วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่154 คนๆนี้เลวร้ายเกินไป



บทที่154 คนๆนี้เลวร้ายเกินไป

แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ในเมื่อ สถานการณ์ในตอนนี้ หากวิ่งเสี่ยวหย่าคิดได้ แล้ว ยอมเป็นได้รับความไม่เป็นธรรมไปซัก ช่วงเวลาหนึ่ง นั่นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว

ถง รีบโทรหาลู่หนจือทันที

ลู่หยั่นจือไม่ได้ตอบรับกลับไปตรงๆ เพียงแต่ให้พวกเธอไปถามหลินซูผ่านกันเอา เอง

เขาแพ้จากที่เดิมพันกันไว้แล้ว ก็จะไม่ แทรกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา อยู่แล้ว ทั้งหมดให้หลินซูผ่านเป็นคนจัดการ เอง

ถงซูเองก็รู้สึกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำได้เพียง ต้องโทรไปหาหลินซูผ่านอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าหลินซูฝานจะเป็นคนพูดยาก แต่ ก็เป็นที่เรื่องราวนั้นๆไม่ใช่ตัวบุคคล เมื่อรู้ว่าจิ้งเสี่ยวหย่าอยากจะแสดงเป็น นางรอง น พิจารณาเพียงเล็กน้อยก็ตอบ ตกลงแล้ว

ตอนที่เขารับปากนั้น ลู่หยั่นคือเองก็อยู่ ข่างๆด้วย

เขากําลังจะมาหาลู่หยั่นคือเพื่อเอา คอมพิวเตอร์คืน เห็นเขากดวางสายไป จึงเอ่ย ถามกึ่งๆหัวเราะ : “ไม่ใช่ว่าแกไม่ชอบวิ่งเสียว หย่าไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงตอบตกลงให้เธอ แสดงเป็นนางรองล่ะ!”

หลินซูผ่านผงะไป รู้สึกงุนงงอยู่บ้าง “ฉัน ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบเธอเสียหน่อย ฉันไม่ได้ คุ้นกับเธอนี่”

“ก่อนหน้านี้แกปฏิเสธไปทั้งที่ยังไม่ได้ คิดเลยด้วยซ้ำ”

หลินซูฝานคิดพิจารณาแล้วตอบคําถาม “ลักษณะของเธอไม่เหมาะกับการแสดงเป็น นางเอก” “แต่เหมาะกับนางรอง?”

“จริงๆสินะ”

หลินซูผ่านตอบออกมาอย่างจริงจัง “บทบาทของนางรองเหมาะกับเธอ”

ลู่หยั่นจือนั่งอยู่ตรงนั้น อึ้งไปพักหนึ่ง ถึง ได้มีปฏิกิริยาตอบรับกลับมา

แล้วจากนั้นจึงหัวเราะออกมา

แกนี่นะ ร้ายกาจเกินไปแล้ว!

(กลยุทธ์พลิกชีวิต) เรื่อง โดยพื้นฐาน แล้วมีพล็อตเรื่องที่ดีมาก นางเอกเป็นพวกมี ประสบการณ์แล้วอัพระดับขึ้น ส่วนนางรอง น ตั้งแต่ต้นจนจบกลับเป็นเหมือนตัวตลกที่เดิน บนคานทําอะไรก็เหนื่อยเปล่าไร้ประโยชน์

สามารถพูดได้ว่า ไม่มีใครเหมาะกับ ความล้มเหลวนี้ได้เท่ากับเธอแล้ว

หลินซูฝานถูกหัวเราะเสียจนรู้สึกงง ไม่รู้ ว่าเขากำลังขำอะไรอยู่ เขาขมวดคิ้วขึ้น แล้วออกมาอย่าง จริงจังอีกครั้ง “ฉันพูดจริงๆว่าเขาเหมาะสมกับ บทบาทนี้มาก”

หยั่น อโบกมือ “เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันรู้ แล้ว แกไม่ต้องพูดแล้วล่ะ แกพูดอีกฉันคงจะ คําตายซะก่อน

เขาลุกขึ้นยืน แล้วปัดสูทที่ไม่ได้มีรอย ยับของตัวเอง ในเมื่อกําหนดไว้แล้ว ก็ถ่ายทำ ดีๆแล้วกัน แต่ฉันขอเตือนแกไว้ก่อนนะว่า ความสัมพันธ์ของจิงหนิงกับจิ่งเสี่ยวหย่านั้น ค่อนข้างซับซ้อน ตรงจุดนี้แกจะต้องเตรียมตัว เตรียมใจเอาไว้ให้ดีๆ ถึงตอนนั้นแล้วหากเกิด อะไรขึ้นมา จะได้รับมือได้

หลินซูผ่านตะลึงไป ไม่เข้าใจความ หมายของเขา

แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยถามให้มากความ สิ่งที่ อยู่นอกเหนือจากการถ่ายทำ เขาก็แทบจะไม่รู้ สีกสนใจอยู่แล้ว ดังนั้น จึงพยักหน้าลง ช่างเขาแล้วกัน

อีกทางด้านหนึ่ง

จิ่งหนิงหาเวลาที่เหมาะสม บอกเรื่อง ถ่ายละครกับลู่นิ่งเซิน

ปฏิกิริยาตอบรับในตอนแรกของลู่จิ้งเซิน นั้นก็คือไม่เห็นด้วย แต่ต่อมาเนื่องจากวิ่งหนึ่ง ยังคงยืนยัน ประกอบกับเขาอ่านบทแล้ว เป็น ละครสั้นที่เส้นของอารมณ์ความรู้สึกนั้นก็มีแต่ เป็นแนวใสๆบริสุทธิ์ ไม่มีการถูกเนื้อต้องตัวกัน เขาถึงได้ยินยอม

และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เป็นช่วงเทศกาล ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด ละครสั้น แค่สิบกว่าตอน อย่างมากๆก็ใช้เวลาถ่ายทำ ประมาณสองเดือน ถือเสียว่าเป็นการได้ไป เที่ยวเล่น จึงตามใจเธอ

หลังจากที่จิ่งหนิงคุยกับลู่จิ่งเซินเสร็จ แล้วนั้น ก็จัดการเรื่องงานที่ซึงฮุยและอานหนึ่ งกั๋วให้เรียบร้อย แล้วถึงจะเข้ากองถ่ายเป็น ทางการ

การเคลื่อนไหวของหลินซูผ่านนั้น รวดเร็วมาก ตัดสินใจเรื่องคนได้ไม่นาน ก็ เลือกเวลาที่จะเริ่มเปิดกล้องอย่างเป็นทางการ แล้ว

การเปิดกล้องอย่างเป็นทางการนี้จะเริ่ม ต้นขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า และในช่วง ก่อนหน้านั้นก็จะต้องมีการแต่งหน้าเพื่อถ่าย โปสเตอร์กันก่อน

นักแสดงที่จะร่วมแสดงคู่กับเธอนั้นมีชื่อ ว่าสวีเจียม ได้ยินมาว่าเพิ่งจะเรียนจบ มหาวิทยาลัยได้ไม่นาน และก็เป็นนักแสดง ใหม่ด้วยเช่นกัน ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรนัก

แต่เขาหน้าตาหล่อเหลา ดูสะอาด สะอ้าน อีกทั้งยังสุภาพมีมารยาทมากอีกด้วย ยิ้มออกมาแล้วสามารถให้ความรู้สึกรักแรกพบ ขึ้นมาได้ สาวๆในกองถ่ายเห็นเขาแล้วนั้นต่าง ก็มองด้วยสายตาที่หวานหยาดเยิ้ม รอยยิ้ม แห่งความชินมินบนใบหน้านั้นไม่ลดลงเลย สวี่เจียมูนิสัยดี ถึงแม้ว่าจะเป็นศิลปิน หน้าใหม่ แต่ความสามารถนั้นนับว่าไม่เลวเลย การแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปนั้นถ่ายไปได้อย่าง รวดเร็ว

เลนส์ที่ถ่ายจิ่งหนิง ล้วนแต่ดูแลความ รู้สึกเธอเป็นอย่างดี พวกสาวๆที่อยู่ข้างๆเห็น แล้วนั้น ก็พากันรู้สกชื่นชอบอย่างไม่รู้ตัว

จนกระทั่งตัวหลักสองสามคนนั้นถ่าย เสร็จแล้ว จึงเสี่ยวหย่าถึงได้มาถึง

“อา ถ่ายเสร็จกันแล้วหรือคะ ขอโทษ ด้วยจริงๆนะคะ ฉันมาช้าไป

เธอยิ้มอย่างร่าเริงเข้ามา ช่างถ่ายรูปกด งานเอาไว้ เพราะต่อไปยังจะต้องถ่ายศิลปินคน อื่นอีก เนื่องจากว่าจะต้องถ่ายรูปรวมของผู้ สร้างหลักทุกคนด้วย ดังนั้นจึงรอเธออยู่

เวลานี้ที่เห็นเธอเข้ามาแล้ว สีหน้าก็ดูไม่ ดีนัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรเช่นกัน

จึงเสี่ยวหย่าถูกพาตัวไปแต่งหน้า และ ไม่นาน ก็ออกมาทักทายกับทุกคน

ตอนที่เดินมาข้าง งหนิงนั้น เธอยิ้มออก มาอย่างสดใส

“พี่คะ ยินดีด้วยนะที่พี่ได้รับบทนี้ พี่วางใจ ได้ อยู่ในกองถ่ายเดียวกัน ถ้าหากมีปัญหา อะไร ฉันจะช่วยได้อย่างแน่นอน”

นําเสียงของเธออบอุ่น ยิ้มออกมาด้วย ความจริงใจ ถ้าหากคนที่ไม่รู้เรื่องราวภายใน มองนั้น ก็คงเห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสอง คนนั้นดีต่อกันมาก

ใบหน้าของจึงหนังที่ไร้อารมณ์มองเธอ เพียงแค่แวบเดียว

แล้วไม่ได้ตอบรับเธอกลับ แต่เอ่ยถาม ช่างถ่ายรูปแทน

“มาครบแล้ว ถ่ายรูปรวมเถอะค่ะ!”

ช่างถ่ายรูปพยักหน้าลง

เนื่องจากเป็นนางเอก ตอนที่ถ่ายรูปรวม นั้นจึงหนิงจึงยืนอยู่ในตำแหน่ง

จึงเสี่ยวหย่ายืนอยู่ข้างๆเธอ เห็นทุกคน ปฏิบัติต่อเธอเหมือนกับดาวล้อมเดือนนั้น ก็กำ หมัดขืนมาแน่น

จิ่งหนิง! รอก่อนเถอะ!

ให้เธอได้ดีใจแบบนี้ไปก่อนซักสองวัน รอหลังจากที่เปิดกล้องก่อน……….

ฮีย ฉันจะทําให้แกเข้าใจ ว่ารสชาติของ การเสื่อมเสียชื่อเสียงมันคืออะไร!

การถ่ายโปสเตอร์นั้นนับว่าเป็นไปด้วย ความราบรื่น ตอนกลางคืน มีกิจกรรมเกี่ยวกับ เทศกาลงานภาพยนตร์จัดขึ้นที่เมืองจิ้น ใน ฐานะที่เป็นเจ้าของซิงฮุยและผู้อำนวยการฝ่าย ประชาสัมพันธ์ของอานหนิงกั๋วจี้ จิ่งหนังจึงได้ รับคําเชิญนี้ ถึงตอนนั้นเธอจะพาถังลั่วเหยาไป ร่วมงานด้วยกัน

และยังมีลู่หยั่นจือ เหยียน อหวา และ คนอื่นๆอีกด้วย (ตานานรักข้ามพิภพ) ถึงแม้ใกล้จะ ถ่ายทำเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ปิดกล้องอย่าง เป็นทางการ ลู่หนจือมาก็นับว่าเป็นการ ประกาศก่อนล่วงหน้าอีกด้วย

และเนื่องจากสภาพร่างกายของหัว เหยานั้นไม่เหมาะสมกับงาน เธอจึงไม่ สามารถมาได้ ในฐานะที่ถังลั่วเหยารับบทเป็น นางรองคนที่สาม จึงได้รับผิดชอบในการ ประกาศครั้งนี้ไป

พวกเขามาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน หลัง จากที่ทักทายกันอย่างเรียบง่ายแล้ว ลู่หน อกับเหยียนซื่อหวาก็แยกไปทักทายกับบุคคล ทีตัวเองคุ้นเคย

ส่วนจิ่งหนิงนั้นกลับพาถังลั่วเหยาไป ด้วยกัน

วันนี้ถึงลั่วเหยาสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสี นํา ผู้หญิงตัวเล็กๆผิวขาวอ่อนโยน นี่นับว่าเป็น ครั้งแรกที่ได้มาร่วมงานแบบนี้ เธอจึงรู้สึก เขินๆอยู่บ้าง เสียงหัวเราะของจิ้งหนังคอยปลอบโยน เธอ ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็ได้ ยินเสียงร้องอุทานดังขึ้นตรงด้านนอกของ ประตู

“คุณชายเฟิง ได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณได้มี การลงทุนละครย้อนยุค? คุณเห็นว่าฉันพอจะ เหมาะกับแสดงบทอะไรได้บ้างมั้ยคะ?”

“คุณชายเฟิง ตอนวันเกิด คุณให้ สร้อยเพชรเธอ วันนี้วันเกิดฉัน คุณจะล่าเอียง ไม่ได้นะคะ”

ทั้งสองคนเดินตามเสียงไป เห็นเพียงแค่ ร่างสูงที่ถูกรายล้อมราวกับดาวล้อมเดือนกำลัง เดินเข้ามา

จิ่งหนิงตกตะลึง รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

เฟิง ?

เขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ