วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 823 วันวาน



บทที่ 823 วันวาน

เขาพูดจบและไม่สนใจเธอแล้วหันหลังเดินออกไปข้างนอก หลินเยว่เอ๋อร์อึ้งอยู่ที่นั่นอย่างสมบูรณ์ และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้สติและใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างมาก

เฉียว นอนไม่ค่อยหลับ

และไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือเป็นเพราะ จิตใจของเธอนั้นกำลังสับสนวุ่นวาย เธอนอนหลับตาอยู่บนเตียง

และพยายามอยู่นานแต่ก็นอนไม่หลับ เมื่อลืมตาขึ้น เบื้องหน้าเธอมืดสนิท เธอหันศีรษะเล็กน้อย

หยิบรีโมทคอนโทรลจากข้างเตียง เปิดม่าน และเห็นแสงจันทร์สี

เงินส่องลงมา

ทันใดนั้นก็คิดถึงเรื่องสมัยที่ยังอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เมื่อนานมาแล้ว

มันคือค่ำคืนเหมือนเช่นคืนนี้ กลางฤดูร้อน พระจันทร์กระจ่าง และดาวเต็มฟ้า

เธอนอนไม่หลับและแอบเข้าไปขโมยเมล็ดแตงโมกหนึ่งจาก ในห้องครัว จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนหลังคาสถานรับเลี้ยงเด็ก กําพร้าเพื่อนั่งดูดาว

เธอนั่งแทะเมล็ดแตงโมและดูดาวไปพลาง สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านหน้าราวกับว่าแม้แต่สายลมก็ยังแสนหวาน

ตอนนั้นเองก็มีเสียงเย็นๆ ของเด็กผู้ชายลอยออกมาจาก ภายในสถานรับเลี้ยงเด็ก

“เฮ้ เธอทำอะไรน่ะ?”

เธอตกใจและคิดว่าเป็นท่านผู้อำนวยการเธอแค่อยากจะลุก ขึ้นวิ่งหนี ส่งผลให้เธอเหยียบกระเบื้องที่แตกซึ่งมีตะไคร่น้ำอยู่ใต้ ฝ่าเท้า แล้วเธอก็ล้มลงทันที

เด็กชายก็คงตกใจเช่นกัน เขาเห็นเธอตกลงมาจึงได้แต่ยืนอึ้ง อยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน

ปรากฏว่าหล่อนล้มตรงที่เขายืนอยู่ “กุก ๆ” ทั้งสองคนล้มลง

พร้อมกัน

เด็กผู้ชายถูกเธอทับเจ็บไปทั้งตัวจนกระดูกแทบแหลกไปทั้งตัว และไม่ง่ายเลยกว่าทั้งคู่จะลุกขึ้นมาจากพื้นได้

เมื่อเธอเห็นว่าเป็นเขาก็โมโหทันทีและชกไปที่ไหล่ของเขา

“นายจะแหกปากทําไม? ตกใจหมด ฉันคิดว่าท่านผู้อำนวย การมาเสียอีก”

กู้ซื้อเฉียนตัวน้อยกุมไหล่บริเวณที่ถูกต่อยและมีสีหน้าโกรธ

“ดึกๆ ตื่นๆ เธอไม่นอนหนีไปบนหลังคาแล้วยังจะมาโทษคน อื่นว่าไม่ควรจะเรียกเธองั้นเหรอ?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เจียวฉีก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
ได้แต่พูดเสียงอ่อยๆ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย?

กู้ชื่อเรียนโกรธมากแต่ก็ยังทำอะไรเธอไม่ได้จึงได้แต่ถอนใจ อย่างเย็นชา

“ถ้าเธอทำแบบนี้อีกฉันจะไปฟ้องท่านผู้อำนวยการ ให้เขาสั่ง

สอนเธอ”

เฉียวได้ยินแล้วก็กลัว

กว่าเธอจะให้ที่พักพิงแบบนี้ได้มันไม่ง่ายเลย มีเสื้อผ้าให้ใส่ มี ข้าวให้กิน อีกทั้งยังได้เรียนหนังสือ เธอไม่อยากจะถูกไล่ออก

เธอรีบดึงเขาไว้แล้วพูดเอาใจ “เอาล่ะๆ ถือว่าฉันผิดไม่ได้ไง? นายอย่าไปฟ้องท่านผู้อำนวยการนะ

กู้ซือเฉียนจึงได้ส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา ครั้งนี้ช่างมันเถอะ ทั้งสองยืนอยู่ในสวนเล็กๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองบนหลังคา จู่ ๆ ก็เกิดความสงสัยขึ้นเล็กน้อย

“ข้างบนนั่น มันสบายขนาดนั้นจริงเหรอ?”

เฉียวฉพูด: “แน่นอน ในบ้านน่ะอุดอู้จะตาย แถมร้อนก็ร้อน ไม่เหมือนกับบนหลังคา ทั้งเย็นสบายแถมยังได้ดูดาว นายอยาก จะลองดูไหมล่ะ?”

กู้ซือเฉียนเรียนรู้กฎเกณฑ์ตั้งแต่ยังเด็ก และโตมาอย่างตรงไป ตรงมา เขาไม่เคยลองทำอะไรแบบนี้เลย

เขาจึงส่ายหน้าโดยที่แทบจะไม่ต้องคิดเลย
“ฉันไม่เอาหรอก”

ไม่คาดคิดว่าจะทําให้เฉียวคึกคัก

เธอดึงเขาแล้วพูด “เฮ้ อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิ นายลองดู ไม่แน่ นะลองแล้วอาจจะชอบก็ได้นะ? ฉันพานายขึ้นไปเอง

เขาไม่ค่อยเต็มใจแต่กลับไม่สามารถจะปฏิเสธเธอได้ สุดท้าย จึงได้ปีนบันไดตามเธอขึ้นไปอย่างอิดออด

โลกบนหลังคานั้นแตกต่างจากพื้นดินจริงๆ

ท้องฟ้าดูเหมือนจะอยู่เหนือหัว และสามารถสัมผัสได้เพียงยื่น มือออกไป ถึงแม้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจะไม่ใช่ตึกที่สูงที่สุด แต่

สำหรับเมืองที่แร้นแค้นแล้ว มันก็ถือว่าเป็นอาคารที่ค่อนข้างสูงที

เดียว

ดังนั้นเมื่อนั่งอยู่บนหลังคาจึงทำให้มองเห็นทัศนียภาพโดย รอบ ท้องฟ้ากว้างใหญ่และทะเลกว้าง และให้ความรู้สึกปลอด โปร่งและสดชื่น

เขาจึงอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไม

เธอถึงได้ชอบปีนขึ้นมาบนหลังคา ในตอนนั้นเองเฉียว ควานหยิบเมล็ดแตงโมออกมาจาก

กระเป๋าแล้วส่งให้เขา

เขาตกตะลึงแต่ยังไม่ทันที่จะมีปฏิกิริยาก็ได้ยินเสียงคมชัดเด็กหญิงหยิบเมล็ดแตงโมเม็ดหนึ่งเข้าปากแล้วแทะมันอย่าง

ออกรสออกชาติ เธอหันมาและเห็นเด็กชายยังงงอยู่จึงเลิกคิ้ว

“งอะไร? แทะสี จะมานั่งตากลมอย่างเดียวไม่ได้นะ ไม่สนุก

หรอก”

เขาเห็นดังนั้นจึงได้เลียนแบบเธอ หยิบเมล็ดแตงโม โดยนเข้า ปากแล้วแทะมัน

เด็กชายลูกคุณหนู เขาไม่เคยลองทำอะไรแบบนี้มาก่อน

นั่งอยู่บนหลังคากลางดึก แทะเมล็ดแตงโม ดูดาว

ถึงในใจจะปฏิเสธ แต่ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นดวงตาที่สุกสกาวของ เธอแล้ว ร่างกายก็ไปตามการตัดสินใจของเธอโดยไม่รู้ตัว

ต่อมากู้ซื้อเนียนน้อยก็แอบหงุดหงิด

ยายเด็กนี่มีเวทมนตร์อะไร? ทำไมตนเองจึงได้เปลี่ยนไปทำตัว ผิดเพี้ยนเหมือนกับเธอได้

เรียกว่ามีอย่างที่ไหนกัน!

อย่างไรเสีย ถึงในใจจะคิดอย่างแต่การกระทำกลับไปอีกทาง

ช่วงเวลาหลังจากนั้น ภายใต้การนำของเฉียวฉี เขาได้ทำสิ่งที่ พิเศษหลายอย่างกับเธอ

แทบจะทุกครั้งที่ปากบอกว่าไม่ แต่ขากลับเดินตามไปอย่างว่าง่าย
ทั้งสองคนค่อยๆ เติบโตขึ้น

และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่จากเธอเป็นผู้นำในการทำเรื่องเกเร และมีเขาคอยตาม กลายเป็นเขาเองที่เป็นคนนำแล้วมีเธอคอย ตาม

คงจะเริ่มตั้งแต่กู้ซื้อเฉียนออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และได้กลายเป็นคุณชายสามแห่งตระกูล

เฉียวเองก็ไม่รู้ เธอรู้แต่เพียงว่าเมื่อได้พบกันอีกครั้งแล้วแอบ รู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่เด็กชายแสนบริสุทธิ์ที่หยอก ล้อกับเธอทั้งวันอีกแล้ว

ความคิดของเฉียว ลอยไปไกลเมื่อลมกลางคืนพัดผ่าน

ใบหน้าของเธอ

ราวกับย้อนกลับไปในช่วงเวลาเหล่านั้นและกลับไปยังช่วง บ่ายที่มีแสงแดดอบอุ่น

เด็กชายนั่งอยู่ใต้โครงองุ่นในสวน เธอเดินเข้าไปและพบกับ เขาโดยบังเอิญ และประหลาดใจกับช่วงวัยเยาว์ทั้งหมด

นี่ก็ดึกแล้ว

เฉียวนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะหลับไปตอนไหน

กลางดึกเธอสะลึมสะลือและฝัน

ในฝันมีเงาสะท้อนของดาบ เลือดและศพจํานวนมาก และเสียงตะโกนและเสียงของการเข่นฆ่านับไม่ถ้วนปะปนกัน ก่อให้ เกิดโลกที่วุ่นวายและน่าสังเวช ผมของเธอสยายและเดินไปอย่างไร้จุดหมาย เธอเห็นคนที่เดิน

อยู่ข้างๆ ล้มลงทีละคนๆ และอยากจะยื่นมือเข้าไปถึงพวกเขาไว้

แต่เมื่อยื่นมือออกไปกลับทะลุผ่านตัวพวกเขาและไม่สามารถจะ

งพวกเขาไว้

ในตอนนั้นเอง กระสุนนัดหนึ่งพุ่งตรงมาที่เพื่อนร่วมทางของ

เธอ

เธอเบิกตาโพลงและคิดจะร้องตะโกนบอกให้เขาระวังแต่พอ เปิดปากกลับไม่สามารถจะเปล่งเสียงได้

สุดท้ายจึงทำได้เพียงมองเขาถูกยิงแสกหน้าเข้ากลางระหว่าง

คิ้ว ด้วยดวงตาที่ไม่เต็มใจและเจ็บปวด

“กรี๊ด—!”

เฉียว ตกใจตื่นขึ้นในทันใด

เมื่อลืมตาขึ้นมันก็มืดสนิทและนาฬิกาแขวนข้างๆ เดินดังติ๊ก ตอก ๆ แต่มันแค่ตีสี่

เธอหลับตาพักหนึ่งแล้วจึงลืมตา จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง

ตัวเธอมีเหงื่อโทรมกายเพราะฝันร้ายจนชุดนอนเปียกชื้นและ เกาะติดกับตัวจนรู้สึกอึดอัด

เฉียวนั่งอยู่ครู่หนึ่งและหลังจากรอให้ความฝันนั้นหายไปจากห้วงความคิดแล้จึงเลิกผ้าห่มแล้วลงจากเตียงและเดินไปที่ ห้องน้ำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ