีกด้วย

“ป๋า” เธอเรียกออกเสียงเบาๆ เสียงมีความแหบเล็กน้อย

หลันคือตกใจกับท่าทางอกสั่นขวัญหายอย่างนี้ของเธอมาก รีบลุกขึ้นมาเดินไปข้างเธอทันที พูดอย่างตื่นเต้นว่า “หนิงหนิง นี่ เธอเป็นอะไรเหรอ เธออย่าทำให้ฉันกลัวสิ!”

วิ่งหนึ่งทำตัวให้ตึง หันหน้าอย่างเครื่องจักร ดูโม่ไฉ่เวยที่อยู่ อีกฝั่ง

โม่ไฉ่เวยถูกเธอมองจนรู้สึกงงมาก จึงหันหน้าไปใช้สายตา สงสัยมองเชว เห็นสีหน้าของเซวก็มึนงงเช่นกัน ทีนี้ถึงกับ ขมวดคิ้วขึ้นมา

“คุณ…เป็นอะไรหรือเปล่า

เธอหยั่งเชิงถามอย่างเป็นห่วง

จิ่งหนิงตัวสั่นอย่างแรง

จู่ๆ เธอลุกขึ้นมา เดินไปทางโม่ไฉ่เวยทีละก้าวๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจกัน แม้แต่เจ้านายหยูก็ลุกขึ้นมายืนแล้ว

โมไฉ่เวยกับเซวซูก็ลุกขึ้นอัตโนมัติแล้วด้วย

อาจเป็นเพราะสัมผัสลมหายใจเศร้าโศกอันใหญ่หลวงที่ออก จากตัวเธอได้ สีหน้าของไม่ไฉ่เวยมีการเปลี่ยนแปลง และแอบมี ความขาวซีดเล็กน้อยด้วย

เธอจับมือของเขาไว้ไม่รู้ทำไม เมื่อมองตาของจิ่งหนึ่ง ในใจ เธอมีความรู้สึกเจ็บปวดแบบอึดอัดอย่างหนึ่งที่มิอาจอธิบายออก มาได้

เหมือนมีคนเอาหินก้อนใหญ่มาทับไว้ตรงหน้าอกของเธอ อย่างนั้น กดเธอจนไม่สามารถหายใจออกได้

“อะ” เธอเรียกเบาๆ

เซวซูกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างระวังตัว มองสิ่งหนึ่งที่

อยู่ตรงข้ามและปลอบโยนว่า “ไม่ต้องกลัว ผมอยู่ตรงนี้

เขาเม้มปาก เมื่อจิ่งหนึ่งเดินมาใกล้ถึงข้างหน้าโม่ไฉ่เวย จู่ๆ ก็

ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ขวางไว้ข้างหน้าโม่ไฉ่เวย

“คุณอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว”

จึงหนิงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตะลึง

สีหน้าของเซวซูมืดเย็น แต่ในตากลับเปล่งความสงสัยออกมา

“คุณครับ ภรรยาผมร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ไม่ชอบอยู่กับคน แปลกหน้าใกล้เกินไป ถ้ามีเรื่องอะไรก็เชิญคุยตรงนี้ก็พอแล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ