วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 509 สูญสิ้นทุกสิ่ง



บทที่ 509 สูญสิ้นทุกสิ่ง

แต่สิ่งที่เธอสัมผัสได้คืออารมณ์ส่วนตัวของนักแสดงหญิงต่าง หาก

หากว่าอารมณ์ของนักแสดงและตัวละครไม่เข้ากัน เนื่องด้วย เหตุผลต่างๆนานา ท้ายที่สุดแล้วการแสดงออกมาก็จะไม่ตรง ตามต้องการ

แล้วตอนนี้ก็คือสถานการณ์แบบนั้น

แต่การที่นักแสดงหญิงคนนี้แสดงได้ไม่ถึงบทบาท ถังลั่วเหยา เพียงคิดว่าเธอหาความรู้สึกนั้นไม่เจอ หรือตื่นเต้นจนเกินไป เท่านั้น

เพราะตัวเธอเองก็พอจะเข้าใจถึงนักแสดงหญิงคนนี้อยู่บ้าง

นี่คือนักแสดงหญิงที่เธอเคยแสดงร่วมกันตอนที่เข้าวงการ ใหม่ๆ เทียบกันแล้วก็เป็นรุ่นพี่ของเธอ

อยู่ในวงการมาสิบกว่าปีแล้ว งานแสดงเล็กใหญ่ก็รับมา มากมาย เพียงแต่หน้าตาของเธอนั้นไม่ได้โดดเด่น จึงไม่ได้เป็น ที่นิยม

แต่ก็ได้ยินมาว่าเธอคนนี้เป็นคนดี ทั้งนิสัยและเทคนิคการ แสดงก็ล้วนควรได้รับคำชื่นชม มองดูแล้วในวันนี้คงจะมีเหตุผล อื่นทำให้ส่งผลกระทบกับเธอได้
เมื่อนึกขึ้นว่าหลายปีมานี้ตนบินสู่ยอดฟ้า แต่ตัวเธอนั้น…..

เมื่อนึกได้ดังนี้ ถังลั่วเหยาก็ได้แต่ถอนหายใจอยู่ในอก

แต่ละคนมีความลำบากใจที่แตกต่างกันไป เธอเข้าใจความ ลำบากใจของฝ่ายตรงข้ามดี แต่ถามว่าจะช่วยอย่างไรได้? เธอก็ ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรจริงๆ

สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือพาเธอเข้าสู่บทละคร

ดังนั้นถังลั่วเหยาจึงพยายามเข้าถึงเนื้อหา และเดินเข้ามาใน บทบาทของตัวละครอย่างแท้จริง ในที่สุดเธอก็สามารถทำมัน

ได้!

นักแสดงหญิงคนนั้นเริ่มกังวลด้วยเหตุนี้

เธอคิดไม่ถึงว่าตนพยายามถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ถัง ถั่วเหยาแสดงออกมาไม่ดี แต่ถังลั่วเหยายังสามารถเข้าถึง บทบาทได้อย่างลึกซึ้ง

สิ่งนี้ทำให้นักแสดงหญิงรู้สึกตกใจเล็กน้อย

เธอคิดถึงคำคมขู่ของสังเจียเจีย และนึกถึงว่าในอนาคตเธอจะ ไม่ได้อยู่ในกองถ่ายนี้อีกต่อไป นึกถึงอนาคตอันน่าสลดใจ

วินาทีนั้นเธอแทบจะระเบิดออกมา

ในขณะเดียวกัน เธอก็นึกขึ้นได้ว่าถังลั่วเหยาเป็นรุ่นน้องของ

เธอ

ในตอนนั้นพวกเธอทั้งสองคนเคยแสดงร่วมกันมาก่อน ถังลั่วเหยาเป็นเพียงนักแสดงหน้าใหม่ที่พึ่งเข้าวงการเท่านั้น

แต่ตอนนี้

เหอะๆ ตัวเธอเองยังคงเป็นนักแสดงประกอบ แต่ถังลัวเหยา กลับได้เป็นดาราดัง

ช่องว่างค่อนข้างใหญ่ทางจิตใจนี้ ทำให้นักแสดงหญิงรู้สึกไม่ พอใจนัก สีหน้าเธอเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งไม่เหมือนกับตัว ละครในเรื่องเข้าทุกที

ท้ายที่สุด เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์จะแสดงมันต่อไป

ในขณะเดียวกันทักษะการแสดงของถังลั่วเหยายิ่งแสดงก็ยิ่ง

โดดเด่น

เธอสามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวละครได้อย่าง

แท้จริง

ทุกคนจับตามองดูเธอ อีกทั้งยังมีคนบางกลุ่มกระซิบกระซาบ กัน บอกว่าตัวละครเป็นหนิงหาน นี้ต้องเป็นเธอถึงจะเหมาะสม

จึงทำให้นักแสดงหญิงที่สังเกตความเคลื่อนไหวภายนอกอยู่ ตลอดเวลาเริ่มรู้สึกหวั่นไหว

ท้ายที่สุด หลิวหมิงก็ไม่อาจทนดูต่อไปได้ จึงได้สั่งคัท

วินาทีที่ผู้กำกับหลิวพูดคำนั้นออกมา นักแสดงหญิงก็ดีใจมาก จากนั้นก็ร้องไห้ออกมา

เธอคิดว่าเธอทําสําเร็จแล้ว
เธอคิดว่าตัวเธอเองนั้นทำให้ถังลั่วเหยาไม่อาจแสดงออกมา ได้ดีและถูกผู้กำกับเกลียด

ในที่สุดเธอก็ทำหน้าที่ที่คุณหนูสั่งมอบหมายสำเร็จ ตอนนี้นักแสดงหญิงรู้สึกว่าความหวังกำลังกวักมือเรียกเธอ

เนื่องจากสังเจียเจีย ให้สัญญากับเธอไว้ว่าเพียงแค่เธอทำ สำเร็จ จะให้ผู้กำกับหลิวเพิ่มหนังให้กับเธอ นักแสดงหญิงคนนั้นจินตนาการไปต่างๆว่าเธอจะมีอนาคตที่

สดใสโดดเด่น

เธอรู้ดีว่าในวงการบันเทิงนั้นหลิวหมิงมีความสัมพันธ์ต่างๆ มากมาย และภูมิหลังของสังเจียเจียนั้นก็ค่อนข้างแน่นหนา ตัว เธอเองพยายามอย่างหนักที่จะอยู่ในวงการนี้มาหลายปีแต่ก็ไม่มี อะไรดีขึ้น เหตุผลนั้นอาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ตัวเธอเองค่อนข้าง จะเข้มงวดเกินไป

เธอคิดว่าเพียงแค่เธอยืนหยัดในความยุติธรรมและความถูก ต้องเธอก็จะได้ในสิ่งที่เธอต้องการ แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ เหลืออะไร

ตอนนี้เธอคิดได้แล้วและเธอไม่อยากจะเป็นคนหัวโบราณแบบ นั้นอีก เธอเพียงต้องการชื่อเสียงโด่งดังและเงินทอง

ในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ใกล้แค่เอื้อม……

ในขณะที่เธอกำลังดีใจนั้นแต่ลึกๆ ในใจก็รู้สึกไม่มีความสุข
ในที่สุดเธอก็ลืมตาอ้าปากได้ แต่ทําไมเธอจึงไม่มีความสุข กัน?

แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงเลยก็คือ หลิวหมิงไม่ได้ต่อว่าถังลั่วเหยา แต่กลับตะโกนด่าเธอด้วยน้ำเสียงอันดัง

เมื่อหลิวหมิงตะโกนออกมาประโยคแรก ก็ทำให้นักแสดงสาว

รู้สึกตกตะลึง

เขาเดินตรงเข้ามาหยุดอยู่ต่อหน้าเธอ ชี้หน้าแล้วด่าว่า “ไม่ อยากแสดงก็เก็บข้าวเก็บของใส่หัวออกไปซะ! อย่ามาทำให้ พวกเราต้องเสียเวลา และทำให้ละครถ่ายทำช้า! ”

นักแสดงหญิงยืนตะลึงงันอยู่กับที่

เธอคิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดแล้วจะเป็นแบบนี้

“ผู้กำกับหลิวคะ ฉัน…….

ยังไม่ทันที่เธอจะอธิบายอะไรออกมา ก็ได้ยินเสียงของถังลั่ว เหยาขึ้นขัดจังหวะ “ผู้กำกับหลิวคะ ฉันเคยแสดงกับเธอมาก่อน พื้นฐานของเธอค่อนข้างดี เพียงแต่ว่ารายละเอียดนี้เธออาจเข้า ได้ไม่ถึง เมื่อสักครู่เธอน่าจะเพียงแค่ตื่นเต้น ลองให้โอกาสเธอดู อีกสักครั้งนะคะ”

ที่จริงแล้วถังลั่วเหยาเพียงปรารถนาอยากจะช่วยนักแสดง หญิงคนนี้เท่านั้น

เนื่องจากพวกเธอสองคนเคยทำความร่วมมือกันมาก่อน อย่างไรก็ตามก็ยังมีมิตรภาพหลงเหลืออยู่
แม้ว่ามิตรภาพนี้นักแสดงหญิงคนนั้นอาจจะลืมมันไปแล้ว ถัง ถั่วเหยาจะไม่มีวันลืมมันเด็ดขาด ตอนที่เธอเพิ่งจะลืมตาอ้าปาก ได้ และเธอถูกผู้กํากับดุด่า นักแสดงหญิงคนนี้เคยพูดออกมากับ ผู้กำกับจังว่า “คุณถังน่าจะแค่ตื่นเต้นไปหน่อยเท่านั้น”

ประโยคนี้ นักแสดงหญิงเพียงกล่าวออกมาเพื่อแสดงถึงความ มีเมตตาของตน แต่สำหรับถังลั่วเหยาแล้วเธอได้มอบความ อบอุ่นท่ามกลางฤดูหนาวให้

ตอนนั้นถังลั่วเหยาเพิ่งจะเข้าวงการและกว่าจะได้บทแสดง

เล็กๆนี้มาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ในตอนนั้นเธอตื่นเต้นมากจริงๆ ตื่นเต้นเสียจนไม่สามารถ แสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้

ส่วนผู้กำกับที่บ้าอำนาจและมักมากในกามคนนั้น ได้ใช้คำพูด ดูถูกเหยียดยามเธออยู่หลายครั้ง อีกทั้งพยายามข่มขู่ให้เธอยอม

เรื่องนี้ ถังลั่วเหยาไม่อาจก้มหน้ายอมรับได้อีกต่อไป และ เนื่องจากครั้งนั้นจึงทำให้เธอ ตัดสินใจว่าจะไม่รับงานคุณภาพ ตี๋าอีกเด็ดขาด

และในตอนนั้น หากไม่ใช่เพราะดาราสาวที่พอมีอำนาจในการ พูดอยู่บ้างเข้ามาช่วยเธอไว้ ถังลั่วเหยาก็อาจไม่มีความสำเร็จใน วันนี้

และนอกด้วยเหตุนี้เองถังลั่วเหยาจึงได้รู้สึกซาบซึ้งใจต่อนัก แสดงหญิงคนนั้นมาก และยังคงจดจำเรื่องนี้ไว้มานานหลายปี
ตอนนี้ถังลั่วเหยาก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่เธอควรจะตอบแทนบุญ คุณแล้ว

ดังนั้นตอนที่นักแสดงหญิงคนนี้ได้รับการตำหนิ เธอจึงได้เอ่ย คำพูดนั้นออกมาเพื่อปกป้อง

แต่เรื่องนี้หลิวหมิงและนักแสดงหญิงคนนั้นไม่ได้รับรู้กับเธอ

ด้วย

หลิวหมิงไม่รู้ถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อีกทั้งนัก แสดงหญิงเองก็ลืมเรื่องราวนั้นไปแล้ว

ดังนั้นเมื่อถึงลั่วเหยาพูดประโยคนี้ออกไป สีหน้าของนักแสดง หญิงก็บ่งบอกถึงความลำบากใจ “ฉันไม่จำเป็นต้องได้รับความ เมตตาจากเธอ! ”

ถังลั่วเหยาตกตะลึงกับผู้หญิงคนที่เคยอ่อนโยน และเป็นรุ่นพี่ที่ เคยช่วยเหลือเธอไว้ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงไม่ยอมรับความหวังดี แต่วินาทีต่อมาถังลั่วเหยาก็เข้าใจทุกสิ่งอย่าง

ในแวดวงการแสดงนี้สับสนวุ่นวาย ตัวเธอเองก็ไม่อาจรับ ประกันได้ว่าในอนาคตจะกลายเป็นคนอย่างไร?

หรืออาจพูดได้ว่าในความซับซ้อนของแวดวงนี้ แต่ละคนล้วน ไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้

ดังนั้นตอนที่หลิวหมิงหันมามองเธอด้วยสายตาเยือกเย็นและ พูดประชดประชันว่า “คุณถังช่างมีจิตใจเมตตาดีเหลือเกินนะ ครับ” เธอก็ไม่ได้พูดแก้ตัวอะไร แล้วก็ไม่ได้แสดงออกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ