วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 294 รีบไปจัดการ



บทที่ 294 รีบไปจัดการ

เธอไม่มีความหมายที่จะดูถูกเหยียดยามฝั่งตรงข้ามเลย เพียงแค่ เกมนี้ท่าจนชัดเจนขนาดนี้ ชัดเจนจนเธอเป็นคนนอกเกมคนหนึ่ง ล้วนยังดูออกถึงความผิดปกติได้ หลั่นจือถึงขนาดยังเชื่อว่าเพิ่ง เสี้ยวหลินคนนั้นจะช่วยเธอจริงๆ

วันนี้ถึงขนาดยังเอาเงินมาให้ฝั่งตรงข้ามช่วยดูหินดิบหลาย ก้อนให้กับตนเองสักหน่อย

สมอง………ไม่มีใครมีอีกแล้วด้วย!

เธอแอบตำหนิในใจ คำพูดเหล่านี้ไม่ได้พูดออกมา แต่ก็รู้ว่า ในใจลู่วิ่งเงินคงจะคิดอย่างนี้เช่นกัน

สีหน้าของลู่วิ่งเซินในเวลานี้ก็ดูไม่ค่อยดีเช่นกัน แต่ว่าฟังต้น สายปลายเหตุของเรื่องจบแล้ว อย่างน้อยในใจก็มีคร่าวๆเล็ก น้อย

จากนั้นก็ถามเสียงเข้มว่า “ท่านเอาเงินให้เขามากเท่าไหร่แล้ว หรือ?”

ลู่หลินจือหวาดผวาจ้องมองเขาหนึ่งที่ลังเลๆ ประมาณ……..เจ็ด เจ็ดแปดพันล้านมั้ง!

จิ่งหนึ่ง “

อืม คนโง่เงินเยอะ สิ่งที่พูดก็เป็นแบบนี้ล่ะ
จึงเป็นก็พูดไม่ออกอย่างมากด้วย

เขาคิดแล้วคิดอีก ถามอีกว่า “ดังนั้น สาเหตุที่วันนั้นท่านตั้งใจ มาหาเรื่องกับหนึ่งหนึ่งที่วิลล่าเฟิงเดียว แท้ที่จริงแล้วอยากจะเอา วัตถุโบราณเหล่านั้นกลับไปขายหรือ? ค่อยเอาเงินไปลงทุนกับ ไอ้แช่เพิ่งคนนั้นอีกหรือ?”

สีหน้าของหลินจือมีความอึดอัดเล็กน้อย

“ฉัน ฉันก็แค่ยืมมาชั่วคราว รอฉันหาเงินได้แล้ว นี่ก็ไม่ใช่จะ คืนให้พวกแกแล้วหรือ?”

เหอะๆ………

ลู่จิ่งเซินกับจิ่งหนิงทั้งสองคน เห็นได้ชัดว่าล้วนไม่เชื่อประโยค

นี้ของเธอ

หลันคืออ้อนวอนอีกพูดว่า “อาเซิน แกดูสิ ตอนนี้ฉันล้วนบอก กับแกแล้ว แกสามารถช่วยฉันปกปิดก่อนหรือไม่ อย่าไปบอกกับ คุณปู่คุณย่าของแกเลย? ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้จริงๆ

ลู่วิ่งเป็นเสียงเข้มพูดว่า “งั้นท่านเคยคิดมาก่อนไหมว่าตอนนี้ จะจัดการยังไงล่ะ?”

ลู่หมั้นคือมีความมึนงงเล็กน้อย

ยังไม่เข้าใจ การจัดการที่เขาพูดคือหมายความว่าอะไร

จึงหนังใจดีเตือนสติว่า “นี่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังหลอกท่านอยู่ ถือว่าท่านเป็นคนโง่ อยากจะหลอกลวงเงินของท่านเท่านั้น ท่านคงไม่ใช่ถึงตอนนี้แล้วยังดูไม่ออกมั้ง?

หลับอยิ่งมึนงงอย่างฉับพลันแล้ว

“นี่………..ไปไม่ได้มั้ง! พนันหินเป็นฉันยินยอมเอง อีกทั้งฉัน ก็กลัวว่าเขาจะหลอกลวงฉัน ดังนั้นทุกครั้งเป็นฉันเลือกหินดิบเอา เอง ไม่ให้เขาเข้าแทรกเข้าร่วมมาก่อน ในตลาดการพนันหินนั้น มีหินดิบมากมายขนาดนั้น เขาจะรู้ได้ยังไงว่าฉันจะเลือกก้อนไหน ล่ะ?”

จิ่งหนึ่งยิ้มแล้วยิ้มอีก

ลู่วิ่งเซินเสียงเข้มพูดว่า “นี่ง่ายมาก เพียงแค่เอาก้อนหิน ทั้งหมดข้างใน ล้วนเปลี่ยนเป็นหินที่มีคุณภาพต่ำหรือธรรมดา ก็ได้แล้ว คนอื่นติดออกมาไม่ได้ ท่านก็ตัดออกมาไม่ได้เช่นกัน อย่างนี้ก็ไม่ใช่ได้แล้วหรือ?”

สีหน้าลู่หลินจือเปลี่ยนทันที

แต่ว่าไม่นาน เธอก็รีบแก้ตัวว่า “งั้นเป็นไปไม่ได้ ฉันเห็นคนอื่น ตัดได้หยกจักรพรรดิชั้นหนึ่งออกมากับตา ก็อยู่ข้างหินดิบก้อน นั้นที่ฉันซื้อ!”

หยกจักรพรรดิชั้นหนึ่งหรือ?

เป็นหยก จริงๆ!

จึงหนิงยิ้มพูดว่า “นี่ก็ไม่ยากเช่นกัน ก่อนหน้านั้นวางหินก้อน หนึ่งที่แน่ใจมาก่อนว่ามีสิ่งของดีๆอยู่ข้างในก้อนหนึ่งวางไว้ที่นั่น จากนั้นหาคนของตนเองแกล้งทำเป็นลูกค้าเข้าไปซื้อ ตัดออกมาในนั้นก็พอแล้ว หลังจากนั้นไม่ว่าเป็นหยกหรือว่าเงินถ้วนห่อกลับ ไปในกระเป๋าของตนเอง ไม่ใช่เป็นเรื่องยากอะไรเลย

ลู่หลินจือไม่กล้าเชื่อเต็มใบหน้า

“นี่ นี่เป็นไปไม่ได้! เป็นอย่างนี้ได้ยังไงหรือ?”

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ลู่จิ่งเซ็นแทงความโชคดีที่มีเล็กน้อยสุดท้ายของเธอจนแตก โดยสิ้นเชิงเลย “นี่เพียงแค่เทคนิควางกับดักที่ง่ายที่สุดในตลาด ห่วยแตกจนแม้แต่อ่านอ่านล้วนไม่ถูกหลอกแบบนั้น นึกไม่ถึง ท่านถึงขนาดจะเชื่อ อีกทั้งแค่แป๊บเดียวก็ถูกหลอกลวงจนลึก ขนาดนี้ ดูแล้วไม่สามารถโทษคนอื่นว่าโหดร้ายเกินไปจริงๆ ได้ แต่แค่โทษตัวท่านเองโง่เกินไป

ลู่หลินจือร้องกรี๊ดขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“อาเซิน แกทำไมพูดว่าฉันเป็นแบบนี้ล่ะ? ฉันเป็นป้าของ แกนะ!”

“ก็เพราะว่าท่านเป็นป้าของผม ดังนั้นผมจึงหวังดีเตือนสติท่าน สักคำ เรื่องท่านจําเป็นต้องรีบไปจัดการ มิฉะนั้นข้างหลังไม่แน่ว่า ก็อาจจะยังก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก แน่นอน หากว่าจะจัดการ จะ ต้องทำให้คุณปู่คุณย่ารู้สึกตัวอย่างแน่นอน อยู่อาณาบริเวณพื้น ดินนี้ ในเมืองหลวง แม้เพียงผมมีการเคลื่อนไหวรุนแรงอะไร ก็ หลบไม่พ้นตาของพวกเขาเช่นกัน

ลู่หมั้นถือได้ยินคำพูด ลักษณะพลังก็ซึมเขาลงไปในทันที
เธอเงียบไปสักพัก จากนั้นถามอย่างไม่สมัครใจเป็นอย่างยิ่ง ว่า “จะต้องบอกกับพวกเขา ให้ได้ใช่ไหม?

ลู่จึงเป็นพยักหน้า

“จะต้อง”

“แต่………” เธอลังเลสักพัก จากนั้นหงุดหงิดจนจับผมจับแล้ว จ็บอีก

“ถ้าหากว่าฉันกลับไปแบบนี้ ล้วนขายหน้าหมดเลย คุณปู่ คุณย่าของแกย่อมจะด่าฉันจนตายอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นฉัน จะยังมีหน้าอะไรออกไปได้อีกล่ะ?”

จิ่งหนิงยิ้มแล้วยิ้มอีก

“คุณป้า แม้ว่าฉันไม่รู้ เพราะเรื่องอะไรท่านจึงทะเลาะกันกับ คุณย่า แต่ถึงยังไงพวกท่านก็เป็นคนในบ้านเดียวกัน เลือดเนื้อ เชื้อไข ที่ไหนจะมีความแค้นข้ามคืนล่ะ? อีกทั้งครั้งก่อนอยู่ใน บ้าน ท่าทีที่คุณย่ามีต่อท่านก็ดีอยู่นะ ก็ไม่เห็นจะโมโหให้ท่าน ด้วย เป็นตัวท่านเองคิดมากเกินไปแล้วหรือไม่?”

ลู่หลินจือจ้องมองเธอหนึ่งที ทนความรำคาญไม่ได้เล็กน้อย

“แกไม่เข้าใจ”

สีหน้าสู่จึงเป็นข็งลับแล้วจึงลับอีก

“พูดหรือไม่พูดแล้วแต่ตัวท่านเองตัดสินใจ ผมไม่ขัดขวางท่าน ก็ไม่ฝืนใจท่านด้วย แต่ว่าผมให้เพียงเวลาแค่สองวันกับท่านหลังจากสองวันแล้ว หากท่านคิดดีแล้วว่าจะพูด ผมก็จะพาท่าน ไปพบกับคุณย่า หากว่าไม่พูด งั้นผลลัพธ์ตัวท่านรับผิดชอบเอง ตระกูลกับผม ล้วนจะไม่ช่วยท่านแม้แต่ครึ่งส่วน

เขาพูดจบ ก็ดึงวิ่งหนึ่งลุกขึ้นมาเลย

จิ่งหนึ่งมีความอดสงสารไม่ได้เล็กน้อย แต่คำพูดพูดถึงขนาดนี้ แล้ว ในที่สุดก็ไม่เหมาะที่จะพูดอะไรอีก ตามจึงเป็นออกไปด้วย

ระหว่างทางกลับบ้าน เธอมีความกังวลเล็กน้อยถามลู่จึงเป็น อย่างกังวลใจ

“คุณบอกว่าถ้าหากเธอตัดสินใจไม่พูดจริงๆ คุณจะไม่ช่วยเธอ จริงๆหรือ?”

ลู่วิ่งเซินไร้สีหน้าตอบว่า “ไม่ช่วย

“ทําไมล่ะ?”

“แม้ว่าเธอเป็นป้าของผม แต่ว่าก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว เป็น ผู้ใหญ่ต้องได้รับภาระหน้าที่และความสามารถที่รับผิดชอบต่อ การกระทําของตนเอง ผมไม่ใช่ไม่ยินยอมจะช่วยเธอ เพียงแต่ เธอไม่ยินยอมให้คนในตระกูลเข้าแทรกเข้าร่วม งั้นก็จำเป็น ต้องรับผิดชอบต่อการเลือกของตัวเธอเอง

จิ่งหนิงถอนหายใจหนึ่งที่

“ฉันมักจะรู้สึกว่า เธอยืนหยัดขนาดนี้ น่าจะยังมีสาเหตุอื่นด้วย ไม่เหมือนอย่างที่เธอพูดเท่านั้น เป็นสาเหตุที่โกรธกระฟัดกระเฟียดกับคุณย่าอย่างนี้

ลู่จึงเป็นจ้องมองเธอหนึ่งที่

จากนั้น ยื่นมือนวดระหว่างคิ้วของเธอนวดแล้วนวดอีก

จิ่งหนังอึ้งชะงัก

หันหน้าไปก็มองเห็นนัยน์ตาที่อ่อนโยนของผู้ชาย นัยน์ตาลึกๆ ยังแฝงไว้ด้วยความแวววาวที่สีหน้าแสดงถึงการได้รับความ ประทับใจ

“ก่อนหน้านั้นคุณป้าปฏิบัติไม่ดีต่อเธอมาโดยตลอด คุณทำไม ต้องคิดแทนเธออย่างนี้อีกล่ะ? เห็นคิ้วนี้ใกล้จะขมวดจนติดกัน แล้ว”

จิ่งหนิงอดไม่ได้เผลอหัวเราะออกมา

เธอจับมือของลู่จิ้งเซินไว้ หัวเราะพูดว่า “พูดอะไรล่ะ? เธอดี หรือไม่ดีกับฉัน นั่นคือเรื่องของเธอ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะบีบบังคับ ทุกคนล้วนต้องชอบฉัน สาเหตุที่เอาใจใส่เธอ เป็นเพราะว่าเธอ คือญาติของคุณ ดังนั้นทั้งหมด ก็เป็นเพียงขอให้ไม่รู้สึกละอายใจ ในการตรวจสอบตนเองเท่านั้น

ลู่จึงเป็นอึ้งชะงักอย่างรุนแรง

ไม่รู้สึกละอายใจในการตรวจสอบตนเองอย่างดีนะ สี่คำที่ง่ายๆ พูดง่าย ทำแล้วกลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ลู่จึงเป็นไม่ได้พูดอะไรอีก จับมือของเธอแน่นแล้วแน่นอีก รถขับไปยังวิลล่าเฟิงเดียวต่อ

หลังจากสองวัน ลู่หลินจือ โทรหาลู่จึงเป็น บอกว่าเธอยินยอม พูดคุยกับนายหญิง

จึงเป็นรู้ว่า สาเหตุที่เธอยินยอมก้มหัว อาจจะเข้าตาจนด้วย แล้ว

แม้ว่าลู่หลินจือเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของตระกูลลู่ แต่เพราะว่า เป็นลูกสาวคนหนึ่ง ไม่ชอบทำธุรกิจ ทำงานเกี่ยวกับศิลปะโดย ตลอด ไม่ได้เข้าสู่วงกลมสิทธิที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดภายในลู่ซื่อ กรุ๊ป

นิสัยก็ไว้ใจไม่ค่อยได้ด้วย ยามปกติชื่อเสียงอยู่ข้างนอกก็ไม่ ค่อยดี ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ว่าเธอฐานะสูงส่ง เรื่องเล็กๆ ที่ธรรมดาทุก คนอาจจะเห็นแก่หน้าเธอสักหน่อย แต่ทันทีที่พัวพันถึงเรื่องใหญ่ ที่สะเทือนเอ็นกับกระดูก โดยทั่วไปล้วนจะไม่เชื่อถือเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ