วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 296 ได้รับความไม่เป็นธรรม



บทที่ 296 ได้รับความไม่เป็นธรรม

คนรับใช้คนนั้นจ้องมองหลันซื้อหนึ่งที และจ้องมองวิ่งหนึ่งอีก

สังเกตถึงได้ชัดมากบรรยากาศของคนทั้งสองผิดปกติอย่าง มาก กลับไม่กล้าถามอะไรด้วย

พูดไปเสียงหนึ่งอย่างเคารพนับถือว่า “ได้ค่ะ” ก็จะเข้ามาพยุง ลู่หลินจือ

ลู่หลินจือโมโหจนเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ จ้องมองใบหน้าที่เป็น สดใสและราบเรียบของจิ่งหนึ่งในนั้น ในสมองคำพูดเมื่อกี้นั้น ของเธอเสียงดังก้องไม่หยุด “ฉันจึงเป็นคุณผู้หญิงในอนาคตของ ตระกูลลู่”

ก็เพียงแค่รู้สึกแทบจะพุ่งขึ้นไป ฉีกจนให้เลอะอย่างโหดร้ายใจ จะขาด

แต่ว่าสุดท้าย ในที่สุดเธอก็ยังคงสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที่ กด บังคับความโมโหและความไม่พอใจในใจลง

“ได้ แกแน่มาก กล้าพูดคำพูดเหล่านี้อยู่ต่อหน้าฉันออกมาดี มาก งั้นพวกเราก็คอยดูกัน! วิ่งหนึ่ง ฉันก็ตักเตือนแกสักคำด้วย ภรรยาสิ่งนี้สามารถสับเปลี่ยนเวลาไหนก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้

ฉันเห็นอาเซนเติบโตตั้งแต่เด็ก อยู่ในใจเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้ ชอบแกขนาดไหน ก็เพียงแค่ชั่ววูบเท่านั้น วันคืนที่เป็นสุขไม่ใช่มี อยู่เสมอไป แกรอดูเถอะ! ไม่ช้าก็เร็ว มีสักวันหนึ่งฉันจะไล่แกออกจากตระกูล ”

เธอพูดจบ

จึงจับมือของคนรับใช้ไว้เดินออกไปอย่างโมโห

ทันทีที่ลู่หลินจือออกไป ซึ่งหนึ่งเพียงรู้สึกว่าลมหายใจที่อยู่ต่อ

หน้าล้วนโล่งขึ้นมาในฉับพลัน

เธอเงยหน้าจ้องมองฟ้าจ้องแล้วจ้องอีก สูดลมหายใจลึกๆหนึ่ง ทีเพียงรู้สึกว่าความโมโหที่พลิกค้นในอกนั้น เหมือนดั่งวินาทีถัด ไปก็จะหลุดออกจากในคอ

ผ่านไปสักพัก อารมณ์จึงสงบลงเล็กน้อย

เธอหมุนตัว ย่างก้าวไปยังข้างนอก

ขึ้นรถแล้ว จึงเป็นมองออกถึงความผิดปกติของสีหน้าเธอ อด ไม่ได้ขมวดคิ้วขมวดแล้วขมวดอีก

เอานิตยสารที่อยู่ในมือตอนที่รอเธอเปิดอ่านตามอารมณ์วาง ไว้ข้างๆ ซุกเข้าไปถามว่า “เป็นยังไงแล้วล่ะ? เธอพูดกับคุณอะไร หรือ?”

“ไม่มีอะไร”

จิ้งหนึ่งไม่ใช่ไม่อยากพูดกับเขาสิ่งที่ลู่หลินจือพูดเหล่านั้น เพียงแค่รู้สึกว่าไม่จำเป็น

ไม่ว่าอะไรเธอเชื่อลู่วิ่งเซินอยู่แล้ว พูดหรือไม่พูด ไม่มีความ ต่างกันอะไร
เธอสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที่ สั่ง “ขับรถเถอะ! ซูมู่พยักหน้า สตาร์ทรถ ค่อยๆขับออกไปยังข้างนอก จึงเป็นจ้องมองเธออย่างเงียบ โดยตลอด

สายตาของเขาดีมากมาตลอด ความสามารถในการสังเกตยิ่ง แหลมคมและละเอียดอ่อน ไม่ได้มองไม่ออกอารมณ์ที่กดทับอยู่ ในใจของเธอ

สีหน้าที่หนาวข็งลับของผู้หญิง และแดงระเรื่อขึ้นอยู่นัยน์ตานั้น ล้วนบอกกับเขาอย่างโจ่งแจ้งอยู่ เธอได้รับความไม่เป็นธรรม แล้ว

ไม่ต้องคิด จะต้องเป็นหลักคือพูดอะไรที่ไม่น่าฟังอีกแล้ว อย่างแน่นอน

สีหน้าของจึงเป็นหนาวถึงลับลงมา เขาหยิบมือถือขึ้นมา เสียงเข้มพูดว่า “ตอนนี้ผมก็จะโทรถาม เธอ!”

วิ่งหนึ่งเห็นสภาพ หนังตากระตุกหนึ่งที รีบยื่นมือขวางไว้

“อย่าโทร”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว

จิ่งหนึ่งหยุดชะงักแล้วหยุดชะงักอีก ปรับอารมณ์ของตนเองให้ ดีๆ นี่จึงพูดว่า “เดิมทีเธอก็ไม่ชอบฉันอยู่แล้ว รู้สึกว่าเรื่องในครั้ง นี้คือฉันฉวยโอกาสต่อต้านเธอ อยากจะไล่เธอออกจากตระกูล
เดิมทีนี่ก็เป็นความเข้าใจผิดอยู่แล้ว ถ้าหากว่าตอนนี้คุณ โทร ไปอีก ไม่ว่าพูดอะไร เธอล้วนจะรู้สึกว่าฉันฟ้องคุณอีกด้วย ทั้ง รู้สึกว่าฉันพุ่งเป้าไปยังเธออีก เป็นเช่นนี้แล้ว เพียงแค่จะยิ่งเพิ่ม ความเข้าใจผิดให้ลึกเท่านั้น แต่แก้ไขปัญหาตามความจริงอะไร ไม่ได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องโทร

สูจิ่งเซินพูดเสียงเย็นชาว่า “แต่ว่าคุณได้รับความไม่เป็นธรรม แล้ว”

จึงหนังฝืนใจยิ้มแล้วยิ้มอีก

“ไม่ถือว่าได้รับความไม่เป็นธรรมอะไร คนที่แคร์พูดอย่างนี้จึง ถือว่าได้รับความไม่เป็นธรรมล่ะ คนที่ไม่แคร์จะถือว่าได้อะไรอีก

เธอพูดอยู่ มองไปยังนอกหน้าต่าง สายตาตกอยู่บนถนนที่ไม่มี

คนเงียบสงัดในยามคืน ก

ลู่วิ่งเซินเห็นจนเจ็บปวดใจจับมือของเธอไว้ หมุนเธอกลับมา โอบกอดเข้าในอ้อมอกของตนเอง

“หนิงหนิง ขอโทษ เรื่องล้วนเป็นเพราะผมทำให้คุณได้รับ ความไม่เป็นธรรมอย่างนี้

จิ้งหนิงยิ้มหนึ่งที

“ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ?”

“คุณไม่อยากให้ผมรู้สึกลำบากใจที่ถูกหนีบอยู่ระหว่างคุณกับ คุณป้า ดังนั้นจึงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอ ผมล้วน แต่ว่าหนึ่งหนึ่ง คุณคือภรรยาของผม หากว่าคุณได้รับความไม่เป็นธรรม แล้ว ผมก็ไม่สบายใจด้วย นิสัยคุณป้าหยาบคายไร้เหตุผล แต่ ก่อนอาจไม่เป็นไร แต่ถ้าหากว่าพุ่งเป้าไปยังคุณ ผมก็จะไม่นั่งนิ่ง ดูดายไม่สนใจอย่างเด็ดขาด

ลู่หลินจือเป็นผู้ใหญ่ของพวกเขาไม่ผิด แต่นี่ไม่แสดงว่า จึงหนี งก็จะต้องน้อยเนื้อต่ำใจปรารถนาให้เรื่องราวสำเร็จ

จึงหนิงกอดเอวของเขาไว้ รู้สึกถึงความเจ็บปวดใจในน้ำเสียง ของผู้ชาย ถอนหายใจหนึ่งที่

“ฉันไม่เป็นไรจริงๆ คุณวางใจเถอะ ฉันก็แค่เพียงไม่อยากมี ปัญหาปลีกย่อยแทรกซ้อนขึ้นมาอย่างคาดคิดไม่ถึงอีกเท่านั้น พูดได้อีกว่า เพียงแค่ถกเถียงอยู่บนปากไม่กี่คำ ก็ไม่มีคนกล้า รังแกถึงบนหัวฉันอย่างแท้จริง ภรรยาของคุณก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ อีก ไม่ใช่ใครล้วนสามารถจับกุมอย่างตามใจได้

จุดนี้ ลู่วิ่งเซินกลับเห็นด้วยอย่างมาก เขาปล่อยเธอออก จูบหน้าผากของเธอ จูบแล้วจูบอีก “หนึ่งหนึ่ง คุณดีมากจริงๆ

ทั้งสองคนกลับถึงวิลล่าเฟิงเฉียว

วันรุ่งขึ้น ลู่หลันจืออยู่ภายใต้การวางแผนของนายหญิงออก จากเมืองหลวง

ลู่จิ้งเซินให้ซูมู่ไปสืบเรื่องของตลาดการพนันหิน พบเห็นเบื้อง หลังพัวพันกับตระกูลมีไม่น้อยจริงๆ
เผิงเสี่ยวหลินคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นหมากที่ตระกูลกู้โยน ออกมา ก็เพราะว่าตั้งใจที่จะดึงดูดลู่หลินจือให้ติดเบ็ด

จะพูดถึงบุญคุณความแค้นของตระกูลกับตระกูลลู่ แท้ที่จริง แล้วอดีตไม่เคยมี

เพียงแค่หลายปีที่ผ่านมา การพัฒนาของตระกูลยิ่ง แข็งแกร่งขึ้น ในสุภาษิตกล่าวว่า เมื่อสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ตระกูลอยากจะนั่งตำแหน่งแรกในประเทศให้มั่นคง ย่อมต้อง กด ตระกูลลู่อย่างสุดชีวิตอยู่แล้ว

จากนั้นตระกูลก็จะเป็นฝ่ายอ่อนแอได้ยังไงอีกล่ะ?

ผ่านไปไม่กี่วัน ก็มีตำรวจใช้ข้อกล่าวหาต้มตุ๋นและอื่นๆ อายัด ตลาดการพนันหินทั้งหมดของเผิงเสี้ยวหลินแล้ว

เรื่องนี้ถึงที่นี่จึงนับว่าจบลงเป็นการชั่วคราว แต่อีกฝั่งหนึ่ง หัวเหยากำลังจะคลอด แม้ว่าจิ่งหนึ่งรับปากจะไม่ไป แต่ก็ยังเป็นห่วงมาก

ที่จริงแล้วยกผู้ชายที่ไม่รู้ว่าเป็นแบบไหนคนนั้นที่อยู่นั่นออกไป ก่อน ข้างกายหัวเหยาถือว่าแม้แต่ญาติเพื่อนฝูงสักคนก็ไม่มี

โชคดีที่สภาพดีกว่าที่เธอจินตนาการ ขั้นตอนการคลอดบุตร ของหัวเหยาถือว่าราบรื่นมาก ลูกคลอดออกมา 3 กิโล 400 กรัม เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

หัวเหยาตั้งชื่อให้เขาว่าเล่อเล่อ หวังว่าเขาจะอยู่เย็นเป็นสุขอิ่มอกอิ่มใจทั้งชีวิต

ซึ่งหนึ่งเป็นแม่บุญธรรมคนนี้ ย่อมดีใจมากด้วยอยู่แล้ว ตอน

วันนั้นก็บังคับหัวเหยาให้วิดีโอคอลลูกกับตนเองสักพัก จ้องมองก้อนแป้งน้อยที่นิ่มๆชมพูๆคนนั้นอยู่บนหน้าจอ เพียง แค่รู้สึกว่าใจใกล้จะละลายแล้ว

หัวเหยายิ้มพูดว่า “ในเมื่อแกชอบเด็กขนาดนี้ งั้นทำไมตนเอง ไม่มีสักคนกับคุณชายลู่ล่ะ?”

จิ่งหนึ่งอึ้งซะงัก คิดแล้วคิดอีก พูดว่า “เรื่องนี้ไม่รีบร้อน

ที่จริงแล้ว สาเหตุที่เธอไม่ยอมรับปากมีลูกกับลู่จึงเป็นมา โดย ตลอด อันดับแรกเนื่องเพราะว่าตอนนี้เธอถ่ายหนังอยู่โดยตลอด กลัวหน่วงถ่วงงาน

ที่สอง ก็พิจารณาถึงอานอ่านด้วย

อานอานกับเด็กทั่วไปไม่เหมือนกัน ตั้งแต่เด็กเธอก็ไม่มีมารดา อยู่ข้างกาย ทุกครั้งเจอกับวิ่งหนึ่ง ก็จะตามติดเธออยู่ตลอด

เธอสามารถรู้สึกถึงความกระหายที่จะได้รับความรักจากแม่ ของอ่านอ่านและความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยขนาดใหญ่ในใจ

ด้วยเหตุนี้ เธอไม่มั่นใจ ถ้าหากว่าอยู่ในเวลานี้ตนเองตั้งครรภ์ แล้ว จะสร้างผลกระทบอะไรต่ออานอานหรือไม่

นึกถึงตรงนี้ จึงหนิงก็อดไม่ได้ถอนหายใจอีกหนึ่งที่ ก็ไม่รู้ว่าตอนเวลานั้นจึงเป็นทำไมใช้วิธีแบบนั้นเก็บเด็กคนนี้ไว้ หรือว่ามีความจริงที่ปกปิดอยู่หรือ?

แต่ว่าเรื่องนี้เธอก็แค่คิดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ย่อมเป็นไปไม่

ได้ที่จะไปถามเขาจริงๆอยู่แล้ว เธอจ้องมองไปยังหัวเหยา ถามว่า “แกคิดว่าจะกลับมาเมื่อ

ไหร่ล่ะ?”

หัวเหยาแอบคลอดลูก เรื่องนี้ คนนอกวงการล้วนไม่รู้ เธอไม่คิดว่าจะโยนทิ้งฐานะที่เป็นนักแสดงของตนเองทิ้ง ด้วย เหตุนี้ ช้าเร็วก็ต้องกลับมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ