วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 913 โลกของทั้งสองคน



บทที่ 913 โลกของทั้งสองคน

ตั้งแต่เฉียว ถูกช่วยออกมาได้ กู้ซื้อเฉียนก็คอยเฝ้าเธออยู่ข้าง เตียงตลอด แม้กระทั่งตอนที่หมอเข้ามาตรวจร่างกายให้เธอ เขา ก็ไม่ขยับไปไหน

เพราะรู้ดีว่าเขาพึ่งจะได้เธอกลับคืนมา ความรู้สึกในใจจึง ไม่ใช่คนธรรมดาที่ไหนจะเทียบได้ เพราะงั้นก็เลยไม่มีใครว่า อะไรเขา

คุณหมอก็เพียงพูดเกลี้ยกล่อมเขาสองสามประโยคว่า นี่มันก็ ดึกมากแล้ว ยังไงเฉียวฉีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่ต้องพักรักษาตัว เงียบ ๆ เท่านั้น เพราะงั้นเขาไม่จำเป็นต้องอยู่รบกวนเธอ ให้กลับ ไปพักผ่อนที่ห้องตัวเองได้

จากนั้นคุณหมอก็ป้อนยาให้กับเฉียว พอเตรียมยาสำหรับ พรุ่งนี้เช้าเสร็จ คุณหมอก็ออกไป

ดังนั้น พริบตาเดียวทั้งห้องก็เหลือเพียงกู้ซื้อเฉียนและเฉียว เพียงสองคน

เขานั่งลงตรงข้างเตียง มองไปยังหญิงสาวที่นอนอยู่จากนั้นก็ ดึงมือเธอมากุมไว้ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด

พระเจ้ารู้ดี จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะพบว่าเฉียวที่มีความสำคัญ ต่อเขามากขนาดไหน

ช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ภายนอกดูเหมือนเขาจะวางแผนรับมือได้เป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริงมีเพียงใจเขาเท่านั้นที่รู้ ดีว่าตัวเองกลัวมากขนาดไหน

กลัวว่าจะหาเธอไม่เจอ กลัวจะเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ กลัวว่าถ้าถึง วันที่หาเธอพบเธอจะเหลือเพียงแค่กองกระดูก

ดังนั้น การที่ได้เห็นเธอนอนหลับอย่างสงบสุขอยู่ที่นี่ ในใจ

ไม่ใช่แค่รู้สึกเจ็บปวด แต่ยังรู้สึกซาบซึ้งอีกด้วย

ซาบซึ้งในพระเจ้าที่คืนเธอให้กับเขา

จากนี้ไปเขาจะไม่พูดถึงเรื่องราวในอดีตอีก เรื่องวุ่นวายหรือ เรื่องคับแค้นใจที่อยู่ในใจของคนทั้งสอง เขาจะไม่เอ่ยมันขึ้นมา

เขาจะทะนุถนอมเธอเป็นอย่างดี จะไม่ทำให้เธอต้องเจ็บปวด

กู้ซือเฉียนนั่งคิดเรื่องราวต่าง ๆ อยู่เงียบ ๆ ข้างเธอ คอยเฝ้าดู เธอจนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน

เช้าวันต่อมา

จึงหนิงตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอมาถึงตึกหลักตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อดูว่าเฉียวฉีตื่นรึยัง

คาดไม่ถึง พอเธอเดินมาถึงห้องรับแขก ก็เจอกับลุงโอที่เดินลง มาจากชั้นบน

เธอกับลู่จึงเป็นอาศัยอยู่ที่นี่มาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว พวกเธอ ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับลุงโอพอสมควร

พอเห็นเขาเดินมา เธอจึงทักทายด้วยรอยยิ้มว่า “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ลุง โอ”

ลุงโอเองก็ค่อนข้างชอบวิ่งหนึ่งมากเช่นกัน เขาไม่เคยรู้จักลู่วิ่ง เซินและจิ้งหนิงมาก่อน เขารู้แค่เพียงว่าตระกูลลู่กับตระกูลกู้ไม่ ค่อยลงลอยกันสักเท่าไร

อีกอย่างคุณชายของเขาจะต้องสืบทอดตระกูลต่อไปใน อนาคต ดังนั้น เขาจึงพลอยมีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีต่อตระกูลไป ด้วย

แต่หลังจากการอยู่ร่วมกันมาสักพักในช่วงนี้ เขากลับพบว่า คนของตระกูลลู่ทั้งสองคนนี้เป็นคนดีมาก

เหมือนกับคุณชายของเขาและเฉียว เป็นคนที่ดีไปหมด ดีจน จะดีไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

เพราะฉะนั้น มันก็เลยทำให้เขาปล่อยวางอคติที่มีในอดีตลง

ก่อนจะค่อย ๆ สนิทกับพวกเขามากขึ้น

ลุงโอยิ้มพร้อมกับตอบว่า “คุณนายลู่ ตื่นเช้าจังเลยนะครับ มา ดูคุณเฉียวเหรอ?”

จิ่งหนึ่งพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ค่ะ ตอนนี้เธอตื่นรึยังคะ?” พอเธอเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ลุงโอก็ดีใจยิ้มจนตาหยี “ตื่นแล้ว ครับ กำลังพักผ่อนอยู่ คุณชายก็อยู่กับเธอด้วย

จิ่งหนึ่งได้ยินดังนั้น เธอก็เผยรอยยิ้มออกมาพร้อมกับมองขึ้น ไปชั้นบน “งั้นตอนนี้ฉันขึ้นไปดูเธอได้ไหมคะ?”
เธอไม่อยากเข้าไปแล้วบังเอิญเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น

ลุงโอรู้ความหมายของเธอในทันที เขาตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “ได้ครับ ”

จิ่งหนึ่งถึงได้วางใจ ก่อนจะตอบว่า “งั้นฉันขึ้นไปแล้วนะคะ

“ครับ”

จิ่งหนึ่งเดินขึ้นไปชั้นบน จากนั้นก็มาถึงห้องที่เฉียวฉีถูกส่งตัว

เข้ามาเมื่อวาน

เธอเคาะประตูเบา ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงที่นั่งเรียบของชาย

หนุ่มดังลอดออกมาว่า “เข้ามา

พอเปิดประตูเข้าไป เธอก็เห็นหญิงสาวอีกคนนั่งพิงหัวเตียงอยู่ พอดี

กู้ซือเฉียนนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับป้อนยาให้เฉียว

แม้ว่าร่างกายของเธอในตอนนี้จะดูสบายดี แต่เพราะฤทธิ์ของ ยานอนหลับทำให้สติและเรี่ยวแรงของเธอได้รับความเสียหาย ค่อนข้างหนัก คุณหมอจึงไม่ได้จ่ายยาแผนปัจจุบัน แต่กลับจ่าย ยาสมุนไพรจีนบางชนิดโดยเฉพาะสำหรับฟื้นฟูและบำรุงความ บริสุทธิ์สดชื่น ให้เธอแทน

ขณะนี้ กู้ซื้อเฉียนกำลังป้อนยาให้เฉียวทีละช้อนทีละช้อน อย่างอดทน

พอเห็นเธอเดินเข้ามา มือของกู้ซื้อเฉียนก็หยุดชะงักทันที ก่อนจะหันไปถามเธอว่า “คุณมาได้ยังไง?”

จิ่งหนิงตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “ฉันมาดูอาการของคุณเฉียวนะ ว่าเป็นยังไงบ้าง”

เธอพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้

อาจเป็นเพราะว่าเมื่อคืนวานนั้นดึกเกินไป รวมถึงอาการของ เฉียว ก็ยังไม่ค่อยดี เพราะงั้นเธอก็เลยไม่ได้สังเกตรูปร่างร่าง หน้าตาของหญิงสาวตรงหน้าสักเท่าไร

ตอนนี้อีกฝ่ายตื่นแล้ว พอได้มองอย่างละเอียดอีกครั้ง ก็พบว่า เธอถือเป็นสาวสวยไม่เบา

จิ่งหนึ่งอดไม่ได้ที่จะยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ดูท่าแล้วคุณคง อาการดีขึ้นพอสมควรแล้วสินะ”

เฉียวมองเธออย่างว่างเปล่า ผ่านไปหลายวินาที เธอถึงได้

ถามขึ้นว่า “คุณคือ…..

กู้ซื้อเฉียนจึงแนะนำว่า “เธอคือวิ่งหนึ่ง

เขาหยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อ “ภรรยาของลู่วิ่งเซิน”

นัยน์ตาของเฉียวฉีเบิกกว้างขึ้นทันที ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า

“โอ้ ฉันนึกออกแล้ว คุณคือ Seven!”

จิ่งหนึ่งยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “ใช่ ฉันเอง”

เฉียวเริ่มรู้สึกเขินขึ้นมาเล็กน้อย เธอเกาหัวตัวเองเบา ๆ “ฉัน ดีใจมากที่ได้เจอคุณ คุณรู้ไหม? เมื่อก่อนคุณเป็นไอดอลของฉันเลยนะ!”

จิ่งหนึ่งเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ “จริงเหรอ? ฉันไม่เคยรู้เลย แต่ดูเหมือนซือเฉียนจะไม่อยากให้พวกเขาพูดคุยกันมาก เกินไป พอเห็นว่าวิ่งหนึ่งดูอาการเฉียวเสร็จแล้ว เขาก็พูด ขัดจังหวะขึ้นมาอย่างเย็นชา

“เอาล่ะ ตอนนี้คนก็ดูเสร็จแล้ว คุณก็ควรจะออกไปได้แล้วใช่

ไหม?”

จิ่งหนิงชะงัก ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ

“นี่ คุณนี่มันยังไงเนี่ย? ฉันใจดีมาเยี่ยมคนป่วย ไม่ได้มาเยี่ยม คุณสักหน่อย คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันออกไป?”

เฉียวฉียิ้มพร้อมกับพูดขึ้น “อย่าไปสนใจเขาเลย ฉันพึ่งตื่น ตอนนี้ในหัวก็เลยค่อนข้างมีนนิดหน่อย ว่าแต่พวกคุณมาที่นี่ ตั้งแต่เมื่อไร?”

จิ่งหนิงเล่าเรื่องของตัวเองกับลู่วิ่งเซินให้เฉียวฟังนิดหน่อย จากนั้นก็สรุปเรื่องราวในช่วงที่ผ่านมาแบบคร่าว ๆ ให้เธอฟังอีก เล็กน้อย

เมื่อครู่เธอยังไม่พอใจกู้ซื้อเฉียนที่ไล่เธอออกไปอยู่เลย แต่พอ นึกถึงเรื่องราวในช่วงที่ผ่านมา เธอก็เข้าใจขึ้นมาทันที ช่วงที่กู้ซื้อ เฉียนตามหาเฉียวนั้น เขาทุ่มเททั้งกายและใจจริง ๆ เพื่อที่จะหา เธอให้เจอ

เรียกได้ว่าแทบจะเอาทั้งตระกูลของเขาเข้าไปเดิมพันเลยด้วย
พอได้เธอกลับมา กว่าเธอจะฟื้นคืนสติ เขาก็คงอยากจะอยู่กับ เธอตามลำพังเป็นธรรมดา

จิ่งหนิงอยู่ที่นี่ ก็ดูเหมือนจะเป็นการรบกวนโลกของพวกเขาทั้ง สองคนเสียมากกว่า

พอคิดได้ดังนี้ เธอก็ยิ้มออกมาอย่างเก้อเขิน

“งั้น พวกคุณก็คุยกันต่อเถอะนะ ฉันมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีก ไม่ รบกวนพวกคุณแล้ว”

เฉียวพยักหน้ารับ ก่อนจะตอบว่า “รอให้ฉันอาการดีขึ้นก่อน นะ แล้วฉันค่อยไปหาคุณ

จิ่งหนึ่งพยักหน้า ก่อนจะยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรอีกครั้ง จาก นั้นก็หมุนตัวออกไป

หลังจากรอให้เธอเดินออกไปแล้ว เฉียวก็หันกลับมามองทา งกู้ซือเฉียน

เธอจ้องเขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เมื่อ ครูทำไมคุณทำกับเธอแบบนั้นล่ะ? เธอเป็นแขกมาจากแดนไกล นะ ทำแบบนี้รู้ไหมว่ามันไม่ดี?

กู้ซื้อเฉียนจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง

ในแววตานั้น มีความรู้สึกที่ซับซ้อนมากมายปะปนอยู่ ดูไม่ ออกเลยว่ามันคือความสุข ความสบายใจ หรือคืออย่างอื่น
เฉียวมองดูด้วยความงุนงงเล็กน้อย

เธอเอามือจับใบหน้าตัวเอง ก่อนจะถามด้วยความสงสัยว่า “มี อะไรเหรอ? หน้าฉันมีอะไรติดรึไง?”

กู้ซื้อเฉียนตอบอย่างนิ่งเรียบว่า “ไม่มี”

ขณะที่พูด เขาก็ตักยาขึ้นมาจ่อปากเธออีกหนึ่งค่ “อ้าปาก” เฉียวอ้าปากอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ดื่มยาค่นั้นลงไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ