วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 912 คนดีผีคุ้ม



บทที่ 912 คนดีผีคุ้ม

ด้านในปราสาท ลู่วิ่งเซินและวิ่งหนิงเตรียมตัวอย่างดี เพื่อรอ ซือเฉียนกลับมา

พอเขากลับมาถึง ขณะที่เดินเข้าไปในห้องรับแขก ลู่วิ่งเซินก็ พูดขึ้นว่า “เรื่องหนานมู่หรงทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?

กู้ซื้อเฉียนโยนของลงไปบนโต๊ะ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียง เคร่งขรึมว่า “อย่างที่คิดไว้ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาสัก เท่าไร มันถูกสั่งการมาจากสำนักงานใหญ่

ลู่วิ่งเซินยิ้มออกมาเล็กน้อย “สายที่ฉันส่งไปก็มีข่าวมาบอก เหมือนกัน ตอนนี้ทั้งสามคนนั่นถูกเราคุมตัวไว้แล้ว พวกเขา ยอมรับว่าพวกเขาทําตามคำสั่งที่ให้มาลักพาตัวเฉียว ส่วนเรื่อง คนที่ออกคำสั่งนั้น เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งในตระกูลหนาน ชื่อว่า หนานกงซว”

คิ้วของกู้ซื้อเนียนขมวดแน่น

“หนานกงซวู่?”

“ใช่”

ลู่วิ่งเซินหยิบเอาข้อมูลที่เขาเพิ่งได้รับออกมาวางเรียงไว้บน โต๊ะ หลังจากนั้นพูดต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “มีการแบ่ง พรรคแบ่งพวก ในตระกูลหนานขึ้นมาอย่างซับซ้อน ซึ่งนั่นมันห่าง ไกลจากคำว่าสงบสุขอย่างที่พวกเขาแสดงออกมามาก
“จากการตรวจสอบ ตระกูลของพวกเขาทั้งหมดรับคำสั่งมา จาก หนานกงยว แต่เนื่องจาก หนานกงยว อาศัยอยู่ในยุโรปมา นานหลายปีแล้ว แถมช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยจัดการเรื่อง ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องต่าง ๆ ในตระกูลจึงถูกจัดการ โดยผู้อาวุโสที่มีอำนาจรองลงมา

“ตระกูลหนานมีผู้อาวุโสหลักอยู่สี่คน ทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้อง หรือไม่ก็เป็นลูกหลานผู้อาวุโสในตระกูลรุ่นก่อน ๆ ปัจจุบันผู้ อาวุโสทั้งสี่คนนี้ก็คือหนานกงเทียน อีกคนก็คือ หนานกงเสว่ แล้วก็ หนานกงหวู่ ส่วนคนสุดท้ายที่เป็นคนวางแผนลักพาตัวนี้ก็ คือหนานกงซวู”

“เท่าที่ฉันรู้มา ถึงแม้ผู้อาวุโสทั้งสี่คนนี้จะมีความสัมพันธ์ทาง สายเลือดกันอย่างลึกซึ้ง แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนิทสนมกันอย่างพี่ น้องแท้ ๆ ปกติ หนานกงเทียนกับ หนานกงหวู่จะมีความสัมพันธ์ ที่ดีต่อกันอยู่แล้ว แต่ หนานกงเสวกับ หนานกงซวกลับแบ่งกันอยู่ คนละฝ่าย”

“แต่เพราะพวกเขาให้การสนับสนุน หนานกงยว ซึ่งเป็นผู้ อาวุโสเพียงหนึ่งเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฉะนั้น โดยปกติ จึงไม่มีความขัดแย้งอะไรที่หนักหนาเกิดขึ้น

“ความขัดแย้งที่หนักที่สุดเกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งตอนครึ่งเดือน ที่ผ่านมา หรือก็คือไม่กี่วัน ก่อนที่เฉียวจะหายตัวไป สาเหตุของ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร แต่ถ้าดูตามท่าที ของพวกเขาหลังจากนั้น ก็จะเห็นได้ว่าความขัดแย้งของพวกเขา ในครั้งนี้ เนื้อหามันน่าจะเกี่ยวข้องกับแผนการในส่วนหลังนี้
“แต่ตอนนี้ เนื่องจากเราพบว่าการหายตัวไปของเฉียวนั้นมี ส่วนเกี่ยวข้องกับ หนานกงยว เราก็เลยพอสรุปได้จากสิ่งเหล่านี้ ว่า หนานกงยว และ หนานกงเสว่ น่าจะให้การสนับสนุนการ เคลื่อนไหวพวกนี้อยู่”

“ส่วนเหตุผลในการลักพาตัวเฉียวไป ก็น่าจะเป็นอย่างที่ ส ฉางเปยบอก ก็คือในยามที่ต้องต่อกรกับกลุ่มมังกร ก็แค่อยากมี อะไรไว้ข่มขู่นายเท่านั้น แต่มันก็อาจจะมีเหตุผลอื่นที่เราไม่รู้ด้วย

กู้ซื้อเฉียนเมื่อได้ยินเขาวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ ออกมาแบบนี้ สีหน้าก็ยิ่งเคร่งขรึมกว่าเดิม

เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “พวกเขาแค่อยากยิงปืนนัด เดียวได้นกสองตัว

“อาจจะใช่”

ลู่วิ่งเซินพยักหน้ารับเบา ๆ “ตั้งใจจะใช้ประโยชน์จากตอนที่ กลุ่มชาวจีนลงมือกับเฉียว ส่งคนไปดักรอไว้ก่อน เพื่อเป็นการ สุมไฟเข้าไปสู่ กลุ่มชาวจีนและเมื่อถึงตอนที่เราและ กลุ่มชาวจีน กันจนได้รับความเสียหายทั้งสองฝ่าย ถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะเข้า มาแทรก แล้วก็จะกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายไป รอให้ทำลาย กลุ่มชาวจีนจนหมด พร้อมกับยึดครองอาณาเขตของ กลุ่มชาว จีนไปจนเกลี้ยง หลังจากนั้นมันก็ค่อยหันมาจัดการกับเราต่อ

“และถึงตอนนั้น พวกเราก็คงได้รับบาดเจ็บจนสาหัส อีกอย่าง เฉียวฉีก็ตกอยู่ในกำมือของพวกเขาด้วย ทำให้นายเองไม่ต่าง จากถูกตัดแขนตัดขา ซึ่งมันก็คงจะเป็นเรื่องง่ายถ้าพวกเขาจะกลืนกินกลุ่มมังกรทั้งหมด”

สีหน้าของซื้อเฉียนเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม

ในใจของจิ่งหนิงเริ่มรู้สึกหวาดผวาเล็กน้อย

เธอไม่เคยคิดเลยว่าแค่การหายตัวไป มันจะมีแผนการที่ยิ่ง ใหญ่ขนาดนี้ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

เธอจึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า “แล้วตอนนี้เราควรจะทำ ยังไงดี?”

ลู่วิ่งเซินและกู้ซือเฉียนมองมาทางเธอพร้อมกัน

ลู่วิ่งเซินยิ้มพร้อมกับตอบว่า “ในเมื่อรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว ก็ ต้องทําลายแผนของพวกเขาลงอย่างแน่นอน จากนั้นก็เริ่ม จัดการให้สิ้นซาก”

ดังนั้น ในวันต่อมา กู้ซื้อเฉียนก็พาคนของเขาออกเดินทาง

เรื่องในครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้ลู่วิ่งเซินและวิ่งหนึ่งยื่นมือเข้า มาช่วยอีกแล้ว เพราะถึงยังไง อำนาจของตระกูลหนานที่ฝังราก ลึกก็ถือเป็นเรื่องจริง แต่ครั้งนี้ การที่พวกเขาแอบเคลื่อนไหวกัน ในเงามืด เพื่อเป็นการหลอกใช้กลอุบายก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน

แต่ถ้าขึ้นชื่อว่ากลอุบาย มันก็จะถูกพบเห็นไม่ได้ และในเมื่อ เห็นไม่ได้ เขาก็เลยไม่กล้าที่ส่งคนออกไปต่อกรกับพวกนั้นมาก เกินไป
ดังนั้น กู้ชื่อเฉียนจึงพาแค่คนกลุ่มหนึ่งเดินทางออกไปเพื่อช่วย หญิงสาวของเขา แค่นั้นก็ถือว่ามากพอแล้ว

อีกอย่าง คนทั้งสามนั่นก็ถูกพวกเขาคุมตัวเอาไว้เรียบร้อย สถานที่ที่ใช้กักขังเฉียว รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่น พวก เขาก็รู้หมดแล้ว

ตอนนี้ทางนั้นคงยังไม่รู้ข่าวว่า พรรคพวกของเขาได้คุมตัวทั้ง

สามคนนั้นเอาไว้

ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดไม่ใช่ว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องสู้กันให้ตาย ไปข้าง แต่เป็นการใช้ประโยชน์จากการที่พวกนั้นยังไม่รู้ตัว แอบ ย่องเข้าไปโดยที่พวกนั้นยังไม่รู้ตัว พวกมันพากันลักเอาคนไปยัง ไง พวกเขาก็จะลักกลับออกมาอย่างนั้น

ด้วยวิธีการนี้ก็จะไม่มีการหักหน้ากันเกิดขึ้น แถมยังสามารถ หลีกเลี่ยงภาวะวิกฤตไปได้ด้วย เพราะถ้าหากเกิดการปะทะครั้ง ใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งล่ะก็ สุดท้ายแล้วก็คงไม่มีใครได้รับผล ประโยชน์ใด ๆ เลย

โชคดี ที่การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ดูเหมือนจะราบรื่น

กู้ซื้อเฉียนพาคนของเขามาถึงที่หมายได้อย่างเรียบง่าย โดย ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมาก จากนั้นจึงช่วยเฉียวออกมา

ในตอนที่ช่วยเธอออกมานั้น เฉียวยังสลบอยู่

เนื่องจากเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมตัว พวกนั้นก็เลยต้องคอย ฉีดยานอนหลับให้เธอ ดังนั้น เฉียวในช่วงที่ผ่านมา จึงได้แต่นอนสลบอยู่ในนี้ตลอด

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน เมื่อได้เห็นหญิงสาวอันเป็นที่รักของ ตัวเองอีกครั้ง กู้ชื่อเฉียนทั้งรู้สึกตื่นเต้นและปวดใจ

พอเข้าไปในรถ เขาก็รีบสำรวจร่างกายเธอทุกซอกทุกมุมทันที

ก่อนจะพบว่านอกจากอาการสลบไสลแบบนี้แล้ว ก็ไม่มี บาดแผลอะไรบนร่างกายอีก เขาถึงได้โล่งใจขึ้นมาหน่อย

แต่เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เฉียวที่ถูกขังเอาไว้กว่าครึ่ง เดือน เธอก็เลยผอมบางลงไปมาก

ใบหน้าอันบอบบาง นซีดเซียวไร้ร่องรอยของสีเลือด ดวงตา ปิดสนิท เธอนอนจมอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่ต่างจากกระดาษ บางเบาสีขาวแผ่นหนึ่ง ราวกับว่าแค่มือสัมผัสก็อาจจะแตกสลาย ได้

กู้ซื้อเฉียนรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขาถูกบีบรัด

หญิงสาวถูกนำตัวกลับปราสาททันทีในคืนนั้น และเมื่อเธอ กลับถึงบ้าน เขาก็รีบเรียกหมอให้เข้ามาตรวจร่างกายเธอทันที

คุณหมอเข้ามาตรวจร่างกายของเธออย่างละเอียด ซึ่งก็พบว่า ร่างกายของเธอนั้นไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เธออาจจะมีอาการ สับสนเล็กน้อย ตอนนี้สาเหตุที่ทำให้เธอนอนสลบอยู่ ก็เป็น เพราะว่ามีการใช้ยานอนหลับเกินขนาด

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอสับสนก็คงเป็นเพราะเหตุผลนี้ด้วยเช่นกัน
พอกู้ซือเฉียนได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะลู่วิ่งเซินและวิ่งหนึ่งยังคอยดูอยู่ข้าง ๆ บางที เขาอาจจะรีบออกไปคิดบัญชีกับคนพวกนั้นเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย ก็ได้

โชคดีที่หลังจากคุณหมอวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว ก็บอกว่าไม่มี ปัญหาอะไรมาก แค่ต้องพักผ่อนสักช่วงหนึ่ง แล้วก็ทานยาเพื่อ ปรับสมดุลร่างกาย หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

ทุกคนถึงจะวางใจได้

ขณะเดียวกัน นี่ก็ดึกมากแล้ว

จิ่งหนึ่งมองดูหญิงสาวที่ไร้เดียงสาและบอบบางนอนอยู่บน เตียง ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นหญิงสาวอัน เป็นที่รักของกู้ซือเฉียน

เธออดยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูดว่า “โชคดีที่เธอถูกช่วยออก มาได้ ว่ากันว่าคนดีผีคุ้ม ในเมื่อเธอถูกช่วยออกมาได้ เธอก็จะไม่ เป็นอะไรอีกแล้วล่ะ กู้ซื้อเนียน นายไม่ต้องเป็นกังวลมากเกินไป

กู้ซื้อเฉียนมองไปที่เธอ พร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ