วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 355 บีบเคล้น ให้เธอขอโทษ



บทที่ 355 บีบเคล้น ให้เธอขอโทษ

“ในเมื่อคุณเชื่อเธอขนาดนี้ เชื่อว่าเธอไม่ทำเรื่องทำร้ายคนอื่น เช่นนั้นไม่ใช่ว่ายิ่งต้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทาง กฎหมายหรอกหรอ เพื่อสืบหาความจริง และมอบความบริสุทธิ์ ให้กับเธอ?”

คุณท่านกวนนิ่งเงียบชั่วขณะ

ด้านข้างมีแขกจำนวนหนึ่ง บนใบหน้าเผยสีหน้าสนุกสนานขึ้น

อืม ดูเหมือนว่าตระกูลกับตระกูลกวนจะเกิดสงครามต่อกัน แล้ว

และไม่รู้ว่าทำเพราะเด็กคนหนึ่ง หรือว่าเพราะอย่างอื่น

ทันใดนั้นจู่ๆคุณท่านสีหน้าก็เปลี่ยนสีทันที

เขายกมือกุมหน้าอก หายใจอย่างหอบหืด และมีสีหน้าแดงก่ำ เหมือนกับหายใจไม่ออกอย่างนั้น

เมื่อทุกคนเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็สีหน้าเปลี่ยนทันที พร้อมกระโจนเข้ามา

“คุณท่าน!”

“พ่อ!”

“คุณตา!”
“เร็ว เรียกหมอเร็ว!!

โชคดีที่หมอประจําตระกูลกวนเตรียมพร้อมตลอดเวลา หลัง

จากช่วยตรวจอาบอานเสร็จ เขาไม่ได้กลับไปทันที แต่นั่งรอคำสั่ง

อยู่ข้างนอกตลอดเวลา ดังนั้นจึงรีบกระโจนวิ่งเข้ามา เปิดกระเป๋ายา แล้วรีบทำการ

รักษาทันที

สวียรีบร้อนใจมากจนดวงตาแดงก่ำ แต่ไม่ได้ร้องไห้ออกมา

เธอหันหน้าจ้องมองสิ่งหนึ่ง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องอย่าง โศกเศร้า : “คุณนายลู่ ฉันรู้ว่าคุณกับเสี่ยวหย่าไม่ถูกกัน เมื่อก่อน เธอเคยทำเรื่องไม่ดีต่อคุณมาก วันนี้คุณจับผิดเธอได้แล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยหลุดมือ

แต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณท่านตระกูลของเรา วันมงคลแบบนี้หวังว่าคุณจะเห็นแก่สุขภาพที่ไม่แข็งแรงของคุณ ท่านยกโทษให้กับเธอสักครั้ง

ถ้าหากคุณไม่พอใจให้เสียวหย่าขอโทษ ฉันขอขอโทษแทน เธอตรงนี้กับคุณ ได้โปรดให้อภัยเถอะนะคะ ถ้าหากวันนี้คุณ ต้องการเอาเรื่องถึงที่สุด คงเป็นการเอาชีวิตของคุณท่านพวกเรา ด้วย!”

ด้านข้าง กวน หลี่เองก็พูดขึ้นเหมือนกันว่า : “เสี่ยวหย่าเป็น ดนตระกูลกวนของเรา เธอทำผิด ผมในฐานะลุงก็ถือว่ามีความ รับผิดชอบเหมือนกัน
ดังนั้นถ้าหากพวกคุณต้องการเอาเรื่อง งั้นก็เอาเรื่องผมแทน เถอะ! เธอไม่มีเจตนาฆ่าใคร แต่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก ไม่มี ความกล้า ทั้งกลัวคนกล่าวหา และกลัวคนเข้าใจผิด

ถ้าหากวันนี้ยานอานเกิดอันตรายขึ้นจริงๆ พวกคุณต้องการ ให้เธอชดใช้ด้วยชีวิต ผมก็ไม่คัดค้านเลยแม้แต่คำเดียว แต่ใน ตอนนี้อ่านอ่านไม่เป็นอะไรแล้ว หวังว่าพวกคุณจะใจกว้างยก โทษให้กับเธอสักครั้ง และไว้ชีวิตคุณท่านของพวกเราด้วย

เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็ต่างพากันนิ่งเงียบ

เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเขาต้องการมัดจิ้งหนังเผาไฟ หากเธอยัง คำนึงถึงมิตรภาพของสองตระกูลอยู่ จำเป็นต้องปล่อยวิ่งเสียว หย่า

จึงหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะเกิดถึงขั้นนี้

เธอจ้องมองกวน หลี่อย่างเมินเฉย และพูดขึ้นว่า : “ลุงใหญ่ กับน้าสองพูดถึงขนาดนี้แล้ว หากฉันยังคิดเอาเรื่องคงใจร้าย ใจตามากแน่?”

คุณหญิงหนขมวดคิ้วขึ้น และเหลือบมองคนตระกูลกวนด้วย สายตารังเกียจแวบหนึ่ง

แต่สุดท้ายเห็นแก่คุณท่าน จึงไม่พูดอะไรมาก คุณท่านได้กระโจนเข้าไปดูอาการของเพื่อนผองตั้งนานแล้ว

โชคดีที่หมอคุ้นเคยกับอาการป่วยของคุณท่านกวน ไม่นานก็ สามารถช่วยไว้ทัน หลังจากทานยา อาการก็ค่อยๆดีขึ้นมาก
“ตากวน นายเป็นยังไงบ้าง? ไหวไหม?

คุณท่านกวนพยักหน้าเล็กน้อย และมีสีหน้าดีขึ้นมาก

เขาเงยหน้ามองจิ้งหนังด้วยสายตาไร้อารมณ์

“เธอคิดแบบนี้ก็ดีแล้ว เธอวางใจเถอะ เรื่องของวันนี้ฉัน ยอมรับ วันข้างหน้าฉันจะตอบแทนเธอ และจะมอบความ ยุติธรรมแก่อานอาน”

จิ่งหมิงยิ้มแย้ม

“ขอเพียงคุณท่านกวนรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็ดีพอแล้วค่ะ อันที่จริงฉันต้องการความยุติธรรม แต่ก็ไม่ถึงกับต้องเอาชีวิต ใคร”

คุณท่านกวนนิ่งอึ้งชั่วขณะ

ใครต่างก็รู้ว่าเธอหมายความว่าเขากำลังเอาชีวิตของตัวเอง

มาบีบบังคับเธอ

แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะเป็นความจริง

จิ่งหนิงพูดขึ้นว่า : “ส่วนเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องยอมรับผิดแทน เธอหรอก ฉันคนนี้เป็นคนชอบทำอะไรคนเดียวอยู่แล้ว ในเมื่อ เรื่องเกิดถึงขั้นนี้แล้ว ถือว่าเห็นแก่คุณ ฉันจะไม่ให้กฎหมายมา เกี่ยวข้อง แต่ต้องขอโทษเหมือนกับคนขอโทษ

คืนนี้ถึงแม้คุณหนูรองไม่มีเจตนาใช้ของเล่นผีเสื้อล่อให้อ่าน อานก ๆ แต่เธอเป็นคนทําให้ตกน้ำ และตอนเกิดเรื่องเธอก็หนีจากไป โดยไม่สนใจความเป็นความตายของอ่านยาน

หลังจากเกิดเรื่อง โยนความผิดให้กับสาวใช้ จนทำให้งาน เลี้ยงในคืนนี้วุ่นวายไปหมด ไม่เพียงเธอต้องขอโทษต่อฉันและยานอาน แต่ยังต้องขอโทษ

ต่อสาวใช้เสี่ยวหยู่ รวมถึงแขกทุกคนในคืนนี้ที่เธอทำให้พวกเขา

ตกใจ จริงไหม?”

“จ๋งหนิง นี่เธอ!”

จิ่งเสี่ยวหย่าอดใจไม่ไหวคิดอยากด่าทอขึ้น แต่ก็ต้องอดกลั้นความโกรธเคืองไว้ คุณท่านกวนก็มีสีหน้ามืดครึ้มเหมือนกัน แม้แต่กวน หลีมีสีหน้าแย่มาก

พวกเขาไม่ใช่คนโง่ที่จะมองไม่เห็นเจตนาของจิ่งหนึ่ง งานเลี้ยง ในวันนี้จึงเสี่ยวหย่าก่อเรื่องน่าอายแบบนี้ ถือว่า

ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแล้ว

หลังจากงานเลี้ยงคืนนี้จบ รับรองว่าพรุ่งนี้ไม่ถึงตอนบ่าย เรื่อง ทั้งหมด ในคืนนี้คงแพร่งพรายไปทั่วเมืองหลวงแน่

ถึงตอนนั้นชื่อเสียงของจึงเสี่ยวหย่าคงเสื่อมเสียแน่

แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ แต่หากมีคุณท่านกวนคอยสนับสนุน ต่อ ให้เธอมีชื่อเสียงเสื่อมเสียก็ยังคงเป็นคุณหนูตระกูลกวนที่สูงส่งที่

ใครต่างต้องเคารพ
ทุกคนรู้ว่าคุณท่านกวนลำเอียง ต่อให้รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ ไม่กล้าพูดอะไร

แต่ถ้าหากคืนนี้ เธอต้องลดตัวลงมาก้มโค้งขอโทษต่อแขก และสาวใช้ สถานการณ์ที่จะไม่เหมือนเดิม

เมื่อจินตนาการ คุณหนูผู้สูงส่งต้องลดตัวมาก้มโค้งขอโทษต่อ แขกและสาวใช้ที่มีฐานะด้อยกว่าเธอ ถ้าหากเรื่องแบบนี้ แพร่งพรายออกไป ตระกูลกวนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วจึง เสี่ยวหย่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ถึงตอนนั้นเธอคงกลายเป็น เรื่องตลกไปชั่วชีวิตแน่! ต่อให้ฐานะสูงส่งขนาดไหน แต่ก็เคยก้ม หัวให้กับคนต่ำต้อยกว่า คงถูกผู้คนหัวเราะเยาะชั่วชีวิตแน่เลย!

นี่เป็นคนระดับสูงส่งไม่สามารถยอมให้ทำได้

“หนิงหนึ่ง ทำแบบนี้ไม่คิดว่าเกินไปหรอ…. กวน หมิงพูดขึ้น

จิ่งหนึ่งยิ้มและพูดว่า : “ลุงสองค่ะ ตอนเราเป็นเด็ก คุณครูมัก

ให้พวกเรารู้จักถูกผิด ยอมรับผิดแล้วแก้ไข ในตอนนั้นพวกเรายัง จดจำขึ้นใจ อีกอย่างคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

แล้วตอนนี้เมื่อเติบใหญ่ เปลี่ยนฐานะ สภาพแวดล้อมเปลี่ยน ทำไมคำสอนที่พวกเราคิดว่าถูกต้องถึงกลายเป็นเรื่องที่เกินไป หรอค่ะ?

อีกอย่างฉันก็ทำเพื่อพวกคุณ ตระกูลกวนเป็นถึงตระกูลใหญ่ ในเมืองหลวง อีกอย่างเราทุกคนเป็นหน้าตาของตระกูลด้วย
วันนี้จิ่งหนึ่งยอมละทิ้งเด็กในยามอันตรายเพียงเพราะกลัว ครั้งหน้าไม่ยิ่งทำพลาดรุนแรงกว่าเดิมหรือ ถ้าหากทำผิดเรื่องที่ ไม่อาจชดใช้ได้ ไม่ยิ่งรู้สึกเสียใจภายหลังหรือ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ