วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 748 ไม่มีค่าพอให้เขาต้องการ



บทที่ 748 ไม่มีค่าพอให้เขาต้องการ

มันทําลายศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจครั้งสุดท้ายของเธอ อย่างสมบูรณ์

ผู้ชายตรงหน้าเธอ ปากร้ายเสียจนไม่น่าเชื่อ แต่ยิ่งเขาพูดคำ พูดที่ใจจืดใจดำมากเท่าไหร่ รอยยิ้มร้ายๆ บนใบหน้าก็ยิ่งจริงจัง ทําให้คนทั้งรักทั้งเกลียด

หลังจากหลินเยว่เอ๋อร์ได้ยินคำพูดนี้ก็ทนไม่ได้อีกต่อไป น้ำตา

ของเธอไหลริน

ใบหน้าขาวเรียบ จู่ ๆ ก็แดงขึ้นจากความอับอาย

เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย กัดริมฝีปากล่าง และร่างผอมบางของ เธอก็สั่นสะท้านราวกับกิ่งต้นหลิวในสายลม

เธอเปิดปากพูดพร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเครือ “คุณกู้ ฉันไม่

“จี้ ไม่ต้องอธิบาย อธิบายไปก็เท่ากับปิดบัง

เขาขัดจังหวะเธออย่างไม่ปรานี้เหมือนกับไม่ต้องการจะฟังสิ่ง ที่เธอคิดจะพูด

หลินเยว่เอ๋อร์ทำได้เพียงปิดปากของเธออย่างไม่เต็มใจ

และเห็นเพียงกู้ซือเฉียนพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่เคยคิดอยาก จะให้ผู้หญิงต้องลำบากใจมากนัก แต่วันนี้เธอรนหาที่เอง อย่าโทษฉันล่ะ เรื่องที่เธอต้องเจอก่อนหน้านี้ ฉันสามารถทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็นได้ แต่หากเธออยากจะใช้มันมาหลอกฉันที งั้นเธอก็ได้ เดียงสาเกินไปแล้ว”

ครืน ๆ

ภูเขาในหัวใจของหลินเยวเอ๋อร์พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ใน ขณะนี้

เธอเงยหน้าและมองกู้ซื้อเฉียนอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเขาจะรู้เรื่องพวกนั้นด้วย

ตอนแรกหลังจากที่เธอถูกผู้ชายคนนั้นหลอกมาขายให้พวก ค้ามนุษย์ เธอก็ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว

พวกนั้นอาศัยความที่เธอไม่บริสุทธิ์อีกแล้ว พวกมันลวนลาม

เธออย่างไร้ยางอายทุกวันทุกคืน เธอไม่ได้รับความช่วยเหลือ

ใดๆ และหมดหนทางจะต่อสู้

ต่อมาเธอถูกขายให้กับพี่น้องตระกูลเกา

พวกค้ามนุษย์พวกนั้นก็จากไปเช่นกัน เธอคิดไปว่าเรื่องพวกนี้ คงจะไม่มีใครรู้อีก

แต่ตอนนี้กู้ซือเฉียนพูดเรื่องพวกนี้ออกมาอย่างไม่ปิดบัง

เขารู้ได้ยังไง?

หรือว่าเขาสืบเรื่องเธอก่อนแล้ว?

ความกลัวที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ผุดขึ้นในหัวใจของเธอทําให้ใบแดงก่ำของเธอซีดขาวทันที

แน่นอนว่าซือเจียนตรวจสอบเรื่องของแล้ว

ตระกูลใหญ่ ประเทศ

คนที่ที่อยู่ท่ามกลางพวกปากปราศรัยน้ำใจเชือด

ไม่เหตุผลปล่อยให้คนอยู่รอบๆ ตัวเขา ถ้าไม่แต่ตรวจสอบสำคัญและประสบการณ์ ไม่อย่างนั้นใครก็คงเข้าใกล้ได้และใครสามารถ

ดังนั้นการซื้อเฉียนจึงให้คนสืบเรื่องของเธอ โดยละเอียด ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เพียงเพราะหลินเยว่เอ๋อร์

ดังจึงรู้สึกประหลาดเท่านั้นเอง

ตอนนี้ เมื่อเขารู้หมดแล้ว ตนเองไม่สามารถจะปิดบัง อะไรได้อีก

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่อะไรดีไปกว่าแล้ว หลินเยว่พูดขึ้นทันได้พูดต่างหาก

จากเดิมที่เธอคิดพูดอย่างเต็มเดียวก็สัมผัสสายตาเย็นเยียบของซื้อเนียน
จู่ ๆ ก็มีท่าทางอ่อนลง

ขอบตาของเธอแดงเล็กน้อย และเธอพูดด้วยท่าทางที่ พยายามจะความคุมความอับอายไว้ แต่จะมาโทษฉันด้วยเรื่อง พวกนั้นได้เหรอ? ฉันก็ถูกคนอื่นทำร้ายถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ถ้าคุณรังเกียจ งะ…งั้นฉันล้มเลิกความคิดแบบนั้นก็ได้ ฉันก็แค่ผู้ หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ตัวคนเดียวอยู่ข้างนอก มีบ้านก็ไม่กล้ากลับ ตอนนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอคนที่สามารถช่วยฉันได้ แล้วจะให้ ฉันทํายังไงล่ะ?”

“คุณกู้ คุณเป็นพวกคนสูงศักดิ์เหนือคนอื่น แค่พลิกมือก็ ควบคุมเมฆได้ หมุนมือก็บังคับฝนให้ตกได้ คุณไม่มีทางเข้าใจ ความหวาดกลัวและทุกทรมานใจของคนตัวเล็ก ๆ อย่างเราได้ หรอก”

“ฉันในตอนนี้ ต่อให้กลับไปได้จริงก็คงไม่มีใครต้องการ ฉัน ไม่มีค่าและประโยชน์อะไรแล้ว พ่อก็คงยิ่งไม่สนใจฉัน กลับไปก็ โดนดูถูกเหยียดหยาม สู้ฉันตายไปเสียดีกว่า ให้ทุกอย่างกลับไป ขาวสะอาดดังเดิม

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็หันกลับมาและเอาหัวโขกกำแพง ข้างๆ เธอ

สาวงามวิ่งชนกำแพง ดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ถ้าเป็นผู้ชายคน อื่น เกรงว่าคงจะเป็นทุกข์มากและรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดมัน แล้ว

น่าเสียดายแต่เพียงว่ากู้ซือเฉียนไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไป
เขาไม่ตกหลุมกับมุกร้องไห้ ชวนทะเลาะ ตีอกชกตัวแบบนี้

หรอก ไม่เพียงแต่ไม่สน แต่เขายังคงเอาแต่นั่งอยู่ตรงที่เดิม ทำหน้า

เหมือนดูละครฉากสนุกอยู่

หลินเยว่เอ๋อ หันหลังชนกำแพง เห็นว่าหน้าผากของเธอกำลัง จะชนกำแพง แต่ไม่มีใครมาหยุดเธอ

ไม่เพียงแต่ไม่มีคนห้ามแม้แต่จะปริปากสักค่า เธอถึงกับตก ตะลึง

เมื่อตกตะลึง ความเร็วของเธอก็ลดลงตามธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อหน้าผากของเธอแตะผนังจริงๆ เธอไม่ได้ใช้แรงมากนัก และ แม้แต่เสียงก็เป็นเพียงเสียงอู้อี้เบาๆ เท่านั้น ไม่เหมือนตอนที่เธอ วิ่งออกไปเลย ไม่เหมือนกับตอนที่เธอออกตัวแรง ในตอนแรก

มันช่างน่ากระอักกระอ่วนใจเสียจริง!

หัวของหลินเยว่เอ๋อ ชนกับกำแพง ถึงจะไม่ล้มไป แต่ก็อดที่จะ ส่งเสียง “โอ๊ย” ออกมาดังๆ ไม่ได้

ตัวเธอกระเด็นถอยหลังมาสองก้าวแล้วหยุด ถึงแม้จะไม่ล้มไปแต่ความเจ็บนั้นมีแน่นอน

เธอกุมหน้าผาก มันเจ็บจนน้ำตาไหล เดิมที่คิดว่าทำแบบนี้ แล้วอย่างน้อยผู้ชายคงจะปวดใจอยู่บ้าง

ต่อให้ไม่ปวดใจไปกับเธอ แต่อย่างน้อยที่สุดน่าจะเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง

แต่จนถึงตอนนี้หลินเยว่เอ๋อร์คงจะยังไม่รู้สึกว่า ผู้ชายตรงหน้า เธอนั้นไม่ได้เป็นผู้ชายแบบที่เธอคิดไว้จริง ๆ

กู้อเนียนมองเธออย่างล้อเลียน ไม่เพียงแต่จะไม่เป็นห่วงแล้ว เขากลับ ” ” ออกมาอย่างสบายใจ

“คุณหลิน คุณชนกําแพงไม่แรงพอนะ หากอยากตายจริงๆ ออกแรงแค่นี้มันไม่พอให้คุณตายหรอก”

หลินเยว่เอ๋อร์: ” ”

ยังไม่ทันจะได้อธิบายก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดขึ้นอีก: “ผม เข้าใจผู้หญิงนะ ผู้หญิงน่ะกลัวเจ็บ เอาหัวโขกกำแพงมันยากมาก ถ้าอย่างนั้นแบบนี้ดีกว่า ผมแนะนำคุณให้

น้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะผ่อนคลาย

ดวงตาของหลินเยว่เอ๋อร์สว่างขึ้นทันที เธอหันไปมองเขาแล้ว ถาม: “แนะนำอะไร?”

เธอเห็นซือเฉียนชี้ไปที่ริมหน้าต่างแล้วพูด “กระโดดตึกสิ ถึง แม้ว่าอาคารนี้จะไม่ใช่ตึกสูงมาก แต่ด้านล่างมีแต่ก้อนหินแข็งๆ เธอกระโดดลงไปถึงไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต ถ้ายังไม่ดีอีก ในเมื่อเรา รู้จักกันแล้ว ฉันจะช่วยลงไปให้ถือว่าทำบุญ รับรองได้ว่าเธอ ได้ตายทั้งดีทั้งเร็วเลย จะไม่ปล่อยให้ต้องทนทุกข์โดยเปล่า ประโยชน์เพราะความลังเลใจของตัวเองและไม่ปล่อยให้เธอต้อง อยู่แบบตายทั้งเป็น เป็นไง?”
ใบหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์ซีดเผือดเมื่อได้ยินเรื่องนี้

ใบหน้าของเขา และคอของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธและ

ความกลัว มันเป็นสีแดงและสีขาวในคราวเดียว น่าดูชมทีเดียว เธอมองกู้ซือเฉียนแล้วร้องออกมา “คะ…คุณพูดออกมาได้ยัง ไง?”

กู้ซือเฉียนเลิกคิ้วแล้วแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ที่ฉันพูดมันไม่ จริงรึไง? ก็เธอพูดเรื่องตายเอง ตัวเองไม่กล้าจะเอาหัวโขก กำแพงก็คิดเอง ฉันก็แค่แนะนำเธอนิดหน่อยเท่านั้น มีปัญหานั้น เหรอ?”

หลินเยว่เอ๋อร์: “คุณ!”

เธอโกรธจนทนไม่ไหว หน้าแดงก่ำ อีกนิดคงกระอักเลือดออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ