วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 530 เจอกับอันตราย



บทที่ 530 เจอกับอันตราย

ใจของอานเฉียวรู้ดีว่าไม่ดีแน่ ก็ไม่กล้าที่จะทำเขาโมโห ก็เลย ทําได้แค่กดความกลัวไว้แล้วพูดว่า “งั้นลุงจะเอาเท่าไหร่?

อยู่ๆ คนขับรถก็ได้มีรอยยิ้มที่ตื่นกามออกมา ยื่นมือไปลูบ ใบหน้าของเธอ ยิ้มแล้วพูด “พูดแต่เรื่องเงินไม่สนิทกันเลย น้อง สาวไปอยู่เป็นเพื่อนฉันคืนเดียวก็พอ

พูดจบ ก็จะมากระชากเสื้อเธอ

อานเฉียวทั้งกลัวทั้งโมโห มองมือที่เขาได้ยื่นออกมาก็รู้สึกว่า ขยะแขยงมากๆ ก็ได้ดิ้นรนไปแล้วก็ร้องออกไปว่า “แกอย่าทำ อะไรที่มันเกินไปนะ! คนขับแท็กซี่อย่างพวกแกที่ระบบรักษา ความปลอดภัยสาธารณะที่บัตรประชาชนอยู่นะ ระวังฉันแจ้ง ความลุกลามทางเพศ!”

คนขับก็ได้ยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว “ลุกลามทางเพศ? กับผู้ หญิงคนอื่นคือลุกลามทางเพศ กับนางแรดอย่างเธอคาดว่าอยาก จะได้แต่ไม่ได้มากกว่า!”

“ฉันไม่เข้าใจแกพูดถึงอะไร!” อานเฉียวตะโกนด้วยความ

โมโห

“เหอะ! เธอคิดว่าฉันไม่เคยดูข่าวหรือไง? ตอนที่เธอขึ้นรถข ฉันฉันก็จําเธอได้ สองปีก่อนเพื่อเงินแล้วก็ได้ปีนขึ้นเตียงของ ผู้ชาย ตอนนี้ยังจะมาเสแสร้งทำเป็นหยิ่งยโสกับฉัน!”
เสียงเสื้อที่ได้ขาดก็ได้ดังขึ้น อานเจียวกรี๊ดออกมา เวลา เดียวกันก็ได้ออกแรงพยายามเปิดประตูรถ ทั้งคนก็ได้ล้มออก จากรถ

เธอได้ล้มไปบนพื้นอย่างแรง แขนเสื้อนั้นได้ถูกผู้ชายกระชาก จนขาด เข่าก็ได้เป็นแผลเพราะหกล้ม แต่ไม่มีเวลาไปสนใจ ก็ได้ พยายามออกแรงที่จะวิ่งไปข้างหน้า

“ช่วยด้วย!”

เธอได้ตะโกนออกมา หันหลังไปมองก็ได้เห็นคนขับรถตามมา

แล้ว

ความกลัวขนาดใหญ่ได้ปกคลุมเธอ ที่นี่ไกลจากเมืองเกินไป ไม่มีแม้กระทั่งรถที่ได้ขับผ่าน เห็นได้ชัดว่าคนขับรถได้เลือกที่ไว้ ตั้งแต่แรกแล้ว จากแรงของเธอ ไม่มีทางที่จะวิ่งชนะผู้ชายคนหนึ่ง ได้

ทํายังไง?

ควรทํายังไงดี?

สายตาได้มองไปรอบๆ ก็ได้จ้องไปทางพุ่งไม้ที่อยู่ข้างหน้า ด้านซ้าย ตาของอานเฉียวได้เป็นประกาย

ใช่! เข้าไปยังพุ่งไม้ เธอตัวเล็ก ไม่แน่อาจจะหลบพ้น ยังไงซะวิ่งก็ต้องตาย หลบไปไม่แน่อาจจะมีความหวังที่จะรอดก็ได้
อานเฉียวออกแรงวิ่งเข้าไปในพุ่งไม้

ป่าในตอนกลางคืนนั้นมืดมากๆ ไม่มีทางที่จะเห็นทางได้ชัด โชคดีที่มีแสงดวงจันทร์ที่บริสุทธิ์ส่องเล็ดลอดผ่านใบไม้มา ถือว่า ได้มองเห็นบ้างเล็กน้อย

อานเฉียววิ่งไปวิ่งไป อยู่ๆ ขาก็ได้สะดุด ทั้งคนก็ได้ล้มลงไปกับ

“โอ๊ย!

สําคอก็ได้ส่งเสียงที่เจ็บปวดออกมา แต่ไม่นาน ก็ได้ปิดปาก ของตัวเองไว้ เธอได้เปิดตาโต กลั้นหายใจ มองไปยังคนขับคนข้างหน้าที่

เดินผ่านไปด้วยระยะที่ใกล้ชิด ขาได้เหยียบใบไม้ที่ล้วงแล้วส่ง เสียงซ่าออกมาเบาๆ เดินไปก็ได้บ่นไป “ยัยบ้านั่น แค่พริบตา เดียว วิ่งไปที่ไหนแล้วว่ะ?”

อานเฉียวได้นั่งอยู่ในพุ่งไม้ไม่กล้าที่จะหายใจแรงๆ จนกระทั่ง อีกฝ่ายได้หาไปทั่วแต่หาไม่เจอ ก็ได้จากไปอย่างไม่พอใจ เธอถึง ได้โล่งอก

แต่ในเวลาเดียวกัน อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น

อานเฉียวตกใจจนสะดุ้ง รีบจับกระเป๋า แต่ก็สายไปแล้ว เสียง โทรศัพท์ในป่าที่ได้เงียบสงบนั้นทำให้ดังเป็นพิเศษ เธอมองเห็น อย่างชัดเจนเลยว่าฝีเท้าคนคนนั้นได้หยุด แล้วก็หันกลับมา

อานเฉียวพูดออกมาเบาๆ ว่าซวยแล้ว แล้วก็หันหลังวิ่งไป
“ให้ตายเถอะ! หยุดเดี๋ยวนี้!”

ข้างหลังได้มีเสียงที่หงุดหงิดของชายหนุ่มส่งมา อานเฉียว ตกใจจนร้อนรนไปหมด ทำได้แค่วิ่งไม่หยุด ในที่สุดก็ได้วิ่งขึ้นที่ ถนนอีกครั้ง

ข้างหน้าอยู่ๆ ก็ได้มีแสงสว่างที่แสบตาส่งมา อานเฉียวแสบตา จนปวดตา ขาก็ได้บิด ล้มไปกับพื้น

คนขับรถเห็นว่ามีโอกาสแล้ว ก็ได้วิ่งตามไป ยิ้มแล้วพูดว่า “ดู

เธอยังจะหนีไปไหนได้อีก!!

อานเฉียวตกใจจนหน้าซีดไปเลยทันที

แต่ในเวลานี้ หลังแสงสีขาว รถฮัมเมอร์สีดำก็ได้สะบัดท้ายรถ ราวกับปีศาจ จอดลง

อานเฉียวได้ทําตาโต จากนั้น ก็ได้มองเฟิงเหยียนที่พาคนมา อีกไม่กี่คนอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อ ลงมาจากรถ

สีหน้าของเฟิงเหยี่ยนได้โกรธจัด ร่างที่สูงในชุดสูทสีดำ กลมกลืนไปยังสีในตอนกลางคืน ราวกับปีศาจที่ได้เดินออกจาก นรก สําหรับอานเฉียวแล้ว กลับเหมือนเป็นเทวดา

ล่าคอเธอได้ตัน ดวงตาได้แดงแล้วเริ่มเมื่อย ตะโกนอะไรออก ไปไม่ได้เลยชั่วขณะ

โชคดีที่เฟิงเหยี่ยนมองเห็นเธอในแวบแรก ไม่มองคนขับรถ เลยแม้แต่น้อย ก้าวเท้าที่ยาว เดินตรงไปทางอานเฉียว
เวลาเดียวกัน คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ได้เดินไปทางคนขับรถ

“พวกนาย พวกนายเป็นใคร? อยากจะทำอะไร?”

คนขับรถรู้ถึงความผิดปกติ ก็ได้ตะโกนออกมาอย่างร้อนรน แต่แล้วพูดออกมาแค่คำเดียว ก็ได้ถูกคนเอาผ้าไปยัดปาก แล้วก็ มัดตัวเองไว้ ทำได้แค่ส่งเสียงอื้ออื้อที่ไม่ชัดเจนออกมา

เฟิงเหยี่ยนมองเห็นเสื้อที่โยนฉีกขาดของอานเฉียว แววตา ก็ได้มีความโกรธ แต่ไม่นานก็ได้หายไป มีแต่ริมฝีปากที่ได้ ตึงเครียดของเขาที่ได้แสดงออกมาว่าเวลานี้ผู้ชายคนนี้ได้โมโห เอามากๆ เขาได้นั่งลง อันดับแรกได้กวาดมองบาดแผลบนตัว ของอานเฉียว ถึงได้ถอดเสื้อสูทลง แล้วไปคลุมที่ตัวเธอ

อานเฉียวได้เม้มปากที่ซีด ไม่ได้ส่งเสียง ปล่อยให้เขาเอาเสื้อ ของตัวเองมาคลุมตัวเธอ จากนั้นก็ได้อุ้มขึ้น

หลังจากที่เดินผ่านพวกลูกน้องไม่กี่คนแล้วนั้น ขาของเฟิงเหยี ยนได้หยุดลง ในที่สุดก็ได้หันไปมองคนขับรถสักพัก

บรรยากาศที่แข็งแกร่ง สายตาที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ทําให้คนขับรถได้ตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ก็ได้หยุดที่จะดิ้นรนอย่าง ไม่คาดคิด

จากนั้น ก็ได้เห็นริมฝีปากที่บางที่ได้เริ่มขยับ พูดออกมาสาม ค่าอย่างเยือกเย็นว่า “จัดการซะ”

“อื้ออื้อ”

รถขับรถดิ้นรนไม่หยุด เขาเข้าใจแล้วว่า วันนี้ได้มีเรื่องกับคนคนโตไม่ควรมีเรื่องด้วย ก็ได้สายไปแล้ว บอดี้การ์ดไม่คนลากเขา ไปป่าข้างทางเมื่อ

เฟิงเหยี่ยนก็ได้อุ้มอานเฉียวขึ้นรถ

จนอยู่ตลอด ทั้งคนน้อยอยู่ให้อ้อมกอดของเฟิงเหยียนยังไงอย่างนั้น ทั้งได้สั่นไปหมด

เธอกลัว เธอกลัวมาจริง

ถ้าเกิดเมื่อวิ่งช้าไปก้าวเดียว ไม่กล้าจะคิดเลยนั้นจะเกิดอะไรขึ้น

เฟิงเหยี่ยนรับรู้ถึงความกลัวของเธอ ใน

บีบอย่างแรง เจ็บเอามาก

เขาทําได้กอดเธอแน่นกว่าเดิม มือที่ใหญ่ก็ได้

การปลอบใจ

ไม่เป็นไรแล้ว ฉันแล้ว ไม่ต้องกลัว”

อยู่

คำพูดปลอบแบบถึงเหมือนที่มๆ ก็ทำให้คนรู้สึกว่า จริงจังจริงใจ เหมือนกับระเบิด ก็เฉียวแสร้ง

อยู่ๆ เธอได้ เสื้อของเฟิงเหยียน ในอ้อมอกของเขาได้ร้องไห้ออกมา

ร้องไห้จนสะอึกสะอื้น

เฟิงเหยี่ยนได้ลูกหลังของเธอไม่หยุด ให้เธอร้องไห้อยู่ในอ้อม กอดตัวเองแบบนั้น ร้องไห้ ปลดปล่อยความกลัวของตน

เวลาเดียวกัน ก็รู้สึกโชคดี โชคดีที่เขามาแล้ว

โชคดีที่เขานั้นได้รับตำแหน่งของเธอ ผ่านบริษัทสัญญาณ โทรศัพท์

ไม่อย่างนั้น

เขาได้เม้มปากแน่น สายตาก็ได้มีความโหดเหี้ยมแวบผ่าน อานเฉียวร้องไห้อยู่นาน ร้องไห้จนเธอเหนื่อย เสียงถึงได้ ค่อยๆ เบาลง กลายเป็นเสียงที่สะอึกซ้ำๆ

แถวหน้าอกของเฟิงเหยี่ยนก็ได้เปียกน้ำตา เปียกจนเสื้อได้ แนบเนื้อ สามารถที่จะเห็นกล้ามเนื้อที่สวยงาม

อานเฉียวเห็นเขา หน้าก็ได้แดงเล็กน้อย

“ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

เธอได้ผลักเฟิงเหยี่ยนออก แล้วก็นั่งตรง

เฟิงเหยี่ยนก้มมองเธอ สาวน้อยร้องไห้นานเกินไป ใบหน้าแดง ไปหมด ดวงตาทั้งสองข้างก็ได้เริ่มบวม กลับทำให้คนดูรู้สึกน่า สงสารไปอีก
ในใจของเขาได้กระตุก ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาได้เธอทีละนิด พูด ว่า “ขอโทษ”

อานเฉียวได้อึ้งเล็กน้อย เงยหน้ามองเขาด้วยความไม่เข้าใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ