วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 274 เรื่องอื้อฉาวของพระเอก



บทที่ 274 เรื่องอื้อฉาวของพระเอก

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว

“ผมไม่ว่าง”

“ทานอาหารเสร็จก็ดึกมากแล้ว คุณยังมีธุระอีกเหรอ คะ?”

ลู่จิ่งเซินไม่ได้ตอบเธอในครั้งนี้ เพียงส่งเสียงตอบรับ

เบาๆ

จิ่งหนิงกินไม่มาก ใช้เวลาเพียงไม่นานก็อิ่มแล้ว

เมื่อเธอออกจากโต๊ะ เธอไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือ ไม่ตั้งใจ กวนเสวีเฟยยิ้มและมองไปยังเพรียงหัวหอมบน จานของเธอที่แทบไม่ถูกแตะ และพูดด้วยรอยยิ้ม: “คุณ จิ่งลืมทานนี่นะคะ”

จิ่งหนิงลูบท้องของเธอ และยิ้มหวาน“ฉันลืมไปเลย ค่ะ แต่น่าเสียดายที่ฉันอิ่มแล้ว ไม่งั้นคงยังทานต่อได้”

หลังจากพูดเสร็จ ก็วางเพรียงหัวหอมลงบนจานของ ลู่จิ่งเซิน

“อาเซิน คุณช่วยฉันกินนี่หน่อยได้ไหมคะ? นี่เป็น ของที่คุณกวนตั้งใจนำกลับนำกลับมาจากไหหลําเลย อย่าให้เหลือนะคะ”

ลู่จิ่งเซินพยักหน้าตอบรับ

ใบหน้าของกวนเสบู่เฟยดูแข็งกร้าวขึ้นทันที

ใบหน้าของลู่หลันจือซีดเผือด เธออ้าปากราวกับจะ พูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกก็นายหญิงหชินห้ามปรามทาง สายตา

เมื่อจิ่งหนิงเห็นแบบนี้ เธอก็หมุนตัวจากไปอย่างพึง พอใจ

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ลู่จิ่งเซินเข้าไป พูดคุยกับนายท่านใหญ่ที่ห้องหนังสือ คุณนายใหญ่และ คุณหญิงท่านอื่นๆ จับกลุ่มคุยกันในห้องนั่งเล่น ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของจิ่งหนิงก็ดังขึ้น เธอออกไปด้านนอก เพื่อรับโทรศัพท์

สายนี้มาจากเสี่ยวเฉิน ผู้ช่วยของเธอที่ อานหนิงกั วจี้

ทำงานให้อานหนิงกั๋วจี้อีก ถ้าหากบริษัทประสบ

ปัญหาจริงๆ ทุกคนก็ยังสามารถขอความช่วยเหลือจาก

เธอได้

ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่า เธอเป็นภรรยาของลู่จิ่งเซินอ ย่างถูกต้อง ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเต็มใจที่จะฟังเธอ

ทันทีที่รับสายโทรศัพท์ เธอก็ได้ยินเสี่ยวเฉินพูดขึ้น ว่า “พี่หนิงหนิง ตอนนี้มีเคสหนึ่ง ค่อนข้างซับซ้อน ทางนี้ จัดการเองไม่ได้ คุณสะดวกที่จะฟังเรื่องนี้ไหมคะ? ”

จิ่งหนิงพยักหน้า“สะดวก เธอพูดมาเถอะ” ดังนั้นเสี่ยวเฉินจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง ครั้งนี้ เป็นเรื่องของศิลปินในสังกัดของอานหนิงกั๋วจี้ ที่ชื่อ เห้อเฉินจุน

ต้องบอกก่อนว่าจิ่งหนิงเองก็ไม่รู้จักเห้อเฉินจุนเช่น กัน แต่เธอเคยพบเขามาก่อน

เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เนื่องจากเขาเป็นดาราหน้า ใหม่ที่เพิ่งมีกระแสนิยมในช่วงสองปีที่ผ่านมา ความนิยม ของเขาอยู่ในระดับกลางๆ

มีผู้ติดตามในเวยป๋อประมาณห้าถึงหกล้านคน เคย แสดงละครจีนโบราณอยู่หลายเรื่อง รูปร่างหน้าตาค่อน ข้างดี แต่ทักษะการแสดงถือว่าไม่ผ่าน

เธอไม่รู้จักคนๆ นี้มากนัก รู้เพียงว่าแฟนคลับของเขา นั้นสุดยอดมาก พวกหล่อนมักจะทะเลาะกันผ่านอินเทอร์ เน็ตบ่อยๆ

อย่างไรก็ตามเห้อเฉินจุนคนนี้ก็เคยมีข่าวซุบซิบมา ก่อน น่าจะเป็นข่าวซุบซิบในช่วงที่เขาถ่ายทำภาพยนตร์ อยู่เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องใหญ่บนโลกอินเทอร์เน็ตไปสักพัก เรื่องนี้ทำให้เขาถูกยกเลิกงานคู่กับนักแสดงหญิงทุกคน ที่เขาเคยร่วมงานด้วย

ครั้งนี้เป็นเพราะมีคนแอบถ่ายรูปเขาเข้าๆ ออกๆ โรงแรมกับผู้หญิงลึกลับแห่งวงการนายทุนท่านหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีคนขุดรูปถ่ายและวิดีโอที่แสดงความ ใกล้ชิดของเขาและนายทุนหญิง จากกลุ่มเพื่อนของเขา เมื่อก่อนหน้านี้ โดยใช้ชื่อบัญชีเป็นชื่อของเขาเอง

สิ่งที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ ตอนนี้สามีของอีกฝ่ายก็รู้ แล้ว และกำลังดำเนินการหย่ากับผู้หญิงคนนั้น และ ต้องการใช้เรื่องนี้ เพื่อใช้เป็นข้ออ้าง ในการได้ส่วนแบ่ง ของสินสมรสที่มากขึ้น

และตอนนี้อีกฝ่ายเป็นเหมือนกับหมาบ้า ไล่กัดเห้อ เฉินจุนไม่ปล่อย

ในด้านของ เห้อเฉินจุนหากเขาไม่สามารถจัดการ เรื่องนี้ได้ อาจพูดได้ว่าอนาคตของเขาจะต้องพังพินาศ ลงอย่างแน่นอน

เมื่อจิ่งหนิงได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เธอคิดออกเพียง คําเดียว

สมควรแล้ว!

ก่อนหน้านี้เธอได้ลงทุนกับศิลปินคนนี้ไปมาก ดังนั้น ในบางทีความเป็นความตายของศิลปิน ก็กำหนดความ เป็นไปของคนที่คอยผลักดันเขาด้วย ตอนนี้เธอไม่อยาก ที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเขาเลยสักนิด

จิ่งหนิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้มีส่วน เกี่ยวข้องกับวงการทุนนิยม เธอไม่สามารถตัดสินใจเรื่อง นี้คนเดียวได้ เธอต้องปรึกษาลู่จิ่งเซินก่อน

ดังนั้นเธอจึงบอกเสี่ยวเฉินว่าไม่ต้องรีบ รอให้เธอ ถามเขาก่อน แล้วจะติดต่อกลับไป

จากนั้นเสี่ยวเฉินจึงรีบตอบรับด้วยความขอบคุณ อย่างยิ่ง

หลังจากวางสาย จิ่งหนิงมองเวลา เดาว่าลู่จิ่งเซิน และคนอื่นๆ น่าจะยังคุยกันอยู่

โดยทั่วไปแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมาก ไม่ จําเป็นต้องรีบจัดการ ดังนั้นเธอจึงไม่เข้าไปรบกวนพวก เขา เลยตัดสินใจที่จะออกมาเดินเล่นย่อยอาหารในสวน หลังบ้านคนเดียว สวนหลังบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้พืชพรรณราคาแพง มากมาย ทางเดินหินเส้นหนึ่งคดเคี้ยวไปบนผืนหญ้า ต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดที่อยู่รายล้อมส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ไปทั่วสวน พาให้เกิดบรรยากาศอันแสนพิเศษ

จิ่งหนึ่งกำลังเดินทอดน่องตามทางเดินในสวน ทันใด นั้นก็ได้ยินเอะอะโวยวายลอยมา ราวกับว่ามีชายหญิง กำลังโต้เถียงกัน

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงเดินไปยังต้น กำเนิดเสียงอย่างห้ามไม่ได้

“เสบู่เฟย คุณทำกับฉันแบบนี้ได้อย่างไร? ผมทิ้งทุก อย่างและกลับมายังเมืองหลวงก็เพราะคุณ ผมเกือบจะ ถูกฆ่าตายแล้ว ทําไมจู่ ๆ คุณก็มาบอกเลิกกันเสียหล่ะ?”

“พอได้แล้ว ฉันเคยเตือนคุณแล้วนะ ว่าอย่ามาหาฉัน อีก! เรื่องก่อนหน้านี้เป็นความเข้าใจผิดของคุณเอง มัน เกี่ยวอะไรกับฉัน?”

“เสบู่เฟย คุณ คุณพูดแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”

จิ่งหนิงรู้สึกว่าเสียงของชายที่คุยอยู่กับว่าเว่เฟยนั้น ค่อนข้างคุ้นหู เธอจึงโน้มกิ่งไม้ออกให้พ้นสายตา ภาพ ตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เห้อเฉินจุน? !

จะเป็นเขาได้อย่างไร? เขารู้จักกับกวนเวเฟยจริงหรือ?

เมื่อนึกถึงเคสที่เสี่ยวเฉินเล่าให้ฟังเมื่อสักครู่นี้ เพิ่ม ความอยากรู้อยากเห็นให้กับจิ่งหนิง ภายใต้แสงแดด ใบหน้าของเห้อเฉินจุนนั้นดูซูบผอม และซีดเผือด เขาจับมือของกวนเสวี่เฟยเพื่อฉุดรั้งเธอไว้ แต่กวนเสว่เฟยกลับปัดมือของเขาออกอย่างไม่ไยดี

“เห้อเฉินจุน! ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันไม่ชอบคุณ! ที่ อยู่กับคุณก่อนหน้านี้ก็เพื่อคบเล่นๆ แก้เบื่อไปก็เท่านั้น คุณไม่เข้าใจหรือ? ถ้าคุณยังมาหาฉันแบบนี้อีก อย่าหา ว่าฉันหยาบคายก็แล้วกัน! ”

“เสบู่เฟย …”

เห้อเฉินจุนเริ่มอ้อนวอนอีกครั้ง ไม่มีอะไรมากไปกว่า ประโยคเดิม ๆ อย่างผมรักคุณ ทำไมคุณต้องทิ้งผมไป

จิ่งหนิงส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า คนโง่ ได้ยินข่าวลือ ว่าเขาเป็นคนไหวพริบดี แต่ทำไมกลับโง่ได้ถึงเพียงนี้?

กวนเสวีเฟยก็บอกชัดเจนว่าเธอเห็นเขาเป็นแค่ของ เล่นฆ่าเวลา พอใช้เสร็จก็โยนทิ้ง แต่เขาก็ยังเชื่อว่ากวน เสบู่เฟยรักเขาจริงๆ

แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมก่อนหน้านี้กวนเสบู่เฟยถึงอยู่ กับเขา แต่ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน เธอดูออกว่าความ รังเกียจที่ปรากฏชัดระหว่างคิ้วและดวงตาของกวนเส ว่เฟยนั้นเป็นของจริง

เธอนึกถึงสิ่งที่เธอเคยเห็นมาก่อน ท่าทีของกวนเส ว่เฟยที่มีต่อลู่จิ่งเซิน ภายในใจก็เกิดรู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมา

“กวนเสบู่เฟย! คุณจะปฏิเสธความรักของผมแบบนี้ จริงๆ หรือ? คุณรู้ไหมว่า ผมต้องเสียสละอะไรมาบ้าง เพื่อที่จะได้อยู่กับคุณ นี่คือวิธีที่คุณตอบแทนผมอย่างนั้น หรือ?” กวนเสบู่เฟยลดสายตาลงเล็กน้อย เธอหัวเราะขึ้น อย่างเยือกเย็น

“การเสียสละที่คุณหมายถึง คือการกำจัดหญิงชรา ที่แสนจะเทิดทูนคุณคนนั้นหรือเปล่า? ถ้าเป็นเพราะ เหตุผลนี้ ก็ลืมไปได้เลย มันไม่ทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันเลย สักนิด แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง! ”

“คุณ! คุณมันใจร้ายใจดำ! คุณรู้ไหมว่า เพียงเพราะ ผมต้องการอยู่กับคุณ ผมยอมตัดความสัมพันธ์กับเธอ ทันที และตอนนี้เรื่องก่อนหน้านี้ของผมกับเธอก็ถูกเปิด เผยแล้ว คิดว่าอีกไม่นานผมก็คงถูกทางบริษัทเขี่ยทิ้ง

ตอนนี้คุณจะมาบอกผมว่า คุณจะทิ้งผม!ที่ผมทำมา ทั้งหมดมันไม่มีความหมายเลยหรือ? มันไม่มีความหมาย เลยหรือ! ”

กวนเสวีเฟยยิ้มเยาะอีกครั้ง

“ฉันขอให้คุณก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้หรือ? ฉันขอให้ คุณเลิกกับผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า? ตอนนี้คุณกำลังยก เรื่องนี้มาขู่ฉันเหรอ? คุณคิดว่าฉันควรจะทำอย่างไร? แต่งงานกับคุณเพื่อตอบแทนความเสียสละอันยิ่งใหญ่ ของคุณอย่างนั้นหรือ?

ฝันไปเถอะ! ไสหัวไป ครั้งนี้ฉันจะปล่อยคุณไปก่อน ถ้าหากมีคนรู้เรื่องเราเข้า ฉันไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ