วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 1009 มีลูก



บทที่ 1009 มีลูก

ระหว่างที่คิดเช่นนั้น ภายในใจของเธอก็เต้นตึกตัก เธอหัน กลับมา

คิดไม่ถึง พอหันกลับมาก็พบเข้ากับสายตาคู่หนึ่ง

ดวงตาคู่นั้นลึกล้ำมากราวกับวังน้ำวนสองแห่งที่ต้องการให้

เธอถูกดูดเข้าไป

เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจและมองไปที่กู้ซื้อเนียน

“ซือเฉียน คุณ…”

กู้ซือเฉียนเดินเข้าไปใกล้เธอ เกี่ยวแขนของเธอ และจับเธอไว้ ในอ้อมแขนของเขา

ร่างกายที่อ่อนแอและไร้กระดูกของหญิงสาวเข้าไปอยู่ในอ้อม กอดเขา ทำให้ชายคนนั้นหายใจเร็วขึ้น

เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า: “จงใจแต่งตัวแบบนี้ ยั่วผมเห

รอ? หือ?”

เฉียวฉียิ้มเล็กน้อย

นิ้วเรียวเลื่อนจากใบหน้าไปจนสุด ผ่านคางเรียบ ลูกกระเดือก และกระดูกไหปลาร้า เข้าไปในหน้าอกที่แข็งแรงของเขา

“ค่ะ ฉันกำลังยั่วคุณ และไม่รู้ว่าคุณจะหลงรึเปล่า?”
มุมปากของหญิงสาวกระตุ้นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ นี่เป็นครั้งแรกที่ กู้ซือเฉียนเห็นเธอแบบนี้ มีไฟในร่างกายของเขา และมันปะทุขึ้น ทันที ราวกับว่ามันกำลังจะระเบิด

เขายกมุมปากยิ้ม

“แน่นอนว่าต้องหลงอยู่แล้ว คุณนายเตรียมการด้วยความ ใส่ใจขนาดนี้ หากผมไม่หลง มันคงจะโง่เกินไปแล้ว?”

พูดแล้ว ก็ช้อนตัวและอุ้มเธอขึ้นมา

เฉียวฉีถูกเขาวางตัวลงบนเตียงนุ่ม

กู้ซื้อเฉียนถอดเสื้อผ้าของเขาอย่างรวดเร็วและง่ายดายแล้ว ทาบทับลงบนตัวเธอ

เฉียวฉีถูกเขาพรมจูบจนชาไปทั้งตัว จับหัวของเขาแล้วพูดเบา

ๆ: “ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ”

กู้ซื้อเฉียนหัวเราะออกมาเบา ๆ

ค่ำคืนนี้ทั้งสองคนมีค่ำคืนที่ร้อนแรง

จนท้ายที่สุดก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวพูดขึ้นเบา ๆ “ซือเฉิน พวกเรามีลูกกันเถอะ”

กู้ซือเฉียนตกตะลึงอย่างแรงและเงยหน้าขึ้นมองเธอ

ผมของหญิงสาวยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยสีแดง และใบหน้าที่บอบบางของเธอดูเหมือนดอกกุหลาบพันปีที่มี เสน่ห์ และเธอดูมีเอกลักษณ์และน่าหลงใหล
เธอยื่นมือออกมาและกอดคอเขาแล้วพูดเบา ๆ “ฉันอยากจะ ให้กำเนิดลูกของเราค่ะ

เมื่อเผชิญหน้ากับเฉียวที่เป็นแบบนี้ มีหรือที่กู้ซื้อเฉินจะอดรน

ทนไว้ได้?

เขาพรมจูบไม่หยุดและพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า: “ตามที่คุณ ต้องการเลย”

วันต่อมา

ทั้งสองย่อมต้องตื่นสายเป็นปกติ เมื่อคืนเข้านอนค่อนข้างดึก อีกทั้งยังมีกิจกรรมเข้าจังหวะกันจนเกือบถึงเช้ากว่าจะได้นอน

เมื่อตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว

กู้ชื่อเฉียนกลับมาอารมณ์ดี ผู้ชายเมื่อได้ปลดปล่อยก็ย่อมรู้สึก สดชื่น

เฉียวฉนั้นกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะหลับไม่สนิท ใบหน้าของ เธอมีแต่จะซีดเซียวและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

กู้ซือเฉียนรู้ว่าเขาคงจะโหดร้ายกับเธอเกินไปเมื่อคืนนี้ ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าพูดอะไร เขาแอบหัวเราะทั้งวันและเอาใจด้วยความ ตั้งใจเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้เฉียว รู้สึกดีขึ้นบ้าง

เนื่องจากพวกเขาบรรลุเงื่อนไขกับหนานกงจีนแล้วซึ่งทั้งสอง ฝ่ายจึงต่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ในครั้งนี้และไม่มีอะไรอื่น ให้ปิดบัง ดังนั้นกู้ซือเฉียนจึงสั่งให้ค้นหาเบาะแสของแผ่นหยก คัมภีร์สวรรค์ต่อไปอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันเขาก็ทำตามที่เฉียวฉีบอก เขาติดต่อจิ้งหนึ่งเมื่อ ให้ติดต่อกับเชวซู และให้คนนำต้นเงินทองไปให้ และไหว้วานให้ เขาช่วยท่าการศึกษามัน

ถึงแม้เซวซูจะไม่ชอบใจในตระกูลหนาน แต่ก็รู้ว่าแม้ว่าเฉียว จะมีสายเลือดตระกูลหนาน แต่ก็ไม่ใช่คนแบบเดียวกันกับพวก นั้น

ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธและตอบรับคำขอของพวกเขา

หนานกงจีนอาศัยสิ่งนี้ในการควบคุมตระกูลหนานทั้งหมดได้ มานานเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าของสิ่งนี้คงจะเลี้ยงดูได้ไม่ง่ายดายนัก

ถึงแม้หนานกงจิ๋นบอกวิธีการดูแลสิ่งนี้กับพวกเขาแล้ว แต่ ความจริงนั้นมันกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น

กู้ซือเฉียนเองก็ไม่ได้คาดหวังกับทางเซวมากนัก ก็ได้แต่หวัง

ลม ๆ แล้ง ๆ เพียงเท่านั้น

เมื่อคุยกับทางนั้นเสร็จแล้ว ทางนี้ก็เริ่มการค้นหาแผ่นหยก คัมภีร์สวรรค์อย่างไม่หยุดหย่อน

เขาคำนวณไว้แล้วว่าหากหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ที่เหลืออีก ห้าชิ้นเจอ ถึงเวลานั้นเขาจะใช้ชิ้นสุดท้ายเพื่อแลกกับผลของต้น เงินทองหลายสิบลูก หรืออาจจะสักหลายร้อยลูก อีกฝ่ายอาจจะ เห็นด้วย

ที่สุดแล้วจากท่าทีของหนานกงจั่นตลอดมา เขามุ่งมั่นที่จะได้ มาซึ่งแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์และตระกูลหนานมีคนจำนวนมากแบบนี้ ทุกคนต้องกินยานี เรียกได้ว่าจะต้องใช้ยาในปริมาณมหาศาล หนานกงจีนสามารถ จะจัดหาผลต้นเงินทองเยอะแบบนี้ได้ ก็พูดได้ว่าจะต้องมีพืชชนิด นี้อยู่เป็นจำนวนมาก ให้เขาเป็นจำนวนหลักร้อยก็คงไม่เป็นไร

เมื่อคิดเช่นนี้ กู้ซือเจียนก็ยิ่งมั่นใจและตั้งใจรอฟังข่าวของแผ่น หยกคัมภีร์สวรรค์

ในขณะเดียวกัน อีกฟากหนึ่ง

จึงหนึ่งอยู่ที่ทำงาน แต่จู่ ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์

ปลายสายเป็นหัวเหยาที่โทรเข้ามา

ช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่ใกล้จะถึงวันเกินของท่านย่าจิ้นแล้ว หัว เหยากลับไปประเทศ F เป็นเพื่อนจี้หลินยวนจึงไม่ได้อยู่ใน

ประเทศ

ครั้งก่อนจึงหนิงวานให้เธอสืบข่าว ครั้งนี้พอรับสายเธอก็รีบ ถามทันที “เหยาเหยา มีข่าวเกี่ยวกับแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ ไหม?”

เสียงหัวเราะของหัวเหยามาจากอีกด้านหนึ่ง: “ชิ หากไม่มีข่าว ฉันก็โทรหาเธอไม่ได้เหรอ?”

จิ่งหนิงจึงได้รู้ตัวว่าตนเองนั้นรีบร้อนเกินไปและอดหัวเราะไม่ได้

“ได้อยู่แล้ว ฉันก็ถามออกไปอย่างนั้นเอง”
หัวเหยาเป็นเพื่อนเธอมานานจึงไม่เข้าใจผิด

ยิ่งกว่านั้น หัวเหยาก็รู้จักนิสัยใจคอของวิ่งหนึ่งที่ หากไม่ใช่ เรื่องเร่งด่วนในการได้มาซึ่งสิ่งนั้น เธอก็คงไม่ไหว้วานตนเองให้

ช่วยหา ถึงแม้จนถึงตอนนี้ หัวเหยาจะรู้ว่าวิ่งหนึ่งสืบหาสิ่งนี้ จะเอาไป ทําอะไรกันแน่

แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่เพื่อนพี่น้องต้องการ เธอก็ย่อมต้อง พยายามสุดความสามารถ

ดังนั้นหัวเหยาจึงไม่อ้อมค้อมและพูดขึ้น “เอาละ บอกเธอตาม ตรงนะ มีข่าว”

จิ่งหนิงดีใจและรีบถาม: “ข่าวอะไร?”

“คุณย่าของจี้หลินยวนกำลังจะมีงานเลี้ยงวันเกิดอายุ 70 ปีใช่ ไหมล่ะ ตระกูลจิ้นเตรียมจัดงานใหญ่ ครั้งนี้มีแขกมาล่วงหน้ากัน เยอะ คุณย่าก็เลยพาฉันออกไปทักทายพวกเขา สุดท้ายฉันไปเจอ คุณลุงตระกูลจิ้นท่านหนึ่ง และได้ยินที่เขาพูดขึ้นมาอย่างไม่ได้ ตั้งใจว่าเขาเก็บรักษาไว้ในหนึ่ง

จิ่งหนึ่งรีบถาม: “คุณลุงท่านนั้นชื่ออะไร? ข่าวเชื่อถือได้ไหม?”

หัวเหยา “อือ” ครั้งหนึ่ง “ดูเหมือนจะแซ่เงิน รายละเอียดฉันก็ จำไม่ได้แล้ว วันนั้นคนเยอะมาก ส่วนเรื่องที่ว่าเชื่อถือได้ไหมนั้น ฉันก็แค่ได้ยินตอนที่พวกเขาพูดคุยกัน พวกเขาดูเหมือนจะมีลับ ลมคมในในเรื่องนี้และไม่อยากจะพูดต่อหน้าเรา ดังนั้นรายละเอียดฉันก็เลยไม่ค่อยรู้ ถ้าเธอรีบ ฉันจะลองถามให้

จิ่งหนึ่งไม่เกรงใจและพูดกับเธอตรง ๆ: “งั้นรบกวนเธอช่วยฉัน ถามดูหน่อย ถ้าหากมันเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าดีมากเลย

หัวเหยาได้ยินเสียงตื่นเต้นของเธอผ่านทางโทรศัพท์แล้ว อดสงสัยในใจไม่ได้

เธอถามด้วยความสงสัย: “หนึ่งหนึ่ง เธอสะดวกที่จะบอกฉัน ไหมว่าเธอจะหาของสิ่งนี้ไปทำอะไร? ฉันรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนกับ คนที่จะตามหาสิ่งของที่ทำให้ชีวิตเป็นอมตะเลย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ