วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่648 เธอสบายดี



บทที่648 เธอสบายดี

ไซซี กูยิงคิดว่า ที่ระหว่างเธอกับเฟิงกลายเป็นแบบนี้ ทำ สงครามเย็นเช่นนี้

ไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนตรงปากไว พูดคำพูดแบบนั้นออกมา จนถูกเฟิง จับพิรุธได้

แต่เป็นเพราะถังลั่วเหยา

หากไม่มีเธอ หากไม่ใช่เธอหว่านเสน่ห์จนเฟิงหลงใหลจะ ต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ ก็จะไม่เกิดเรื่องพวกนั้น

ผู้หญิงในวงการบันเทิง ไม่มีใครสักคนจริงๆ

ตอนนี้ถังลั่วเหยาไม่รู้เลยว่าถูกยิงกำลังคิดอะไร

หากรู้ จะต้องรู้สึกอยุติธรรมอย่างแน่นอน

เธอตั้งใจถ่ายละคร ตั้งใจทำงาน ไม่เคยทำพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่ เหมาะสมอะไรพวกนั้น และยิ่งไม่ใช่เพราะว่าอยากขึ้นไปนั่งบน ตำแหน่ง จนต้องใช้วิธีการที่สกปรกพวกนั้น

ทำไมจะไม่ใช่คนดีล่ะ

แต่เสียดาย คำพูดเหล่านี้ เธอไม่มีโอกาสพูดกับตู้กูยิง

เห็นแต่กูยิงกระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วกล่าวอย่างเย็นซาว่า “คุณนายถังช่างพูดจริงๆ ไม่แปลกใจที่ได้สั่งสอนลูกสาวออกมา ได้ฉลาดเช่นนี้ ไม่พูดถึงเรื่องทำให้ผู้ชายหลงใหลจนหัวหมุนยังไม่ยอมกลับบ้าน คนอย่างพวกเราอยู่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ ” คำพูดผีเข้าผีออก ทําให้แม่ถึงคิ้วขมวดเข้าหากัน

หันไปสบตาถังลั่วเหยาอย่างสงสัย

ถังลั่วเหยาก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

แต่เธอไม่ต้องการเถียงคำพูดที่ไร้ประโยชน์พวกนี้กับตูกยิง ชนะแล้วจะเสียความรู้สึก แพ้แล้วยิ่งจะทรมาน

ดังนั้นจึงส่งสัญญาณให้แม่ถึงว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก จากนั้นก็ จบหัวข้อสนทนาทันที

“คุณป้าเฟิงคะ เรายังมีธุระต่อ ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของพวก คุณแล้ว เราไปก่อนนะคะ

พูดจบ ก็ดึงแม่ถังเดินออกไปทางด้านนอก

เมื่อกูยิงเห็นท่าทีถังลั่วเหยาเช่นนี้ สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก

มองดูแผ่นหลังพวกเธอที่เดินออกจากร้านกาแฟ กัดฟันอย่าง ขมขื่น แล้วกล่าวว่า “ปีศาจจิ้งจอกน้อย”

และเวลานี้ หลานสาวลูกพี่ลูกน้องเหวินเหวินที่ยืนอยู่ข้างหลัง เธออย่างเชื่อฟังตลอด โดยไม่พูดอะไร ก็ถามขึ้นว่า “คุณป้าคะ คนนั้นก็คือแฟนสาวของพี่ชายรองหรือคะ”

ตู้กูยิงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเธอยังอยู่ แล้วรีบอธิบายว่า “ใช่ ก็คือ ปีศาจจิ้งจอกคนนั้น เหวินเหวิน ฉันจะบอกกับหนูนะ ต่อไปหนู อย่าไปเรียนแบบผู้หญิงคนนี้เด็ดขาดนะ ประพฤติตัวมั่วสุม ไม่ใช่ผู้หญิงมีอะไร

เหวินเหวินยังเรียนมัธยมปลายอยู่ อยู่ในช่วงค่านิยมทัศนคติของชีวิตกำลังเกิดขึ้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็กะพริบอย่างว่าปกติจะข่าวอื้อฉาวออกมาบ้าง ส่วนใหญ่ล้วนถูกดารา ชายฝ่ายตรงข้ามประทับใจ ตัวเธอเองน้อยให้เกิดข่าวอื้อฉาวอะไรออกมาเมื่อกูยิงได้ยิน สีหน้าเปลี่ยน ไปทันที

ปั้นหน้า แล้วกล่าวสั่งสอนว่า “ยังจะอะไรวงการนี้ ซับซ้อนยิ่งกว่าหนูคิด”

แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงเด็กนักเรียนคนหนึ่ง

หลักฐานไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นโดยไม่เหตุผล

ยิ่งกว่านั้น เธอยังดูละครแสดงโดยหญิงคนนี้ด้วย

ฝีมือการแสดงดีมาก ละครสนุกมาก

แล้วทำไมคุณน้าถึงชอบเธอด้วย

เหวินเหวินท่าทางไม่ตก

ส่วนอีกด้านหนึ่ง

หลังจากถังลั่วเหยาพาแม่ถังออกจากร้านกาแฟแล้ว ก็ขึ้นรถ เตรียมตัวจะไม่เพิ่งมารับพวกแล้ว แต่รับเขาบริษัทโดยตรงเลย

ขณะอยู่บนรถ อารมณ์แม่ถึงค่อนข้างสับสน สิ่งที่แสดงออกบนใบหน้าล้วนเป็นสีหน้าของความกังวล

“เหยาเหยา คุณนายตระกูลเฟิงไม่เห็นด้วยกับงานแต่งงาน ของหนูกับเฟิง เรื่องนี้ทำไมหนูไม่บอกฉัน

ถังลั่วเหยาถอนหายใจ รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยและทำอะไรไม่ถูก เรื่องนี้ เธอรู้ว่าปิดแม่ไม่ได้ ช้าหรือเร็วแม่ถึงก็จะรู้ แต่ก็ไม่คิด ว่า จะเร็วเช่นนี้

และยังเป็นสถานที่และเวลาที่อึดอัดแบบนั้น

เธออธิบายอย่างช่วยไม่ได้ว่า “เหตุผลที่ไม่บอกท่าน ก็ไม่ใช่ เพราะกลัวว่าท่านจะกังวลหรอกหรือ อีกอย่างเรื่องนี้ที่จริงก็ไม่มี ผลกระทบอะไร เราก็ยังอยู่ด้วยกันและแต่งงานกันแล้วไม่ใช่หรือ มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น

แต่ว่า แม่ถึงกลับขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย

“ไร้สาระเรื่องนี้ทำไมถึงไม่สำคัญ ต้องรู้นะว่าการคบกันกับ การแต่งงานมันไม่เหมือนกัน ตอนนี้แกไม่รู้สึกอะไร แต่ใน อนาคตหากเกิดความขัดแย้งกันขึ้น คนในครอบครัวฝ่ายตรง ข้ามคนใดคนหนึ่งไม่เห็นด้วย ก็จะเป็นฉนวนไฟในการเพิ่มความ ขัดแข้งของพวกเธอให้มากขึ้นไปได้

ไม่ว่าอย่างไรแม่ถังเป็นคนที่ผ่านการแต่งงานมาสองครั้งแล้วมีประสบการณ์มากมายในเรื่องการแต่งงาน

ถังลั่วเหยาเม้นริมฝีปาก ครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เรื่องของ อนาคตค่อยว่ากันเถอะ”

แม่ถึงมองดูเธอ ก็รู้ว่าตอนนี้พูดพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์

ไม่ว่าอย่างไร ทั้งสองก็ได้แต่งงานกันแล้ว

ส่วนท่าทีของกูยิง ดูไปแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่วันสองวันจะ สามารถเปลี่ยนแปลงได้

จึงทําได้เพียงถอนหายใจ

“ได้ เรื่องของอนาคตค่อยว่ากัน แต่ว่าหากหนูได้รับความ นําบากใจอะไร ห้ามปิดบังแม่เด็ดขาดนะ เราครอบครัวถึงแม้จะ ไม่ใช่ครอบครัวคนฐานะร่ำรวย แต่ยังมีศักดิ์ศรีของตัวเอง หาก เธอดูถูกเรา เราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปปืนกิ่งไม้สูงนั้น”

ถังลั่วเหยารู้ว่าแม่หมายถึงอะไร

เพียงแต่ว่า เมื่อคิดถึงเฟิง ในใจก็ยังปล่อยวางไม่ลง แต่ก็เพื่อให้แม่วางใจ เธอก็ยิ้มเรียบๆแล้วกล่าวว่า “หนูรู้แล้ว ค่ะ แม่”

แม่ถังพยักหน้า แล้วทั้งสองจึงยุติการสนทนาในหัวข้อนี้ ผ่านไปไม่นาน รถก็มาถึงใต้อาคารบริษัทของเฟิง พวกเธอไม่ได้ลงจากรถ แต่กลับนั่งรออยู่บนรถ
ถังลั่วเหยาส่งข้อความให้เขา บอกเขาว่าตัวเองกับแม่รออยู่ ใต้อาคาร

แล้วกับเขาว่าไม่ต้องรีบร้อน พวกเธอสองคนไม่รีบ ให้เขา ทํางานให้เสร็จก่อน ทําเสร็จแล้วค่อยลงมา

แล้วเมื่อรู้อยู่ว่าภรรยาของตัวเองกับแม่ยายอยู่ใต้อาคาร เพิ่ง

จะมีกะจิตกะใจทำงานได้อย่างไร

ต้องรู้ว่า การให้ภรรยารอสักครู่นะ ยังพอเข้าใจ การที่ให้แม่ยายรอด้วยกันนั้น ช่างไม่รู้ประสีประสาจริงๆไม่ใช่ หรือ

ดังนั้น เฟิง จัดการงานในมืออย่างรวดเร็ว ในส่วนที่เหลือที่ยัง ไม่แล้วเสร็จ ก็สั่งเสียพวกเขาไว้หมด รอพรุ่งนี้ตัวเองมาแล้วค่อย จัดการอีกครั้ง

แล้วก็เลิกงานไปอย่างรีบร้อน เมื่อมาถึงใต้อาคาร เห็นรถของถังลั่วเหยาจอดอยู่ตรงนั้น เขายิ้มและเดินเข้าไป เปิดประตูรถ ก็เห็นพวกเธอนั่งอยู่ข้างใน อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วกล่าวว่า “รอนานแล้วใช่ไหม”

ทีแรกถังลั่วเหยาคิดว่า อย่างน้อยประมาณหนึ่งชั่วโมงเขาถึง จะลงมา

ไม่คิดว่าเพิ่งจะผ่านไปสิบกว่านาทีก็ลงมาแล้ว รู้สึกอด ประหลาดใจไม่ได้
“คุณทํางานเสร็จแล้วหรือ

เพิ่งพยักหน้า “ไม่ใช่งานด่วน ไว้เคลียร์พรุ่งนี้ก็ได้

ถังลั่วเหยาพยักหน้า

แล้วกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราก็เพิ่งจะถึง ที่จริงคุณไม่ต้องรีบขนาด นี้ก็ได้ ”

แม่ถึงก็กล่าวอย่างเกรงใจว่าใช่ เรามาอย่างกะทันหันเช่นนี้ จะเป็นการไม่ดี ถ้าเป็นการรบกวนการทำงานของคุณ ”

เมื่อเพิ่งได้ยินคำนี้ ก็รีบส่ายหัว

“ไม่ครับ ไม่มีแน่นอน เฮ้ย ผมไม่เหมือนกับพวกที่ทำงานแข่ง กับเวลา เคลียร์ก่อนหนึ่งวันหรือเคลียร์ช้าหนึ่งวัน ไม่มีอะไรแตก ต่างมากเป็นพิเศษ ขอเพียงไม่ใช่เรื่องด่วน จะทำเวลาไหนก็ได้”

ประโยคนี้พูดตามความเป็นจริง

ถังลั่วเหยาเข้าใจคุณสมบัติงานของเขาดี ก็พยักหน้าตาม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ