วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 316 ส่งเธอกลับบ้าน



บทที่ 316 ส่งเธอกลับบ้าน

มือที่แห้งแล้วก็ยังมีความร้อนอยู่ ก็ได้มาอยู่ที่ผิวที่เริ่มเย็นของ เธอ กวนเยวหวั่นก็ได้คิดถึงเสียงที่อ่อนหวานเมื่อกี้ของผู้หญิงคน นั้น ในใจก็ได้กระอักกระอ่วน ออกแรงสะบัดเขาออก

“คุณหมอ นี่เป็นที่สาธารณะ ระวังฐานะของคุณด้วย ฉันไม่ได้ เหมือนเธอที่เป็นผู้หญิงในบาร์

พูดจบ ก็ได้รีบเดินออกไปอย่างไม่แคร์อะไรอีก

คำพูดของเธอก็ได้ทำให้สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้เย็น ก็ได้รับ ตะคอกออกไปว่า “เธอหยุดเลยนะ! เธอว่าใครเป็นผู้หญิงบาร์?”

แต่ว่ากวนเยว่หวั่นไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย ก็ได้รีบเดินออก

ไป ผู้หญิงคนนั้นยังอยากจะโวยวายต่อ แต่ก็ได้สังเกตเห็นสีหน้า ที่ไม่น่าดูของจี้หยุนซู ก็ได้เงียบไปทันที ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เธอนิ่งไปสักพัก พูดอย่างลังเล “คุณชาย ฉันไม่ได้มีความ หมายอื่น ฉันก็แค่……

“พอได้แล้ว!”

สีหน้าของหยุนซูไม่น่าดูมากๆ “เดิมที่แค่เห็นว่าตระกูลพวก เราทั้งสองตระกูลได้ร่วมงานกัน คุณบอกว่าเกิดเรื่องกับคุณ แล้ว ผมก็ได้อยู่แถวนี้พอดีก็เลยมาดูหน่อย ไหนๆ ตอนนี้คุณไม่ได้เป็น อะไร งั้นผมขอตัว!
แต่ว่าคุณหลิน ต่อไปถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไร ก็ไม่ต้องเอาเรื่องนี้ มาเล่นตลก ส่วนเรื่องความคิดอื่น ขอโทษด้วยครับ ผมไม่มี อารมณ์ เพราะงั้นคุณก็ล้มเลิกความคิดนี้เถอะ!”

เขาพูดจบ ไม่รอให้เธอตอบ ก็ได้จากไป

คุณหลินมองแผ่นหลังที่เดินออกไปของเขา ก็ได้โมโหจน หน้าได้เขียวข้าง ข้าง

ผ่านไปนาน ถึงได้กระทืบเท้าอย่างหงุดหงิด แล้วก็ออกมา หันหลังแล้วเดินไปอีกข้าง

กวนเยาหวั่นได้กลับมายังที่นั่งด้วยสีหน้าเย็นชา จือจุนเห็น เธอ ก็ได้รีบเดินเข้ามา

“เมื่อกี้ไปไหนมา? นานเลยที่ไม่เห็นเธอ

กวนเยาหวั่นขี้เกียจที่จะมองเขา ก็ได้ยกแก้วเหล้าที่อยู่ตรง หน้าตัวเองแล้วก็ดื่ม พูดอย่างหงุดหงิด “ฉันไปห้องน้ำก็ต้อง รายงานให้นายรู้ก่อนเหรอ?”

กู้จื่อจุนนิ่งไป ก็ได้ลำบากใจเล็กน้อย

“ใครบอกว่าเธอต้องรายงานฉัน ฉันถามหน่อยไม่ได้หรือไง? ที่แบบนี้มันวุ่นวาย ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องกับเธอถึงได้ถามเธอ เธอกลับมีท่าทางแบบนี้ ฉันเป็นห่วงอย่างเปล่าประโยชน์จริงๆ

คำพูดนั้น ทําเอากวนเยว่หวั่นนิ่งไป สักพัก ก็ได้ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร

พูดไป ก็ได้เทเหล้าให้ตัวเองอีกแก้ว ดื่มจนหมด

เหล้าที่แสบร้อนนั้นได้ผ่านคอของตัวเองไป เหมือนกับไฟ ร้อนๆ ที่ได้เผาสตของเธอ แต่ความหงุดหงิดในใจไม่ได้ลดไป เลยแม้แต่น้อย กลับกันได้หนักขึ้น

จื่อจนเห็นแบบนั้น นัยน์ก็ได้เป็นประกาย ก็ได้หัวเราะแล้วก็ พูด “เธอบอกว่าไม่ดื่มเหล้าไม่ใช่เหรอ? ทำไมดื่มแล้วล่ะ?”

กวนเยว่หวั่นจ้องเขา “ฉันจะดื่มก็ดื่ม เกี่ยวอะไรกับนาย ทำไม?

นายปวดใจเหรอ”

พูดจบ ก็ได้เอาแบงก์ร้อยออกมาสองใบ ยัดไปที่มือของเขา “นี่เป็นค่าเหล้า! พอหรือยัง?

กู้จื่อจุนมองแบงก์เงินที่อยู่ในมือ ก็ไม่ออก “เธอพูดบ้าอะไร

นะ? ฉันเชิญเธอมาเล่น ฉันยังจะปวดใจกับค่าเหล้าพวกนี้

พูดจบ ก็ได้เอาเงินยัดไปที่กระเป๋าของเธอ

“แต่ว่าเธอดื่มคนเดียวจะไปสนุกอะไรมา ฉันดื่มเป็นเพื่อน! พูดจบ ก็ได้เอาแก้วมา ก็มาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเธอ

กวนเยว่หวั่นหงุดหงิดในใจ ถึงแม้เกลียดเขา แต่เวลานี้ ก็ไม่ ได้ปฏิเสธ เพราะงั้นก็ได้บนแก้วกับเขา

แต่ เธอกลับไม่รู้ ในที่ที่เธอมองไม่เห็นนั้น จือจุนได้เอาผงสี ขาวๆ นั้นใส่ลงไป จากนั้นก็ได้เสิร์ฟให้เธอ
ทั้งสองชนแก้ว กวนเยวหวั่นก็ได้ดื่มเหล้าไปจนหมดแก้ว อ จนกลับเม้มปากเบาๆ สายตาได้มองไปที่หน้าของเธออยู่ตลอด

จนกระทั่งเห็นเธอดื่มเหล้าแก้วนั้นไปจนหมด สายตานั้นก็ได้มี ความหิ่นกระหาย โผล่ออกมา

จากนั้น จากการเชิญชวนของจื่อจุน ทั้งสองคนก็ได้ดื่มไปไม่

ถึงแม้ว่ากวนเบาหวั่นคอไม่ค่อยแข็ง แต่ว่าตอนนี้อารมณ์ไม่ดี อีกอย่างที่กู้จื่อจุนสั่งนั้นเป็นเบียร์ ดีกรี ดื่มแก้วก็ไม่กลัว และแล้ว ดื่มไปไม่กี่แก้ว เธอก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ

ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คืนนี้เหล้าแรงมาก ปกติเธอสามารถที่จะ ดื่มหลายขวด คืนนี้กลับดื่มไปไม่กี่แก้ว หัวก็เริ่มเวียง ตรงหน้า เหมือนว่าโลกได้หมุน

ในใจของเธอได้คิด หรือว่าคำที่พูดว่าเหล้าไม่เมาคนนั้นเมา เอง เป็นความจริง?

เธออารมณ์ไม่ดี เพราะงั้นดื่มติดๆ กันไปก็เมาได้ง่าย

เพราะว่าสติเริ่มไม่ครบ ในใจของเธอก็ได้ระแวงขึ้น ก็ไม่อยาก ที่จะอยู่ต่อ

เอากระเป๋า ก็ได้ลุกอย่างเวียงๆ “นี่ก็ดึกแล้ว ฉันจะกลับบ้าน พูดจบ ก็ได้เดินออกไปข้างนอกแบบเซ

กู้จื่อจุนนั้นจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้ไง? ก็ได้รับไปประคองเธอยิ้มแล้วพูดว่า “เดี๋ยวสิ เธอจะเจรจากับฉันไม่ใช่เหรอ? พวกเรายัง ไม่ได้เริ่มคุยกันเลย”

กวนเยาหวั่นขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “วันนี้คนเยอะ เกินไป ไว้วันหลัง มีเวลาตอนไหนฉันบอกนายอีกที ไว้วันหลัง วันนี้ดีกว่าวันหลัง ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว คุยกันวัน

นี้เถอะ! เอาแบบนี้ ฉันส่งเธอกลับไป พวกเราค่อยๆ คุยกัน

ระหว่างทาง

กวนเบาหวั่นขมวดคิ้วแน่น อยากจะปฏิเสธ

จากนั้นก็ได้นมือเขาออก แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร ร่างกายนั้น ไม่มีแรงเหลืออยู่เลย ดันออกไม่ได้

คนอื่นก็ไม่ได้สังเกตเห็นเหตุการณ์ตรงนี้ เพราะงั้นเธอก็ได้ กกู้จื่อนพาตัวออกไป

พอถึงลานจอดรถ ลมเย็นๆ นั้นก็ได้พัดมาจากทางเดินของ ลาน กระทบกับหน้า สติของกวนเยาหวั่นก็ได้เริ่มกลับมาเล็กน้อย

พบว่าตัวเองกำลังถูกจือจุนยัดเข้าไปในรถ ก็ได้ระแวงขึ้น กด ประตูรถ พูดว่า “นายไม่ต้องส่งฉัน ฉันเรียกรถกลับไปเอง

แล้วเวลานี้ เห็นว่าสาวสวยได้อยู่ในแก้วแล้ว จื่อจุนจะยอม ให้เธอจากไป?

ก็ได้ขวางเธอ ยิ้มร้าย “กลับเองมันอันตรายมากนะ? ฉันไปส่ง เธอ กว่า”
กวนเยวหวั่นส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันกลับเอง

พูดจบ ก็ได้ผลักเขา

จากนั้นอยู่ๆ ชายหนุ่มก็ได้กอดเธอ พูดว่า “คืนนี้เธอจะไปไหน ไม่ได้ทั้งนั้น เธอมาเป็นของฉัน! เธอวางใจเถอะ ฉันอ่อนโยนกับ เธอแน่ๆ ทำให้เธอเหมือนกับขึ้นสวรรค์ มีความสุขจนถ้าเธอได้ ลิ้มลองไปครั้งหนึ่ง ก็ห่างจากฉันไปไม่ได้

ค่าพูดแบบนั้น ทําให้ในใจของกวนเยว่หวั่นอยากจะอ้วก เวลา นี้ท่าทางที่น่ารังเกียจของชายหนุ่มได้โผล่ออกมา ต่อให้เธอสติ ไม่ครบถ้วย แต่ก็รู้ว่าเขาจะทำอะไร

เพราะงั้นก็ได้พยายามที่จะผลักเขาอย่างสุดชีวิต ตะคอกว่า “ออกไป!”

จากนั้นก็พยายามที่จะหนี

แต่เวลานี้ฤทธิ์ยานั้นก็ได้ออกฤทธิ์แล้ว ยังจะหนีไปไหนได้อีก

กู้จื่อจุนก็ได้ยื่นมือไปจับตัวเธอมาอย่างง่ายดาย เพราะว่าแรง เยอะเกินไป หัวของเธอก็ได้ไปชนกับประตูรถ ส่งเสียง “ติ๊ง” เจ็บ จนกวนเยาหวั่นร้องออกมา ก็ได้กุมไปที่หัว

เวลาต่อมา กู้จื่อจุนก็ได้ตามเข้ามา บีบไปที่หน้าของเธอ ก็ได้ พูดอย่างน่ากลัวว่า “เธอเป็นเด็กน้อย อย่าทำให้ฉันต้อง ออกแรง ฤทธิ์ยานี้ก็พอแล้ว ตอนนี้เธอยังทำตัวเป็นหญิงสาวที่ใส สะอาด อีกเดี๋ยวเธอก็จะขอร้องให้ฉันช่วยเธอ

คำพูดของเขา ทำให้กวนเยวหวั่นตกใจมากๆ ความกลัวที่รุนแรงนั้นก็ได้แทรกเข้ามา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ