วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 730 จะเข้าห้องน้ำ



บทที่ 730 จะเข้าห้องน้ำ

อีกคนที่สูบบุหรี่อยู่ ก็ยิ้ม

ประกายแววตาที่คุ้นเคย ปรากฏในดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อย

“ใช่ ได้กําไรแล้ว”

จิ่งหนึ่งมองดูเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ก็ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาของเธอหรือไม่ เธอกลับรู้สึกว่า ชาย ตรงหน้าคนนี้ทำให้เธอรู้สึก เหมือนคุ้นเคยเล็กน้อย

ทั้งๆที่เป็นใบหน้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ท่าทางการคืบบุหรี่ นั่น รอยยิ้มที่เผยให้เห็นตอนหรี่ตาเล็กน้อย รวมทั้ง……..เธอส่าย

หัว

ไม่ เป็นไปไม่ได้

เขาจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

จิ่งหนิงกับโม่หนานไม่มีโอกาสได้พูด สองคนนั้นมองดูพวก เธอแล้ว ก็ปิดประตูรถทันที

จากนั้น ก็ขึ้นไปนั่งลงข้างหน้า แล้วสตาร์ทรถ

รถก็เคลื่อนที่ต่อไปบนทางเขาที่ขรุขระ จึงหนิงกับโม่หนานไม่ พูดอะไร สองคนนั้นก็ไม่สนใจพวกเธอมากนัก

มองดูท่าทางเชื่อฟังของพวกเธอ ก็คิดว่าคงได้รับบทเรียนตอนอยู่กับลุงสี่ก่อนหน้านั้นแล้ว

เมื่อคนเราตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ปกติทั่วไปช่วงเริ่มแรก จะไม่ยอมรับชะตากรรม

จะมีการขัดขืนไม่มากก็น้อย

แต่เมื่อค้นพบว่า ไม่ว่าเธอจะต่อต้านอย่างไร สุดท้ายแล้วหนี โชคชะตาไม่พ้น ก็จะเลิกต่อต้านไปโดยปริยาย

นี่เป็นความคิดของพวกเขา

ยิ่งกว่านั้น ในใจของพวกเขาคิดว่า ตัวเองไม่ได้ต้องการเงิน ทอง และก็ไม่ได้จะเอาชีวิต เพียงแค่ต้องการจะแต่งสะใภ้เท่านั้น ขอเพียงคุณตามฉันอย่างเชื่อฟัง ฉันก็จะไม่จงใจทำร้ายคุณ คุณมี อะไรที่ปลงไม่ตก

และด้วยเหตุนี้ พบว่าวิ่งหนึ่งกับโม่หนานไม่มีแม้แต่แนวโน้มที่ จะต่อต้าน สองคนพี่น้องนี้ก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

ถือว่าพวกเธอได้ยอมรับความจริงแล้วก็เท่านั้นเอง รถได้ขับเคลื่อนไปบนถนนอย่างช้าๆ

จึงหนิงกับโม่หนานลุกขึ้นนั่งบนแผ่นไม้กระดานแข็ง ในเมื่อ ตอนนี้พวกเขารู้ว่าตัวเองตื่นแล้ว ก็ไม่ต้องแสร้งทำอีกแล้ว

เพียงแต่ยังไม่กล้าพูดอะไร ก่อนที่ยังไม่รู้รายละเอียดของอีก ฝ่ายดี

ยังดีที่ สองคนข้างหน้า น่าจะเป็นเพราะอารมณ์ดี บวกกับเห็นพวกเธอสองคนเป็นเด็กผู้หญิง แรงน้อย และยังเชื่อฟังเช่นนี้ ดัง นั้นก็ไม่ได้ป้องกันอะไรมาก

เพราะในถิ่นทุรกันดารนี้ ไม่มีคนอยู่ข้างนอกเลย และท้ายรถ ถูกล็อกไว้ หากว่าพวกเขาไม่มาเปิดออก แค่พวกเธอจะออกไปก็ เป็นปัญหาแล้ว แล้วจะไปสร้างปัญหาอะไรได้

ดังนั้น คนทั้งสองที่อยู่ข้างหน้าก็ไม่รีบร้อน

ขณะขับรถไปบนถนนก็สนทนาไปด้วย

จากการสนทนาของพวกเขา จึงหนึ่งได้ยินเลือนๆถึงตัวตนและ เนื้อหาการสนทนา

คนทั้งสองนี้ น่าจะเป็นคนที่ลุงสี่พูดถึงก่อนหน้านั้น คนในเมือง

เล็กที่อยู่ไม่ไกล

เพราะฟังสิ่งที่พวกเขาพูด ระหว่างประโยค มีเนื้อหาของเมือง

เล็กๆนั่นอยู่

ก่อนหน้านั้นจึงหนิงฟังชายคนนั้นเรียกอีกคนว่าพี่ ยังคิดว่า เป็นพี่น้องกัน

แต่จากการสนทนาของพวกเขาถึงรู้ว่า ที่แท้พวกเขาไม่ได้เป็น พี่น้องกันจริงๆ เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น

แต่นี่ก็เพียงพอแล้ว

เมื่อวานนี้พวกเขาได้ยินข่าวจากคนสนิทคุ้นเคย บอกว่าที่นี่มี เด็กผู้หญิงมาใหม่สองคน ต้องการคนรับซื้อ
พอดีพวกเขาทั้งสองก็เตรียมการว่าจะซื้อภรรยากันคนละหนึ่ง คน ดังนั้นจึงติดต่อกับทางนี้

แต่พวกเขาไม่รู้จักลุงสี่ ปกติมีความต้องการอะไร ก็ติดต่อผ่าน คนกลางคนนั้น

ก็เพราะเหตุนี้ คนที่ไปรับที่บ้านลุงสี่ก่อนหน้านั้น ถึงเป็นชาย

คนนั้น

ส่วนสองคนนี้ ใช้เงินคนละสามหมื่นซื้อจากมือของคนคนนี้อีก

นั่นก็หมายความว่า จึงหนิงกับโม่หนาน อันสั้นในหนึ่งวันไปสองทอด ถูกขายภายในเวลา

คิดไปแล้วก็ช่างน่าเหลือเกิน

โมหนานจับมีดเล็กที่เอวไว้ตลอดเวลา

โชคดี ที่คนเหล่านี้ไม่ได้ระวังตัวกับพวกเธอ ดังนั้นก็ไม่เคยคิด ที่จะค้นตัว มิเช่นนั้น ค้นเจอมีดเล็กเล่มนี้ สถานการณ์ของพวก เธอก็จะแย่

ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ก็ไม่รู้ว่าขับเคลื่อนไปนานเท่าไหร่ แค่ อาศัยแสงสลัวที่ลอดผ่านช่องกลางประตูรถเข้ามา จึงหนิงกับโม่ หนานก็รู้ว่า ตอนนี้น่าจะประมาณตีห้า หกโมงเช้าแล้ว ได้เวลาที่ ท้องฟ้าจะฉายแสงแล้ว

พวกเธอไม่รู้ เมื่อถึงในเมืองจริงๆจะเป็นอย่างไร ไม่แน่ว่าอาจ มีสถานการณ์ที่แย่กว่ารอพวกเธออยู่
ส่วนตอนนี้ พวกเธอได้ถูกสองคนนี้พาออกจากเขาลูกนั้นแล้ว ไม่จําเป็นต้องไปทุกข์กับการไม่รู้ทางออกมาแล้ว

ส่วนเมื่อถึงในเมืองแล้ว มีไฟฟ้าและการสื่อสารแล้ว เรื่องอื่น ก็ แก้ไขง่ายขึ้นแล้ว

ดังนั้น จึงหนิง ใช้ช่องประตูรถสังเกตสถานการณ์ครู่หนึ่ง จาก

นั้นพูดด้วยน้ำเสียงต่ำที่ข้างหูโม่หนานว่า “อีกสักพักหลังจากที่รถ

จอดแล้ว คิดหาทางหนีไป

โม่หนานก็กำลังคิดเหมือนกัน จึงพยักหน้า

ทั้งสองก้มหน้า นั่งอยู่ในรถ

ผ่านไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้น รถก็หยุดลง เธอได้ยินชายหนึ่งในนั้นที่อยู่ข้างหน้า ใช้ภาษาถิ่นพูดอะไรกับ ชายอีกคน

อีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นแกเร็วหน่อย ฉันจะรอแกอยู่ที่

คนคนนั้นพยักหน้า ลงรถแล้วจากไป

จึงหนิงเงียบเสียงฟังความเคลื่อนไหวข้างนอก ได้ยินเสียง เท้าค่อยๆไกลออกไป มองหน้าไม่หนาน แลกเปลี่ยนความคิดซึ่ง กันและกัน

จากนั้น เธอก็ยกมือขึ้น ตบไปที่ผนังรถ

“นี่ มีคนไหม ฉันรู้สึกไม่สบายท้อง จะเข้าห้องน้ำ
เธอตะโกนเรียก

เสียงฝีเท้าจากข้างนอกแว่วมา เหมือนกับคนคนนั้นกระโดดลง จากรถ แล้วเดินมาทางด้านหลัง

แล้ว อีกฝ่ายกลับไม่เหมือนอย่างที่พวกเธอคิดว่า จะต้องรีบมา เปิดประตูให้พวกเธอ

แต่กลับยืนอยู่ตรงข้างรถที่เธอตกเมื่อกี้นี้ คั่นด้วยแผ่นเหล็ก ความหนาหนึ่งชั้นครึ่ง แล้วถามว่า “คุณจะทำอะไร

จิ่งหนิงเม้นริมฝีปาก แล้วพูดอีกครั้ง ฉันจะเข้าห้องน้ำ

“ตอนนี้หรือ “ดูเหมือนคนคนนั้นจะขมวดคิ้ว น้ำเสียงไม่พอใจ เล็กน้อย “ตอนนี้ไม่ได้ แต่เธอวางใจได้ อีกครึ่งชั่วโมงกว่าก็จะ ถึงในเมืองแล้ว หากคุณกลั้นไม่ไหวจริงๆ ก็ใส่ในรถเลย ไม่ เป็นไร ไปถึงบ้านแล้วผมจะช่วยคุณเก็บกวาดเอง

จิ่งหนิง..………….

เธอกับโม่หนานหมดคำที่จะพูด

ใครจะไปคิดว่าฝ่ายตรงข้ามจะตอบเช่นนี้

อีกฝ่ายไม่ยอมเปิดประตูรถ ทั้งสองก็ไม่สามารถจะทุบประตูรถ พังแล้วออกมาได้

อย่างไรก็ตาม นี่มันเป็นแผ่นเหล็กนะ ไม่ใช่แผ่นไม้

อย่าเพิ่งไปพูดถึงพวกเธอสองคนตัวเปล่า ถึงแม้ให้มีดพวกเธอ สองคนๆละหนึ่งเล่ม ก็ยากที่จะกรีดแผ่นเหล็กที่หนาเช่นนี้ออกได้
จิ่งหนึ่งหมดปัญญา ทำได้เพียงอดทน แล้วขอร้องว่า ไม่ได้ ฉัน ฉันต้องการจะถ่ายหนัก”

เธอกลัวอีกฝ่ายจะปฏิเสธ จึงรีบกล่าวเพิ่มเติมว่า “คุณวางใจ ได้ ฉันจะไม่หนี ถ้าไม่เชื่อคุณตามฉันเข้าไปได้ หรือไม่คุณเอา เชือกอะไรมามัดฉันไว้ก็ได้ ฉันเป็นผู้หญิงอ่อนแอ ที่นี่ฉันก็ไม่คุ้น เคยด้วย หนีไม่พ้นหรอก ”

เมื่อชายคนนั้นได้เยินเธอพูดเช่นนี้ ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

อาจจะเกิดจากความสงสาร จึงกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นรออีกสัก ครู ตอนนี้ฉันคนเดียว รอพี่ฉันกลับมาก่อน แล้วฉันถึงจะพาคุณ

เมื่อจิ้งหนิงได้ยินเช่นนั้น ไม่มีวิธีอื่นแล้ว จึงเงียบลง

ผ่านไปประมาณสองนาที ข้างนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากไกล เข้ามาใกล้

จึงหนิงกับโม่หนานก็รู้แล้วว่า คือพี่ของเขากลับมาแล้ว ทั้งสองส่งสายตาให้กัน แล้วจึงหนิงก็ตบไปที่ประตูรถอีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ