วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 587 เริ่มใหม่อีกครั้ง



บทที่ 587 เริ่มใหม่อีกครั้ง

ถังลั่วเหยาตกตะลึงอีกครั้ง

ทำไมเธอถึงไม่เคยคิดว่าเฟิงยี่จะพูดกับเธอแบบนี้

น้ำเสียงของเขาจริงใจและเจ็บปวดราวกับคนกำลังจะตาย กําลังรอทางรอดจากเธอ

เธอไม่เคยคิดเลยว่าความรักที่เขามีให้เธอมันจะฝังรากลึก ลงไปถึงจุดนี้แล้ว

นั่นคือคนที่หยิ่งยโสและเอาแต่ใจเป็นที่สุดเลยนะ!

ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องใดบนโลกใบนี้ที่จะทำให้เขา พินอบพิเทาแบบนี้

แต่ตอนนี้เขากลับกอดเธอไว้แบบนี้ พูดกับเธอขอให้คุณ สงสารผมบ้าง…

น้ำตาของถังลั่วเหยาพรั่งพรู

ผ่านไปครู่ใหญ่ถังลั่วเหยาจึงได้พูดเสียงแหบพร่าและ

เบาบาง

“เฟิงยี่ คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไร?”

“ผมรู้”

เฟิงยี่กล่าวด้วยเสียงต่ำ: “ขอโทษนะ ผมคิดอยู่เสมอว่าจะบอกความจริงในใจหลังจากคุณรับปากผมแล้ว ผมเอาแต่รอให้ คุณเป็นฝ่ายเข้าหา แต่ผมลืมไปว่าคนที่เริ่มต้นความสัมพันธ์นี้คือ ผมแท้ๆ คนที่เป็นฝ่ายเข้าหาคือผมเอง

“ขอโทษที่ผมอวดดีจนทำร้ายคุณ ผมเคยคิดจะปล่อยมือแต่ ผมก็ทำไม่ได้ ดังนั้นเหยาเหยา คุณให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม?”

“ครั้งนี้ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนและไม่มีข้อแม้ เป็นเพียงการ คบกันแบบคู่รักทั่วไป คุณโกรธผมได้ พูดสิ่งที่คุณคิดอะไรกับผม ก็ได้ เรามาคบกันจริงจังสักครั้งดีไหม?”

ค่าพูดของชายหนุ่มทำให้น้ำตาของถังลั่วเหยาไหลหนักกว่า

เพียงแต่เธอหันหลังให้เขาและมองไม่เห็นมัน

ผ่านไปครู่ใหญ่เธอจึงได้พยายามกลั้นน้ำตาและพูด: “เพื่อ

อะไร?”

เพื่ออะไร?

รู้อยู่แล้วว่าไม่ว่าจะยังไง สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถจะสัญญา

ว่าจะอยู่กับเขาตลอดไป

รู้อยู่แล้วว่าทุกอย่างที่ทำไป มันเหมือนกับแมลงเม่าบินเข้า กองไฟ ไม่มีวันได้อะไรกลับคืน แถมยังจะทำให้ตัวเองต้องเจ็บ

ทำไมยังจะอยากที่ดึงดันทำมันต่อไปล่ะ?

ที่สุดแล้วเธอมีดีอะไร คุ้มค่าที่เขาจะทำแบบนี้งั้นเหรอ?
เฟิงยี่ฝืนยิ้ม

อันที่จริงเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องทำแบบนี้ เพียงแต่มีเสียงบอกเขาในใจ หากคืนนี้ไม่พยายามอีกครั้ง ต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว

เขาก็แค่…ไม่อยากจะสูญเสียโอกาสเดียวที่จะได้บอกความ รู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกไป

เฟิงกระซิบ: “คุณยังเกลียดผมไหม?”

ถังลั่วเหยาไม่พูดอะไร

เฟิงพูดต่อ: “ผมเอาเรื่องแม่ของคุณมาขู่คุณ ยังทำเรื่อง แบบนั้นกับคุณอีก ปกติก็ชอบแกล้งคุณ คุณเกลียดผมมาก เปล่า?”

ถังลั่วเหยาอยากจะพูดไปว่าไม่เลยสักนิด แต่ค่าที่หลุดจากปากกลับกลายเป็น “ใช่”

เฟิงยี่ยิ้มเยาะตัวเอง

“แบบนี้ไง คุณถึงยิ่งต้องตอบรับผม จากนั้นก็ใช้โอกาสนี้ ทรมานผมให้มากๆ ระบายที่เคยโกรธและแก้แค้นคืน แบบนี้ไม่ดี เหรอ?”

น้ำตาที่ถังลั่วเหยาพยายามกลั้นเอาไว้มันได้ไหลออกมาอีก

ผู้ชายคนนี้…
ราวกับรับรู้ได้ถึงหยดน้ำตาของเธอ ในที่สุดเฟิงก็ปล่อย เธอ เขา ใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่และหมุนตัวเธอกลับมาเผชิญ

หน้ากับตนเอง จากนั้นก็ก้มหน้าแล้วใช้มือเชยหน้าเธอและจุมพิตที่แก้มทีละ

ช้าง

หยดน้ำตาที่ไหลเข้าปากทั้งเค็มและขม

แต่เขากลับไม่รังเกียจสักนิดเขาจูบจนหยดน้ำตาแห้งเหือด แล้วจึงจูบเธอที่ริมฝีปาก

นี่คือจูบที่น่าทะนุถนอมจนถึงที่สุด

ใช่ว่าเขาไม่เคยจูบเธอมาก่อน แต่กลับเหมือนไม่มีครั้งไหน เลยที่เหมือนครั้งนี้ ที่ทะนุถนอมราวกับถือเครื่องประดับล้ำค่า ที่สุดในโลก จูบเธอทุกอณูราวกับกำลังจะกลืนกินเลือดเนื้อเธอ ไปทั้งตัว

แสงจันทร์สาดส่องผ่านใบไม้ของพุ่มไม้ข้างทางเปลี่ยนเป็น วงกลมของแสงสีขาวจุดด่างดำและเงาบนพื้นดิน

ทั้งสองคนจูบกันราวกับว่าไม่มีสิ่งอื่นใดดำรงอยู่ในโลกนี้แล้ว ไม่มีอะไรเลยนอกจากพวกเขาสองคน

ดีที่เวลากลางคืนนั้นเงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนอยู่รอบๆ

บวกกับแสงไฟที่มืดสลัวหากไม่เดินเข้ามาดูให้ชัด ก็แทบจะ มองไม่เห็นว่ามีคนอยู่สองคน
และไม่รู้ว่าจูบกันอยู่นานแค่ไหน ในที่สุดถังถั่วเหยาก็เริ่มรู้สึก เหมือนกำลังจะหายใจไม่ทันแล้ว เขาจึงได้ปล่อยเธอ

แต่ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น เขาใช้หน้าผากดุนหน้าผากเธอ ระหว่างคิ้วคมคู่นั้นมีความรักที่ลึกซึ้งอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมา ก่อนจากนั้นก็รอให้เธอหายใจและจูบเธออีกครั้ง

ดูเหมือนเขาจะจูบแค่ไหนก็ไม่พอ และค่อยๆ จับจองหัวใจของ เธอทีละนิด

ถังลั่วเหยารู้สึกได้เพียงว่าตัวเธอกำลังสั่น ขาอ่อนจนแทบยืน ไม่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมีชายหนุ่มที่พยุงเธอเอาไว้คงจะลงไปกอง กับพื้นแล้ว

มีเสียงแมลงเล็กน้อยท่ามกลางพุ่มไม้ บรรยากาศโดยรอบยิ่งเงียบสงบและสวยงาม ครั้งนี้ผ่านไปอีกแสนนานกว่าเพิ่งจะปล่อยตัวเธอ

ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่คิ้วของเขาเริ่มมีรอยยิ้มอีกครั้ง บางทีอาจเป็น ตอนที่เธออดไม่ได้ที่จะอยู่ในอ้อมแขนของเขา หรือบางทีเมื่อ หัวใจของเธอถูกสัมผัส และเธอก็ตอบรับการจุมพิตของเขาด้วย อารมณ์

อย่างไรเสียเขาก็ดูดีใจเป็นที่สุด ดวงตาของเขาสุกสกาว ท่ามกลางความมืดและจ้องมองเธอไม่วางตา

ถังลั่วเหยาถูกเขามองจนไม่เป็นตัวเอง ได้แต่เงินหน้าหนีและ ถามด้วยใบหน้าแดงร้อนผ่าว: “คุณยิ้มอะไรคะ?”
น้ำเสียงของเฟิงยอดไม่ได้ที่จะเลือความดีใจและดึงเธอเข้ามา ไว้ในอ้อมกอดและถาม: “แบบนี้ถือว่ายกโทษให้ผมรึยัง?”

ถังลั่วเหยาหายใจไม่ออก

เพิ่งมองอย่างคาดหวังและมองเข้าไปในดวงตาของเธอด้วย ความระมัดระวัง

จนกระทั่งเธอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วจึงพูด “อืม” เบา ๆ เขาจึงกอดเธอไว้และทำท่าดีใจเหมือนเด็กๆ

ถังลั่วเหยาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะมีท่าทีแบบนี้ เธอตกใจ

และถูกอุ้มหมุนไปมาหลายรอบก่อนจะหยุด เธอตบไหล่เขาด้วยความโกรธและพูดว่า “ทำอะไร? น่ากลัว ชะมัด”

เฟิงยี่ยิ้มและพูดอย่างมีความสุข “เหยาเหยา ขอบคุณนะ”

ถังลั่วเหยาอึ้งไป

เธอฝืนยิ้ม “ขอบคุณฉันทำไมคะ?”

“ขอบคุณที่คุณยกโทษและให้โอกาสผมอีกครั้ง เขาพูดแล้วก็กุมมือเธอและวางมือเธอไว้บนอกของเขา

“ผมรู้ว่าผมนิสัยเสียมาก และรู้ว่าเมื่อก่อนมีเรื่องต้องขอโทษ คุณมากมาย คุณวางใจ ต่อไปผมจะแก้ไขไปทีละเรื่อง ไม่มีทาง ทำให้คุณผิดหวังอีกเลย
ถังลั่วเหยาสะดุ้งเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้นมองเขา

เมื่อมองไปที่ดวงตาที่จริงจังและจริงใจของเขาโดยไม่รู้ว่า ทำไมดวงตาของเธอก็เริ่มขึ้น

เธอพยายามจะยิ้มและดึงมือตัวเองกลับมาและพูด: “เรื่องพวก นี้ค่อยว่ากันก็แล้วกันค่ะ”

เพิ่งสังเกตว่าเธอไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่ เธอคงจะไม่เชื่อในคำ พูดของเขา เขาคิดในใจว่า ในอนาคตเมื่อเขาทำได้แล้วเธอก็จะ เชื้อเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ