วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 383 คุณชายรองตระกูลเฟิง



บทที่ 383 คุณชายรองตระกูลเฟิง

ฝูงบอดี้การ์ดกําลังไล่ล่าเข้ามา แต่คิดไม่ถึงว่าพอครึ่งทางกลับ ถูกคนขวางไว้ ขณะที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ข้างหลัง ประธานหลว ก็ไล่ตามมาแล้ว

“อ้าว พวกแกหยุดตรงนี้ทำไม คนล่ะ”

ฝูงบอดี้การ์ดมองไปยังหญิงสาวในอ้อมแขนเฟิงที่อยู่ฝั่งตรง ข้ามอย่างไม่กล้า ประธานหลิวมองตามสายตาไปแล้วทันใดนั้นก็

คนนั้นเป็นใคร ทำไมหน้าตาคุ้นๆ

ถึงแม้ว่าเฟิงยี่จะมีชื่อเสียงโด่งดังมาโดยตลอด แต่ในความ เป็นจริงมีไม่กี่คนที่สามารถติดต่อกับเขาได้ ทุกคนรู้เรื่องของเขา ล้วนเป็นข่าวด้านผู้หญิง

นอกจากนี้ยังเป็นเวลากลางคืน ทางเดินของโรงแรมมีไฟ หลากสีและสลัวมาก

บวกกับประธานหลิวดื่มไปไม่น้อย แล้วยังโดนถังลั่วเหยาเตะ เข้าไปอีก ทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และความโกรธรุมเร้า ดวงตาจึงขุ่น มัวมาก

ในเวลานี้เห็นเพียงชายหนุ่มที่คุ้นๆ คนหนึ่งประคองถังลั่วเหยา ไว้ในอ้อมแขน คิดว่าคนคนนั้นเป็นคนรวยที่เคยเห็นมาก่อน แล้ว ก็พูดด้วยรอยยิ้มร้ายว่า “อ้อ ผมคิดว่าวิ่งหนีไปไหน ที่แท้ก็มาหาคนช่วยนี่เอง”

เขายิ้มร้ายไปพลางเดินเข้าไปพลาง “เพื่อน ผมคือหลิวห เทียนซีอีโอของเย่เชิงกรุ๊ป ผู้หญิงคนนี้เอาเงินผมไปแล้วคิดหนี เมื่อครู่ยังเตะผมด้วย!

ผมมองแล้วคุณก็ดูเป็นคนมีฐานะมากเรื่องไม่น้อยเรื่อง วันนี้ เพื่อความเป็นเพื่อน เดี๋ยวพี่จะแนะนำผู้หญิงที่สวยกว่าให้คุณ แทน”

พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็ต้องการจะก้าวเข้าไปหาถังลั่วเหยา และยังไม่ทันเดินไปได้ถึงสองก้าว ก็ถูกเหมิ่งขวางไว้ หลิวหยู่เทียนมองซูเหลิ่งพลางขมวดคิ้ว

“คุณเป็นใคร มาขวางผมทำไม

ซู่เหลิ่ง ไม่พูด แค่จ้องเขาอย่างเย็นชา

หลิวหยู่เทียนเห็นสิ่งนี้แล้วก็ไม่ได้จริงจัง แค่คิดว่าอีกฝ่ายขวาง ไว้แบบนี้แสดงว่าเขาเดินเข้าไปไม่ได้ คนคนนี้จะต้องเป็นบอดี้ การ์ดของชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามเป็นแน่

เหอะ! เอาบอดี้การ์ดมาคนเดียว แสดงว่าสถานะตัวตนก็แค่ ทั่วไป ปกติแล้วเวลาเขาออกข้างนอกจะนำบอดี้การ์ดไปด้วยสาม คน

ในเมื่อสถานะทั่วไป เช่นนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจ หลิวหยู่เทียนคิดแบบนี้แล้วก็ตะโกนใส่บอดี้การ์ดรอบข้างว่า”พวกนายยั่งยืน ออยู่ทําไม ยังไม่รีบพาผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉัน อีก!”

บอดี้การ์ดไม่กล้าขัดคำสั่งเขา เมื่อส่งเสียงแล้วก็ต้องเดินหน้า ตอนนั้นเอง ในที่สุดเฟิงก็พูดขึ้น

“คุณบอกว่าคุณเป็นประธานเยเชิงกรุ๊ปงั้นเหรอ”

หลิวหยู่เทียนมองเขา แล้วพยักหน้าอย่างยโสโอหัง “ใช่ ทำไม”

เขาแค่คิดว่าเมื่อชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามได้ยินชื่อของเขาก็กลัว ดังนั้นจึงคิดจะยอมรับ

เพราะถึงแม้ว่าเย่เซิ้งกรุ๊ปจะไม่นับว่าเป็นกรุ๊ประดับประเทศ แต่ ยังถือว่ามีอิทธิพลในเมืองหลวง

และที่สำคัญที่สุดก็คือ เบื้องหลังเย่เซิ่งกรุ๊ปมีตระกูลเฟิงคอย

สนับสนุน เทียบเท่ากับหลังเสริมเหล็ก

ต่อให้อีกฝ่ายกล้าล่วงเกินเขา แน่นอนว่าต้องไม่กล้าล่วงเกิน ตระกูลเฟิง!

แต่กลับกลายเป็นว่า ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามไม่เพียงไม่กลัว แต่ ยังยิ้มอย่างเย็นชามากอีกด้วย

เขาไม่ได้ถามอะไรอีก เพียงหยิบโทรศัพท์มาต่อสายออก

“ผมให้เวลาพวกคุณสามวัน ทำให้เยเชิงกรุ๊ปหายไปจากเมือง หลวง!”
อะไรนะ

ทําให้เเชิงกรุ๊ปหายไปจากเมืองหลวงงั้นเหรอ

เขาไม่ได้ยินผิดใช่ไหม

หลิวหยูเทียนเหมือนได้ยินเรื่องตลกขบขันอะไรสักอย่าง หัวเราะฮ่าฮ่าขึ้นมาดังลั่น

“หนุ่มน้อย! คุณคิดว่าคุณเป็นใคร จะทำให้เเชิงกรุ๊ปหายไป จากเมืองหลวงงั้นเหรอ คุณรู้ไหมว่าเย่เชิงกรุ๊ปใหญ่แค่ไหน แล้วรู้ ไหมว่าที่หนุนหลังเย่เชิงกรุ๊ปอยู่เป็นใคร กล้าพูดแบบนี้ออกมาให้ คนหัวเราะข่า”

หลิวหยู่เทียนไม่รู้เลยสักนิดว่าตัวเองล่วงเกินใครเข้า และมัน ได้สร้างหายนะใหญ่หลวงฝังกลบตัวเองแล้ว

และเขาไม่รู้ว่าไม่ได้หมายความว่าซีอีโอหลายคนที่ตามเฟิง

มาจะไม่รู้

ทันทีที่ได้ยินเฟิงยี่โทรออกไป สีหน้าของพวกเขาทุกคนก็ เปลี่ยนไป

ใครก็รู้ว่าคุณชายรองตระกูลเฟิง คนรักคือคนรัก เพื่อนคือ เพื่อน แต่พูดคำไหนคำนั้นมาตลอด และปกป้องถึงที่สุด

ด้วยประโยคสั้นๆ เพียงสองประโยคเมื่อครู่ที่เขาได้พบกับ หญิงสาวคนนี้ ใครก็มองออกได้ว่าทั้งสองคนรู้จักกัน

ในเมื่อรู้จัก และเฟิงยี่ช่วยเธอแล้ว โดยธรรมชาติก็จะช่วยให้ถึงที่สุด

แต่เวลานี้หลิวหยู่เทียนกลับยังพุ่งเข้าหาปากกระบอกปืน ไม่ใช่ว่าหาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ

และที่สำคัญที่สุดคือ หาเรื่องใส่ตัวก็ว่าแย่แล้ว แม้แต่ สถานการณ์เป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยสักนิด ช่างโง่เขลา

นัก

ทันทีที่คิดแบบนี้ ทุกคนก็มองไปยังสายตาของหลิวหยู่เทียน ที่ อยู่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะเกิดความเห็นอกเห็นใจขึ้นมา เล็กน้อย

เวลานี้หลิวหยู่เทียนยังไม่รู้ตัว ยิ้มอย่างภูมิอกภูมิใจและพูดว่า “หนุ่มน้อย! ผมขอแนะนำให้คุณคืนคนมาให้ผมดีกว่า! ดูคุณ หน้าตาก็ไม่ได้แย่ น่าจะไม่ขาดผู้หญิง ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรจะแย่ง กับพี่ใช่ไหม”

เฟิงหัวเราะเบาๆ สายตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก “ก็ขึ้นอยู่กับคุณนะ จะแย่งกับผมงั้นเหรอ งั้นคุณก็สมควร แล้ว!”

ทันทีที่เขาพูดจบ สีหน้าของหลิวหยู่เทียนก็เปลี่ยนไปทันที

ยิ้มเยาะและพูดว่า “หึ ให้หน้าคุณแต่คุณไม่อยากได้หน้าใช่ ไหม ได้ แล้วอย่ามาโทษผมที่ไม่สุภาพก็แล้วกัน!”

เขาชี้สั่งบอดี้การ์ดของตัวเอง “พวกนายเข้าไปแย่งคนมาให้ ฉัน!”
พวกบอดี้การ์ดทําได้แค่ทำตาม แต่ฝีเท้ายังไม่ทันได้ขยับ รู้สึก เพียงเงาคนแวบมา ซูเหลิ่งก็ลงมือแล้ว

การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วมาก ท่ามกลางแสงหลากสี แทบไม่เห็นว่าเขาลงมืออย่างไร บอดี้การ์ดทั้งสี่คนก็ล้มลงกับพื้น ไปแล้ว

หลิวหยู่เทียนนิ่งอึ้งอยู่กับที่

“คุณ คุณ พวกคุณ…”

คำพูดของเขายังไม่ทันได้ออกมาเหลิ่งก็กระโจนเข้ามา ได้ยินเพียงเสียงหวีด ข้อมือของหลิวหยู่เทียน ถูกบิดหลุดร่าง อ้วนของเขาถูกเหวี่ยงพาดบ่า แล้วตกลงพื้นอย่างแรง

เฟิงอุ้มหญิงสาวขึ้นไว้ในอ้อมแขน

“ซูเหลิ่ง ตรวจสอบว่าคืนนี้เกิดอะไรขึ้น! แล้วอย่าให้ฉันเห็นคน คนนิอีก!”

“ครับ!”

เฟิงอุ้มถังลั่วเหยาจากไป

เหล่าซีอีโอรอบข้างมองหน้ากัน จะตามไปก็ใช่ที่ จะไม่ตามก็ ไม่ใช่

ในที่สุดหนึ่งในนั้นก็พูดว่า “ผมว่าพวกเราควรกลับก่อนเถอะ! คิดว่าคุณชายรองคงไม่มีเวลาคุยเรื่องธุรกิจอีก

“คุณพูดถูก งั้นเรื่องวันนี้ ไว้คุยกันวันหลัง
เหล่าซีอีโอทยอยกันจากไป

หลิวหยู่เทียนที่นอนอยู่บนพื้นยังร้องโอดโอย ทั้งร้องทั้งสบถ

ต่า

“พวกนายทุกคนมันไร้ประโยชน์ ตั้งสี่คนยังเอาชนะคนคน เดียวไม่ได้ รีบเข้ามาสิ! ไม่นึกเลยว่าจะกล้ามาทำร้ายฉัน ฉันจะ ไม่ปล่อยพวกนายไป

แต่เหล่าบอดี้การ์ดรับเงินทำงาน ไม่ใช่มืออาชีพ ด้วยฝีมือและ เทคนิคน่าเหลือเชื่ออันรวดเร็วของซูเหลิ่ง ก็รู้ว่าวันนี้เจอตอเข้า แล้ว ใครยังจะกล้าเข้าไปอีกล่ะ

เพื่อค่าตอบแทนไม่กี่พันต่อเดือน ทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บถึง ขั้นเสียชีวิต คนโง่เท่านั้นแหละถึงทำ

และหลิวหยู่เทียนก็ไม่ได้ดีต่อพวกเขา มักจะทำกับพวกเขา เหมือนเป็นสุนัข พอถึงเวลาแล้วใครจะปกป้องเขาจนไม่อยากได้ ชีวิต

ซูเหลิ่งเห็นเขายังกล้าโวยวาย ก็หัวเราะเยาะและเดินเข้าหา หลิวหยู่เทียนตัวสั่นทันที

“คุณบอกว่าผู้หนุนหลังเย่เพิ่งกรุ๊ปคือตระกูลเฟิง งั้นคุณรู้ไหม ว่าคนเมื่อครูที่คุณตะโกนเสียงดังใส่เป็นใคร

หลิวหยู่เทียนกุมมือที่ถูกหักของตัวเอง สีหน้าซีดเซียวด้วยความเจ็บปวด ถามด้วยเสียงอ่อนแรงในสําคอว่า “ใคร”

“เขาชื่อเฟิง”

หลิวหยู่เทียน

เฟิงอุ้มหญิงสาวเข้าไปในรถ

เวลานี้ถังลั่วเหยาสูญเสียความแข็งแรงทั้งหมดไปแล้ว จิตใต้สำนึกก็ค่อนข้างคลุมเครือ โชคดีที่ปริมาณยาในไวน์มีไม่ มากนัก เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าร่างกายจะร้อนและแห้ง แต่กลับยัง สามารถควบคุมตัวเองได้อยู่บ้าง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ