วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 552 พระมากโจ๊กน้อย



บทที่ 552 พระมากโจ๊กน้อย

คิดถึงเรื่องอาการป่วยของคุณแม่ แล้วก็คิดถึงเรื่องที่คุณหมอหวา งพูดคราวก่อน ในใจก็รู้สึกปวด

เธอก็เลยทําได้แค่ทําเสียงอ่อนลงแล้วขอร้อง “เฟิง เรื่อง ระหว่างพวกเราเป็นเรื่องระหว่างพวกเรา ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ของ ฉัน ถือว่าฉันขอร้องล่ะ นายอย่าท่านท่าลำบากใจ ให้ท่านกลับ มาได้ไหม?”

“ท่านสุขภาพไม่ดี จะต้องไปลำบากไม่ได้จริงๆ นายอยากได้ อะไรนายก็พูดมาตรงๆ ขอแค่ไม่เหมารวมแม่ของฉัน ฉันสามารถ รับปากทั้งหมด”

น้ำเสียงที่อ่อนลงแล้วก็ขอร้องของหญิงสาวจากปลายสาย

ทำให้นัยน์ตาของเฟิงได้อ่อนลง สีหน้าก็ได้หดหูลงไปเล็กน้อย

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนี้ต่อให้เขาได้รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ถังลั่วเหยาก็ไม่จําเป็นต้องปิดบังเขาแล้ว ทำไมถึงยังได้ปิดบัง ความคิดความรู้สึกที่แท้ของตัวเอง ปฏิเสธที่จะให้เขาเข้าใกล้

เมื่อก่อนเขาสามารถที่จะพูดได้ว่าถังลั่วเหยานั้นไม่อยากที่จะ

ให้เขารู้เรื่องอดีตที่เลวร้ายของเธอ เพราะงั้นถึงได้ปฏิเสธเขา แต่ ตอนนี้เขาได้รู้เรื่องทั้งหมดแล้วนะ เธอรู้อยู่แล้วแท้ๆ ว่าแค่ตกลงที่จะคบกับเขา ความลําบาก

ทั้งหมดก็จะสามารถที่จะแก้ไขได้ งั้นเธอทำไมถึงไม่ตกลง?
เธอตอนนี้กําลังพยายามอะไรกัน?

เพิ่งรู้ว่าถ้าให้ถังลั่วเหยาเป็นคนพูดมาเองนั้นยาก อีกอย่าง พวกความคิดพวกนั้นไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็สืบมาไม่ได้ เพราะงั้น เขาถึงได้บีบบังคับเธอแบบนี้

ก็แค่หวังให้เธอนั้นถอยจนไม่มีที่จะให้ถอย แล้วก็มาพูดเรื่อง ความคิดที่เธอซ่อนไว้กับเขาเอง

เขาไม่มีทางที่จะเชื่อว่าเธอนั้นไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยกับตน และก็ไม่มีทางเชื่อว่าเธอนั้นชอบขนาดนั้นจริงๆ

ผู้ชายแบบนั้น………

เหอะ!

คิดถึงตรงนี้ เขาก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชา

“ก็ได้ อยากจะให้ผมส่งคุณน้ากลับไป งั้นเธอรับปากผมเรื่อง หนึ่ง เป็นการแลกเปลี่ยนเป็นไง?”

ถังลั่วเหยารีบพยักหน้า “ได้ คุณว่ามา” ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะคิดอะไรทั้งนั้น คิดแต่อยากให้คุณแม่ กลับมาอยู่ข้างกายเธอ ไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น

อีกด้าน เห็นได้ชัดว่าเฟิงก็รับรู้ถึงความคิดของเธอ ก็ได้พูด ไปเรียบๆ ว่า “ไปจากฉู่ยี่ มาเป็นผู้หญิงของผม สิ่งที่เขาได้เธอได้ ผมก็สามารถให้เธอได้

ได้ยินแบบนั้น อีกฝ่ายก็ได้นิ่งไปเลยทันที
ร่างกายของถังลั่วเหยาได้แข็งไป มือนั้นก็ได้มันไว้แน่น เล็บ แทบที่จะเข้าไปในเนื้อ

เป็นอยู่นาน เธอถึงได้พูดออกมาว่า “เฟิงยี่ ทำเพื่ออะไรกัน บน โลกนี้มีผู้หญิงตั้งมากมาย คนที่ชอบคุณก็เยอะขนาดนั้น คุณ ทําไมถึงได้ไม่ปล่อยฉันไปสักที?

ฉันก็แค่อยากจะมีชีวิตที่ปกติราบๆ ลื่นๆ คุณปล่อยฉันไปได้ ไหม?”

เพิ่งยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ถ้าผมบอกว่าไม่ได้ล่ะ เธอจะ

เลือกตกลงหรือไม่ตกลง?”

อีกฝ่ายเงียบไปตั้งนาน สักพัก ถึงได้ยินเสียงที่อ่อนลงของเธอ “เหอะ ฉันยังมีตัวเลือกอื่นไหม?”

เฟิงได้ยินที่เธอพูดแบบนั้น ก็รู้ว่าเธอได้ตกลงแล้ว เดิมทีควรจะดีใจ แต่ไม่รู้ทำไม ได้ยินเสียงที่เธอได้ดูถูกตัวเธอ เองแบบนี้ เขากลับดีใจไม่ออกมา

ในน้ำเสียงที่ได้มีความเกลียดแล้วก็การยื่นแบบนั้นของอีก ฝ่ายเป็นอะไรที่เขามองข้ามไม่ได้

แต่สุดท้าย เขาก็ยังได้สูดหายใจเข้าลึกๆ พูดว่า “ได้ เธอมาที่ โรงพยาบาลซึ่งปี่เฉียว มาถึงแล้วเดี๋ยวมีคนไปรับเธอมา

พูดจบ ก็ได้วางสายไปเลย

วางสายไปเสร็จ เขาก็ได้ยืนอยู่เงียบๆ มองไปยังภาพที่เจริญรุ่งเรือนนอกหน้าต่าง ในใจได้คิด เหยาเหยา เธอได้บอกให้ผม ปล่อยเธอไปตลอด ไม่ใช่ผมไม่ยอม แต่ว่าถ้าผมปล่อยเธอไป แล้วใครจะมาปล่อยผมไปล่ะ?

ความไม่พอใจแล้วเจ็บปวดที่ได้บีบเขาทุกวันคืน ยังมีความรัก ที่ได้ฝังใจแบบนั้น แล้วใครจะมาช่วยเขาละ

ผ่านไปยี่สิบนาที

ในที่สุดถังลั่วเหยาก็ได้มีถึงโรงพยาบาลซึ่งเฉียวสักที

แม่ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องระหว่างถังลั่วเหยากับเฟิง เพราะงั้น ตอนที่เห็นเธอได้พุ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนนั้น ก็ยังตกใจเล็กน้อย

“เหยาเหยา ลูกมายังไง?

ถังลั่วเหยามองเห็นแม่ที่ได้นอนพิงหัวเตียง ก็ได้รีบเดินเข้าไป อย่างแรกก็ได้รีบไปตรวจเช็กร่างกายของเธอ มั่นใจว่าแม้แต่ผม เส้นหนึ่งก็ไม่หายไปนั้น ถึงได้วางใจ

ตอนที่วางใจนั้น ก็ได้โมโหอย่าห้ามไม่อยู่

“แม่ค่ะ ทําไมไม่บอกอะไรหนูเลย แล้วก็หนีออกมากับคนอื่น แบบนี้? แม่รู้ไหมว่าไม่กี่วันมานี้หนูตามหาแม่จนแทบบ้า?”

แม่ถังที่ได้ยินแบบนั้น ก็ได้อึ้งไป

“ก็…..ลูกถ่ายละครอยู่ไม่ใช่เหรอ? แม่คิดว่าลูกงานยุ่ง

“หนูงานยุ่งแม่ก็สามารถที่จะหนีไปกับคนอื่นแล้วเหรอคะ?การเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำยังไง? แม่สนิทกับคนอื่นเขาเหรอถึงได้ มากับเขา?”

เห็นเธอร้อนใจแบบนี้ ท่าทางของแม่ถึงก็ได้อ่อนลง ก็ได้พูด อย่างน้อยใจว่า “แม่……..แม่สนิทกับเขาพอควรนะ”

ถังลั่วเหยา ……………..

แม่ถึงกลัวว่าเธอจะโมโหมากเกินไป ก็ได้รับยิ้มแล้วก็อธิบาย ว่า “แม่ก็กลัวว่าลูกจะเป็นห่วง ไม่อยากที่จะรบกวนการงานของ ลูก อีกอย่าง เสี่ยวยี่ก็ไม่ใช่คนนอก พวกเรานั้นคิดไว้ว่าถ้าย้าย มาแล้ว จัดการอะไรเรียบร้อยแล้ว รอให้ลูกกุ้งเสร็จค่อยบอกกับ ลูก ยังไงซะไม่มีอะไร ลูก ลูกก็อย่าโมโหได้แล้ว”

พูดไป ก็ยังลากมือของเธอ

ถังลั่วเหยาโมโหจนปวดหัว ก็พอเจอกับการออดอ้อนของแม่ ก็ทําอะไรไม่ได้

สุดท้าย เธอก็ทำได้แค่พูดออกไปอย่างจริงจังว่า “นี่เป็นแค่ ครั้งเดียว และก็เป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ต่อไปไม่ว่าเรื่องอะไร เรื่อง ใหญ่เรื่องเล็กก็ต้องถามหนูก่อนทั้งหมดถึงจะตัดสินใจ โดย เฉพาะห้ามหนีไปเองแบบนี้ เข้าใจไหมคะ?”

แม่ถึงก็ได้รีบพยักหน้า หัวก็ได้พยักหน้าราวกับลูกไก่ที่กำลัง จ๊กข้าวสาร

ถังลั่วเหยาถึงได้ปล่อยเธอไป ถามเรื่องหมอที่เป็นคนรับผิด ชอบอาการของเธอตอนนี้ชัดเจน เดินออกไป
โรงพยาบาล ง เฉียวเป็นโรงพยาบาลเอกชน อย่าว่าในเมือง หลวง ต่อให้เป็นทั้งประเทศจีน ก็อยู่อันดับหนึ่งอันดับสอง เป็น โรงพยาบาลอันดับต้นๆ เลยล่ะ

ในเน็ตที่คำที่ฮิตคำหนึ่ง ก็ได้พูดว่าโรงพยาบาลซึ่งเฉียว เป็น อุปสรรคสุดท้ายของเทวทูต

ขอแค่เป็นคนที่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย ก็อยากมาที่นี้ทั้งนั้น

ถ้าขนาดหมอของที่นี่ยังท่าอะไรไม่ได้ งั้นก็เป็นการประกาศว่า จะต้องตายแล้วแน่ๆ และไม่ต้องไปมีความคิดจะไปเสียเวลาที่อื่น เสียเงินอย่างเปล่าประโยชน์ กลับไปบ้านรอเวลาเลยดีกว่า

เพราะงั้น ทุกคนนั้นหวังพึ่งที่นี่เอามากๆ แต่ว่าที่แบบนี้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ดีแบบนี้ ไม่ใช่ว่า คนธรรมดาจะเข้าถึงได้

ยังไงซะ บนโลกมีคนตั้งมากมาย โรงพยาบาลแบบนี้กลับมีที่

เดียว

คำที่ว่าพระมากโจ๊กน้อย ไม่มีทางที่จะดูแลได้ทุกคน

อีกอย่างหมอของที่นี่ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกอัจฉริยะที่ชอบที่จะ เรียนทางการแพทย์ อัจฉริยะส่วนมากรักสันโดษหรือว่านิสัยการ คบหาไม่ค่อยง่าย ก็ไม่ใช่คนไข้ทุกคนจะยอมให้รักษา เพราะงั้น อยากจะมารักษาที่นี่ นอกจากต้องมีเงินจำนวนมากแล้ว มนุษยสัมพันธ์เป็นเกณฑ์ด้วย

ก่อนหน้าถังลั่วเหยาไม่ใช่ไม่เคยคิดที่จะพาแม่มาที่นี่ แต่ข้อหนึ่ง ไม่มีหัวใจ ที่จริงไปที่ไหนก็เหมือนกัน

ต่อให้หมอที่นี่จะเก่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถที่จะสร้างหัวใจมา เองได้ ยิ่งไม่สามารถที่จะทำให้หัวใจที่ได้ป่วยมาสิบกว่าปีกลับ ไปแข็งแรงเป็นปกติได้

เพราะงั้น ถังลั่วเหยาก็ได้ล้มเลิกตัวเลือกนี้ไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ