วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 97 ส่งอาหารให้เขา



บทที่ 97 ส่งอาหารให้เขา

เมื่อได้ยินเสียงเย็นชาดังขึ้น กลับเห็นผู้ จัดการแผนกต้อนรับเดินมา

พนักงานต้อนรับหลายคนเห็นหัวหน้า มา รีบทําราวกับหนูเจอแมว แต่ละคนกลับเข้า ที่ของตัวเองทันที

“ผู้จัดการคะ พวกเราไม่ได้คุยอะไรคะ”

“จริงด้วยคะจริงด้วย พวกเราไม่ได้คุย อะไรกัน”

ผู้จัดการแผนกต้อนรับเห็นเพียงพวกเขา รวมหัวกันจึงแกล้งส่งเสียง ปกติพวกเขาก็มี บ้าง แอบอู้งาน ส่วนใหญ่จึงทำเป็นเห็นบ้าง ไม่เห็นบ้างแล้วๆไป

ดังนั้นจึงไม่ได้นําหนิอะไรมากมาย กล่าว เสียงเข้มว่า : “ตอนนี้ ประธานลู่ ยังอยู่ใน บริษัท พวกเธออยู่ในเวลางานระวังหน่อย! ถ้า ถูกจับได้ละก็ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าจะปกป้องพวก เธอได้นะ”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ต่างรู้ว่าเธอกำลัง พูดความจริง รีบกลับไปทํางานอย่างเชื่อฟัง

“ผู้จัดการคะ ต่อไปพวกเราไม่กล้าทํา แล้วค่ะ”

ผู้จัดการแผนกต้อนรับจึงตอบ รับ “อืม” ด้วยความพอใจ แล้วเดินจากไป

ลิฟต์เดินทางมาจนถึงชั้นที่สี่สิบแปด

หลังจากเสียง “ดิ้ง” ดังขึ้น ซูมู่พาเธอ เดินออกมา จนกระทั่งถึงห้องทํางานของท่าน ประธาน

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ งหนิงมาที่ห้องทำงาน ของลู่จึงเชิน แต่มันไม่เหมือนคราวก่อน ครั้งที่ แล้วเป็นเวลาอาหารกลางวัน คนที่อยู่ในห้อง เลขาฯออกไปกันหมด ไม่มีใครเลย ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเธอมา

แต่ว่าวันนี้ ลูจิ่งเขินทำงานล่วงเวลา คน ที่อยู่ในห้องเลขาฯต่างไม่กล้าไปไหน

ดังนั้นเธอจําต้องเดินตัวแข็ง ผ่านสายตา หลายคู่ที่คอยจับจ้องมา

ในใจรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

เธอเพียงแค่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ชาย คนนั้นพอใจ เพื่อชดเชยสิ่งที่เธอติดค้างเขาไว้ เมื่อคืน โดยเธอลืมไปเลยว่าตอนนี้ทุกคนยัง ไม่เลิกงาน

เธอมาแบบนี้ เธอจะต้องถูกจับตามอง แน่ ถึงเวลานั้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลู่ จิ่งเงินคงจะถูกเปิดเผยแน่

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จึงหนังอดไม่ได้ที่จะคิด ถอยหลังกลับ

“คุณ….. ผู้ช่วยชู หรือว่าคุณช่วยเอา อาหารไปส่งให้ฉันหน่อยดีกว่า ฉันไม่เข้าไป แล้วคะ” ซูมมองหน้าเธออย่างกระอักกระอ่วนใจ

“คุณนายครับ ท่านประธานทราบแล้วว่า คุณมาหา ถ้าคุณไม่เข้าไปหา ท่านประธาน คงจะรู้สึกผิดหวังนะครับ

จิ่งหนังยิ้มอย่างเงื่อนๆ

แต่ว่า……คนมากมายขนาดนั้นอยู่นอก ห้องทํางานของพวกคุณ…..

ซูมู่ยิ้มพลางกล่าวว่า : “คุณวางใจเถอะ ครับ ห้องเลขาฯตอนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ ผม คนในห้องนั้นผมคัดสรรมาอย่างดี ไม่มีใคร กล้าปากโป้ง ดังนั้นจะไม่มีใครกล้าพูดอะไร เด็ดขาด”

จิ่งหนิงได้ฟังดังนั้น จึงรู้สึกโล่งใจ คลาย กังวลลงได้

ในสํานักงาน

ลู่จิ่งเซินกำลังสะสางงานในมือ

ซูมู่เคาะประตูห้อง เขากล่าวเสียงทุ้มว่า : เข้ามาส”

ซูมเปิดประตูออก ไม่ได้เข้าไป เพียงแค่ เอียงตัวแล้วยิ้มให้จังหนิง : “คุณนายครับ เชิญ ครับ

จิ่งหนึ่งพยักหน้า รับกล่องเก็บอุณหภูมิ มาจากมือของเขา เดินเข้าไป

ลู่จึงเชินเงยหน้าขึ้นมองเธอครั้งหนึ่ง

เธอสวมชุดกระโปรงสีชมพูกลีบ บัว กระโปรงยาวถึงข้อเท้า มีเสื้อคลุมตัวบาง เดียวกัน สวมรองเท้าส้นแบนสีชมพูกลีบบัว หนึ่งคู่

ทั่วทั้งร่างดูแล้วอ่อนโยนและมีความเป็น ผู้หญิงมากกว่าวันอื่นๆ

รอยยิ้มล้นออกมาจากริมฝีปากของ เขา กล่าวอย่างอบอุ่นว่า : นั่งลงก่อนสิ เดี่ยว ผมก็เสร็จแล้วล่ะ”

จิ่งหนึ่งพยักหน้า เธอมองออกว่า เขา กำลังยุ่งอยู่จริงๆ เธอนั่งลงที่โซฟาข้างประตูอย่างเชื่อ ฟัง หยิบนิตยสารเล่มหนึ่งขึ้นมาพลิกดูไป พลางๆ

ในห้องทํางานของสูงเซิน ปกติจะมี นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับการเงิน หรือการทหาร เห็นได้ว่าเขาสนใจแต่เพียง ด้านนี้ ยากที่จะเห็นนิตยสารบันเทิงวางไว้ที่ได้ โต๊ะกาแฟ

หน้าปกนิตยสาร เป็นนักแสดงหญิงชั้น แนวหน้าที่มีชื่อเสียงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน มา และได้รับรางวัลไปฮัวกับรางวัลจีนจี เธอ เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหญิงที่สวยที่สุด กวนเสเฟย

พูดถึงเรื่องนี้ จึงหนังก็แอบชอบกวนเส เฟยคนนี้ด้วย

เธอเป็นคนสวย แถมฝีมือการแสดงก็ไม่ เลว เมื่อเทียบกับพวกนักแสดงหน้าใหม่ๆ ใน ปัจจุบัน ฝีมือการแสดงของเธอกินขาด ยิ่งไปกว่านั้นได้ยินมาว่าเธอมาจาก ครอบครัวที่มีชื่อเสียง เป็นผู้มีอิทธิพลใน โตเกียว ใครๆต่างก็รู้จักครอบครัวเธอ

การเป็นนักแสดงเป็นสิ่งเดียวที่เธอใฝ่ฝัน

ก็เพราะเหตุนี้ เธอจึงแทบไม่มีข่าวอื้อ ฉาว และเรื่องเสียหายในแวดวงการบันเทิง เลย เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่นิดเดียว

คนแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ชอบกันทั้งนั้น

จิ่งหนึ่งกำลังดูนิตยสารด้วยความ สนใจ ลู่จิ่งเซ็นวางปากกาในมือลง ลุกขึ้นมา

“ดูอะไรอยู่ครับ?”

เขาเดินเข้ามาหาเธอ

จิ่งหนิงเงยหน้าขึ้นพลางยิ้ม ชูนิตยสาร ในมือขึ้น

“นิตยสารบันเทิงคะ”

สายตาของลู่วิ่งเข้มกวาดมองไปที่หน้า ปกนิตยสาร พลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จังหนังถอนหายใจพลางกล่าวว่า “ก่อน หน้านี้ฉันไม่เคยเห็นนิตยสารบันเทิงพวกนี้ใน ห้องทํางานคุณเลยสักนิด ฉันยังคิดว่าคุณคง ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เสียอีก ดูเหมือนไม่ใช่ อย่างนั้น! คุณก็ชอบกวนเสวีเฟยหรือคะ?”

หน้าของสู งเ น ดลง เขาเดินไปล้าง มือที่ห้องน้ำ พลางกล่าวเบาๆว่า “เปล่าครับ

“ถ้างั้นทําไมคุณถึงมีนิตยสารของเธออยู่ ด้วยละคะ?”

“คงจะเป็นใครสักคนที่อ่านเสร็จแล้วก็ วางไว้ที่นี่ละมั้ง”

ลูจึงเซินดูเหมือนว่าไม่อยากจะพูดถึง เรื่องนี้สักเท่าไหร่ หลังจากออกมาแล้วจึงนั่ง ลงตรงข้ามเธอ ได้กลิ่นหอมลอยออกมาจาก กล่องเก็บอุณหภูมิ

“เอาอะไรมาบ้างครับ?”

จิ้งหนิงถูกเขาดึงความสนใจไป เอา นิตยสารวางลงข้างๆ เปิดฝากล่องเก็บ อุณหภูมิ

“เป็นอาหารที่คุณชอบทั้งนั้นเลยคะ ป้า เฉินตั้งใจทําสุดฝีมือ คงจะเห็นว่าหลายวันนี้ คุณงานยุ่งมาก เลยทํากับข้าวอร่อยๆมาเยอะ เลยคะ”

เธอเปิดมันออกทีละอย่าง กับข้าวในนั้น กลิ่นหอมน่าอร่อย เพียงแค่ได้กลิ่นก็ทําให้ หลายคนอดใจไว้ไม่ไหว

ลู่จิ้งเซ็นเตรียมจานตะเกียบให้เธอ พร้อม เมื่อกี้ตอนที่เขาล้างมือ ได้ปลดกระดุม แขนเสื้อเชิ้ตไว้แล้ว

ตอนนี้แขนเสื้อถูกพับขึ้นครึ่งหนึ่ง เผย ให้เห็นท่อนแขนที่แข็งแรง ท่าทางการถือชาม และตะเกียบดูแล้วเซ็กซี่และมีเสน่ห์

จั๋งหนิงตักน้ำซุปให้เขาก่อน พลางกล่าว ว่า : “ทานซุปให้ร้อนท้องก่อนนะคะ แล้วค่อย ทานอย่างอื่น”

ลู่จ๋งเซินพยักหน้า เห็นเธอถือถ้วยซุป เล็กๆไว้ มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง

“ทําไมวันนี้คุณอยากจะมาส่งข้าวให้ผม ละครับ? จู่ๆคุณนายก็คิดจะเป็นคนดีขึ้นมานั้น หรือ?”

จิ่งหนึ่งสําลัก เกือบพ่นน้ำซุปออกมา

เธอเหลือบตามองเขาครั้งหนึ่ง “คุณไม่ ชอบฉันในมุมนี้หรือคะ? ถ้างั้นพรุ่งนี้ฉันจะ เปลี่ยนก็ได้”

จิงเซินหัวเราะ

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมชอบมาก

งหนิงคํารามใสทีนัง

ลู่วิ่งเชินพูดขึ้นมาอีกว่า : “แต่ถ้าเป็น อาหารที่คุณทําเองละก็ ผมจะชอบมากกว่านี้ อีกครับ”

บางทีอาจเพราะตื่นเต้นเกินไป จังหนึ่ง จึงสาล็กกะทันหัน

เธอไอสองครั้ง มองเขาด้วยความ ประหลาดใจ

“คุณอยากทานอาหารที่ฉันทําหรือคะ?” จิ้งเซินตอบเบาๆ : “ภรรยาทํากับข้าวให้

สามทาน ไม่ใช่เรื่องปกติหรือครับ?”

จิ่งหนิงหัวเราะแก้เขินสองครั้ง

“ฮาๆ…..ฉันก็ทําได้นะคะ แค่กลัวว่าคุณ จะไม่กล้าทานนะ

ลู่จ๋งเขินหยุดครู่หนึ่ง

เขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ด้วยสายตา ที่เต็มไปด้วยความเสน่หา

“ขอเพียงคุณเป็นคนทํา ผมกินได้ทั้งนั้น

หลังจากนั้นไม่นาน BOSSจึงรู้ ว่า ประโยคทีเขาพูดก่อนหน้านี้มันโม้เกินไป หน่อย

จิ่งหนึ่งยิ้มอย่างเก้อเขิน และไม่พูดอะไร

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว เธอเห็น

อีก ว่า จึงเป็นมีงานที่ต้องท่าอีกมาก จึงจัดเก็บ จานชามแล้วกล่าวว่า : “คุณทํางานเถอะคะ ฉัน ขอตัวกลับก่อน”

“เดี๋ยวสิครับ”

ลู่จึงเป็นเรียกเธอไว้ ทันใดนั้นหยิบกล่อง ใมหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก แล้วยื่นให้

จิ่งหนิงผงะ แล้วยื่นมือออกมารับ

พอเปิดออกดู กลับพบว่ามันคือโทรศัพท์ ใหม่หนึ่งเครื่อง

เธออดไม่ได้แววตาเป็นประกาย ถามด้วย

ความดีใจว่า : “ให้ฉันหรือคะ?”

ลู่จิ้งเซินกล่าวว่า : “เครื่องเก่าของคุณใช้ งานไม่ได้แล้ว ซิมการ์ดผมทำให้ใหม่แล้ว ดัง นั้นข้อมูลในโทรศัพท์เครื่องเก่าของคุณถูกคัด ลอกลงไปหมดแล้ว คุณลองดูสิครับว่ายังมี ปัญหาตรงไหนไหม

จิ้งหนึ่ง รับเปิดโทรศัพท์ทันที หลังจาก ตรวจสอบดูแล้ว พบว่าไม่เพียงข้อมูลถูกคัด ลอกมาครบถ้วน แม้แต่ภาพถ่ายก็ไม่หลุดหาย

ไปสักภาพเลย

เธอดีใจเหลือเกิน

“ขอบคุณค่ะ”

ลู่จึงเขินส่งยิ้มให้

ถ้าจะขอบคุณผมจริงๆก็อยู่เป็นเพื่อนผม ก่อนสิครับ รอกลับไปพร้อมกันได้ไหม?

เขาโน้มตัวเข้าใกล้เธอ โอบเอวเธออย่าง เป็นธรรมชาติ แล้วพาเธอเข้าไปในอ้อมแขน ของเขา

สีหน้าของจิ้งหนังแดงขึ้นโดยไม่ ตั้งใจ คิดๆดูแล้วกลับบ้านหน่อยก็ไม่เห็น เป็นอะไร ดังนั้นเธอจึงไม่ปฏิเสธ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ