วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 717ทั้งสองพบกัน



บทที่ 717ทั้งสองพบกัน

หลักๆก็คือเส้นทางที่ขรุขระ

ร่างกายที่ถูกกระแทกจนปวดไปทั้งตัวไม่เท่าไหร่ แต่อาหารที่ เพิ่งทานเข้าไปเมื่อเย็นแทบจะพุ่งออกมาจนหมด

แต่กลับกันลุงสี่ที่นั่งอยู่ตรงข้าม ในสถานการณ์แบบนี้กลับ นอนได้อย่างสบายใจ หลับจนสามารถนอนกรนได้ จึงหนิงรู้สึก นับถือจริงๆ

เมื่อเห็นว่าเขาเกือบจะล้มคว่ำลงที่พื้น วิ่งหนึ่งก็รีบเดินมาข้าง หน้าและพยุงเขาไว้

หลังจากที่พยุงเขาเรียบร้อยแล้วก็กลับเข้ามานั่งที่เดิม

ในขณะเดียวกัน ก็แอบนับเวลาอยู่ในใจ

ในหมู่บ้านไม่มีนาฬิกา และเธอก็ไม่มีนาฬิกาข้อมือด้วย ดังนั้น เวลาทั้งหมดต้องอาศัยการคำนวณจากพระอาทิตย์ขึ้นและ พระอาทิตย์ตก

นี่ถือเป็นความรู้สึกที่ทรมานมาก แต่ก็ไม่มีหนทางอื่น เธอ จําเป็นต้องทนให้ได้

รู้สึกได้ว่าเมื่อเกวียนเดินทางมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง เกวียน

ก็ถูกจอดลง

“ลุงสี่มาถึงแล้ว!”
ด้านนอกมีเสียงของชายวัยรุ่นดังเข้ามา

จิ่งหนิงรู้สึกประหม่า แทบจะทนรอที่จะชะโงกหน้าต่างออกไป ไม่ได้

แต่กลับเห็นด้านนอกเป็นเพียงบรรยากาศที่มืดสนิท ไม่มี แม้แต่แสงไฟ มองไม่เห็นอะไรเลย

ชายที่อยู่ตรงข้ามตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือ

“อา ถึงแล้วเหรอ?”

“อืม ข้ามคันนาตรงนั้นไปก็ถึงบ้านคุณแล้ว เกวียนไม่สามารถ ข้ามไปได้ พวกเราเดินกันไปเถอะ!

ลุงสี่เปิดผ้าม่านออกแล้วลงจากรถ พยักหน้าได้ วันนี้ทำให้ คุณต้องลำบาก คุณกลับไปเถอะ

ชายหนุ่มพยักหน้า รอให้วิ่งหนึ่งลงมา จึงค่อยๆลากเกวียน

กลับไปทางเดิม

ลุงสี่ยืนอยู่ตรงนั้น ยืดเส้นยืดสาย จากนั้นโบกมือให้กับสิ่งหนึ่ง

“ไปเถอะ ใกล้จะถึงบ้านแล้ว

จิ่งหนิงนิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จา เดินตามเขาไปข้างหน้า เดิมทีทางภูเขาก็แคบอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับคันนาที่แคบๆ

เธอเดินอย่างเชื่องช้า แม้ว่าลุงจะถือคบเพลิงอยู่เบื้องหน้า แต่คันนาที่คับแคบขนาดนี้ เธอก็ไม่สามารถเดินอย่างรวดเร็ว เหมือนเขาได้
เมื่อลุงสี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็หัวเราะออกมาสองที่

“หญิงสาวในเมืองอย่างพวกคุณ สบายจนเสียนิสัย ผู้หญิงที่

อาศัยอยู่ที่นี่อย่าว่าแต่คันนาเลย แม้แต่ทางบนเขาก็สามารถเดิน ได้” เมื่อวิ่งหนึ่งได้ฟัง ก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง จึงยิ้มออกมาอย่าง

ลุงสี่เริ่มฮัมเพลงออกมาอย่างอารมณ์ดี เดินเซไปเซมา

เดินผ่านคันนาแล้วคันนาเล่า

ในที่สุดก็มาถึงบ้านสองชั้นที่ทำจากอิฐ

นี่เป็นบ้านหลังแรกที่จิ้งหนิงเห็นในรอบหลายวันมานี้ที่เป็น บ้านที่ไม่ได้ทําจากโคลน

เมื่อเดินเข้ามาใกล้ เห็นเพียงลานกว้างขนาดใหญ่อยู่เบื้อง

หน้า

ด้านข้างของลานกว้างมีผลผลิตทางการเกษตรกองสูง ประตูที่ อยู่ด้านหน้าถูกปิดแน่น ในบ้านมีแสงไฟอ่อนๆจากบริเวณ หน้าต่างชั้นบนมีแสงไฟสลัวๆลอดออกมาจากหน้าต่าง

เมื่อลุงสี่เดินมาด้านหน้า ก็เคาะประตูอย่างแรง

“ภรรยา ผมกลับมาแล้ว

ไม่นานเสียงประตูดังเอี๊ยดก็ถูกเปิดออก

เห็นเพียงผู้หญิงที่ใส่ชุดนอนปล่อยผมสยายอยู่เบื้องหน้า
หญิงวัยกลางคนอายุราวๆสี่สิบห้าปี บรรยากาศยามค่ำคืนถือ ตะเกียงไฟไว้ในมือ เหลือบมองเขาครู่หนึ่ง และเหลือบมองไปยัง จิ่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังครู่หนึ่ง พลางขมวดคิ้ว

“ทำไมกลับมาช้าล่ะ นี่คือ ใครเหรอ?

“เป็นเพื่อนของสาวน้อยคนนั้น เธอบอกว่ามาด้วยกันกับหล่อน พวกเขาทั้งสองก็เลยให้ผมพาเธอมาที่นี่

ขณะที่ลุงสี่พูดก็พาจิ่งหนิงเดินเข้าไปในบ้าน ภายในบ้านที่ทําจากอิฐหลังนี้ ก็มีความเย็นของอากาศแผ่

ช่านออกมา

หญิงวัยกลางคนไม่พูดอะไร หลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไปก็ปิด ประตูแล้วเดินเข้ามาข้างใน

“เป็นแบบนี้นี่เอง ถึงว่าถึงกลับมากันช้า

สีหน้าของหญิงวัยกลางคนไม่ค่อยสู้ดีนัก รูปร่างผอมซูบ หลัง จากที่คุยจ้อกับลุงสี่เสร็จก็หันมามองสิ่งหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เพื่อนของคุณอยู่ห้องชั้นบนด้านหลัง เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปก็แล้ว กัน”

จิ่งหนิงไม่พูดอะไรออกมา รู้สึกซาบซึ้งจึงรีบเอ่ยขอบคุณ

“ถ้าเช่นนั้นก็ต้องรบกวนคุณด้วยนะคะ”

หญิงวัยกลางคนไม่พูดอะไรออกมา พาเธอเดินไปข้างหลัง นี่คือบ้านสองชั้น ตรงกลางมีทางเดินที่ทำด้วยบันไดหินทอดยาว

ทั้งสองเดินไปตามบันไดหิน ไม่นานก็มาถึงห้องที่อยู่ชั้นบน

“สาวน้อย เพื่อนของคุณมาหา

หญิงวัยกลางคนตะโกนเรียก จากนั้นจึงหนิงก็ได้ยินเสียง“ปัง” ดังขึ้น

จากนั้น เงาที่เธอคุ้นเคยก็วิ่งออกมาจากด้านในห้องอย่าง รวดเร็ว และมาอยู่เบื้องหน้าของเธอ

“โม่หนาน? ”

“หนิงหนิง! ”

ทั้งสองตะโกนขึ้นด้วยความดีอกดีใจ จากนั้นจึงหนึ่งก็วิ่ง เข้าหาเธอ ทั้งสองกอดกันแน่น

แม้ว่าโม่หนานจะเป็นคนที่เข้มแข็ง แต่ในเวลานี้ ทั้งสองอดไม่

ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

“คุณไม่เป็นไร คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว! ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณ อีกแล้ว”

ครั้งนี้เธอตกใจมากจริงๆ เพราะถึงยังไงก็กระโดดลงมาจาก เครื่องบินที่มีความสูงหลายพันเมตร แม้ว่าจะมีร่มชูชีพก็ตาม แต่ ก็ไม่มีใครสามารถรับรองความปลอดภัยได้ ตอนที่ตื่นขึ้นมา เธอไม่เห็นจิ้งหนิง ฟ้ารู้ดีว่าตอนนั้นเธอรู้สึกยังไง
เธอไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากจึงหนิงเป็นอะไรไปจริงๆ เธอจะทํายังไง

เธอจะสู้หน้าสู่จึงเป็นได้ยังไง!

นี่ไม่ได้เป็นเพียงภาระหน้าที่เท่านั้น แต่ยังความเป็นเพื่อนด้วย ดังนั้นเธอจะไม่ยอมให้จิ้งหนึ่งเป็นอะไรไปเพราะความรับผิดชอบ ของเธออย่างเด็ดขาด!

และก็เป็นเพราะสองวันนี้ แม้ว่าโมหนานจะได้รับความช่วย เหลือแล้ว แต่เธอก็อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

เธออยากจะออกไปตามหาสิ่งหนึ่งใจแทบขาด อยากจะรู้ว่า หล่อนปลอดภัยไหม ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า คนเป็นยังไงบ้าง

แต่ว่าเธอไม่สามารถออกไปได้

ไม่เพียงเพราะขาของเธอได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะ ครอบครัวนี้”เป็นคนจิตใจดี”รู้สึกว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ ยอมให้เธอออกไป

กระทั่งมีคนมาส่งข่าว บอกว่าที่นั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อเสียว บอกว่าเป็นเพื่อนของหล่อน

ถามเธอว่ารู้จักไหม ในตอนนั้นเองเธอจึงได้มีความหวังขึ้นมา

ที่ประเทศ F จิ่งหนิง ใช้ชื่อแทนตัวว่าSevenซึ่งเมื่อแปลออกมา แล้วก็คือเสียว ?

โม่หนานรีบพยักหน้าบอกว่าใช่ และขอร้องให้พาเธอไปหาจิ่งหนิง

ดังนั้นพวกของลุงสี่จึงรับปาก

เดิมทีเธอขอร้องให้ลุงสี่พาตนไปด้วย แต่ลุงสี่ไม่ยอม บอกว่า เธอได้รับบาดเจ็บเคลื่อนตัวไม่สะดวก

ไม่หนานรู้สึกว่าครอบครัวนี้ค่อนข้างซับซ้อน บางครั้งตนเองก็ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าพวกเขาเป็นห่วงเธอจริงๆหรือว่าแกล้ง เป็นห่วงกันแน่

แต่ว่า ในเวลานี้ เธอคงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะแม้ว่าเธอจะมี ความคิดเห็นอย่างไรก็คงไม่สามารถพูดออกมาตอนนี้ได้

ได้เจอกับจิ่งหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว

ในเมื่อพลังของสองคนก็ย่อมดีกว่าคนเดียวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะ เจอกับอะไรก็สามารถช่วยดูแลกันและกันได้

เมื่อเธอรู้ว่าจิ้งหนิงปลอดภัย ในใจก็รู้สึกสบายใจ เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็รีบขอบคุณลุงสี่รวมทั้งคนอื่นๆ ขอบคุณ พวกคุณมากๆเลยนะคะ”

ลุงสี่และหญิงวัยกลางคนคนนั้น ซึ่งก็น่าจะเป็นภรรยาของเขา พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกคุณรู้จักกัน ถ้างั้นคืน นี้พวกคุณก็นอนด้วยกันก็แล้วกัน หากคืนนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะก็อย่า ออกมาเดินเพ่นพ่านล่ะ รู้ใช่ไหม? ”

จิ่งหนิงและโม่หนานรีบพยักหน้า
จากนั้นลุงสี่และหญิงวัยกลางคนคนนั้น จึงไปเดินจากไป หลังจากที่พวกเขาเดินจากไป ไม่หนานก็พาวิ่งหนึ่งเข้าไปใน ห้องที่เธอพักอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ