วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 611 ในที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือ



บทที่ 611 ในที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือ

ของเยอะขนาดนี้ ต้องขายเท่าไร?

แค่เครื่องประดับชุดเดียวก็ราคาหลายสิบล้านแล้ว ยิ่งไม่ต้อง พูดถึงมีว่ามีทั้งงานเขียนและจิตรกรรมแบบนี้อีก เกรงว่าน่าจะ หลายร้อยล้านแน่ๆ!

เขาร่ำรวยแล้ว ร่ำรวยแล้วจริงๆ

เหอศี อรู้สึกตื่นเต้นดีใจสุดๆ เซอร์ไพรส์และความมั่งคั่ง ร่ำรวยที่แสนยิ่งใหญ่ ทำให้เขาตื่นเต้นจนหน้าแดงไปหมด

แต่ถังลั่วเหยากลับถูกมัดอยู่ในห้องนอน มือและเท้าไม่

สามารถขยับเขยื้อนได้ แค่ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมของ

เหอศี อดังมาจากอีกห้องเท่านั้น

ที่กำแพงมีนาฬิกาแขวนที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ เธอเงยหน้าขึ้น มามองอย่างหมดเรี่ยวแรง เข้ามาในห้องนี้ได้ประมาณสี่นาทีแล้ว

ถึงแม้ว่าของจะเยอะ แต่ก็วางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มาก ถ้าคิดจะเอาใส่ถุง ใส่กล่องก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

เวลาไม่กี่นาที ก็พอเพียงพอแล้ว!

ดังนั้น เขาน่าจะตามมาไม่ทันแล้วล่ะ

แม้ว่าตนเองจะพยายามมากขนาดนี้ คิดหาวิธีทั้งหมดที่ตัวเอง น่าจะทำได้แล้ว แต่ก็ยังยากที่จะหนีไปจากความโชคร้ายในวันนี้ใต้

พอคิดถึงตรงนี้ ถังลั่วเหยาก็ยิ้มอมทุกข์ออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จริงๆแล้วไม่ได้กลัวขนาดนั้น แค่รู้สึกเสียดายเท่านั้น

เมื่อก่อนจะชอบห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ตลอด แต่พอตอนนี้ ก็ เพิ่งจะพบว่า เมื่อเดินมาถึงจุดสุดท้ายของชีวิตแล้ว ความหวาด กลัวและความลังเลก่อนหน้านี้ ล้วนแต่ไม่สำคัญเลยสักนิด

เธอค่อยๆหลับตาลง สูดหายใจเข้าลึกๆ

ในเวลานี้เอง ก็ได้ยินเหมือนกับเสียงเครื่องยนต์กำลังแล่น

เธออึ้งไปสักพัก ลืมตาขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ มองออกไปข้าง นอกหน้าต่างจากในห้องนอนชั้นสอง เป็นอย่างที่คิดไว้เห็น รถยนต์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีคนหนึ่งกำลังแล่นมาทางนี้

ถังลั่วเหยารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที

แต่เธอไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา แล้วก็พูดอะไรไม่ออกด้วย เพราะว่าปากถูกอุดเอาไว้อยู่

สุดท้าย ทำได้แค่จ้องมองไฟรถตาเขม็ง มองมันเข้ามาใกล้ เรื่อยๆ ก่อนจะจอดลงข้างล่างตึก

ถังลั่วเหยากลั้นหายใจเอาไว้

เพราะว่าที่นี่อยู่ใกล้กับถนน จึงสามารถแอบได้ยินเสียงได้นิด หน่อย เธอไม่มั่นใจว่าเธอคือในตอนนี้ได้สังเกตเห็นแล้วหรือยัง ว่ามีรถเข้ามา
ด้วยเหตุนี้เอง เธอทำได้แค่กลั้นหายใจรอเอาไว้ภาวนาให้ เหอ ออย่างเพิ่งสังเกตเห็นก่อน

ในความจริงแล้ว เหอ อ ในตอนนี้ก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นว่ามี

คนมาจริงๆ

เพราะว่าเขาเพิ่งจะเคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้ครั้งแรก ก็เลย รู้สึกดีอกดีใจสุดๆ เอาแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับเงิน ไม่มีกะจิตกะใจ ไปสนใจอย่างอื่น?

แต่ ในขณะที่เขากำลังไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่นั้น

ข้างล่าง เฟิงก็แอบพาเหลิงเมยย่องเข้ามาในวิลล่าเรียบร้อย แล้ว เพราะว่ามาอย่างรีบร้อนมาก คนอื่นๆ จึงกำลังอยู่ระหว่างทาง

เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของถังลั่วเหยาดังนั้นจึงมากับเหลิ่งแม่

ยก่อน

ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้จึงไม่ทันได้เรียกคนมาล้อมวิลล่าเอาไว้ เพราะกลัวว่าจะทำให้เรื่องใหญ่โตวุ่นวายเกินไป แล้วจะกลาย เป็นแหวกหญ้าให้ตื่น แล้วจะยิ่งทำให้ถังลั่วเหยาตกอยู่ใน อันตรายกว่าเดิม

ในเวลานี้ เฟิงอาศัยความคุ้นเคยต่อวิลล่า พาเหลิ่งเมียค ทางจนมาถึงชั้นสองท่ามกลางความมืดมิด

ที่ไกลๆ ก็เห็นไฟในห้องแต่งตัวสว่างอยู่ ไฟทางด้านห้องนอน อีกห้องก็สว่างอยู่เช่นกัน
เขากับเหล่งเม่ยก็ส่งสัญญาณมือให้กัน เหลิงเมียไปห้องแต่ง ตัว ส่วนเขาไปห้องนอน

ถังลั่วเหยาถูกมัดอยู่ที่ปลายเตียงหันหลังให้กับประตู เอาแต่

จ้องมองอยู่นอกหน้าต่างตลอดเวลา ในใจก็ไม่รู้เหมือนกันว่า

พวกเขาเข้ามาแล้วยัง

จากนั้นก็รู้สึกลางๆ ว่าข้างหลังมีเสียงฝีเท้าเบาๆกำลังเดินตรง มา

แม้ว่าอีกฝั่งจะพยายามเดินให้เบาแล้ว แต่เธอที่ทั้งตัวถูกมัด อย่างแน่นหนา มีสัมผัสรับรู้ได้อย่างดีเยี่ยม จึงสัมผัสได้

เธอใจเต้นแรง หันหน้ากลับไปโดยสัญชาตญาณ จู่ๆก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าสั้นๆ จากนั้น ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เป็นอย่างดี

เนื่องจากปากถูกอุดเอาไว้ ถังลั่วเหยาจึงพูดไม่ได้ ทำได้แค่ส่ง เสียงอื้อๆออกมาเท่านั้น

พอเห็นเฟิงที่โผล่เข้ามาอย่างกะทันหัน ก็ดีใจจนน้ำตาแทบ จะไหลออกมา

สีหน้าของเฟิงยี่กลับนิ่งขรึมมาก มองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรด เท้าก่อนหนึ่งรอบ พอมั่นใจแล้วว่าไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน จึง ช่วยเอาผ้าที่ปากของเธอออก
“เหยาเหยา คุณเป็นยังไงบ้าง? ยังโอเคไหม?”

ในที่สุดปากของถังลั่วเหยาก็ว่างเปล่าสักที เธอหายใจหอบ ออกมาสองสามอย่างอดกลั้นไม่ได้ แล้วถึงค่อยพูดขึ้นอย่าง เบาๆ “ไม่เป็นไร เธอคือกำลังเก็บข้าวของอยู่ที่ห้องเก็บของตรง นั้น”

เพิ่งพยักหน้า ก้มลงไปช่วยแก้มัดเธอพลางพูดขึ้น ผมรู้เหลิ่ง เมียไปแล้ว ผมจะพาคุณออกไปก่อน

ถังลั่วเหยาตอบรับกลับมา หลังจากที่เพิ่งแก้มัด ให้เธอเสร็จ แล้ว ก็พยุงเธอลุกขึ้นยืน

แต่ว่า เพิ่งจะได้ก้าวขา ยังไม่ทันได้เดิน ถังลั่วเหยาก็โซเซ ก่อน จะล้มหงายหน้าไป

เฟิง มือไว ประคองเธอเอาไว้ก่อน นึกว่าเธอได้รับบาดเจ็บ

ตรงไหนหรือเปล่า สีหน้าเปลี่ยนไป รีบก้มลงตรวจสอบทันที

“เป็นอะไร? ขาได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?”

ถังลั่วเหยาส่ายหัว พูดขึ้นด้วยสีหน้าทำอะไรไม่ถูก ถูกมัดไว้ นานน่ะ ขาก็เลยซา”

เฟิงได้ฟังแบบนี้ ก็ถอนหายใจออกมา

เขาก้มลงอุ้มถังลั่วเหยาขึ้นมา แล้วเดินออกไปข้างนอก

อกสั่นขวัญแขวนอยู่ตั้งนาน ตอนนี้จึงรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาถึง ลั่วเหยารู้สึกว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดของตัวเองเหมือนกับจู่ๆก็หายวับไปทันที ตัวอ่อนไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย

เธออยู่ในอ้อมกอดของเฟิงอย่างอ่อนแอ สองมือกอดคอของ เขาเอาไว้ ซบหัวลงที่ไหล่ของเขา ปล่อยตัวปล่อยใจ

เฟิงอุ้มเธอ จนออกมาจากวิลล่า เปิดประตูรถออก วางเธอ

เข้าไปในรถ

ในตอนนี้เอง ตรงที่ไม่ไกลก็มีรถสองสามคันแล่นตรงมา

ประตูรถเปิดออก มีบอดี้การ์ดหนุ่มรูปร่างกำยำสวมชุดสีดำ กลุ่มหนึ่งกระโดดลงมา

เฟิงพูดกับถังลั่วเหยา”คุณรออยู่ในรถก่อนนะ เดี๋ยวผมมา ถังลั่วเหยานึกว่าเขาจะเข้าไป จึงคว้าแขนของเขาเอาไว้ทันที ก่อนจะพูดถามขึ้น “คุณไปไหน?”

เพิ่งเห็นเธอคว้านิ้วของเขาเอาไว้ ในตาก็อบอุ่น พร้อมกับพูด ขึ้น ไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้จะเข้าไป ก็แค่จะไปเจรจากับพวกเขาที่นี่ สักสองสามประโยคแค่นั้น”

ถังลั่วเหยาจึงปล่อยมือของเขาไปอย่างวางใจลงได้ เฟิงยี่เดินตรงเข้าไป พูดเจรจากับบอดี้การ์ดพวกนั้น พวกเขาตอบกลับมาพร้อมกัน “ครับ” จากนั้นก็รีบเข้าไปในบ้านทันที

หลังจากที่เพิ่งสั่งกำชับเสร็จแล้วก็เดินกลับมา นั่งลงในรถ เป็นเพื่อนกับถังลั่วเหยา
ผ่านไปได้ไม่นาน เหลิงเมียก็กุมตัวเหอ อออกมา

ในตอนนี้เหอศี อยังไม่ทันตอบสนองกลับมาว่ามันเกิดเรื่อง อะไรขึ้น ตอนที่ถูกกลุ่มคนกุมตัวออกมานั้นยังขัดขืนพูดจาด่าทอ ออกมาอยู่

“พวกแกทําอะไร? ฉันจะบอกพวกแก ให้นะ พวกแกอย่ามาทำ อะไรมั่วซั่วแบบนี้นะ! ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ฉันแค่กลับมาเอาของ ที่บ้านเท่านั้น เกี่ยวอะไรกับพวกแกด้วย? พวกแกรีบปล่อยฉันไป เดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าไม่ปล่อยฉันจะแจ้งตำรวจ

เขากำลังพูดพล่ามต่อว่าด่าทอ แต่พอได้ยินเสียงที่เยือกเย็น เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“เรียกตำรวจ? ได้สิ ไหนแกเรียกมาให้ฉันดูหน่อยซิ

เหอ ออึ้งตะลึงไป เงยหน้าขึ้นมาเห็นทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในรถ

พอดี

เขาสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ไม่กล้าพูดอะไรออกมา ด้วยความที่ ไม่อยากที่จะเชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า

“เป็นแกได้ยังไง? แกอยู่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ แก……

จู่ๆเขาก็เข้าใจอะไรขึ้นมา มองไปยังถังลั่วเหยาด้วยความช็อก ตกใจ

ทั้งตกใจทั้งโมโห แกกล้าหลอกฉัน! ”

ถังลั่วเหยาจ้องมองเขาอย่างเย็นชา พูดกับเฟิง เขาบ้าไปแล้ว! อย่าปล่อยเขาไปนะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ