วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 857 รอคอยเวลาที่เหมาะสม



บทที่ 857 รอคอยเวลาที่เหมาะสม

หลังจากที่เฉียว พูดจบประโยค ใบหน้าที่ซีดเซียวของหลินซ งอยู่ ๆ ก็แดงขึ้นมาทันที

เขาได้แต่อึกอัก ไม่รู้จะยอมรับหรือปฏิเสธ

เพราะกลัวว่าถ้ากระโตกกระตากเกินไป จากที่จึงจึงจะเขินอาจ กลายเป็นโกรธ แล้วหนีเขาไปเลยก็ได้

ต่อไปแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็อาจจะมีให้กันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

เพราะงั้น เขาก็เลยรู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้ยิน เฉียว พูดออกมาตรง ๆ เขารีบหันกลับไปมองหน้า จึงจึงก่อนจะเห็นว่าเธอไม่ได้มี

สีหน้าโกรธเคืองเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอกลับยิ้มออกมาเบา ๆ

พร้อมกับมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองพี่เฉียวเฉียวไม่บอก ฉันก็ไม่รู้เลยนะ คะเนี่ย”

พอเห็นว่าเธอไม่ได้โกรธ เลยถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่าง โล่งอก ก่อนจะพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “จิงจิง ไม่ใช่ว่าพี่จะจีบเธอ พี่ถึงให้ของเธอนะ พี่ พี่คิดว่าเธอน่ะดีจริง ๆ ขนาดของที่ดีที่สุดยัง ไม่คู่ควรกับเธอเลย …….

เขาพูดไปพูดมา ก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดเสียตรง
ปกติพูดเก่งไม่มีใครเกิน แต่พอถึงช่วงสำคัญ ทําไมมาพูดติด

ๆ ขัด ๆ แบบนี้นะ?

เขานี่มันโง่จริง ๆ

“ฮ่าฮ่า” พอเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเขาจึงจิง ก็ทนไม่ไหว สุดท้ายก็หลุดขาออกมา

“เอาเถอะ ฉันรู้สิ่งที่อยู่ในใจพี่แล้ว

เธอหยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “ฉันก็ ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย จะร้อนรนไปทำไม? ไว้ดูความประพฤติของ

พี่แล้วกันนะ” พูดจบ เธอก็หันหน้ากลับไป แล้วก็ไม่มองเขาอีกเลย

หลินซงมึนงงไปชั่วขณะ

รู้สึกเหมือนกับยังตามไม่ทันความหมายที่เธอสื่อ

เฉียวฉีเห็นแล้วก็แอบหงุดหงิดเบา ๆ คนคนนี้ ปกติก็ดูมีสติดี แต่ทำไมพอถึงช่วงสำคัญกลับกลายเป็นคนซื่อบื้อแบบนี้ไปได้

นะ?

เธอรีบสะกิดไปที่ข้อศอกเขาเบา ๆ หลังจากที่รอให้เขาหันมา สบตาแล้ว เธอก็ส่งสายตาไปให้ทันที

หลินซงกับเฉียวฉีถือว่ารู้จักกันมานาน เพียงแค่มองตากัน เขา ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอหมายถึงอะไร
ความสุขอันมากล้นพุ่งขึ้นมาในใจเขาทันที

ท่าทางแบบนั้นของเธอ หมายความว่า เธอไม่ได้ปฏิเสธเขา?

แค่เพราะพวกเราเพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน ดังนั้นก็เลยยังอยู่ใน ช่วงศึกษากันอยู่?

ยังมีหวัง!

หลินซงยิ้มออกมาด้วยความยินดี ราวกับเขาได้กินยาที่ทำให้ ใจสงบ ก่อนจะนั่งตัวตรงอย่างผ่อนคลาย

วินาทีนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงแล้วเอนตัวไปทาง จิงจิง พร้อมกับพูดกับเธอว่า “เธอไม่ต้องห่วง พี่จะพยายาม

จิงจิงไม่ได้ตอบอะไร

แต่ถ้ามองจากมุมมองของเฉียว จะเห็นได้ชัดเลยว่า มุมปาก ของเด็กสาวยกขึ้นมาเบา ๆ อย่างมีความสุข

เธอแอบพยักหน้าเล็กน้อย ดูท่าแล้ว ความรู้สึกที่เธอมีต่อหลิน ชงคงไม่ใช่ว่าไม่มีความหมายเลยสินะ

มีใจตรงกัน ดั่งกิ่งทองใบหยก ดีจริง ๆ

ในใจแอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นเฉียวก็หันหน้า กลับมา พร้อมกับนั่งตัวตรง เพ่งความสนใจไปทางเวที

ก่อนจะเห็นว่ากำไลหยกบนเวทีคู่นั้นเพิ่งถูกประมูลไป

ราคาก็ถือว่าไม่ได้ต่ำมาก แต่ก็ไม่ได้สูงเช่นกัน การซื้อกำไล หยกคู่ละสิบหกล้านนั้น ไม่ใช่จะดูแค่คุณภาพความบริสุทธิ์เพราะส่วนที่สำคัญจริง ๆ คือเรื่องราวเบื้องหลังของกำไลต่าง หาก

เธอมองดูด้วยความสงบ แต่ทันใดนั้น อยู่ ๆ ก็มีมือมือหนึ่งยื่น

มาที่ด้านข้างของเธอ

ทันทีที่เธอร่างกายเธอรับรู้ เธอก็เตรียมหดมือเข้าหาตัวทันที แต่อีกฝ่ายกลับเคลื่อนไหวเร็วกว่า เขารีบคว้ามือเธอเอาไว้

เฉียว ขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปมองกู้ซื้อเฉียนพร้อมกับกระซิบ กับเขาเบา ๆ ว่า “จะทําอะไร?”

สีหน้าของกู้ซือเฉียนดูไม่ค่อยดี

แลดูบูดบึง หากมองดี ๆ ก็อาจจะเห็นความน้อยใจเล็ก ๆ ที่ แฝงเอาไว้ในแววตาคู่นั้น

คิ้วของเฉียว ขมวดแน่นกว่าเดิม

ผู้ชายคนนี้นี่ ตอนแรกก็ยังดี ๆ อยู่เลย จะมาน้อยใจอะไร?

เธอแอบสังเกตเห็นว่า ตั้งแต่งานวันเกิดของหลินซงครั้งก่อน หลังจากที่ชายหนุ่มได้เข้ามาอ้อนเธอ เขาก็รู้แล้วว่าวิธีนี้ค่อนข้าง ได้ผล เพราะงั้นเขาเลยเหมือนจะชอบมันเข้าแล้ว

คงคิดจริง ๆ ว่าเธอจะใจอ่อนไม่ทุบเขาแล้วไง?

มือของเฉียวฉีถูกเขากุมเอาไว้ แทบจะขยับไม่ได้ ส่วนมืออีก

ข้างก็แอบกำหมัดเล็ก ๆ เบา ๆ

ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขาอย่างดุดัน
แต่ทว่า ชายหนุ่มกลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

ในแววตาเริ่มมีน้ำใส ๆ ตื้นขึ้นมา เพิ่มความน้อยอกน้อยใจ เข้าไปอีก

เฉียว ”

เอาเถอะ เธอยอมรับ เธอแพ้ลูกไม้แบบนี้ เธอไม่กลัวผู้ชาย โวยวาย แต่กลัวผู้ชายขี้อ้อนต่างหาก

ถึงอย่างไร ก็คงไม่มีใครรับความรู้สึกที่เสือร้ายตัวหนึ่งเข้ามา อ้อนอยู่ในอ้อมกอดไหวหรอก

เฉียวฉีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามข่มไฟที่กำลังสุมอยู่ใน ใจ ก่อนจะเอ่ยถามเขาเสียงต่ำว่า “เป็นอะไร?”

กู้ซือเฉียนตอบกลับด้วยความน้อยใจว่า “ทำไมคุณคุยแต่กับ

หลินซงไม่คุยกับผมเลย?”

เฉียวฉี “???”

เธอรู้สึกตลกขึ้นมานิดหน่อย ก่อนจะถามเขาว่า “คุณจะให้ฉัน

คุยอะไรด้วย?”

กู้ซือเฉียนชะงักไป นัยน์ตามีประกายของความตกใจผ่านไป แวบหนึ่ง

“อะเฉียว ที่แท้ในสายตาคุณ สำหรับผมมันถึงขั้นที่ไม่มีอะไรจะ พูดด้วยแล้วเหรอ?”

เฉียวฉี “……”
ไม่ได้ ยังไงเธอก็ยังอยากทุบคนอยู่

โชคดี ขณะที่หญิงสาวกำลังพยายามข่มอารมณ์ ทันใดนั้นของ

ประมูลชิ้นใหม่ก็ถูกนำขึ้นมาบนเวทีพอดี แสงไฟในห้องโถงสว่างขึ้นเล็กน้อย สายตาของทุกคนถูก

ดึงดูดให้มองไปยังเบื้องหน้าทันที

ก่อนจะเห็นว่าสิ่งที่ถูกเข็นขึ้นมาบนเวทีช้า ๆ คือเกราะผ้าไหมสี ทองอร่ามที่มีลวดลายโบราณและเก่าแก่นูนขึ้นมา

ถ้าบอกว่าเป็นเสื้อเกราะ ก็คงผิดไปหน่อย เพราะถ้าพูดให้ถูก มันน่าจะเป็นเสื้อกั๊กผ้าไหมสีทองมากกว่า

จากนั้นพิธีกรสาวบนเวทีก็แนะนำเสื้อตัวนี้อย่างเป็นมืออาชีพ ว่า “เสื้อเกราะแบบอ่อนสีทองอร่ามนี้ถูกค้นพบในราชวงศ์หมิง มี คุณสมบัติในการป้องกันคมดาบและกระสุนปืน ถือเป็นสมบัติ ส่วนตัวของจักรพรรดิในสมัยโบราณ ในช่วงที่สำคัญที่สุดของ ชีวิต มันจะสามารถปกป้องคุณไว้ได้”

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ในวินาทีนั้นเฉียวรู้สึกราวกับการรอ คอยนั้นมาถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว

ทันทีที่เริ่มประมูล เธอก็หยิบป้ายหมายเลขขึ้นมาแล้วก็เริ่ม เสนอราคาทันที

แต่ทว่า กลับมีอีกหนึ่งคนที่เสนอราคาขึ้นมาพร้อมกับเธอเช่น

เสียงที่ดังมาจากข้าง ๆ ลอยเข้ามาในหูเธอ “สิบล้าน”
เธอหันไปมองก่อนจะสบตาเข้ากับชื่อเฉียน

ทั้งสองมองหน้ากันเงียบ ๆ อยู่เพียงไม่กี่วิ ในที่สุดเฉียว ก็ ค่อย ๆ วางป้ายหมายเลขลง

เพราะสำหรับคนธรรมดาทั่วไปเสื้อเกราะอ่อน ๆ ตัวนี้ เหมาะ แก่การชื่นชมมากกว่า ใช้งานจริง เวลาปกติใครที่ไหนจะใส่เสื้อ เกราะอ่อน ๆ ไปทํางานกัน

ดังนั้น ต่อให้ทุกคนจะรู้ว่าของสิ่งที่มีค่ามาก นอกจากจากนัก สะสมของบางคนที่สู้ราคาแล้ว ก็ไม่มีใครต่อรองราคาเพิ่มอีกเลย

และแน่นอนว่า ถ้าเข้ามาสู้ราคากันแล้ว ยังไงก็สู้กู้ซื้อเฉียนไม่ ได้อยู่ดี ดังนั้น เสื้อเกราะอ่อน ในราคาสามสิบล้านตัวนี้ จึงถูกกู้ซื้อ

เฉียนประมูลไปได้

ของถูกส่งไปยังด้านหลังเวที รองานจบเพียงครู่เดียว หลังจาก หักเงินกันเรียบร้อยของก็จะถูกส่งจากในงานเข้ามาสู่มือเขาทันที

บรรยากาศกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

ด้านบนเวที พิธีกรได้เริ่มเรียกของประมูลอีกชิ้นขึ้นมาแล้ว แต่ในใจของเฉียวฉีกลับรู้สึกสับสนอย่างประหลาด

อันที่จริง เมื่อครู่เธอรู้สึกเหมือนหัวใจกระตุกไปเล็กน้อย ที่เธอ เข้าร่วมการประมูลเพราะเธอคิดว่าสมบัติชิ้นนั้นทั้งยิงทั้งฟันไม่ เข้า ถึงแม้ว่าจะไม่มีประโยชน์สำหรับคนทั่วไป แต่มันคงจะเป็นประโยชน์มากสําหรับคนอย่างกู้ชื่อเรียน

เพราะถึงอย่างไร ตัวตนของเขาก็ถือว่าค่อนข้างซับซ้อน แถม

ยังต้องเผชิญหน้ากับอันตรายตลอดเวลา ใครจะไปรู้ว่าตลอดหลายปีมานี้ ศัตรูที่ซ่อนตัวแล้วคอย

ปลายมีดมาทางเขาทั้งจากข้างหลังและรอบตัวจะมีกันสักกี่คน?

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ก็คงเหมือนกับตอนนั้นตอนที่เธอกับกู้ซื้อ เฉียนยังคบกัน ตอนที่กลุ่มมังกรกำลังยิ่งใหญ่ เธอถึงกับเคยเห็น กู้ซือเฉียนถูกลอบสังหารถึงสี่ครั้งด้วยตาตัวเองมาแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ