วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 360 เธอเป็นตัวจริง



บทที่ 360 เธอเป็นตัวจริง

เมื่อคุณท่านได้ยินแบบนี้ก็ไมโททันที

“เธอพูดอะไร? พูดอีกครั้ง!

กวนเสบู่เฟยนิ่งเงียบ และรู้สึกโกรธเคืองเหมือนกัน “หนูพูดว่า หนูไม่ยินยอม!”

“นี่เธอ!”

เขากําหน้าอกไว้ และใบหน้ามีสีแดง เมื่อกวนเวเฟยเห็น แบบนี้ก็ถึงกับตกใจออก และรีบหยิบยาให้กับเขาอย่างรวดเร็ว

“คุณตาค่ะ คุณเป็นยังไงบ้าง? นี่ค่ะ กินยาค่ะ!”

คุณท่านกวนผลักเธอออก และพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า : “ถ้าเธอไม่ยอมเชื่อฟังแบบนี้ แล้วจะมาสนใจความเป็นความ ตายของฉันทำไม? หากฉันตายคงทำให้เธอสบายใจมั้ง? เพราะ ต่อไปคงไม่มีใครมายุ่งกับเธออีก?”

กวนเสเฟียรู้สึกไม่ยินยอม แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเขาแบบนี้ก็ ไม่กล้าโต้เถียง

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า : “คุณตาค่ะ หนูไม่ได้ชอบชวน และไม่อยากแต่งงานกับเขาด้วย หนูแค่ต้องการพูดความในใจ ของหนูเท่านั้น หรือว่าในใจของคุณ ความสุขของลูกหลาน สำคัญกว่าอำนาจและผลประโยชน์หรอ?”
คุณท่านกวนจ้องมองเธอด้วยสายตาขุ่นเคือง โดยไม่พูดอะไร เมื่อกวนเสบู่เฟยเห็นแบบนี้ก็รู้ว่าเขาไม่ฟังคำพูดของตัวเอง เลยยิ่งเผยสีหน้าโศกเศร้า

โชคดีที่คุณท่านแค่โมโหเดือดดาล เลยหายใจไม่ทันเท่านั้น แต่ผ่านไปสักพักก็อาการดีขึ้น

กวนเสวีเฟยลุกขึ้นยืน และปาดเช็ดน้ำตา แล้วจ้องมองเขาด้วย

สีหน้าเมินเฉย

“คุณตา อันที่จริงคุณก็รู้ว่าจิ้งเสี่ยวหย่าไม่ใช่ลูกที่หายไปของ แม่ในตอนนั้น?”

คุณท่านกวนนิ่งอึ้งชั่วขณะ

และเปลี่ยนสีหน้าทันที

เขาจ้องมองกวนเสวีเฟย และพูดขึ้นว่า “เธอไม่รู้หรอว่าตัว

เองกำลังพูดอะไรอยู่?

กวนเวเฟยหัวเราะประชดเล็กน้อย

“คุณไม่ต้องแกล้งทำเป็นโง่หรอก เรื่องนี้ไม่เพียงแค่คุณที่รู้ ทุก คนในบ้านต่างรู้กันหมด แต่คุณก็ยังแสดงไหลตามน้ำกับทุกคน และยอมให้เธอเข้ามาในบ้านตระกูลกวน เพราะคุณคิดว่าวิ่ง เสี่ยวหย่ามีความโลภมากที่สามารถจัดการคนเหล่านั้นได้

เธอเหมือนกับคุณที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ โดยไม่ คำนึงถึงสิ่งใด ถ้าหากเธอกลายเป็นหลานสาวของคุณก็เท่ากับเธอถูกมัดอยู่บนเรือลำเดียวกับตระกูลกวน ถึงตอนนั้นต่อให้เธอ ทำเพื่อตัวเอง แต่สุดท้ายตระกูลกวนก็ได้รับผลประโยชน์อยู่ดี

อีกอย่างเธอกับ งหนึ่งมีความแค้นต่อกัน ในอนาคตถ้าหาก ตระกูลกวนกับตระกูลต้องเป็นศัตรูกัน เธอต้องช่วยเหลือตระกูล กวน ส่วนตระกูลกวนก็สามารถพึ่งพาตระกูลด้วยฐานะของเธอ นับว่าทั้งสองฝ่ายต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

เธอเม้มริมฝีปาก และหยุดนิ่งชั่วขณะ แล้วพูดต่อว่า : “แต่คุณ ตาค่ะ ถ้าหากหนูบอกคุณว่าลูกที่แท้จริงของแม่คนนั้นยังไม่ตาย และยังอยู่ใกล้ตัวเราด้วย คุณยังจะตัดสินใจทำแบบนี้อยู่อีก ไหม?”

คุณท่านกวนสะดุ้งตกใจ

เขาจ้องมองกวนเสวีเฟยด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แล้วขยับ ปากเล็กน้อย จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า : “นี่เธอ เมื่อกี้ เธอพูดอะไรหรอ?”

กวนเสวีเฟยจ้องมองเขาอย่างนิ่งเงียบ และพูดอีกครั้งอย่าง เชื่องช้าว่า : “หนูพูดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ และอยู่ใกล้ตัวพวกเรา ด้วย”

คุณท่านตระกูลกวนนิ่งอึ้งสักพัก

พร้อมกับเผยสายตาตกใจช็อก

กวนเสบู่เฟยพูดต่อว่า : “หนูเห็นเธอกับตาตัวเอง บนแผ่นหลัง ของเธอมีปานรูปผีเสื้อตัวหนึ่งอยู่ ก่อนที่แม่จะเสียชีวิต แม่บอกหนูว่าปานนี้เป็นชนิดพิเศษ บนโลกใบนี้ไม่มีใครเหมือนอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้ในตอนนั้นทุกคนเรียกเธอว่าเป็นเทพผีเสื้อจุติมาเกิด ดังนั้นตอนที่หนูเห็นมัน หนูก็รู้ทันทีว่าคนๆ นั้นคือเธอ”

เธอนั่งคุกเข่าเบื้องหน้าคุณท่านกวน แล้วกุมมือของเขาไว้ และ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : “คุณตา อันที่จริงพวกเราพบเธอตั้ง นานแล้ว เพียงแต่พวกเราหน้ามืดตามัวเธอไม่ได้ และยัง ผลักไสเธอไปไกลโพ้นด้วย จนทำให้สุดท้ายต้องเกิดเหตุการณ์ วันนี้ขึ้น”

ในที่สุดคุณท่านกวนก็ดึงสติกลับมาจากอารมณ์ตกใจช็อก และรีบกมือของเธอกลับ แล้วพูดอย่างรีบร้อนว่า “แล้วหนูพบ เจอเธอที่ไหนหรอ?”

กวนเสบู่เฟยตอบว่า : “ในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณวันนั้น หนู พาเธอไปเปลี่ยนเสื้อ และเห็นปานบนแผ่นหลังของเธอ”

คุณท่านกวนยิ่งสะดุ้งตกใจ

งานเลี้ยงวันเกิดในวันนั้น…..เปลี่ยนเสื้อหรอ? นั้นไม่ใช่……..

เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจขึ้น และจ้องมองเบื้องหน้า ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อขึ้น

กวนเสวีเฟยยิ้มแห้งๆขึ้น “เกิดความหมายใช่ไหมค่ะ? วันที่ จริงหนูเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน อาจเป็นเพราะบังเอิญ และเป็น ความประสงค์ของสวรรค์มั้งค่ะ
ใครต่างก็คาดคิดไม่ถึง พวกเราตามหาอย่างลำบากมาหลาย ปี อันที่จริงอยู่เบื้องหน้าพวกเราเท่านั้น คนข้างนอกต่างคิดว่าหนู กลัวการกลับมาของเธอ กลัวเธอแย่งตำแหน่งของหนู และแย่ง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ของหนู

แต่มีเพียงหนูเท่านั้นที่รู้ดีว่าหนูไม่ได้กลัวอะไรเลย เพราะหนูไม่ เคยคิดว่าเธอเป็นคู่แข่งของหนูเลยด้วยซ้ำ

แม่รับเลี้ยงหนู พาหนูออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หลาย ปีมานี้แม่ปฏิบัติต่อหนูเป็นอย่างดี หนูไม่สามารถเกลียดชังลูก ของแม่ได้ ดังนั้นเมื่อตามหาเธอพบ หนูรู้สึกดีใจมากด้วยเหมือน

แต่หนูลังเลว่าจะบอกคุณดีไหม คนข้างนอกเห็นพวกเราเป็น คนสูงส่ง แต่คุณก็รู้ว่าบ้านหลังนี้เหมือนกับกรงขัง และคน ทั้งหมด ในนี้เป็นนกที่อยู่ในโอวาทของคุณตา

เหมือนกับหมากตัวหนึ่งที่คุณเป็นคนจัดการ และกลายเป็น ตะปูควงที่ด้อยค่าของตระกูลกวน ถึงแม้หนูซาบซึ้งที่คุณเลี้ยงดู ฉัน สั่งสอนฉัน และมอบฐานะ การศึกษา สังคมที่ดีให้กับฉัน แต่ นั้นไม่ได้หมายความว่าหนูยินยอมเป็นนกในโอวาทของคุณ เหมือนกับเป็นหุ่นเชิดที่ถูกคนอื่นควบคุมตลอดชีวิต

ดังนั้นหนูคิดว่าเธอก็คงไม่ยินยอมเหมือนกัน นี่เป็นเหตุผลที่ หนูลังเล แต่ตอนนี้หนูเลือกที่จะพูดความจริงดีกว่า เพราะหนูพบ ว่าเธอกับหนูไม่เหมือนกัน

ต้องพูดว่าเธอไม่เหมือนพวกเราทุกคนเลย เธอเป็นคนมีความคิดเห็นของตัวเองสูง มีความสามารถ และมีคนที่รักเธอคอย ปกป้องเธอ ให้เกียรติเธอ เธอไม่มีทางเป็นนกในโอวาทของคุณ และไม่มีทางสนใจผลประโยชน์ของตระกูลด้วย พูดตามตรงหนู รู้สึกอิจฉาเธอจริงๆ แต่น่าเสียดายหนูไม่ได้โชคดีเหมือนกับเธอ

ในเมื่อเป็นแบบนี้ให้หนูทำตามความต้องการของเธอเถอะ ถือ เป็นบุญคุณที่คุณและแม่เลี้ยงดูสั่งสอนฉันมาตลอดหลายปี แบบ นี้เธอคงรู้สึกดีใจและมีความสุขบนสวรรค์

กวนเวเฟยเม้มริมฝีปาก และพูดว่า “ส่วนตระกูล หนูไม่ แต่งงานเด็ดขาด ถ้าหากคุณจะบีบบังคับหนู งั้นคุณช่วยไล่หนู ออกจากตระกูลเถอะคะ หนูพร้อมรับโทษทุกอย่างจากคุณ”

เธอพูดทุกอย่างที่เก็บในใจหมดแล้ว

เธอพยายามดึงมือตัวเองที่คุณท่านกวนกำไว้ออกมา จากนั้นก็ ลุกขึ้น แล้วเดินจากไป โดยไม่หันหน้ากลับมา

จากนั้นภายในห้องกว้างเหลือเพียงคุณท่านกวนคนเดียว เขานั่งบนเก้าอี้รถเข็น แล้วจ้องมองเบื้องหน้าที่ว่างเปล่า เหมือนกับยังไม่สามารถดึงสติกลับมาจากความรู้สึกตกใจช็อก

ผ่านมาสักพักใหญ่ ใบหน้าที่แก่ชราก็ค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าเป็น ทำตัวไม่ถูก

และมุมปากก็กระดกขึ้นมาเล็กน้อย และมีน้ำตาไหลออกมา

ด้วย

เขายกมือปิดใบหน้าของตัวเอง และร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งแรก

วันต่อมาจู่ๆจึงหนึ่งก็ได้รับสายหนึ่ง

เพราะเรื่องเมื่อคืนก่อนนั้น คุณท่านกวนรู้สึกผิดต่ออ่านอ่าน และอยากขอโทษต่อเธอ ด้วยเหตุนี้จึงเชิญให้เธอมาที่กินข้าวที่ บ้าน และถือโอกาสอยากกล่าวขอโทษด้วยตัวเองด้วย

จิ่งหนึ่งทั้งรู้สึกแปลกใจ และเกินคาดมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ