วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 754 พึ่งพาอาศัยคนอื่น



บทที่ 754 พึ่งพาอาศัยคนอื่น

“ครับ”

ลุงโอรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของเขา หัวใจของเขาถึงกับสั่น ไหว เขาจึงรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็วด้วยน้นเสียงสุภาพ

หลังจากที่กู้ซือเจียนออกคำสั่งเรียบร้อยแล้ว เขาก็หมุนตัว กลับ แต่แทนที่เขาจะกลับเข้าไปในห้องสมุด เขากลับเดินไปหยิบ เสื้อคลุมมา และเดินออกไปด้านนอก

ลุงโอตกใจ และถามออกไปว่า “คุณชาย จะออกไปข้างนอก หรือครับ?”

“อือ”

เขาตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็พูดออกไปว่า “สั่งให้คนไปเตรียมรถ ฉันจะออกไปข้างนอก

ลุงโอรู้สึกงุนงง จากนั้นเขาก็รีบตอบกลับไปด้วยน้ำเสียง สุภาพว่า “ครับ”

รถโรลส์รอยซ์สีดำขับออกไปจากประตูใหญ่ของปราสาท ภายในปราสาท ห้องพักแขกที่อยู่ทางข้างของตัวอาคาร

หลินเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่บริเวณหน้าต่าง เธอมองดูรถคันหรูที่กำลัง เคลื่อนที่ออกไปผ่านกล้องส่องทางไกล พร้อมกับเหยียดยิ้มเย็น

เธอวางกล้องส่องทางไกลในมือลง จากนั้นก็เคาะนิ้วของตัวกู้ซื้อเฉียน แสร้งเป็นถือคุณไม่

ใกล้ชิดกับผู้หญิงอย่างนั้นหรือฉันอยากจะว่า คุณเป็นหลิ่วเซี่ยจริง หรือเปล่า เพราะฉันหว่านล้อมคุณอย่างไร คุณหลงกลเลย

เมื่อมาถึงตรงเธอก็หลัง และเดินออกไป

ตอนสาวใช้ของเธอคือเสี่ยวถาวจากให้ที่และให้มายืนรอเธออยู่ด้านนอกประตู

และในตอนหลินเยว่ว่า คุณหลิน คุณเรียกให้มาคุณที่คุณอยากจะให้ฉัน ทําอะไรหรือคะ

หลินเยว่เอ๋อร์ไปที่หล่อน จากนั้นยิ้มเย้ยหยันออก

“แน่นอนว่าเธอ

ขณะเธอพูด ดวงตาของเธอ ก็ประกายความดุดันหลังจากนั้น ทิ้งน้ำหนักลงไปบนรองเท้าส้นสูง และไป

เสี่ยวถาวมองตามแผ่นหลังของเธอเดินออกด้วยความมึนงง
แต่หล่อนก็เป็นเพียงแค่สาวใช้คนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกู้ซื้อเฉียน หรือ หลินเยว่เอ๋อ พวกเขาก็ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้านายของหล่อน

เรื่องของพวกเขา หล่อนไม่รู้เลยแม้แต่น้อย และยิ่งไปกว่านั้น หล่อนก็ไม่กล้าที่จะพูด และถามอะไรเช่นกัน

ดังนั้น หล่อนจึงทำได้แค่ทำตามคำสั่งของพวกเขาเท่านั้น

และในเวลานี้ อีกด้านหนึ่ง

ที่หน้าประตูเรือนจํา

“95201 ได้รับการปล่อยตัวให้ออกจากคุก หลังจากได้รับ โทษ!”

ประตูเหล็กที่อยู่ด้านหลังของเธอส่งเสียงดังออกมาอย่าง ชัดเจนเมื่อมันกระทบกัน เฉียวไม่ได้หันหลังกลับไปมองมันเลย แม้แต่น้อย ผมสั้นปราดเปรียวของเธอมันรับกับใบหน้าขาวซีด และเรียวยาวของเธอ เธอก้าวเดินออกจากประตูเรือนจำพร้อม กับรอยยิ้มทีละก้าวๆ

ดูเหมือนว่าวันนี้อากาศจะดีเป็นพิเศษ มีลมพัดเบาๆ ในฤดู ใบไม้ร่วง อีกทั้งท้องฟ้าก็ยังแจ่มใส

ลมพัดผ่านต้นกุ้ยฮวาต้นหนึ่งที่อยู่บริเวณริมถนน ทำให้ยอ วาสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ร่วงหล่นลงมากองใหญ่ ด้วยกลิ่นหอม ของมันทำให้เหมือนกับว่าแม้แต่สายลมก็ยังมีกลิ่นหอมอบอวล

มีเด็กสาวอายุประมาณ 17 หรือ 18 ปี รูปร่างสูงโปร่งกำลังยืน พิงต้นกุ้ยฮวาอยู่ หล่อนสวมแจ็กเกตหนังสีดำและกระโปรงสั้น
เธอเห็นหล่อนกำลังก้มศีรษะลงเพื่อหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดบุหรี่ ที่อยู่ในปากของหล่อน

น่าจะเป็นเพราะเสียงจากประตูเหล็กที่ทำให้หล่อนสะดุ้งตกใจ หล่อนคืบบุหรี่ที่อยู่ในปากออกและเงยศีรษะขึ้น นั่นจึงทำให้ หล่อนเห็นหญิงสาวที่กำลังเดินออกจากประตูเรือนจำอย่างช้าๆ

เด็กสาวถึงกับตัวสั่น และบุหรี่ในมือของหล่อนก็ตกลงไปบน

พื้น

วินาทีต่อมา หล่อนก็รีบวิ่งเข้าไปหา และโหมตัวเข้าในอ้อม กอดของ เฉียวจี

“พี่ ในที่สุดก็ได้ออกมา!

เธอเห็นเพียงแค่ดวงตาที่แดงของหล่อน ร่างกายของหล่อน สั่นเทาเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น และเสียงของหล่อนก็สะอึก สะอื้นฟังไม่ได้ศัพท์

“พี่รู้ไหม ฉันคิดว่าหลังจากนี้ฉันจะไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว แต่ตอนนี้ พี่ออกมาแล้ว มันดีมาก มันดีมากจริงๆ ”

ผู้หญิงคนนี้คือ ถังซีซีหล่อนเป็นน้องสาวต่างมารดาของ เฉียว

เฉียว โอบกอดหล่อนไว้ครู่หนึ่ง ด้วยความมึนงง

ในความทรงจําของเธอ เหมือนว่าถึงจะตัวเล็กมาก เพราะสุขภาพของหล่อนไม่ดีมาตั้งแต่เด็กๆ บวกกับการเลือกกินของ หล่อน และถึงแม้ว่าหล่อนจะได้อายุ 13 หรือ 14 ปี แต่หล่อนก็ยัง ดูผอมและตัวเล็กมาก

และเมื่อมองแวบแรกมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับคนขาดสาร อาหาร

แต่เธอกลับไม่คิดเลยว่าหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานถึงสี่ปี เด็กที่ดูขาดสารอาหารในตอนนั้น ตอนนี้จะมีร่างกายที่สูงโปร่ง ขนาดนี้แล้ว!

หล่อนกลายเป็นหญิงสาวร่างกายสูงโปร่งสะโอดสะองไปแล้ว

มุมปากของเธอยกขึ้น โดยที่ไม่รู้ตัว ส่วนริมฝีปากของเธอก็ เปิดขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พูดออกไปว่า “ฉันสบายดี เธออย่า ตื่นเต้นมากเกินไป”

แต่ถึงอย่างนั้น ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ ก็ยังคงสั่น

เทาเล็กน้อย

หลังจากที่ผ่านไปเนิ่นนาน หล่อนก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ หล่อนเงยศีรษะขึ้น และดันกายออกจากอ้อมกอดของเธอ

ขณะที่เช็ดน้ำตา หล่อนก็ร้องไห้และพูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “ดูฉันสิ ฉันทำให้เสื้อพี่เปื้อนหมดเลย ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เจอพี่ มานานมากแล้ว ฉันดีใจมากเลย”

หล่อนซะงักไป จากนั้นก็พูดต่อไปอีกว่า “พี่ พี่กลับบ้านกับฉัน นะ หลังจากนี้เราจะอยู่ด้วยกัน และเราจะไม่แยกจากกันไปไหนอีก ตกลงไหม?”

หลังจากที่หล่อนพูดจบ หล่อนก็มองมาที่เธออย่างมีความหวัง แต่ถึงอย่างนั้น เดียวก็ไม่ได้ตอบตกลงแต่อย่างใด เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย หันหน้าหนี และมองไปที่ริมถนนที่อยู่ไม่ ไกลมากนัก

เนื่องจากที่ตั้งของเรือนจำแห่งนี้ค่อนข้างห่างไกล เพราะอย่าง นั้น ถนนบริเวณนี้จึงไม่มีรถผ่านไปผ่านมามากนัก

แต่ในเวลานี้ บริเวณใต้ต้นสนริมถนน กลับมีโรลส์รอยซ์สีดำ

คันหนึ่งจอดอยู่

ตัวรถสีดำจอดอยู่บริเวณใต้ร่มเงาของกิ่งก้าน แสงแดดสีทอง สาดส่องประกายระยิบระยับ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่น เลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับเน้นย้ำถึงความหนาวเหน็บ

เธอมองไปที่รถคันนั้นครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้ากลับมา

สายตาของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าของ ถังอีกครั้ง เธอไม่ได้ พยักหน้าตอบรับแต่อย่างใด เพียงแค่ยิ้มจาง ๆ เท่านั้น

เธอจับมือของ ถังซีซีมากุมไว้ จากนั้นก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียง อ่อนโยนว่า “พี่มีที่อยู่แล้วล่ะ”

ถัง ตกใจ

หล่อนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย “พี่เพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวออกมา พี่ไม่มีเงินติดตัวเลย พี่ก็ไม่มีเพื่อน แล้วพี่จะไปอยู่ที่ไหน?
เฉียวยิ้มตอบกลับไป

เหมือนว่าเธอจะยิ้ม แต่ถ้ามองดูใกล้ๆ แล้ว คุณจะพบว่าใน

ดวงตาของเธอนั้นไม่ได้ยิ้มตามไปด้วยเลย อีกทั้งมันยังติดจะเป็น ชาหน่อยๆ ด้วยซ้ำ เธอพูดออกไปเบาๆ ว่า “ยัยน้องโง่ ถึงแม้พี่สาวของเธอจะไม่มี เพื่อน แต่สองมือสองเท้าของฉันก็ยังดีอยู่ ฉันสามารถหาที่อยู่ได้

ถ้าฉันต้องการ ”

ราวกับว่าเธอไม่อยากจะถูกเกลี้ยกล่อมอะไรอีกต่อไป เธอจึง ตัดบทสนทนาและพูดออกไปตามตรงว่า “และยิ่งไปกว่านั้น คุณ อาถังอาจจะไม่เห็นด้วยที่ฉันกลับไป ถ้าฉันไปกับเธอ นอกจากฉัน จะสร้างปัญหาให้เธอแล้ว มันก็จะทำให้ชีวิตของเราลำบากมาก ยิ่งขึ้นไปอีก เธอเข้าใจฉันใช่ไหมว่า ฉันไม่ชอบความรู้สึกที่จะ ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น”

คำพูดนี้ค่อนข้างที่จะตรงไปตรงมา แต่ถังซีซีก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธมันได้ เพราะคำพูดที่ เฉียวฉพูดมานั้นมันก็เป็นเรื่องจริง

คุณอาถังที่เธอพูดออกมานั้นคือพ่อเลี้ยงของเธอ และเขาก็เป็น พ่อผู้ให้กำเนิดของถังซี นับตั้งแต่ที่แม่ของ เฉียวแต่งงาน เข้าไปในตระกูลถัง คุณพ่อถังก็ไม่เคยชอบลูกติดคนนี้ที่แม่ของ เธอพามาด้วยเลยแม้แต่น้อย เขามักจะทุบตีและดุด่า เฉียวอยู่ เสมอๆ
ตอนที่ เฉียวฉียังเป็นเด็ก เธอก็ยังไม่รู้ว่าเธอจะรับมือกับมัน อย่างไร และเธอก็ต้องทนรับความทุกข์นั้นจากเขา

แต่ในตอนนั้นมันก็ยังดี เพราะส่วนมากเขาก็แค่ดุด่าว่ากล่าว เธอ หรือทำให้เธอตกใจกลัวก็เท่านั้น แม้ว่าเธอจะไม่ชอบมัน แต่ก็มีบางครั้งที่เขาตีเธอสองสามครั้ง

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณแม่เฉียวเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันเกินเลย

แต่หลังจากนั้น ธุรกิจของตระกูลถังก็พังทลายลง เนื่องจากเกิด เหตุเพลิงไหม้

เขาได้ยินจากเพื่อนบ้านว่า เป็นเพราะเดี๋ยวนี้ไม่ระวังเผลอ หลับไปขณะช่วยดูอาหารบนเตา จึงทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น

คุณพ่อถังโกรธมาก ในตอนนั้นเขาจับเธอ และทุบตีเธออย่าง

หนัก โชคดีที่ไฟไม่ได้รุนแรงมาก จึงสามารถควบคุมมันได้อย่าง

รวดเร็ว และก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายมากนัก

เพราะอย่างนั้น เฉียวจึงไม่ได้ถูกเขาขับไล่ให้ออกไปจาก

บ้าน

แต่เพราะเหตุการณ์นั้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เรื่องนี้จึงได้ปลูก เมล็ดพันธุ์อคติไว้ในใจของ คุณพ่อถังว่าเขาจะมอง เฉียว อย่างไร และนั่นจึงทำให้เขาคิดว่าเธอเป็นตัวซวยที่นำโชคร้าย มาให้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ