วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 934 ร่วมมือกันทำภารกิจสำคัญ



บทที่ 934 ร่วมมือกันทำภารกิจสำคัญ

“ที่เรียกมันว่าแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็น หยกจริงๆ แต่เป็นเพราะมันใสดุจคริสตัลและส่องสว่างเหมือน หยกมากกว่า แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสสารสองชนิดที่รวมกับหยก บางคนเดาว่า สสารที่ไม่รู้จักและลึกลับนี้ ท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่ ผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า ข่าวลือไม่จำเป็น ต้องเป็นเท็จเสมอไป

และวันนี้ คุณก็ยินดีที่จะนำสมบัติชิ้นนี้ออกมาแสดง ให้ทุก คนได้ศึกษาค้นคว้า เพราะว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ยากที่จะทำด้วย กำลังของตัวเอง เพราะแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั้งสิบสองชิ้นนั้น กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกซอกทุกมุมโลก ซึ่งหากต้องการหาทั้งสิบ สองชิ้นนี้ด้วยตัวคนเดียว เกรงว่าแม้จะใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลือนั้น ก็ยังยากที่จะหาพบ

ทุกท่านที่เข้าร่วมงานในวันนี้ ล้วนเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และ มีหน้ามีตาในวงการ คุณหวังจะเชิญทุกท่านร่วมค้นหาแผ่นหยก คัมภีร์สวรรค์ และหากใครพบเห็น หรือให้เบาะแสที่เป็น ประโยชน์ หรือแม้กระทั่งสามารถรวบรวมแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ ได้ ในอนาคตก็จะได้เสพสุข ในความสำเร็จด้วยกัน และได้ร่วม มือกันทำภารกิจสำคัญ!

เมื่อเสียงของพิธีกรดังขึ้น ทุกคนในสถานที่จัดงานยังคงตะลึง งัน และไม่ได้ตอบสนองเป็นเวลานาน
อะไรนะ?

ค้นหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ด้วยกัน? เสพสุข ในความสําเร็จ ด้วยกัน?

ร่วมมือกันทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่? เอาจริงเหรอเนี่ย?

มีคนในงานจํานวนไม่น้อยที่รู้จักกู้ซือเฉียน และรู้ว่าสิ่งที่ออก จากปากของบุคคลนี้ โดยพื้นฐานแล้วไม่ใช่เรื่องโกหกแน่นอน

ดังนั้น ทุกคนจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น

ในเวลานี้ พิธีกรได้เชิญกู้ซือเฉียนขึ้นพูดบนเวที

กู้ซื้อเนียนก้าวขายาวของเขา ขึ้นไปข้างบน

อันที่จริงตัวเขาเองก็ไม่ยังไม่รู้จะพูดอะไร หนานกงจีนมอบ หมายงานให้เขา เพียงอยากจะเห็นถึงศักยภาพความสามารถ ของเขาเท่านั้น

ตอนนี้กลุ่มชาวจีนไม่อยู่แล้ว และนอกจากตระกูลหนาน กลุ่มที่ มีอิทธิพลที่สุดก็คือกลุ่มมังกร ถ้าเขาไม่มาพบกู้ซื้อเฉียน เขาก็

ไม่รู้จะไปพบใครอีกแล้ว

เขามองไปยังผู้ชมที่เนืองแน่นด้านล่าง และพูดด้วยน้ำเสียงที่ เคร่งขรึมว่า “สิ่งที่พิธีกรพูดเมื่อครู่ คือสิ่งที่ฉันต้องการจะพูด เพื่อน ๆ ทุกคนที่อยากเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของสมบัตินี้ สามารถให้เบาะแสอันมีค่าแก่ฉัน หรือเพียงแค่เอาแผ่นหยก คัมภีร์สวรรค์ที่ตัวเองมีออกมา ทุกคนวางใจได้ ฉันรับรองด้วย เกียรติของฉันเองเลย ตราบใดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในเรื่องนี้ ฉันไม่วันลืมรวมและวันเขาเห็นเองว่างานเลี้ยงนี้แท้จริงคือ อะไร”

คนถามขึ้นทันทีว่า แค่เท่านั้นเหรอขอแบ่ง“ใช่แล้ว ท้ายที่สุดแล้วมันก็คือสมบัติ ก็ควรจะแบ่งผล

กู้ซื้อเฉียนมองที่คนเหล่าอย่างราบเรียบ มุมขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชา

เขาเสียงดังว่า “หลังจากแผ่นหยกคัมภีร์หนึ่งเดียวแล้ว รูปร่างที่แท้จริงของมัน เราไม่ว่าเป็นยังไง เช่นดังนั้นตอนฉันเลยรับรองไม่ได้เลยถึงนั้นคนให้เบาะแส อิทธิฤทธิ์ของมัน ฉันรับรองว่า ถึงเวลาทุกจะได้ เป็นประจักษ์พยานของความสำเร็จ

ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าคุณของออกมา แต่ความจริงแล้ว แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ยังถูกนั้น ของเล่น ธรรมดา ซึ่งไม่มีเลย แต่จะทำให้ตัวมันคุณค่าไปเปล่าๆ เนื่องจากหากขาดไปเพียงแค่เดียว เป็นไป มาความจะถูกฝังกลบ และไม่ใครความลับได้ตลอดกาล

ทุกคนล้วนแยกแยะผิดได้ และยังเป็นผู้หวงแหนทรัพย์สมบัติ ฉันเชื่อว่าทุกคนคงไม่ยอมให้ความลับนี้แพร่กระจายไป ทั่วโลก เพราะไม่อย่างนั้นสมบัตินี้จะค่อย ๆ จางหายไป ดังนั้นฉัน จึงได้มาพบทุกคน และหวังอย่างยิ่งว่าทุกคนจะสามารถผนึกรวม ปัญญาและพลัง ร่วมด้วยช่วยกันค้นหาสิ่งนี้ และมาร่วมเป็นสักขี พยาน ในสิ่งมหัศจรรย์นี้ด้วยกัน ว่ายังไงล่ะ? ”

เสียงพูดคุยลดลง เกิดความเงียบที่ด้านล่างนั้น ไม่มีใครพูดอะไรจนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน

เมื่อมองไปที่บรรดาผู้คนที่เงียบงัน กู้ซื้อเฉียนก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอีกว่า “ถ้าทุกคนไม่พอใจ ฉันขอให้คำมั่นสัญญาอีก ครั้ง ว่าใครก็ตามที่มีส่วนช่วยในเรื่องนี้ สามารถขออะไรก็ได้ หนึ่งอย่างกับฉัน ตราบใดที่ไม่เป็นการละเมิดหลักการ ฉันก็จะ ยอมทุกอย่าง โดยสัญญานี้จะมีผลจนกว่าจะพบสมบัติทั้งหมด และยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาแจ้งเบาะแส

ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ บรรยากาศข้างล่างเวทีก็คึกคักขึ้น มา

หลายคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน ทำให้สถานการณ์ในงานเต็ม ไปด้วยเสียงดังอลหม่าน

หลังจากที่กู้ซือเฉียนพูดจบ เขาก็ไม่อยู่บนเวทีต่อแล้ว

เขาก้าวลงจากเวที และเดินไปนั่งข้างๆ เฉียวในแถวแรก ทั้ง สองมองหน้ากัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ พวก เขาก็รู้กันอยู่แก่ใจแล้ว
ในที่สุด พิธีกรก็ประกาศว่าทุกคนสามารถเข้ามาสังเกตชั้น ส่วนของแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ได้อย่างใกล้ชิด แต่เพื่อความ ปลอดภัย จึงขอความกรุณาเข้าดูทีละคน โดยห้ามสัมผัส และ ห้ามเปิดตู้กระจก ทำได้เพียงมองผ่านได้อย่างเดียวเท่านั้น

ในเวลานี้ ทุกคนต่างกระตือรือร้นที่จะลองดู แม้แต่หลินซงเองหลังจากฟังคำพูดของกู้ซื้อเฉียนจบ ก็ยังแอบ สงสัยอยู่เหมือนกัน

เขาไม่รู้ข้อตกลงระหว่างกู้ซื้อเฉียนและหนานกงจั่นและเมื่อ เห็นซือเฉียนเชื่อจริงๆ ว่าของสิ่งนี้จะทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้

เขาอดไม่ได้ที่จะสะกิดแขนเขาเบาๆ แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “เอ๊ะ สิ่งนี้มันวิเศษจริงๆ เหรอ? รู้สึกเหมือนในเทพนิยายเลย ที่ เมื่อเก็บดราก้อนบอลครบเจ็ดลูกจะสามารถอัญเชิญเทพเจ้าได้?”

กู้ซือเฉียนเหลือบมองเขาด้วยสายตาเมินเฉย

เขาพูดด้วยเสียงต่ำทุ้ม “ถ้านายไม่รู้เรื่องก็อย่าพูดจาไร้สาระ”

หลินซงพูดตัดพ้อ ด้วยเสียงต่ำ “ฉันจะบอกนายว่า เราทุกคน ล้วนเป็นคนหนุ่มสาวยุคใหม่ และความเชื่องมงายล้าสมัยเป็นสิ่ง ที่รับไม่ได้”

เฉียวทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงขัดจังหวะเขา “สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เรา อยากจะตามหา แต่คนจากตระกูลหนานขอให้เราค้นหามัน” หลินซงตกตะลึง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมา
ตระกูลหนาน?

สิ่งที่หนานมู่หรงพูดครั้งก่อน เขาก็อยู่ในที่เกิดเหตุ และ แน่นอนว่าเขารู้ดีว่า ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหนาน มันจะ ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างแน่นอน

คิ้วของเขาขมวดเป็นปม มองไปที่กู้ซื้อเฉียนกับเฉียว และ ถามว่า “หมายความว่าอะไร? พวกนายเคยไปเจอคนจากตระกูล หนานมาแล้วเหรอ? พวกเขาว่ายังไงบ้าง?

กู้ซื้อเนียนไม่มีทางเลี่ยง เพราะรู้ว่าถ้าไม่ได้อธิบายให้เขาฟัง อย่างชัดเจน เขาจะต้องซักไซ้ต่อไปแน่

จึงตัดสินใจเล่าเรื่องวันนั้น ให้เขาฟังว่าพวกเขาทั้งสองคนไป พบหนานกงยวแห่งตระกูลหนาน และในตอนสุดท้ายพวกเขาก็ ถูกหนานกงยวพาไปรู้ความลับที่อยู่เบื้องหลัง จากนั้นก็ได้พบกับ หนานกงจีน และทั้งสามคนก็ได้หารือกับเขาเกี่ยวกับการทำ ธุรกรรมร่วมกัน

หลังจากฟังจบ หลินซงก็นั่งตะลึงอยู่ตรงนั้น ไม่ตอบสนองอะไร อยู่พักใหญ่

เขากลืนกินน้ำลาย และมองซ้ายมองขวา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มี ใครได้ยินพวกเขาทั้งสามคน จากนั้นก็ลดเสียงลงแล้วพูดว่า “นายหมายถึง ความจริงแล้วตระกูลหนานไม่ได้ถูกดูแลโดยหนา นกงย แต่โดยอีกคนหนึ่งที่ชื่อหนานกงจีนอย่างนั้นเหรอ?”

กู้ซือเฉียนพยักหน้า
“ทําไมล่ะ? คนคนนั้นคือใคร? หนานกงบวไม่ใช่หัวหน้า ครอบครัวของพวกเขาเหรอ? ทำไมอยู่ดีๆ ก็มีอีกคนโผล่มา?”

เฉียว ถึงกับปวดหัว

“เราก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน เรารู้แต่ว่าชายคนนั้นดูจะอยู่ คนละระดับกับหนานกงยวเลย เพราะหนานกงบวู่ให้เกียรติเขา มาก จะว่าไป ดูแล้วหนานกงยวคงอายุห้าสิบถึงหกสิบปีได้ แต่ ชายคนนั้นดูแล้วอายุไม่น่าจะเกินสามสิบปีโดยประมาณ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ