วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 451 เข้าร่วมงานเลี้ยง



บทที่ 451 เข้าร่วมงานเลี้ยง

เมื่อหัวเหยาฟังเขาพูดจบก็หันหน้ามองเขาด้วยสายตาลังเลขึ้น

“จริงหรอ?”

จี๋หลินหยวนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“หัวเหยา เธอรู้ไหมว่าท่าทางของเธอในตอนนี้เหมือนกับ ภรรยาขี้หึงหวงมาก”

หัวเหยาเผยสายตาขุ่นเคืองขึ้นมาทันที

“ไสหัวไป! แม่ของเธอนะเป็นภรรยาจอมขี้หึงหวง คนทั้งบ้าน ของเธอนั่นแหละที่เป็น!”

ขณะที่เธอพูดก็ยื่นมือผลักเขา หลินหยวนจับมือของเธอไว้ พร้อมอมยิ้มอย่างมีความสุข ขณะเดียวกันก็เผลอหัวเราะออกมา ด้วย

ทั้งสองคนหยอกเล่นกันจนถึงดึก จึงจะกลับโรงแรม จี๋หลิน หยวนไปหลม่านซินเที่ยวหนึ่งแล้วกลับ โดยไม่ได้อยู่นาน

หัวเหยามองดูท่าทางของเขา และรู้ว่าเขาไม่ได้จริงจัง จึงรู้สึก พอใจเล็กน้อย

นอนหลับยาวจนถึงดวงอาทิตย์ขึ้น

เช้าวันต่อมา หัวเหยาลุกขึ้น แล้วหยิบแก้วเดินไปในน้ำดื่มใน ห้องรับแขก แต่จู่ๆก็มีเสียงดังแครกขึ้น
เธอหันหน้ามองจี๋หลินหยวนที่เดินเข้ามาด้วยสายตา สะลึมสะลือ

จี๋หลินหยวนตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว และเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ ซึ่ง ในตอนนี้ร่างกายที่กำยำถูกผ้าขนหนูหุ้มอยู่ ขณะเดียวกันก็มี กลิ่นฮอร์โมนฟุ้งกระจายด้วย

เมื่อเห็นเธอนั่งอยู่ตรงนั้น เขาก็พูดขึ้นว่า “เปลี่ยนเสื้อผ้า เดียวผมจะพาคุณไปเล่นกระโดดร่ม”

หัวเหยาหันหน้ามองเขาด้วยสายตาตกใจ

ไม่นานก็เม้มริมฝีปากซักถามอย่างจริงจังว่า : “ใหญ่กว่าจะ มีวันหยุดไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย คุณไม่คิดจะพักผ่อนหน่อย หรอ?”

“ไม่ต้องแล้ว”

โอเค! นับว่าเธอคิดไปเองคนเดียวแล้ว

หัวเหยายอมรับข้อเสนอของผู้ชายอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ถือ แก้วนํากลับเข้าห้อง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่ทั้งสองคนเตรียมสัมภาระเสร็จก็ ออกไป

เมื่อก่อนหัวเหยาชอบกีฬาตื่นเต้นเร้าใจอย่างกระโดดร่มแบบ นี้มาก ดังนั้นเหล่าเพื่อนจึงไม่ค่อยมองว่าเธอเป็นผู้หญิงสักเท่า ไหร่
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าวิลล่าตากอากาศหมิงหลิวสถานที่แบบนี้มี โปรแกรมเล่นแบบนี้ด้วย ถึงแม้เป็นการเล่นที่ระดับต้น และ ง่ายดายที่สุด แต่เธอก็ยังรู้สึกชอบใจ

เล่นทั้งเช้าเสร็จ เมื่อถึงตอนเที่ยง หลินหยวนก็พาเธอไป ภัตตาคารที่มีดนตรีระดับคลาสสิกกินอาหารทะเลที่นั่น

ภูเขามีขนาดใหญ่ มีภัตตาคารอาหารหลายแห่ง ซึ่งภัตตาคาร อาหารแห่งนี้เน้นอาหารทะเลเป็นหลัก โดยที่หน้าประตูทางเขามี โอ่งขนาดใหญ่สองใบเลี้ยงแมวน้ำสองตัวอยู่ ดูแล้วท่าทางน่ารัก น่าเอ็นดูมาก

จู่ๆหัวเหยาก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอกับหลินหยวนไป จับปลาตัวเล็กที่แม่น้ำ ระหว่างที่หลินหยวนพาเธอส่งกลับ โรงแรมได้ซื้อขวดเลี้ยงปลาให้กับเธอด้วย หลังจากกลับถึงห้อง เธอก็วางไว้ริมหน้าต่าง ตอนกลับมากลางคืนเพราะมีเรื่องรบกวน ใจ จึงไม่ได้ไปดู เลยไม่รู้ว่าตายหรือยัง

เมื่อเดินเข้าภัตตาคาร ทั้งสองคนก็เลือกที่นั่ง

หัวเหยาสั่งเพียงโจ๊กทะเล ส่วนที่เหลือให้จี้หลินหยวนเป็นคน

ไม่นานผู้ชายก็สั่งอาหารขึ้นชื่อของในร้านหลายอย่าง ทั้งสองคนนั่งลงกินอาหาร

หัวเหยาจิบน้ำชา และซักถามเขาว่า : “คุณสะสางงานเสร็จ แล้วหรอ?”
จี๋หลินหยวนเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง “ใครบอกคุณว่าผมมา เพื่องานหรอ?”

“เมื่อวานไม่ใช่คุณนัดลูกค้าหรอกหรอ?” จู่ๆผู้ชายขมวดคิ้วขึ้น : “แค่ครั้งคราวเท่านั้น”

ครุ่นคิดสักพักก็พูดขึ้นว่า “ไม่กี่วันมานี้คุณยังอยากไปเที่ยว ที่ไหนอีกหรอ คุณสามารถเสนอมาได้มีเวลาพอดีเลยอยากพา คุณไปเที่ยวสักหน่อย”

เมื่อหัวเหยาได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็ตกใจเล็กน้อย

ทำไมถึงรู้สึกเหมือนได้รับความใส่ใจมากเป็นพิเศษ?

ทันใดนั้นร่างเงาคนสองคนตรงประตูทางเข้าก็ดึงดูดสายตา ของเธอทันที

เป็นโม่ห้าวหวั่นกับกู้เยว!

หัวเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่?

กู้ชีเยว่เองก็มองเธอเหมือนกัน พร้อมยิ้มแย้มต่อเธออย่างเป็น มิตร จากนั้นก็เคลื่อนสายตามองหลินหยวนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ

โดยที่รอยยิ้มไม่เปลี่ยน

แต่ไม่นานก็กลับมาสภาพปกติ เหมือนกับตั้งใจเดินมาบดบัง สายตาของโม่ห้าวหน

แล้วชี้นิ้วไปอีกที่นั่งหนึ่ง โม่ห้าวหวั่นพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้น ทั้งสองคนก็เดินไปตรงที่นั่งตรงนั้น
หัวเหยาเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย

แต่เธอก็ไม่ได้สนใจพวกเขามากสักเท่าไหร่ รู้ว่าไม่ห้าวหวั่น กับซีเยวมาฉลองเทศกาล ดังนั้นเลยแกล้งทำเป็นไม่เห็นพวก เขา

แต่คิดไม่ถึง หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็เห็นกู้เยว่เดินสองก้าวก็ หยุดฝีเท้าลง แล้วหันหลังหยิบบัตรเชิญสองใบยื่นให้กับเธอ

“คุณหัว คืนนี้มีงานเลี้ยงของบุคคลมีชื่อเสียง ซึ่งเป็นตระกูล ของเราเป็นคนจัด หวังว่าคุณกับคุณชายจะร่วมงานด้วยกันนะ คะ”

หัวเหยายื่นมือรับบัตรเชิญ แล้วเหลือบมองเล็กน้อย จากนั้นก็ เหลือบมอง หลินหยวน

เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามไม่มีท่าทางปฏิเสธก็พูดขึ้นว่า : “โอเคค่ะ! เดียวพวกเราเข้าร่วม

กู้ซีเยว่ยิ้มแย้ม แล้วเดินออกไป

กู้เยว่เพิ่งก้าวเท้าเดินจากไป หัวเหยาก็ซักถามอย่างเก้อเขิน ว่า : “นี่ คุณจะไปจริงหรอ”

จี้หลินหยวนขมวดคิ้ว “คุณไม่อยากไปหรอ?”

หัวเหยาหัวเราะฮ่าฮ่า “เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกแปลกๆ อีก อย่างเธอเหมือนกับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งที่การกระทำกำลัง เชิญชวนฉัน แต่ใจกำลังเชิญชวนคุณ”
เพราะครั้งที่แล้ว หลินหยวนเคยหักหน้า ไม่ห้าวหวั่น แต่คิดไป คิดมาแล้ว กู้เยวมีความเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น คงไม่เอาคิดเล็ก คิดน้อยหรอก

เหตุผลที่เชิญพวกเขา ประการแรกเพราะฐานะของหลิน

หยวน

เพราะเป็นผู้สืบทอดทายาทคนปัจจุบันของตระกูลจิ้น และมี บทบาทสำคัญส่งผลกระทบต่อวงการธุรกิจด้วย ดังนั้นถ้าหากเขา เข้าร่วมจะยิ่งทำให้งานเลี้ยงน่าสนใจมากขึ้น

ประการที่สอง ตระกูลจิ้นเป็นผู้ควบคุมท่าเรือทุกที่ รวมถึงเส้น ทางการขนส่งสินค้าด้วย ส่วนตระกูลเป็นตระกูลท อุตสาหกรรม การขนส่งอุตสาหกรรมหลายด้านต้องผ่านตระกูล จิ้น ถ้าหากสามารถสนิทสนมกับตระกูลจิ้นได้ ธุรกิจในอนาคตมี

เพียงผลประโยชน์ ไม่มีผลเสีย

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือต่อให้กู้เยวชอบโม่ห้าวหวั่นมากแค่ ไหน เธอก็เป็นนักธุรกิจ ซึ่งนักธุรกิจเห็นผลประโยชน์สำคัญกว่า คนที่เลือกทางเลือกของผลประโยชน์ อย่างน้อยก็คือเธอคนหนึ่ง

จี้กลืนหยวนจ้องมองเธอ “ถ้าหากคุณไม่อยากไปก็ช่างมันเถอะ”

หัวเหยารู้สึกมึนงงเล็กน้อย แหะ? เปล่านะ ฉันไม่ได้บอกว่าไม่ อยากไปเลย”

ผู้ชายยักคิ้วเล็กน้อย และรู้สึกว่าผู้หญิงปากไม่ตรงกับใจ
หัวเหยาเม้มริมฝีปาก และหยุดนิ่งเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า : “อันที่จริงไปดูสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร อีกอย่างตอนกลางคืน ก็ไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว!”

จี้หลินหยวนยิ้มจางๆ แล้ววางบัตรเชิญให้กับเธอ แล้วลุกขึ้น

ยืน

“ไปกันเถอะ!”

หัวเหยานิ่งอึ้งชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดว่าไปก็ไป เธอจึง รีบลุกขึ้นเดินตามไป และซักถามว่า : “ไปไหนหรอค่ะ?”

“ไม่ใช่ว่าจะเข้าร่วมงานเลี้ยงหรอกหรอ? คุณมีของขวัญแล้ว หรอ?”

“ยังไม่มี! ค่ะ? คุณจ่ายค่าอาหารแล้วหรอ?”

“จ่ายตั้งนานแล้ว!

“อ๋อ”

บนพื้นที่บางส่วนของวิลล่าตากอากาศหมิงหลิวเป็นถนนคน เดิน มีร้านค้าอยู่ ซึ่งร้านแบรนด์ใหญ่ล้วนมีหมด

หัวเหยาเดินตามเขาเข้าร้านเสื้อผ้าราคาสิ้นเปลืองของ

ประเทศฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง แต่เสื้อข้างในร้านเป็นคอลเลคชั่นใหม่ สุดของปีนี้

หัวเหยาถูกใจเดรสคอวีสีดำสลักเพชรเม็ดสีแดงตั้งแต่แวบแรก จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ชุดและพูดว่า “เอาชุดนั้นมาให้ผมดู หน่อย”

จี๋หลินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

พนักงานหยิบชุดเดรสให้กับเขาอย่างยิ้มแย้ม และพูดว่า : “คุณผู้หญิงท่านนี้มีรสนิยมจริงๆค่ะ ชุดเดรสชุดนี้เป็นแบรนด์ ภาพลักษณ์ของJane ในประเทศตอนนี้มีเพียงแค่ชุดเดียว อีก อย่างคุณผู้หญิงผิวขาวเนียนละเอียด เหมาะกับชุดเดรสสีดำเพื่อ ขับผิวมากค่ะ”

หัวเหยายื่นมือรับชุดเดรสอย่างยิ้มแย้ม เธอเอามาวัดกับตัว พลาง และหันหน้ามอง หลินหยวนพลาง

“เป็นยังไงบ้าง? ชุดนี้สวยไหมคะ?”

จี้หลินหยวนขมวดคิ้ว จู่ๆก็ยื่นชุดเดรสสีฟ้าชุดหนึ่งที่อยู่บนไม้ แขวนขึ้น

“ชื้อชุด ”

หัวเหยา : “..

คนๆนี้ชอบสีฟ้ามากจริงๆ

พนักงานเป็นคนช่างสังเกต เพียงเหลือบมองแวบเดียว เห็น หลินหยวนเป็นคนตัดสินใจ ดังนั้นรีบยิ้มและพูดว่า : “ชื่อของชุด เดรสชุดนี้เรียกว่าdream เป็นชุดที่แทนความฝันอันแสนสวย ดู คุณผู้หญิงอายุไม่มาก สวมชุดนี้เหมาะสมกับอายุดีนะคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ