วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 946 มีเหตุผลอย่างอื่น



บทที่ 946 มีเหตุผลอย่างอื่น

ทุกคนล้วนมองไปทางจิ่งหนึ่งที่เขาอยู่

สีหน้าของจิ้งหนังดูพะอืดพะอม ไอเสียงหนึ่งและถามว่า “แสดงว่าของนั่นอยู่กับเสี่ยวฮัวเหลนสาวของท่านจริงๆ ใช่ไหม”

พอพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าที่ดีใจในตอนแรกของท่านปู่ชีวก็มืดลง มาทันที

เขาถอนหายใจคำหนึ่ง

“ใช่แล้ว อยู่กับเธอ แต่ฉันไม่ได้เป็นคนเอาให้เธอ คือเธอแอบ เอาไปเอง”

จิ่งหนิงตะลึง ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่

“ที่ท่านพูดมานี่หมายความว่าอะไร

“ฮะ หมายความว่าอะไร!” ท่านปูชิวหัวเราะแห้งเสียงหนึ่ง “ยัง หมายความว่าอะไรได้อีกล่ะ ก็นั่งเด็กนั่นเป็นไอ้คนอกตัญญูน่ะสิ เสียดายที่ฉันเลี้ยงเธอมาโตขนาดนี้ ตอนแรกยังนึกว่าสามารถ ดูแลยามแก่จนกระทั่งเสียชีวิตเพื่อตัวเองได้ แต่คิดไม่ถึงเลยนะ เนี่ย เจอผู้ชายคนหนึ่ง ฟังคำพูดของเขาไม่กี่ประโยคก็หนีไปกับ เขาแล้ว หนีไปยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ยิ่งกว่านั้นคือยังเอาของมีค่าใน บ้านไปไม่น้อยเลย ของที่พวกแกอยากได้นั้น คงถูกเธอเอาไปกับ ของมีค่าเหล่านั้นแล้วแหละ เพราะฉะนั้นถ้าพวกแกต้องการรีบได้ มาเร็วๆ อย่ามากวนฉันเลย ไปหาเธอเหอะ ถ้าหาเจอก็คือเป็นของพวกแกไปเลย แต่ถ้าหาไม่เจอ”

เขาส่ายหัวและจู่ๆ สองเสียง “สิ่งที่ฉันสามารถบอกพวกแกได้ ก็บอกไปจนหมดเปลือกแล้ว ถ้ายังหาไม่เจออีกก็อย่ามาโทษฉัน

ความจริงแล้วในใจทุกคนล้วนรู้สึกอึ้งเล็กน้อย

จึงหนังเงียบไปสักพัก พยักหน้า “หนูเข้าใจแล้ว ท่านไม่ต้อง ห่วง พวกหนูต้องหาเจอแน่นอน ถึงตอนนั้นถ้าหาคนเจอแล้วค่อย มาแจ้งให้ท่านนะ”

ครั้งนี้ ท่านปูชิวกลับไม่ได้พูดอะไร

กลุ่มจิ้งหนิงจึงลุกขึ้นมาบอกลงกับเขา จากนั้นหันหลังจากไป ออกไปจากวิลล่าของตระกูลชิว ทุกคนยืนอยู่บนถนน ในใจ ล้วนมีความงงงวยเล็กน้อย

ตอนแรกยังนึกว่าเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ขณะนี้กลับเหมือน เป็ดที่ต้มสุกบินไปแล้วอย่างนั้น แต่ละคนล้วนอารมณ์ไม่ค่อยดี เท่าไหร่

เฉียว ถามคนแรกว่า: “ตอนนี้พวกเราต้องทำยังไง

จิ่งหนึ่งขมวดคิ้วบอกว่า: “ก็ต้องหาคนอยู่แล้ว แต่ฉันได้ยินมา ว่าเสี่ยวฮัวคนนั้นหายตัวไปได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ท่านปูชิวก็เคย ไปหาเธอ แต่ไม่มีผลเลย เร็วๆ นี้ก็คงหาไม่เจออยู่ดี พวกเราอยู่ที่ นี่ต่อก็ทําอะไรไม่ได้ หรือว่ากลับเมืองหลวงก่อน แล้วค่อยหาวิธี พวกคุณคิดว่ายังไง”
ลู่วิ่งเป็นไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

กู้ซื้อเฉียนกลับไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่

คิ้วตาของเขาร้ายกาจโหดอำมหิต เสียงก็เย็นชาเช่นกัน

“ฉันไม่เห็นด้วย ใครจะรู้ไอ้แก่นั่นโกหกอยู่หรือเปล่า ถ้าเกิดว่า ของนั่นไม่ได้อยู่กับเหลนสาวของเขาเลยล่ะ”

จิ่งหนึ่งมองเขา “แล้วคุณอยากทำยังไง

“ค้นบ้าน”

เขาหยุดที่หนึ่ง สุดท้ายก็รู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่า ไหร่ ดังนั้นจึงเพิ่มเติมอีกประโยคหนึ่ง “ถ้าไม่ค้นผมไม่ตายใจ

จึงหนิงเงียบได้สักพัก สุดท้ายพยักหน้า “ได้ งั้นเอาแบบนี้ พวกเราวางแผนขากลับก่อน แต่พวกเรายังไม่ต้องไป รอฟ้ามืด แล้วพวกเราไปค้นบ้านตระกูลชิวกับคุณหนึ่งรอบ ถ้ายังไม่เจอ อะไรอีกพวกเราค่อยกลับ จากนั้นค่อยหาวิธีหาเสี่ยวฮัว

กู้ซื้อเฉียนพยักหน้า

หลังจากทุกคนคุยตกลงกันแล้วก็ไม่ได้อยู่ต่ออีกและไปจากที่นี่

ไม่นาน พระอาทิตย์ตกดิน เข้ากลางคืนแล้ว

เงาสี่คนแอบเข้าไปในวิลล่าของตระกูลชิว

เวลานี้ท่านปูชิวหลับแล้ว

จิ่งหนึ่งลักลอบเข้าไปในห้องนอนเป็นคนแรก ใช้มือทุบท่านจนสลบเลยเป็นอันดับแรก จากนั้นก็กำกับสามคนที่เหลือเริ่มหา ในวิลล่าด้วยกันอย่างละเอียด

จะบอกว่าวิลล่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ เล็กก็ไม่เล็ก

แผ่นหยกก้อนนั้นน้อยแค่นั้นเอง ถ้าจะหาจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่อง ง่ายเรื่องหนึ่ง

อีกสามคนออกไปจากห้องนอนไปหาที่อื่น จึงหนิงรับผิดชอบ

หาห้องนอนที่ท่านปู่อาศัยมาหลายปีมากห้องนี้

หลังจากเธอหาได้รอบหนึ่งแล้ว ก็ไม่เจอแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ อยู่ในห้องนอนอยู่ดี

สุดท้ายจําเป็นต้องวางจุดสนใจให้กับท่านปูชิว

พูดตามความจริง จึงหนิงไม่ได้ไม่ชอบท่านปูชิว ดังนั้น ขณะนี้เมื่อต้องเผชิญกับการค้นตัว เธอก็จะรู้สึกผิดนิด หน่อย

ยืนอยู่หน้าเตียง สองมือพนมมือไว้ พูดเบาๆ ว่า: “ท่านปูชิว ต้องขออภัยจริงๆ เมื่อเจอเรื่องสำคัญก็ต้องปฏิบัติไว้ก่อน พวก หนูไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ วันนี้ล่วงเกินแล้ว วันหลังถ้ามีโอกาสจะ ชดเชยเป็นสองเท่าแน่นอน

พูดจบจึงยื่นมือค้นตัวของเขา

แต่หลังจากหาแล้วรอบหนึ่ง ก็ไม่เจอแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ ก้อนนั้นในตัวท่านปูเลยเหมือนกัน
เธอลองหาบริเวณรอบๆ เตียงอีกรอบหนึ่งอย่างละเอียด แม้ กระทั่งใต้พื้นเตียงไม้ก็หาไม่เจออยู่ดี

ได้แต่จําใจถอนหายใจคำหนึ่ง หันหลังเดินออกไปข้างนอก ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง อีกสามคนก็หาเสร็จออกมาแล้ว เช่นกัน

ทั้งสี่คนรวมตัวอยู่ที่ห้องรับแขก จึงหนึ่งถามว่า “เป็นไง หาเจอ

ไหม”

ทั้งสามคนต่างส่ายหัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย

จิ่งหนึ่งรู้เลยว่าหาไม่เจอ

เธอถอนหายใจคำหนึ่ง พูดเสียงเบาว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็แสดงว่าของไม่อยู่ที่นี่ พวกเราไปเถอะ”

ลู่วิ่งเซินพยักหน้า ทุกคนจึงออกไปจากวิลล่าของตระกูลชิว แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เห็นคือ เมื่อพวกเขาก้าวออกไปแล้ว ข้าง หลัง ท่านปูชิวที่นอนอยู่ในห้องนอนอยู่ตลอดเวลาก็ลืมตาขึ้นมา และลุกขึ้นมานั่ง

เขามองออกไปหน้าต่าง ทางที่คนกลุ่มนั้นจากไป จากนั้นลงมา จากเตียง หยิบเสื้อกันหนาวที่อยู่ข้างๆ ตัวหนึ่งขึ้นมาสวมใส่ ก้าว เท้าเดินออกไปข้างนอก

ไม่นานกลุ่มจิ่งหนึ่งก็นั่งรถมาเข้าถึงในเมืองและมาถึงสนาม บินแล้ว
ลมแห่งคืนฤดูใบไม้ร่วงหนาวมากอยู่แล้ว ทุกคนมาอย่างดีใจ แต่กลับไปอย่างท้อใจ แต่ละคนล้วนอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

จิ่งหนิงตบไหล่ปลอบโยนเฉียวฉี พูดเสียงเบาว่า “อย่าเสียใจ เกินไปนะ ยังดีที่พวกเรารู้แล้วว่าของอยู่กับเสี่ยวฮัว ต่อมาแค่ต้อง พยายามหาเธอให้เจอ ต้องมีวี่แววแน่นอน”

เฉียวพยักหน้า จำใจยิ้มออกมา

ทุกคนขึ้นเครื่องบินแล้ว

ส่วนตอนนี้ อีกฝั่ง

ท่านปูชิวมาถึงใต้ต้นไม้แก่ที่อยู่ท้ายสุดของหมู่บ้านต้นหนึ่ง อย่างเร่งรีบ มองซ้ายมองขวาดู ผิวปากเสียงหนึ่ง

ไม่นานเงาดำหนึ่งเงาก็เดินออกมาจากความมืด ท่านปูชิวมองเขาด้วยสายตาดูถูก “คนล่ะ”

คนนั้นหัวเราะเสียดสีเสียงหนึ่ง “ใจร้อนอะไร ของยังไม่เอาให้ ฉันเลย”

สีหน้าของท่านปูชิวเปลี่ยนแล้ว

“แกพาคนออกมาฉันดูก่อน ฉันจะให้ของต่อเมื่อเห็นคนแล้ว

คนนั้นทำหน้าเย็นชา “ตกลงแกเป็นคนสร้างเงื่อนไขหรือฉัน กันแน่ ถ้ายังไม่เอาของออกมาให้อีก แกเชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าตัว ประกันทิ้งทันที!”

เพิ่งพูดจบลง อยู่ๆ ก็มีคนปรบมือเดินออกมาจากละแวกนั้น
“ช่างสนุกจริงๆ เลย ความจริงแล้วที่ท่านไม่ยอมบอกพวกเรา แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์อยู่ที่ไหนก็เพราะเหตุผลนี้นั่นเอง!

ทั้งสองคนต่างตกใจ หันหน้ากลับไปดู กลับเห็นพวกจิ้งหนึ่งกับ ลู่วิ่งเซินเดินออกมาจากที่มืด

เปลี่ยนสีหน้าทันที

ชายเสื้อดำคนนั้นหันหลังวิ่งหนีเลย กู้ซื้อเฉียนเปลี่ยนสายตา

และก้าวขาไปตามทันที สองคนหายไปในชั่วพริบตา

วิ่งหนึ่งยิ้มแย้มเดินมาข้างหน้าท่านปูชิว ท่านปูซิวชี้พวกเขา อย่างตกอกตกใจ “แก พวกแก..”

จิ่งหนึ่งยิ้มพูดว่า “ท่าน นึกไม่ถึงเลยใช่ไหม ไม่ต้องรีบหรอก ที่นี่หนาวเกินไปแล้ว พวกเรากลับไปบ้านคุยที่บ้าน

สีหน้าของท่านปูชิวเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก สุดท้ายก็ได้แต่กลับไปกับพวกเขาอย่างโมโห


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ