วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 885 เขาคือพี่ชาย



บทที่ 885 เขาคือพี่ชาย

เฉียวฉีดิ้นขัดขืนไปมาเล็กน้อย แต่แขนกลับถูกเขาจับไว้แน่น ไม่สามารถขยับได้ เธอทำได้เพียงจ้องมองเขาอย่างดุเดือดผ่าน ผ้าผืนหนึ่ง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายสวมหน้ากากก็ยิ้มเย็นชา

แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก เขาโน้มตัว อุ้มเธอขึ้น พาดบ่า แล้วเดินออกไป

เฉียวฉีตก ใจ

เมื่อเท้าห่างจากพื้น ความรู้สึกไม่ปลอดภัยของคนก็ยิ่งเด่นชัด

เธอไม่รู้ว่าคนนี้เป็นใคร ต้องการพาตัวเธอไปที่ไหน ดังนั้นจึง

ขึ้น

รู้สึกแปลกใจอยู่เสมอ

เธอแอบสะสมกำลัง พร้อมจะสู้ตาย

แต่ก่อนที่แขนของเธอจะขยับ เธอก็ได้ยินเสียงเย็นชาของอีก ฝ่ายเสียก่อน

“ฉันขอแนะนำเธอว่าอย่าเสียแรงเปล่าเลย ฉันไม่อยากทำร้าย ผู้หญิง ดังนั้นอย่าพยายามท้าทายความอดทนของฉัน เชื่อฟังสัก นิด รอให้ถึงที่เสียก่อน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป

เฉียวที่กำลังจะลงมือ พลันตัวแข็งทื่อทันใด
ชายที่อยู่ข้างใต้เธอ เขามีไหล่ที่กว้างและแข็งแรง กล้ามเนื้อ ของเขามันทำให้หน้าท้องของเธอเจ็บเล็กน้อย

เห็นได้ชัด ว่าอีกฝ่ายก็ต่อสู้เป็น

ตอนนี้เธอถูกมัดมือและเท้า ขยับไม่สะดวก และยังตกไปอยู่ใน มือของคนอื่น ในเมื่อยังไม่มีเหตุการณ์อันตรายถึงชีวิต ทางที่ดี เชื่อฟังก่อนจะดีกว่า ไม่มีความจริงใจ รอให้ถึงโอกาสแล้วค่อย ลงมือก็ยังไม่สาย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กล้ามเนื้อที่ตึงของเธอก็ค่อยๆ คลายตัว

หลังจากเดินไปได้ประมาณสองสามนาที เดียวก็ได้ยินเสียง ฝีเท้าที่เดินไม่เหมือนอยู่ข้างนอกห้อง แต่เหมือนกับเดินเข้าไป

ในห้อง และกําลังเดินเหยียบอยู่บนพรม ด้วยเหตุฉะนี้ ใจเธอเลยทำการวินิจฉัยว่า น่าจะใกล้ถึงที่หมาย

แล้ว

ไม่นาน อีกฝ่ายก็หยุดฝีเท้า และวางเธอลง หัวหน้า หัวหน้าอะไร?

“หัวหน้า นำมาถึงแล้วครับ”

เฉียวฉีขมวดคิ้ว

ภายในใจของเธอนึกสงสัย ทันใดเธอก็รู้สึกว่าตรงหน้ามืดมิด และจากนั้น มือคู่หนึ่งก็พันรอบศีรษะของเธอ เพื่อปลดผ้าบน ศีรษะออกให้เธอ
ทันใดแสงสว่างจ้าก็กระทบสายตาของเธอ แสงที่สาดส่อง ทําให้เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย

พอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พลันเห็นห้องที่เรียบร้อยและหรูหราอยู่

ตรงหน้า

ข้างหน้าเธอ มีชายร่างสูงยืนอยู่ ชายผู้นั้นสวมแจ็กเก็ตสีดำ และกางเกงสแล็กสีดำ มือทั้งสองข้างอยู่ในกระเป๋ากางเกง มอง มายังเธอด้วยท่าทางสูงส่งยิ้มแต่ราวกับไม่ได้ยิ้ม

“คุณเฉียว ผมได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว ในที่สุดเรา ก็ได้พบกัน”

เฉียวฉีตกตะลึง

เธอมองใบหน้าที่อยู่ด้านหน้าของเธอ และทันใด ภาพ มากมายก็แวบเข้ามาในความคิดของเธอ ราวกับเป็นเศษเล็ก เศษน้อยนับไม่ถ้วน

เธอปวดหัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เธอจับศีรษะของตัวเอง เจ็บปวดจนเหงื่อไหลชโลมกาย

มีเสียงกรีดร้อง ในลำคอ เฉียวฉียดตัวอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บ

ปวด ร่างกายเธอสั่นเทา

เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
ใบหน้า ใบหน้า………

ต่อหน้า ใบหน้านั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นมาในทันใด

เขามองดูเธอ พูดเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยนด้วยน้ำเสียง อบอุ่น “คุณเฉียว เป็นอะไรไป? รู้สึกปวดหัวมากใช่ไหม?

“คุณคงรู้สึกว่าใบหน้านี้คุ้นเคยมากใช่ไหมละ? เคยเจอที่ไหน มาก่อน? โธ่เอ๋ย เด็กดี เราเคยเจอกันมาก่อน ตอนที่คุณยังเด็ก มาก คุณยังจำได้ไหม ตอนนั้นผมจูงมือคุณ กอดคุณ ซื้อขนมให้ คุณ ตอนนั้นคุณเรียกผมว่าอะไรนะ?”

เฉียวมองมายังเขา พลันน้ำตาไหลลงมา

“พี่ พี่ชาย…

ชายคนนั้นยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือออกมา และลูบไปบังใบหน้า ของเธออย่างรักใคร่

“ใช่แล้ว ผมเป็นพี่ชาย อย่าร้องเด็กดี พี่รักน้องนะ”

เขาพูดพลาง เอื้อมมือออกไปดึงเธอขึ้นมาจากพื้น

ด้านข้าง ชายสวมหน้ากากสีเงินพลันตะลึงเมื่อเห็นอย่างนี้ เห็นเขาโอบกอดเฉียว ก่อนจะส่งเสียงอย่างประหลาดใจ “หัวหน้า… …

“ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว

ลิ่วเส็น ขัดจังหวะเขาอย่างเย็นชา นายออกไปก่อนเถอะ
อีกฝ่ายยังต้องการจะพูด แต่ลิ่วเสิ่นหันหลังกลับไป ส่งแววตา เย็นชาไปให้เขา สุดท้าย ชายสวมหน้ากากก็ยังคงโกรธแค้น

เฉียวถูกเขาพาไปยังห้องนอน ในเวลานี้ เธอหน้า เสื้อผ้าของเธอเปียกไปด้วยเหงื่อ ราวกับ

ถูกตกขึ้นมาจากน้ำ

แววตาที่ว่างเปล่าของเธอมองไปยังฝ่ายตรงข้ามลิ่วเส้นวาง เธอไว้บนเตียง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า เธอเบาๆ

“เฉียวเฉียว ทุกข์ใจมากเลยใช่ไหม? เด็กดี หลับตานอนเสีย เถอะ พี่ชายจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง

เฉียว รู้สึกว่าสมองของเธอยุ่งเหยิงไปหมด

สมองของเธอ ราวกับถูกบางสิ่งกัดอย่างแรง ทำให้เธอปวดหัว เหมือนจะแตก

มีเศษความทรงจําบางส่วนที่ไม่ได้เป็นของเธอ ไหลออกมา จากส่วนลึกของจิตใจ ทำให้เธอตัวสั่นอย่างต่อต้าน

เธอมองไปที่ลิ่วเส็น ไม่รู้ทำไม เห็นได้ชัดว่าอยากต่อต้าน แต่ เมื่อได้ยินคำพูดที่อ่อนโยนของเขา หนังตาของเธอก็ค่อยๆหนัก อึ้ง

ในที่สุด เมื่อตระหนักว่าเธอไม่สามารถต้านทานความหนักอึ้งของเปลือกตาได้ เธอจึงผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกที ก็มืดแล้ว

เธอลืมตาขึ้นมา และพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่หรูหรา เฉียวฉีตกใจ เด้งตัวลุกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายไม่รู้สึกผิด ปกติใดๆ

เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที

โชคดี ที่เสื้อผ้ายังอยู่ครบ และร่างกายก็ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร ในฐานะผู้หญิง มันไม่เหมือนผู้ชาย บางครั้งเธอกลัวการถูก ศัตรูจับไปมากที่สุด ไม่ใช่เพราะเธอกลัวความตาย

แต่เป็นเพราะกลัวความเหยียดหยามจากพวกเดนมนุษย์ก่อน ตายต่างหาก

เฉียวฉ่คิดว่าตัวเธอเองไม่ได้สูงส่ง แต่ถ้าอีกฝ่ายกล้าใช้วิธี เหล่านั้นกับเธอจริงๆ ต่อให้ต้องต่อสู้ดิ้นรนจนตายไปด้วยกัน เธอ

ก็จะไม่ปล่อยพวกมันไป

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร

ในขณะที่เธอโล่งใจ เธอเริ่มสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับจุดประสงค์ ที่คนพวกนี้จับตัวเธอมา

เฉียวฉลุกจากเตียง และเดินออกไป

เดิมทีเธอคิดว่า คนเหล่านี้พยายามอย่างมากเพื่อจับตัวเธอมา ตอนนี้คงเพิ่มการป้องกันให้เข้มงวด
การป้องกันของด้านนอกคงแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยแล้ว คง ส่งคนมาคอยดูแลมากมาย

น่าแปลกที่พอเธอเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องนั่งเล่น แล้ว

ออกจากห้องนั่งเล่นมา

จนกระทั่งเธอออกไปจนถึงประตูใหญ่ เธอก็ไม่เห็นใครเลย นอกจากตัวเธอเอง

เฉียวฉีตกใจ และรู้สึกได้เพียงว่าหัวใจเต้นแรงมากขึ้นมา เธอมองซ้ายขวา เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใคร ก็อยากหนีออกไป อย่างไร โอกาสดีขนาดนี้แล้วไม่ไป แล้วจะรอไปตอนไหนกัน? และไม่ว่าเขาจะเป็นกับดักหรือไม่ก็ตาม ไปก่อนแล้วค่อยพูด เมื่อคิดได้เช่นนี้ เธอก็รีบเดินออกไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินออกไปสองก้าว จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่ามี บางอย่างผิดปกติ

เธอหยุดฝีเท้า หันศีรษะกลับไปมองยังด้านหลังของเธอ

เพียงเห็นเนินเขาสีเขียวอันกว้างใหญ่อยู่ตรงหน้า เหมือนกับ อสุรกายร้ายที่หลับใหลในตอนกลางคืน และบ้านพักที่อยู่ตรง หน้าเธอ ก็ดูเก่าแก่แต่ก็หรูหรา ให้ความรู้สึกคุ้นเคยและสนิท สนมเล็กน้อย

นี่มัน อะไรกันนะ?

แต่เธอมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยมาที่นี่มาก่อน
แต่ทําไม? ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคย

ความเจ็บปวดผุดขึ้นในใจของเธออีกครั้ง

เธออดไม่ได้ที่จะจับหัว และก้มศีรษะลง เพียงรู้สึกว่ามีบาง อย่างกำลังเต้นอยู่ในอกของเธออย่างรวดเร็ว และกำลังจะพุ่ง ออกจากล่าคอของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ