วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 168 คลั่งเขาเท่านั้น



จังหน่งพยักหน้าและหลับตา

ทั้งสองคนนั่งอยู่บนยอดเขาและรออยู่นาน

ฝนดาวตกก็ยังไม่ปรากฏ

จิ่งหนิงหนุนตักเขาและใช้เสื้อนอกคลุมตัว ไว้และค่อย ๆ ง่วงลง

อุณหภูมิในช่วงครึ่งหลังของคืนนั้นลดลง อีกแม้ว่าเธอจะมีเสื้อที่ห่มตัวอยู่ แต่เธอก็ยังรู้สึก หนาวเล็กน้อยและเธอขยับเข้าไปใกล้อ้อมแขน ของเขาด้วยความงัวเงียมองหาที่พึ่งพิงและความ อบอุ่น

ลู่จิ้งเซินก้มลงจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ใน อ้อมกอด แววตาล้ำลึก ปลายนิ้วหยาบของเขาลูบ ผมของเธอเต็มไปด้วยความสงสาร

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด ค่ำคืนมืดมิดก็ ค่อย ๆ สว่าง

แสงส่องผ่านท้องฟ้าและตกลงบนพื้นดินที่ เงียบสงบ จิ่งหนิงถูกคนปลุกให้ตื่นเบา ๆ

เธอลืมตาขึ้นและเห็นใบหน้าหล่อเหลาและ รูปปั้นของลู่วิ่งเงินปกคลุมไปด้วยรัศมีบาง ๆ ใน แสงยามเช้าราวกับเทพเจ้า

เธอตะลึงกับความงามตรงหน้าจากนั้นก็เหล่อย่างมีความสุขแล้ว นมือไปบีบเนื้อข้างแก้มของ เขา “ตื่นเข้ามาในอ้อมแขนของเทพบุตรทุกวัน รู้สึกวิเศษมากจริง ๆ”

ลู่วิ่งเขินไม่ห้ามในสิ่งการกระทำของเธอ ปล่อยให้เธอจับจนพอใจแล้วจึงพูดขึ้น “สว่างแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”

จิ้งหนิงลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ ผล สุดท้ายเธอเห็นทุกคนมีสีหน้าผิดหวังและเก็บของ เพื่อเตรียมจากไป จึงอดไม่ได้ที่จะเกาหัว

“ฝนดาวตกล่ะ? เมื่อคืนมีฝนดาวตกรี

เปล่า?”

“ไม่มี” ลู่จิ่งเซินลุกขึ้นยืนจากนั้นก็ยื่นมือไป พยุงเธอลุก “คาดว่าคงจะรายงานผิด

“เอ๊ะ?”

สัมผัสแห่งความผิดหวังฉายไปทั่วใบหน้า ของจิ้งหนิง จากนั้นเธอก็เบาลงด้วยอาการเจ็บ แปลบที่ขา

ลู่จิ่งเซิน นมือเข้าไปพยุงเธออย่างรวดเร็ว และถาม: “มาชาเหรอ?” “อือ” จิ่งหนิงพยักหน้าและก้มตัวลงไปทุบ

ขาที่มาของตนเอง

ดวงตาของลู่จิ่งเซินลึกซึ้งขึ้นและหยุดเธอ หลังจากใส่เสื้อคลุมแล้วเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและ นั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอ
ขับมา

ซึ่งหนังนิ่งไป

มองดูหลังกว้างของชายหนุ่มแล้วสังเลเล็ก น้อย ถนนบนภูเขาบันขนาดนี้ ฉันเดินเองดีกว่า พักสักเดี่ยวก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ”

“ขึ้นมา!” ลู่จิ่งเซินย้ำชัด

จิ่งหนังกัดริมฝีปากและทำได้เพียงปืนขึ้น ไปเบา ๆ ลู่ งเงินยกเธอขึ้นหลังจากนั้นก็เดินลง จากเขาไปด้วยกัน

ถนนบนภูเขาคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะสุดลูกหูลูก ตา นําค้างจากเมื่อคืนยังไม่จางหาย มีทะเลหมอก เป็นภูเขาและผู้คนเดินแทรกผ่านได้รับการกระ ตุ้นจากอากาศชื้น ให้รู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วย ความเย็น

จิ่งหนิงยื่นมือออกไปและปัดกิ่งไม้ที่ยื่นออก มาในแนวทแยงมุมจากทั้งสองด้านของถนนบน ภูเขาและถาม “เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนเลยเหรอ?”

ลู่จิ่งเซ็น อือ หนึ่งครั้ง

“งั้นคุณก็คงง่วงมากสิคะ? วางฉันลงให้ฉัน เดินเองดีไหม พวกเราเดินช้าหน่อยก็ได้”

ลู่วิ่งเซ็นไม่วางเธอลงและยังคงเดินไปข้าง หน้าและพูดเสียงทุ้ม “ผมไม่ง่วง”

กลัวว่าเธอจะไม่เชื่อจึงหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดเสริมขึ้น เมื่อก่อนเวลายุ่ง ๆ ก็นอนดึกเป็น ประจํา ขันแล้ว”

จังหนังเห็นเขายืนยันจึงไม่ดื้อดึงอีก เพียง แค่อยู่บนหลังของชายหนุ่มอย่างว่าง่ายและ ปล่อยให้ความรู้สึกสุขจาง ๆ เติมเต็มหัวใจ

“ลู่จิ้งเซิน อีกหน่อยพอคุณแก่ เดินไม่ไหว แล้ว ฉันก็จะแบกคุณ คุณอยากไปไหนก็ได้

ลู่นิ่งเงินรู้สึกขบขันกับคําพูดเด็ก ๆ ของเธอ จึงพูดเนือย ๆ “คุณแบกไหวเหรอ?”

“แบกไหวสิ คุณอย่าเห็นว่าฉันตัวเล็กแบบนี้ แต่ฉันแรงเยอะนะ”

“ได้ งั้นต่อไปให้คุณแบกผม”

สัญญาแล้วนะ”

“อือ สัญญา”

หน้าอกของจิ้งหนิงเต็มไปด้วยความสุขและ เธอรู้สึกว่าสิ่งที่มีความสุขที่สุดในโลกไม่มีอะไร มากไปกว่านี้แล้ว

มันเพียงพอแล้วที่จะเดินเล่นกับคนที่คุณรัก อย่างเงียบ ๆ ไปจนแก่เฒ่า ไม่จำเป็นต้องเอิกเกริก ไม่จําเป็นต้องทำตัวหรูหราฟูฟ่าตราบใดที่ทั้งสอง ยังแข็งแรงและอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต

ทั้งสองเดินไปจนถึงเที่ยงจึงถึงตีนเขาทั้งหิว ทั้งกระหาย
ที่เชิงเขามีร้านอาหารสองสามร้านที่ดูเป็น ร้านอาหารจานด่นท้องถิ่นและทั้งสองสุ่มเลือก หนึ่งร้านและเดินเข้าไป

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จทั้งสองนั่งรถ กลับ เมื่อคืน งหนิงนอนหลับไม่สนิท พอขึ้นรถจึง รู้สึกทั้งเหนื่อยทั้งง่วงเพียงไม่นานก็เผลอหลับไป

พอตื่นขึ้นมาพระอาทิตย์ตกอยู่ด้านนอก

จิ่งหนีงลุกขึ้นจากเตียงขยี้ตาและพบว่าเธอ หลับไปจนหัวคั่ว

หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานในห้องนอน ถูกเปิดออกและลมก็พัดเข้ามาเบา ๆ และอากาศ กลิ่นคมคายและเปียกชื้น

เธอลงจากเตียงและเดินไปที่หน้าต่างสูง จากพื้นจรดเพดานด้านนอกมีระเบียงใหญ่และ กว้างพร้อมโต๊ะอาหารและเก้าอี้สองตัว

ในทางตะวันออกมีคลื่นทะเลจาง ๆ พระอาทิตย์ตกเป็นเพลิงแดงแสงแดดคล้อยลับ ขอบฟ้าตกลงพื้นทะเลเหมือนกับผ้าไหมแดงที่ แตกละเอียด เธอยืนอยู่บนระเบียงอย่างเฉื่อยชา เหล่ตาเล็กน้อยสูดอากาศทะเลบริสุทธิ์ ความ อ่อนเพลียหายไปและความหิวในท้องเข้ามา

กลิ่นหอมลอยมาจากข้างล่าง เธอได้กลิ่น แล้ว ดวงตาเป็นประกายกลับหลังหันแล้ววิ่งตุบ ๆลงไปทางห้องครัว

แน่นอนว่าเธอพบกับคู่จิ่งเป็นกำลังทำสเต็ก อยู่ในครัว เมื่อเทียบกับทักษะการทำอาหารของ เขาเมื่อวานนี้

ท่าทางของชายหนุ่มที่ทําสเต๊กนั้นดู นํานาญกว่ามาก เมื่อได้เสียงฝีเท้า เขาถามขึ้น โดยไม่หันไปมอง “ตื่นแล้ว!”

จิ่งหนึ่งส่งเสียงอือหนึ่งครั้ง แล้วเอนตัวไปดู สเต็กลูกเกือบได้ที่แล้ว ด้านข้างยังมีผักที่ล้าง สะอาดแล้ว ดูแล้วเหมือนกําลังจะทําสลัด

“ฉันช่วยคุณนะ!”

เธออาสาที่จะช่วยเขาหั่นผักลู่วิ่งเซ็นเตือน ให้เธอหั่นอย่างระมัดระวังและปล่อยให้เธอหา

จิ่งหนิงหั่นผักเสร็จและเทน้ำสลัด ในตอน นั้นเองสเต็กก็ส่งกลิ่นหอมออกมา เธอสูดกลิ่น หมอเต็มที่จนน้ำลายสอ “หอมจัง”

ลู่วิ่งเซ็นยกมุมปากเล็กน้อย วางสเต็กลงบน จานและสั่งให้เธอนําออกไป

บนระเบียงที่สดชื่นและกว้างขวาง โต๊ะกลม ตัวหนึ่ง สเต๊กสองจานและสลัดหนึ่งชุดลู่วิ่งเซ็น นำไวน์แดงขวดหนึ่งออกมาด้วย

เป็นมื้อเย็นที่เรียบง่ายและสวยงาม เริ่มต้น อย่างช้า ๆ พร้อมกับแสงพระอาทิตย์ตก
ลงไปทางห้องครัว

แน่นอนว่าเธอพบกับคู่จิ่งเป็นกำลังทำสเต็ก อยู่ในครัว เมื่อเทียบกับทักษะการทำอาหารของ เขาเมื่อวานนี้

ท่าทางของชายหนุ่มที่ทําสเต๊กนั้นดู นํานาญกว่ามาก เมื่อได้เสียงฝีเท้า เขาถามขึ้น โดยไม่หันไปมอง “ตื่นแล้ว!”

จิ่งหนึ่งส่งเสียงอือหนึ่งครั้ง แล้วเอนตัวไปดู สเต็กลูกเกือบได้ที่แล้ว ด้านข้างยังมีผักที่ล้าง สะอาดแล้ว ดูแล้วเหมือนกําลังจะทําสลัด

“ฉันช่วยคุณนะ!”

เธออาสาที่จะช่วยเขาหั่นผักลู่วิ่งเซ็นเตือน ให้เธอหั่นอย่างระมัดระวังและปล่อยให้เธอหา

จิ่งหนิงหั่นผักเสร็จและเทน้ำสลัด ในตอน นั้นเองสเต็กก็ส่งกลิ่นหอมออกมา เธอสูดกลิ่น หมอเต็มที่จนน้ำลายสอ “หอมจัง”

ลู่วิ่งเซ็นยกมุมปากเล็กน้อย วางสเต็กลงบน จานและสั่งให้เธอนําออกไป

บนระเบียงที่สดชื่นและกว้างขวาง โต๊ะกลม ตัวหนึ่ง สเต๊กสองจานและสลัดหนึ่งชุดลู่วิ่งเซ็น นำไวน์แดงขวดหนึ่งออกมาด้วย

เป็นมื้อเย็นที่เรียบง่ายและสวยงาม เริ่มต้น อย่างช้า ๆ พร้อมกับแสงพระอาทิตย์ตก187436663_507410723934279_4194984332762096380_n (1)


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ