วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่57 ความแค้นยังคงเดิม



บทที่57 ความแค้นยังคงเดิม

“ข้าทำได้แล้ว! แต่ว่าทำไมหล่ะ? ทำไมท่านถึงยังคิดจะ ทำร้ายข้าอีก?

ท่านก็รู้ดีนี่ว่าหลังจากที่ข้าได้รับตำแหน่งฮองเฮาและกว่า จะอดทนจนได้เป็นไทเฮามันยากแค่ไหน?

ในที่สุดข้าก็สามารถมีความสุขอยู่เหนือคนทั้งปวง ไม่ต้อง ทนใครมาดูถูกอีกแล้ว ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้ข้าได้มีความ สุขกับมันบ้างหล่ะ?”

เซ่หลิ่วสื้อร้องไห้ฟูมฟาย น้ำตาเอ่อล้นออกมา

เช่ฟางหัวไม่ตอบอะไร

นางมองดูน้องสาวที่ตัวเองเคยรักอย่างถึงที่สุด จากนั้น นางก็ได้ยิ้มออกมา

“เจ้าบอกว่าไม่มีใครรักเจ้าเลยอย่างนั้นเหรอ? ในตอน เด็กตอนที่เจ้าไปขโมยพัดหยกของพ่อนะ ใครเป็นคนที่โดนตี แทนเจ้า?

ตอนสิบขวบที่เจ้าหลงเข้าไปในบึงจนเกือบจมน้ำตาย ใคร เป็นคนที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเจ้ากัน?

ตอนอายุสิบห้า ที่เราถูกคุมตัวไปที่เมืองข่างจิง เสียงของนางก็คลอนขึ้นมาเหมือนกัน เหมือนจู่ๆ ก็ นึกถึงเรื่องที่สะเทือนใจขึ้นมา

ดวงตาที่สวยงามและเย็นชาคู่นั้นก็ถูกย้อมไปด้วยสีแดง เหมือนกัน ภายในแววตาเต็มไปด้วยความผิดหวังและโกรธ แค้น

“สามพันลี้ที่เดินทางสู่ตะวันออก กี่ครั้งแล้วที่มีคนพยายาม ทำร้ายเจ้า ใครกันที่คอยยืนปกป้องเจ้าอยู่ข้างหน้าครั้งแล้ว ครั้งเล่า? ใครกันที่คอยจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับพวกมัน? ใคร กัน! ที่ต่อให้ตัวเองต้องถูกย่ายีก็ยังไม่ยอมให้เจ้าถูก ทำร้าย?”

เซ่หลิ่วสื้อยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

นางมองดูเซ่ฟางหัวอยู่อย่างนั้น ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ค่อยๆ ไหลเข้ามาในหัวตามเสียงพูดที่กังวานของหัว

ตอนนั้นตัวนางเองยังเด็กมาก จู่ๆ ครอบครัวก็ต้องมี ปัญหา นางยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็ตัวถูก ส่งตัวไปที่เมืองซ่างจิงพร้อมกับพี่สาวซะแล้ว

ตลอดทาง พี่สาวก็คอยสอนนางตลอดว่าให้เอาถ่านมาทา หน้า เพื่อบดบังความงามของตัวเอาไว้ เพื่อไม่ให้เหล่าคนชั่ว

จำได้

แต่นางเป็นคนที่รักสวยรักงามมาก ถึงปากจะตกลงแต่ ลึกๆ แล้วนางก็ยังไม่ค่อยเต็มใจนัก

อยู่มาวันหนึ่ง ในตอนที่ทุกคนนอนหลับกันหมดแล้ว นางก็

แอบล้างคราบสกปรกที่ติดอยู่บนหน้าออก นางนั่งชื่นชมใบหน้าอันงดงามของตัวเองผ่านเงาสะท้อน

ที่อยู่ในน้ำ นั่งมองไปหวีผมไป แต่ในตอนนั้นเอง เหล่าทหารที่อยู่ทางด้านหลังก็ได้สังเกต เห็นเธอเข้า เหมือนพวกเขาได้ค้นพบอัญมณีที่มีค่าเข้า พวก

เขาต่างพากันกรูเข้ามา

เธอตกใจมาก เธอกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

สุดท้ายก็ได้พี่สาวของเธอออกมาช่วยไว้

เธอไม่รู้ว่าพี่สองของเธอพูดอะไรกับทหารพวกนั้นไปบ้าง สุดท้าย ทหารพวกนั้นก็เลิกมาตอแยเธอแล้วเปลี่ยนเป็น

พาพี่สาวของเธอไปที่ป่าข้างหลังแทน

เธอจึงกลับไปนอน เธอตื่นมาตอนเช้าตอนที่พี่สาวกลับมา บนใบหน้าของพี่ก็เต็มไปด้วยรอยซ้ำ เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ฉีก ขาด บนมือมีแต่รอยเลือด แต่พี่ก็บอกว่าไม่มีอะไร

ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร แค่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่เห็นทหารพวกนั้นอีกเลยนะ? เด็กสาวที่ไร้เดียงสาไม่เข้าใจหรอกว่าตอนนั้นมันเกิดอะไร ขึ้นบ้าง แต่ตอนนี้ เธออายุสามสิบกว่าแล้ว

เธอรู้ตั้งนานแล้วว่าในป่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แต่ไม่อยากจะยอมรับมันเท่านั้น ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับ มัน เอาแต่หลีกเลี่ยงมัน ทำอย่างกับเหตุการณ์ที่แสนเจ็บ ปวดนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เซ่หลิ่วสื้อจ้องมาที่พี่สาว แล้วเธอก็ได้ออกมา

ข่าไปขามา เสียงหัวเราะก็ค่อยๆ แปลเปลี่ยนเป็นเสียง ร้องไห้

ราวกับเสียงโหยหวนของสัตว์ป่า เป็นเสียงที่เต็มไปด้วย ความเจ็บปวดและรวดร้าว

แล้วก็ได้มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามา โดยที่ในมือถือกล่อง มาด้วยใบหนึ่ง และได้รายงานว่าหาราชลัญจกรเจอแล้ว

เซฟางหัวรับมันมา เปิดดูและพยักหน้า

จากนั้นนางก็เดินหันหลังแล้วเดินออกไปพร้อมกับผู้

ติดตาม

จู่ๆ ก็ได้มีเสียงที่สูงปรี๊ดดังมาจากทางด้านหลัง “พี่คะ!”

นางหยุดเดินแต่ไม่ได้หันกลับไปมอง

แสงดวงอาทิตย์ถูกส่องเข้ามาจากทางนอกตำหนัก ส่อง มาบนร่างกายของเธอ ราวกับแม่ทัพสาวตอนนี้ได้สวมผ้า คลุมสีทองผืนใหญ่ที่กำลังส่องแสงอยู่ แผ่นหลังที่ดูมั่นคง เหมือนกับแผ่นหลังที่คอยฝึกสอนวิชาให้เธอตอนเด็กๆ เลย

“พี่คะ ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้ว! พี่ปล่อยข้าไปเถอะนะ! เราเป็นพี่น้องกันนะ! ท่านจะฆ่าข้าไม่ได้นะ! ข้าเป็นน้องสาว ของท่านนะ!”

นางนอนฟุบลงกับพื้น น้ำหูน้ำตาไหลรวมเข้าหากัน ไม่ หลงเหลือเค้าโครงความสง่างามของไทเฮาเลยแม้แต่น้อย

หญิงสาวที่อยู่ในชุดทหารยังคงไม่หันหลังกลับ เพียงแต่ ดวงตาที่ปกคลุมไปด้วยความขุ่นมัวค่อยๆแดงก่ำขึ้นมาทีละ น้อย

นางพยายามทำหน้าเข้ม แต่มือที่ถือราชลัญจกรอยู่กลับ กำลังสั่นเทา

ในหัวค่อยๆ หวนคิดถึงภาพในตอนเด็กที่นางพาน้องสาว ตัวน้อยไปวิ่งเล่น ปืนกำแพง เล่นดินโคลน แต่กลับถูกเธอบ่น ว่าสกปรก

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ มีคนบริสุทธิ์มากมายต้อง มาตายด้วยน้ำมือของนาง

นางหลบตาลง สูดหายใจเข้าลึกๆ

ผ่านไปแสนนาน กว่าจะตัดสินใจพูดออกมาอย่างเรียบ เฉยว่า “ไทเฮาของประเทศตงหลี เซ่หลิ่วสื่อ ไร้คุณธรรม โหด เหี้ยมอำมหิต ฆ่าผู้บริสุทธิ์มากมาย ต้องได้รับโทษสถาน หนัก! โทษนั้นคือ ประหาร!”

ท้องฟ้ามืดมน เสียงฟ้าร้องดังก็กก้อง

เช่หลิ่วสื้อนอนตะลึงอยู่ตรงนั้น จ้องมองไปยังหญิงสาวที่ ยืนอยู่ตรงหน้าประตูอย่างเชื่อไม่ลง

หญิงสาวคนนั้นลวงมือเข้าไปในอกเสื้อ แล้วหยิบยาพิษ ขวดหนึ่งมาวางไว้ที่พื้น

“นี่คือพิษของงูเจ็ดดาวตอนเด็กเจ้าเคยถูกมันกัด ข้านั้น ช่วยเจ้าดูดพิษมันออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนเกือบเอาตัวไม่ รอดครั้งนั้นข้าตอนนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงถึงสามเดือนเต็ม ในวันนี้….เจ้าก็ใช้มันซะเถอะ!”

พูดจบ นางก็หันหลังแล้วเดินจากไปในทันที

ซีรี่ย์ถ่ายทำมาถึงตรงนี้ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว

แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ภายในกองถ่ายนั้นกำลังตกอยู่ใน ความเงียบสงัด

จึงหนิงรู้สึกทำตัวไม่ถูก

เป็นเพราะเธอแสดงออกมาได้แย่เกินไปรึเปล่านะ?

คงไม่หรอกมั้ง! เมื่อกี้เธอก็ได้ใส่ทุกอย่างที่เธอเข้าใจใน ตัวซีรี่ย์ตัวนี้ลงไปแล้วนะ ในขณะที่กำลังอึดอัตอยู่นั้นเอง ก็ได้มีเสียงปรบมือดังขึ้น พอเงยหน้ามาก็ได้รู้ว่าเสียงนั้นมาจากลู่หยั่นจือ

เขายืนขึ้นจากหน้าจอมอนิเตอร์ เขามองมาที่จิ่งหนิงด้วย สีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความ ชื่นชม

“เยี่ยม! เยี่ยมยอดมาก!”

แล้วเสียงของเขาก็ได้ปลุกคนอื่นๆ ให้ออกจากภวังค์มาได้ จากนั้นทุกคนก็เริ่มพากันปรบมือ

“แสดงได้ดีมาก! ไม่นึกเลยว่าจะแสดงได้ดีขนาดนี้!”

“จริงด้วย เมื่อกี้ฉันหลงคิดว่าเป็นเรื่องจริงไปแล้วนะเนี่ย”

“ฉันจะร้องไห้ตามแล้วเนี่ยจิ่งหนิงถอนหายใจ

ตอนแรกที่เธอบอกว่าจะแสดงซีรี่ย์เรื่องนี้นั้น นอกจากเธอ จะอยากแก้แค้นให้ถังลั่วเหยาแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือใน ตอนที่เธอได้อ่านซีรี่ย์เรื่องนี้เธอก็รู้สึกอินกับมันมาก

ยิ่งเป็นบทที่กินใจของสองพี่น้องนี้ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึก เห็นใจในตัวแม่ทัพสาวที่ต้องเก็บซ่อนความขมขื่นเอาไว้

สิ่งที่นางต้องการนั้นไม่ใช่อำนาจ!

หากแต่เป็นเพียงความรักจากพ่อแม่ที่แสนเรียบง่าย พี่ น้องกลมเกลียว สิ่งที่คนสามัญทั่วไปก็ไขว่คว้าได้ แต่สำหรับ ไม่

ว่า

จิ่งหนิง นางแล้ว มันกลับเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆ ที่เธอแสดงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แท้ แต่จึงหนิงก็ยังรู้สึกผิดหวังอยู่ดี

สู่หยั่นจือเดินมาข้างหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แสดงได้ ดีมาก คุณทำให้ทุกต่างรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่แสดงออก มา ช่างน่านับถือจริงๆ ครับ!”

จึงเสี่ยวหย่าแสร้งทำเป็นเอามือปิดหน้าแล้วพูดพร้อมกับ ยิ้มว่า “ผู้กำกับลู่ชมเกินไปแล้วค่ะ”

แต่ว่า ลู่หยั่นจือกลับไม่ได้สนใจเธอมากนัก

จนอาจจะไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอกำลังเอามือปิดหน้าอยู่

ด้วยซ้ำ

เพราะเขากำลังจ้องมองมาที่จิ่งหนิง และได้เอ่ยถามไป อย่างเป็นกันเองว่า “คุณจิ่งหนิงครับ สรุปคือคุณรู้สึกชอบ ละครเรื่องนี้มากจริงๆ ใช่ไหมครับ?”

จึงหนิงไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ

ไม่รู้ว่าเขาจะถามเธอแบบนี้ทำไม

เธอจึงได้พยักหน้าไปด้วยความสัตย์จริง “ค่ะ ฉันชอบ สอง ปีก่อน ตอนที่ซีรี่ย์เรื่องนี้ออกมาฉันก็ได้อ่านมันแล้ว และรู้สึก ชอบมันมากด้วย” เมื่อลู่หยั่นจือได้ยินอย่างนั้น เขาก็ดีอกดีใจราวกับว่าตัว เองได้เก็บเพชรเม็ดงามได้อย่างนั้นแหละ

“ชอบก็ดีครับ ชอบก็ดี”

ส่วนจึงเสี่ยวหย่าที่กำลังมองดูเหตุการณ์นี่อยู่ ก็ได้รู้สึกลาง สังหรณ์ที่ไม่ดีมากนัก

เขาคงไม่ได้ตั้งจะจะให้จิ่งหนิงมาแสดงซีรี่ย์เรื่องนี้หรอกใช่ ไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ