วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่649 เธอไม่มีความสุข



บทที่649 เธอไม่มีความสุข

เมื่อแม่ถังเห็นเช่นนั้น ถึงโล่งใจ

ในตอนเย็น ทั้งสามคนก็ทานข้าวในร้านอาหารส่วนตัวระดับ ไฮเอนด์ที่อยู่ใกล้เคียง

ถังลั่วเหยากับแม่ถังต่างใจตรงกันไม่เอ่ยถึงเรื่องที่พบเจอ ยิงที่ร้านกาแฟเมื่อช่วงบ่ายนี้

ในมุมมองของพวกเธอ ปัญหานี้ ที่จริงแก้ไขยากมาก หากพูดกับเฟิงยี่แล้ว นอกจากจะทำให้เขาที่อยู่ระหว่างกลาง ล่ามาก ใจแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด

ดังนั้น ไม่พูดจะดีกว่า

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ไม่กลัวอยู่แล้ว

ทุกอย่างมีมโนธรรมก็พอแล้ว

ส่วนกูยิงนั้น หากท่าทีของเธอจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาได้

นั้นก็จะดี

หากจะปฏิบัติต่อถังลั่วเหยาดังเช่นศัตรูแบบนี้ไปตลอด ก็ช่วย

ไม่ได้

จะให้ตัวเองทำดีแต่เขากลับเพิกเฉยอย่างนี้ตลอดก็คงไม่ได้ ยังไม่พูดถึงว่าการทำเช่นนี้ จะสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอได้จริงหรือไม่

ก็พูดถึงเรื่องการเอาใจคนข้อนี้ ถังลั่วเหยาก็อาจไม่สามารถ ทําได้

ดังนั้น พวกเธอไม่รู้สึกว่า เรื่องนี้จําเป็นต้องพูดออกมา

แต่ไม่คาดคิดว่า พวกเธอไม่พูด กลับมีคนพูดก่อนพวกเธอแล้ว

ขณะที่กำลังทานข้าว มือถือเฟิงก็ดังขึ้น

เขาหยิบขึ้นมาดู เห็นเพียงข้อความของกูยิง

เขาเซฟชื่อกูยิงระบุเป็น“ท่านแม่ผู้ยิ่งใหญ่

เห็นเพียงข้อความจากท่านแม่ผู้ยิ่งใหญ่ “บนจอมือถือ ถึงแม้ ตัวหนังสือจะเล็ก แต่น้ำเสียงกลับเห็นได้ชัดว่าไม่ญาติดี

“ตอนนี้แกอยู่กับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”

เพิ่งมองดูบรรทัดตัวหนังสือที่เล็ก แล้วขมวดคิ้วอย่างไม่ ตั้งใจ

เมื่อเงยหน้ามองถึงลั่วเหยากับแม่ถัง เห็นเพียงพวกเธอทั้งสอง ยังทานข้าวไปด้วยพูดคุยหัวเราะไปด้วย

พูดถึงสิ่งที่น่าสนใจที่พบเจอมาก่อน โดยไม่ได้สนใจเขาเลย เฟิงยี่รีบตอบข้อความกลับไปหากยิง

“ทําไมหรือ”

แล้วกูยิงก็ส่งมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“วันนี้ฉันเจอเธอกับแม่ของเธอที่ร้านกาแฟ ทําไมหรือ ตอนนี้ ให้แกเลี้ยงเธอคนเดียวยังไม่พอใช่ไหม ยังต้องรับผิดชอบแม่ ของเธอด้วยหรือ พวกเธอเห็นแกโง่หรือว่าเห็นแกเป็นเงินเป็น ทอง รู้สึกว่าเงินของแกหลอกง่ายมากหรือ ”

สีหน้าเฟิง หม่นหมองลงทันที

อาจจะเป็นเพราะว่าสีหน้าเขาเปลี่ยนไป จึงทำให้ท่าทางบนตัว ของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย

ถังลั่วเหยารู้สึกว่าคนข้างกายมีความไม่ปกติเล็กน้อย

เมื่อหันหน้ามา ก็เห็นว่าเขาสีหน้าหม่นหมอง กำลังจ้องดูมือถือ นิ้วมือกำลังพิมพ์ตัวหนังสืออย่างไม่ยั้ง

เธอเลิกคิ้ว ถามอย่างประหลาดใจว่า “คุณทำอะไรหรือ เฟิงไม่พูด รอตอบข้อความเสร็จแล้วถึงเงยหน้ามองมาที่เธอ แล้วดวงตาหม่นหมองคู่นั้นเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที เก็บมือถือลงอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยิ้มเล็กน้อย

“ไม่มีอะไร”

ถังลั่วเหยาขมวดคิ้ว

เธอรู้จักเฟิงเป็นอย่างดี อารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ในเมื่อกี้นั้น เธอดูไม่ผิดอย่างแน่นอน

มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
แต่ว่าเวลานี้ ต่อหน้าแม่ เพิ่งที่ไม่พูด เธอก็ไม่เข้าถามต่อ

การทำงานของเขา ดูเหมือนไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ แต่ใน ความเป็นจริงแล้วล้วนมีวิธีการจัดการของตัวเอง

เธอเชื่อใจเขา

ดังนั้น ถังลั่วเหยาก็ไม่ได้ถามต่ออีก แต่กลับคืบกับข้าวให้เขา

“เวลาทานข้าวก็ต้องทานข้าว เล่นมือถือน้อยหน่อย มาชิม อาหารนี้ดู”

เฟิงยี่หยิบตะเกียบขึ้นมาทานอย่างเชื่อฟัง

แม่ถังมองดูเขา ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวว่า ปกติเพิ่งยุ่ง กับการทํางาน เหยาเหยา หนูเป็นภรรยา ต้องดูแลเขาให้มาก หน่อย”

เมื่อถึงลั่วเหยาได้ยิน ก็มีความสุขมาก

“แม่ หนูทำไม่ได้หรอก เขายุ่งหนูก็ยังเหมือนกัน อีกอย่าง ยุค สมัยนี้ ไม่เหมือนสมัยพวกท่านมานานแล้ว ความสามารถผู้หญิง เท่าผู้ชาย หนูไม่ได้ให้เขาหาเลี้ยง ทำไมจะต้องดูแลเขาตลอด ด้วย “เมื่อเฟิงได้ยินคำนี้ ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว

พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ใช่ครับ ผมดูแลตัวผมเองได้ดี เหยาเหยาชอบถ่ายละคร ให้

เธอทําในสิ่งที่ตัวเองชอบดีกว่า” แม่ถังมองดูพวกเขาแล้วรู้สึกทั้งดีใจทั้งสงสาร
เธอยิ้มแล้วส่ายหัว

“จะพูดแบบนี้ไม่ได้ ฉันรู้ว่าพวกเธอวัยหนุ่มสาวชอบแข่งขัน การทํางาน แต่คนเราเมื่อชีวิตสุดท้ายแล้วถึงจะรู้ว่า ความฝันใน อาชีพการงานล้วนเป็นสิ่งว่างเปล่า มีเพียงคนที่อยู่เคียงข้างกาย เท่านั้นที่สำคัญที่สุด

ไม่รู้ว่าเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถอนหายใจเฮือก

“คิดถึงตอนนั้น ฉันกับพ่อขอหนูก็รักกันมาก ก็เพราะพ่อของ หนูเสียไปตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้น……..

ในโอกาสแบบนี้ ถังลั่วเหยาไม่ค่อยอยากจะหยิบยกเรื่องของ พ่อที่เสียชีวิตแล้วมาพูด

จึงย้ำเตือนว่า “แม่….…….. แม่ถังก็ได้สติ ฝืนยิ้มแล้วกล่าว “โทษที ที่ฉันเสียมารยาท เมื่อเฟิงเห็นเช่นนั้น เขาก็ทำสีหน้าปกติตาม

แล้วกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “แม่ครับ ท่านวางใจเถอะ ผมจะ ดูแลเหยาเหยา ให้ดีอย่างแน่นอน จะไม่ให้เธอมีปัญหาใดๆ เรา จะต้องอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ท่านเองก็ต้องดูแลสุขภาพ ร่างกาย ในอนาคตยังจะต้องช่วยเราเลี้ยงหลานนะครับ

เมื่อพูดคำนี้ออกมา แม่ถึงก็รู้สึกมีความสุขทันที

“หลานหรือ ก็ดีซี”

ส่วนถังลั่วเหยากลับถูกคำพูดของเพิ่งทำให้อับอายจนหน้าแดงจ้องมองไปที่เขา

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”

ใครบอกว่าจะมีลูกกับเขา

ก็หลานกับหลานอยู่นั่นแหละ

เฟิงยี่ยิ้ม แต่ก็ไม่พูดอะไร

เมื่อเป็นเช่นนี้ บรรยากาศก็ถูกละลายอย่างง่ายดาย จากเดิมที ที่หนักหน่วง กลายเป็นผ่อนคลายลง

ส่วนอีกด้านหนึ่ง กูยิงกำลังมองดูข้อความสุดท้ายบนมือถือที่ เฟิงยี่ส่งมา โกรธจนหน้า หน้าแดง

เห็นเพียงข้อความที่เพิ่งส่งมาบนหน้าจอมือถือว่า

เธอเป็นภรรยาของผม ชีวิตนี้เราจะรักกันช่วยเหลือดูแลกัน และกัน อย่างที่ท่านกับท่านพ่อเป็น เป็นผู้หญิงเหมือนกัน หวังว่า ท่านจะเอาใจเขามาใส่ใจเรา หากตอนนั้นคุณย่าก็ปฏิบัติต่อท่าน หาเรื่องท่านเช่นนี้เหมือนตอนนี้ที่ท่านเป็น ท่านจะรู้สึกเช่นไร

ในฐานะลูกชาย ส่งคำถามรุนแรงเช่นนี้มา ในสายตาของ ยิง จะต้องทําให้คนโกรธเป็นธรรมดา

แต่สิ่งที่ทำให้เธอโกรธ ไม่เพียงแค่นี้

ที่สำคัญกว่าคือ ที่เขาพูดว่า หากตอนนั้นคุณย่าก็หาเรื่องท่าน

เชอะ เธอเองอยากถูกหาเรื่องเหมือนกัน แต่พวกเขากล้าหรือ
คนที่ทำผิดในตอนนั้น ไม่ใช่เธอนี่

แต่เป็นพวกเขาตระกูลเฟิง

ยังจะพูดอะไรจะรักกันดูแลช่วยเหลือกันและกันหรือ เธอแต่งงานเข้าครอบครัวนี้มาสิบกว่าปีแล้ว เคยเห็นการดูแล ช่วยเหลือกันและกันอย่างแท้จริงเมื่อไหร่กัน

เธอได้รับการปกป้องดูแลอะไร

สามีของเธอ แม้ว่าจะนอนข้างกายเธอทุกคืน แต่ลึกๆ ในใจเขา ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง

เมื่อก่อนเธอก็เคยคิดว่า ขอเพียงตัวเองดี ขอเพียงความ อดทนเพียงพอ ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลงได้

เขาก็จะมาอยู่ข้างกายเธอ ไม่เพียงแค่กาย ยังมีจิตใจด้วย

แต่ความเป็นจริงบอกเธอว่า เป็นไปไม่ได้เลย

ในใจของเขามีคนๆ นั้นอยู่ตลอดเวลา เหมือนเป็นส่วนหนึ่ง ในร่างกายของเขาที่ขาดหายไม่ได้ แล้วเคยเป็นห่วงเธออย่าง จริงจังไหม เคยรักและดูแลเธอไหม

คนนอกมองเห็นเพียงฐานะสะใภ้ใหญ่ของตระกูลเฟิงของเธอ ที่มีความงามและความรุ่งโรจน์เท่านั้น

กลับไม่เห็นน้ำตาที่เธอกลืนลงไปตอนลับหลังอย่างเงียบๆ คนทั้งหมดข้างกายเธอล้วนคิดว่า เธอมีความสุขมาก
สามีของเธอ ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นคนที่ดูแลบ้านมาก และ กับเธอมากด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ