วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 735 มาถึงหมู่บ้าน



บทที่ 735 มาถึงหมู่บ้าน

จิ่งหนึ่งพยักหน้า

ดังนั้นทั้งสองคนจึงเดินตรงไปที่รถพร้อมกัน

โม่หนานที่ได้รับสัญญาณจากเธอ ก็รู้ดีว่าประเดี๋ยวเธอจะหา โอกาสจัดการกับพี่ชายคนโตนั้น และอีกสักครู่เธอจะกลับมาช่วย ตน จัดการกับผู้ชายคนนี้

คิดไม่ถึงว่ารอไปรอมา ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว

แต่กลับมากันสองคนดังเดิม!

เธอชะงักลงไปครู่หนึ่งมองด้วยท่าทางประหลาดใจ วินาทีนั้น เธอคิดว่าตัวเองเข้าใจอะไรผิดไป

แต่ดูจากสถานการณ์นี้ เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเช่นกัน

จะลงมือต่อหรือไม่? หรือจะรอไปก่อน

เมื่อสักครู่มีอะไรผิดพลาดอย่างนั้นเหรอ?

โม่หนานนั่งตกตะลึงอยู่ตรงที่เดิม

จึงหนิงก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เธอขยิบตาให้กับโม่หนาน ซึ่งไม่ หนานก็เข้าใจดีจึงหุบปากไม่พูดอะไรออกมา

จิ่งหนิงปีนขึ้นไปบนรถ เมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมากันแล้วน้อง ชายก็เข้าไปทักทายอย่างกระตือรือร้น
และกู้ซื้อเฉียนก็สามารถใช้ภาษาท้องถิ่นตอบกลับเขาได้อย่าง คล่องแคล่ว ก่อนหน้านี้ที่วิ่งหนึ่งไม่รู้ว่าเขาคือกู้ซื้อเฉียน เธอก็ไม่ ได้รู้สึกอะไร

แต่ในตอนนี้ไม่ว่าจะฟังอย่างไรเธอก็รู้สึกแปลก

เธอรู้สึกอึดอัดมาก

โม่หนานมองไปทางเธอด้วยท่าทางอันลำบากใจ ในใจเธอ ตอนนี้ร้อนรนราวกับไฟแล้ว

เนื่องจากว่าทั้งสองคนจะหาโอกาสดีๆเช่นนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย และตอนนี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมสำหรับพวกเธอที่จะหลบหนี

หากไม่รีบหนีไปตอนนี้รอให้เข้าไปในหมู่บ้านก็คงจะอยู่ในรัง ของพวกมันจริงๆ ถึงตอนนั้นจะทำอย่างไร?

ดังนั้นหลังจากที่ประตูรถถูกปิดลง โม่หนานก็อดทนไม่ไหวอีก

ต่อไปเธอดึงวิ่งหนึ่งเข้ามาแล้วกระซิบถามว่า “หนึ่งหนึ่ง เกิดอะไร

ขึ้นกันแน่? ทำไมไม่จัดการเขา?”

จิ่งหนิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

แต่เรื่องที่ความจริงแล้วกู้ซื้อเฉียนคือพี่ชายคนโตมันช่างซับ ซ้อนมาก เธอไม่รู้จะอธิบายความจริงนี้ไปอย่างไร ไม่อย่างนั้น ผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้านี้ก็อาจจะรู้ตัวได้

แม้เธอจะรู้ว่า พวกเธอสามคนสามารถจัดการชายคนนี้ได้ทุกวินาที
แต่การที่กู้ซือเจียนปลอมตัวเป็นพวกเขาและเข้าไปหลอมรวม อยู่ด้วยกันคาดว่าเขามีแผนการอื่นอยู่ เธอจึงไม่อยากเปิดโปงตัว ตนของเขา

ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก ทำได้เพียงส่ายหน้าและเขียน ตัวหนังสือลงไปบนฝ่ามือว่า

“รอก่อน มีการเปลี่ยนแปลง

ไม่หนานผงะไปครู่หนึ่ง เธอไม่ค่อยเข้าใจความหมายสักเท่า ไหร่นัก

จิ่งหนึ่งก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้มากเกินไป เธอจึงพยายาม พยักหน้าเป็นความหมายว่าตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้ว ไม่ต้อง กังวล

โม่หนานขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น

แม้ว่าเธอจะยังไม่เข้าใจเท่าไรนัก แต่ในเมื่อวิ่งหนึ่งให้ สัญญาณออกมาแบบนี้ ก็แสดงว่าได้ผ่านพ้นจากอันตรายแล้ว เธอทําได้เพียงเชื่อหล่อน

คิดไปคิดมา โม่หนานก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อ

รถคันนั้นขับไปเรื่อยๆอย่างสั่นคลอน ผ่านไปประมาณครึ่ง ชั่วโมงกว่าในที่สุดก็ตรงเข้าไปถึงในหมู่บ้าน

เมื่อเข้าไปถึงจึงหนิงก็รู้สึกได้ว่า ถนนใต้ล้อรถนั้นราบเรียบกว่าเดิมมา
ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงครึ่ง ในตอนเช้า บนถนนมีผู้คนเริ่มเปิด ขายอาหารแผงลอยแล้ว

ทุกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องของผู้คนอย่างเร่งรีบ สื่อให้เห็น ความมีชีวิตชีวาและรุ่งเรือง

เธอเดินทางมาที่นี่ตั้งนานแล้ว แต่จึงหนิงเพิ่งจะเคยได้ยินเสียง อันเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเช่นนี้เป็นครั้งแรก หัวใจที่ถูกแช่แข็งไว้ เป็นเวลานาน ในที่สุดก็ถูกเปิดออกมาเต้นอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้เธออยู่ในภูเขารกร้าง แม้ทิวทัศน์จะสวยสดงดงาม แต่เมื่อเวลานานไปก็ทำให้สัมผัสไม่ได้ถึงสังคมนิยมต่างๆ ทำให้ เธอกดดันไม่น้อยเลยทีเดียว

ตอนนี้เธอได้ออกมาจากที่แห่งนั้นแล้ว และมีความรู้สึกเหมือน ได้เกิดใหม่อีกครั้ง

จึงหนิงมองไปที่ข้างนอก แต่หน้าต่างของรถถูกปิดไว้ มีเพียงรู

ตามช่องว่างเล็กๆ เท่านั้น เธอมองไม่เห็นอะไรข้างนอกนัก

ที่ข้างหน้ามีเสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมาว่า

“เช้าแล้ว พวกเรากลับบ้านกินข้าวกันเถอะ จัดให้พวกเธอทั้ง สองคนอยู่ในห้องด้านขวานั้นแล้วกัน ตอนกลางคืนพี่ชอบใครก็ เอาไป พวกเราแบ่งกันคนละคน

ประโยคนี้พวกเขาใช้ภาษากลางในการสื่อสารทำให้สิ่งหนึ่ง และไม่หนานฟังเข้าใจ

ทั้งสองคนตกตะลึงพูดไม่ออก
และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ กู้ซื้อเฉียนกลับตอบรับว่า

“อืม ฉันจะเอาคนที่พูดน้อย

เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ยินก็ยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “จริงเหรอ? งั้นผม เอาคนที่พูดมาก!!

จิ่งหนิง “

ไม่หนาน .….….….

เธอจินตนาการได้ว่าขณะที่กู้ซื้อเฉียนกำลังพูดประโยคนั้นออก มาใบหน้าของเขาคงจะปรากฏรอยยิ้มอันน่ารังเกียจ ช่างน่าขยะ แขยงจริงๆ!

น่าโมโหที่สุด! แต่เธอก็จำเป็นต้องแสร้งยิ้ม

โม่หนานที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรด้วยเธอได้ยินดังนั้นก็เป็นกังวล แต่เมื่อหันไปมองดูวิ่งหนึ่งทำท่าทางสงบนิ่งได้เพียงนั้นเธอก็รู้สึก ว่า เรื่องราวต่างๆอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

ชุมชนนี้แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่จำนวนประชากรไม่น้อย และมี การกระจายตัวอย่างหนาแน่น

ระหว่างทาง จึงหนิงได้ยินเสียงของคนที่เป็นน้องทักทายกับ ผู้คนที่ผ่านไปมาราวกับว่าคุ้นเคยกันมาก

รถขับไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็หยุดลง

ข้างหน้ามีคนกระโดดลงจากรถและประตูด้านหลังก็ถูกเปิดออก
ต่อจากนั้นก็มองเห็นรอยยิ้มอันแจ่มใสของชายคนหนึ่ง “ถึงแล้วลงมาเถอะ”

จิ่งหนึ่งและไม่หนานสบตากันและลงจากรถไปอย่างว่าง่าย

เนื่องจากขาของโม่หนานไม่ค่อยสะดวกนัก จึงจำเป็นต้องใช้ ไม้ค้ำ ในการเดิน วิ่งหนึ่งจึงพยุงเธอไปตลอดทาง

คนที่เป็นน้องชายอยากจะเข้ามาช่วยเธอพยุงอยู่หลายครั้ง แต่ กลับถูกโม่หนานและวิ่งหนิงหลีกเลี่ยง

ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยสัมผัสกับผู้หญิงมาก่อน ดัง

นั้นก็ทําท่าทางเงอะงะ

ตอนที่ถูกพวกเธอหลบหลีกนั้น เขาไม่ได้รู้สึกถึงความตั้งใจ ของพวกเธอเลย คิดเพียงว่าตนเองไม่มีประสบการณ์และเดินยิ้ม มาตลอดทาง มองไปแล้วช่างงี่เง่าแต่ก็น่ารัก

มันช่างแตกต่างจากผู้ค้ามนุษย์อันโหดเหี้ยมที่จิ่งหนิงและไม่

หนานจินตนาการเอาไว้ หลังลงจากรถก็พบว่าตรงข้ามนี้มีบ้านในชนบทธรรมดาหลัง หนึ่ง

บ้านนั้นมีทั้งหมดสองชั้น แต่ละชั้นมีสามห้องไม่ใหญ่และไม่ เล็กจนเกินไป ยังดีที่ดูแลจนสะอาดสะอ้าน ดังนั้นจึงไม่เลวเลยที เดียว

ทั้งสี่คนเดินเข้าไปด้านในบ้าน และจัดการให้โม่หนานกับกิ่งหนึ่งอยู่ห้องเดียวกัน รอจนกระทั่งพวกเธอเข้าไปแล้ว ชายคนนั้น จึงถูกกู้ซือเฉียนเรียกไป

ตอนนี้ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่ไม่หนานและวิ่งหนึ่งสอง

คนที่ถูกทิ้งเอาไว้ ไม่หนานทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอทนมาตลอดระยะทางแล้ว ใน

ที่สุดเมื่อมีพวกเธออยู่เพียงลำพังสองคนก็รีบเอ่ยถามขึ้นว่า

“หนิงหนิง เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมไม่ทำตามแผนเดิมที่วาง เอาไว้? ตอนนี้พวกเราเข้ามาในรังของมันแล้วจะทำยังไงกันดี?”

วิ่งหนึ่งมองไปยังเธอที่ทำท่าทางตื่นตระหนกและยิ้มขึ้น

เธอส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป ในครั้งนี้เราเจอกับคน รู้จักเขาแล้วล่ะ”

“คนรู้จัก ที่ไหนกัน?”

โม่หนานยังไม่รู้จักคนที่ชื่อว่ากู้ซื้อเนียน

เมื่อวิ่งหนึ่งเห็นดังนั้นก็บอกความจริงทุกอย่างแก่เธอไป

โม่หนานได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างอ้าปากค้าง เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าเรื่องราวจะกลายมาเป็นแบบนี้ได้

จิ่งหนิงจึงได้ถอนหายใจพูดว่า “ยังไงตอนนี้พวกเราก็ ปลอดภัยแล้ว เดี๋ยวฉันจะพูดกับเขาและติดต่อไปที่ลู่วิ่งเซิน คุณ ดูแลตัวเองให้ดี เมื่อเราติดต่อกับลู่วิ่งเงินได้แล้วพวกเราก็น่าจะ ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์”
ไม่หนานจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง กู้ซื้อเฉียนและผู้ชายคนนั้นก็กลับมา

พวกเขาไม่ได้กลับมามือเปล่า แต่กลับถืออาหารเช้าทุ่งใหญ่ กลับมาด้วย

ข้างในล้วนเป็นขนมที่มีขายตามท้องถนนในหมู่บ้าน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ